ตาก – “สมเกียรติ” ประกาศก้องเวที “การเมืองใหม่”ชายแดนตาก เตรียมนำทัพ พธม.เปิดเวทีเหนือ-อีสาน สร้างการเมืองใหม่ – ชี้ภัย “ระบอบแม้ว” ดีเดย์เชียงราย – เชียงใหม่ พฤษภาคม 52 ขณะที่พันธมิตรฯ 5 อำเภอชายแดนฯร่วมประกาศ 3 พันธกิจหลัก “ล้างการเมืองน้ำเน่า – ล้มระบอบแม้ว – ปกป้องสถาบัน”
ตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 ณ สนามกีฬาเทศบาลเมืองแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก เต็มไปด้วยเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จาก 5 อำเภอชายแดนตาก และตัวเมืองตาก ตลอดจนพันธมิตรฯจากจังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือตอนล่าง ไม่ว่าจะเป็นพิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ กำแพงเพชร รวมไปถึงอุทัยธานี ฯลฯ ที่มุ่งหน้ามาร่วมเวที “การเมืองใหม่เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยภาคประชาชน” ที่พันธมิตรฯ 5 อำเภอชายแดนตะวันตกของจังหวัดตาก (แม่สอด แม่ระมาด อุ้มผาง ท่าสองยาง พบพระ) ร่วมกันจัดขึ้น
พธม.ได้ใช้ยุวการ์ด ซึ่งเป็นพันธมิตรฯรุ่นเยาว์ ทำหน้าที่ ตรวจตราและตรวจค้นบุคคลทั่วไปที่จะเข้าไปในบริเวณเวทีจัดงาน โดยห้ามดื่มสุรา-พกอาวุธ-และนำสุราสิ่งเสพติดเข้าไปในสถานที่ดังกล่าวนอกจากนี้ พธม.ยังได้ใช้การ์ดอาสานักรบศรีเมืองฉอด - การ์ด พธม.จากจังหวัดใกล้เคียงเข้าไปช่วยดูแลบริเวณด้านในการจัดงานอีก รวมประมาณ 500 คน
ขณะที่ พล.ต.ต.วิทูรย์ คลังพลอย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้ให้ตำรวจในสังกัด กว่า 300 นาย พร้อมโล่ป้องกันตัว คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย บริเวณรอบนอกพื้นที่จัดงาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จัดระเบียบการจราจรอำนวยความสะดวกให้การจัดเวทีของ พธม.ครั้งนี้
ภายในงานช่วงแรกนอกจากจะมีกิจกรรมของพันธมิตรฯท้องถิ่น สลับกับการเล่นดนตรีและสาวๆ พธม.แม่สอด ได้ร่วมเต้นรำกับ แนวร่วม พธม.อย่างครื้นเครงสนุกสนาน แน่นสนามกีฬาเมืองแม่สอด โดยมีแม่ยก พธม.มาจัดเลี้ยงให้ผู้เข้าร่วมงานอย่างเต็มที่
ก่อนที่แกนนำและแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ส่วนกลางนำโดยนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ -พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์–นายอมร อมรรัตนานนท์ -ตั้ม ฯลฯ ได้ผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยในการจัดงาน “การเมืองใหม่เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยภาคประชาชน” ในช่วงดึก
แกนนำ พธม.ส่วนกลาง และ พธม.แม่สอด ได้ประกาศความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเมืองใหม่ภาคประชาชน และจะต่อต้านโค่นล้ม “ระบอบทักษิณ”ให้หมดไปจากแผ่นดิน เพราะถือว่าระบอบทักษิณ สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเมือง-ประเทศชาติอย่างมาก และขอให้เพื่อนๆ และ ประชาชน ที่รู้จักกลุ่มคนเสื้อแดง ให้ทำความเข้าใจกับคนเสื้อแดง ในฐานะคนไทยด้วยกันที่ไปสนับสนุนระบอบทักษิณ ให้กลับมาช่วยชาติบ้านเมืองและเข้าสู่การเมืองใหม่ที่ประชาชนต้องมีสิทธิเสรีภาพอย่างเต็มที่
แกนนำ พธม.แม่สอด คนหนึ่งบอกว่า พันธกิจหลักของ พธม.นับจากนี้ก็คือ 1.ก้าวเข้าสู่การเมืองใหม่ 2.ล้มระบอบทักษิณ และ3.รักษาสถาบันให้อยู่คู่กับสังคมไทยตลอดไป เพราะที่ผ่านมา “คนเสื้อแดง” มักจะแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่า ต้องการจาบจ้วงเบื้องสูงต่างกรรม ต่างวาระอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง
ส่วนแนวทางดำเนินงาน พธม.ท้องถิ่น ก็จะดูว่า แกนนำพันธมิตรฯหลักจะเดินไปทางไหน จะก้าวไปสู่การตั้งพรรคการเมืองหรือไม่ เพื่อที่จะส่งตัวแทนเข้าสู่ระบบ เพราะการเคลื่อนไหวนอกสนามอย่างที่ผ่านมา ก็จะถูกมองว่า “เป็นพวกเถื่อน” หากมีการตั้งพรรคขึ้นมาตามกฎหมาย การเคลื่อนไหวรณรงค์ก็จะทำได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามในช่วงนี้เราจำเป็นต้องพยายามทำความเข้าใจกับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ถึงอย่างไรก็เป็นคนไทยด้วยกัน ชี้ให้เขาเห็นถึงพิษภัย “ระบอบทักษิณ” ตลอดจนความสำคัญของสถาบันเบื้องสูง
เอ-เขมิสรา เอกคณาสิงห์ ผู้ประสานงาน Young PAD แม่สอด กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศว่า จะให้คนจนหมดไปจากประเทศไทย สวนทางกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ภายใต้นโยบายสร้างหนี้ให้ชาวบ้านของรัฐบาล “ทักษิณ” ที่ผ่านมา ทำให้คนจนหมดไป แต่กลับเกิดคนยากไร้ ที่ไม่มีทรัพย์สินใด ๆ เหลืออยู่เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า อย่างที่แม่ระมาด วันนี้ไปดูได้เลยว่า ชาวบ้านที่ไปกู้หนี้ยืมสิน ตามที่รัฐบาลทักษิณ ส่งเสริมในระยะที่ผ่านมา ถูกยึดบ้านเป็นจำนวนมาก เหลือแต่ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ที่ยึดไม่ได้เท่านั้น
ทั้งนี้ ในเวลา 02.15 น. วานนี้ (23 ก.พ.52)นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำ พธม. กล่าวบนเวทีว่า ในเดือนพฤษภาคม 2552 พธม.จะบุกพื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือ เช่น เชียงราย-เชียงใหม่ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนรากหญ้าที่หลงเชื่อ “ระบอบทักษิณ” มานาน ทั้งที่ระบอบนี้ได้โกหกหลอกลวงประชาชนว่าจะร่ำรวยขึ้น และทำให้ประชาชนรู้จักการเมืองใหม่ภาคประชาชน จากนั้นก็จะบุกพื้นที่ภาคอีสานในลักษณะเดียวกันคือทำความเข้าใจกับประชาชน
“ระบอบทักษิณ และนอมินี สร้างความเสียหายให้ประเทศชาติมากมาย ขณะเดียวกันได้สร้างความร่ำรวยให้กแก่ตัวเอง บริวาร เครือญาติและกลุ่มทุนของตัวเอง ใช้วิธีการต่างๆ ทั้งการซุกหุ้น ให้แก่ลูก-เมีย เครือญาติ ฯลฯ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจในจุดนี้ ทำให้ พธม.ต้องเดินสายทั่วประเทศสร้างความเข้าใจให้ทั่วถึงและมากที่สุด โดยผมจะนำทัพ บุกถิ่นเหนือและอีสาน สร้างความเข้าใจการเมืองใหม่ภาคประชาชนให้รากหญ้าได้เข้าใจ” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงหลัง 4-5 ปี ระหว่างปี 2544-2549 ที่ “ทักษิณ” ไม่สามารถทำในสิ่งที่โกหกประชาชนรากหญ้าได้ว่าจะร่ำรวยมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น และได้ถูกยึดอำนาจเมื่อปลายปี 2549 “ทักษิณ” ได้กล่าวโทษว่า เป็นเพราะถูกยึดอำนาจและมีการจัดตั้งรัฐบาลในยุคนั้น ทำให้ระบบเศรษฐกิจที่วางไว้ช่วยเหลือประชาชนต้องพังทลายลง แท้จริงแล้วนั่นคือ การโกหกและหลอกลวงประชาชน
“สิ่งที่ ทักษิณ ทำมาเป็นการเอาเงินใส่กระเป๋าตัวเองและครอบครัว บริวาร-คนใกล้ชิดและกลุ่มทุนในเครือข่าย ทำให้ พธม.ต้องเดินสายสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้ประชาชนต่อไป”