ตร.โบ้ยไม่มีหน้าที่ตามจับ “ทักษิณ” มาดำเนินคดี เพียงแต่ประสานข้อมูลส่งให้กับอัยการ ใช้ พ.ร.บ.ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนเรื่องกรรมการบริหารพรรค ปชป.ส่งหนังสือดำเนินคดีกลุ่ม ส.ส.เพื่อไทย มอบฝ่ายกฎหมายดูเข้าข่ายตามที่ร้องหรือไม่
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดฐานซ่อนเร้นหรือโดยช่วยเหลือจำเลย ด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ว่า เรื่องนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับเรื่องไว้แล้ว และได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายดูแลว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายตามที่มีการร้องมาหรือไม่ เพราะเมื่อมีผู้ร้องมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน
“เรื่องการดำเนินการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เรียนหลายครั้งแล้วว่า กระบวนการตรงนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำสั่งจากศาลก็ดำเนินการประสานหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องซึ่งข้อเท็จจริง พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศ ตำรวจไม่มีอำนาจในการเข้าไปสืบสวนจับกุม และ พ.ต.ท.ทักษิณก็เดินทางไปหลายประเทศไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน ตำรวจเมื่อได้ข้อมูลอะไรมาก็ประสานข้อมูลกับสำนักงานอัยการสูงสุดและกระทรวง ต่างประเทศ ใช้ พ.ร.บ.ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาดำเนินคดี” โฆษก ตร. กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อ ส.ส.เพื่อไทย ที่นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้ดำเนินคดีต่อกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ จำนวน 4 คน ได้แก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายประชา ประสพดี นายสุชาติ ลายน้ำเงิน และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ซึ่งหลังจากที่มายื่นหนังสือในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการร้องทุกข์หรือแจ้งความให้ดำเนินคดี แต่เป็นการชี้ช่องให้ตำรวจดำเนินการเท่านั้น โดยจะให้เวลา 2 สัปดาห์ หากไม่มีความคืบหน้าก็จะมาแจ้งความด้วยตัวเองอีกครั้ง