xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ ลั่นตั้งพรรคแน่ หาก ปชป.เมินจัดการ ตร.“ทาสแม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สนธิ ลิ้มทองกุล
แกนนำพันธมิตรฯ ชี้ หากถึงเวลาจำเป็นต้องตั้งพรรคการเมืองก็ต้องตั้ง เพื่อนำเสนอการเมืองใหม่ ย้ำหากตั้งจริง ส.ส.พรรคต้องเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ ไม่รับเงินเดือน ไม่แย่งกันเป็น รมต. และใช้เงินสนับสนุนจากสมาชิก ไม่รับเงินนายทุน “สนธิ” เผยจะตั้งเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับ ปชป.เร่งจัดการรัฐตำรวจหรือไม่ และมองพันธมิตรฯ เป็นเพื่อนหรือเป็นตัวเสนียด ระบุหากมัวชักช้า ปล่อยปัญหาบานปลาย พร้อมตั้งพรรคส่งผู้สมัครลงใต้ชน ปชป.ทุกเขตทันที

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง เหล่าแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงแนวทางการตั้งพรรคเพื่อการเมืองใหม่

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีคอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 4 ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงกระแสข่าวการตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ ว่า หลังจากพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุม 193 วันแล้ว มีคนมายุยงส่งเสริมให้พันธมิตรฯ จัดตั้งพรรคการเมือง มีการพูดกันหลายคน แต่การตั้งพรรคการเมืองไม่ง่าย ขณะเดียวกัน เรายังคงต้องพูดเรื่องการเมืองใหม่ต่อไป และมีคนเสนอว่าถ้าเราไม่ทำตัวอย่างให้เห็นว่าการเมืองใหม่เป็นอย่างไร โอกาสที่คนทั่วไปจะรู้เรื่องการเมืองใหม่คงไม่มีเลย แต่ขณะเดียวกันการตั้งพรรคการเมืองก็มีเงื่อนไขเยอะมาก

นายสนธิกล่าวต่อว่า ตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ไม่ขัดข้องที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะเห็นว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นคนดี ตลอดจนผู้ใหญ่ของพรรค เช่น นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ก็เป็นคนดี

“ผมพยายามทำความเข้าใจถึงความจำเป็นที่เขาต้องเอาโจรมานอนด้วย เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่าเขาจะทนนอนกับโจรได้นานแค่ไหน แต่ก็เข้าใจ และเห็นใจ บทบาทในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา คุณอภิสิทธิ์ได้แสดงศักยภาพให้เห็นว่าประเทศไทยถ้าจะมีนักการเมืองที่ดีก็มีได้ คุณอภิสิทธิ์แสดงฝีมือให้เห็นทั้งเรื่องในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในทางสากลนั้น คุณอภิสิทธิ์ฝีมือเหนือกว่าพระเจ้ามูลควายเยอะ”

นายสนธิกล่าวต่อว่า ตราบใดที่นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ยังยืนหยัดในอุดมการณ์ และถ้าจำเป็นที่เราต้องทำการเมืองใหม่ให้เห็น เราจะทำเป็นตัวอย่างให้กับทุกพรรค และถ้าจำเป็นเราก็เป็นพันธมิตรกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ แต่นั่นเป็นเพียงความคิด ก็มีคนพูดจาออกไปว่าคำนิยามของการเมืองใหม่เป็นอย่างไร ก็คือ ต้องเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ ถ้าเราจะทำการเมืองใหม่ นักการเมืองต้องเสียสละ ซื้อสัตย์ ล้าหาญจริงๆ และต้องมีคนที่สามารเชิดชูได้ว่าคนๆ นี้ เสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญได้ อุดมการณ์นั้นเราใกล้ชิด เป็นพันธมิตรกับประชาธิปัตย์ แต่จะไม่สุงสิงกับบรรดาโจรทั้งหลาย ซึ่งอย่างนั้นมันเป็นไปไมได้

นายสนธิกล่าวอีกว่า โดยบทบาทส่วนตัวเห็นด้วยกับการเมืองใหม่ แต่คงต้องรักษาป้อมปราการอยู่กับเอเอสทีวี เพื่อให้เป็นหัวหอกในการชูธงการเมืองใหม่

“ผมพูดคุยกับแกนนำทุกคนก็เห็นด้วย โดยส่วนตัวผมไม่เห็นว่าภาคประชาชนจะมีพรรคการเมืองไม่ได้ มีได้ ถ้าพรรคนั้นเป็นตัวอย่างให้ทุกคนเห็น เป็นพรรคในอุดมคดติที่ทุกคนอยากได้ 1.ส.ส.พรรคนี้เมื่อเมื่อเห็นการแก่งแย่งตำแหน่งกันก็จะก้มหน้าด้วยความอับอาย ต้องไม่รับตำแหน่ง ไม่แย่งกันเป็นรัฐมนตรีเหมือนหมาแย่งกระดูก 2.เสียสละ เงินเดือนที่ได้มาต้องบริจาคเข้าองค์กรการกุศล ไม่รับแม้แต่บาทดียว 3.คือประชาชนต้องเป็นคนสนับสนุนพรรคการเมืองนี้ ไม่ใช่นายทุนมาสนับสนุน ใครเป็นสมาชิกพรรคนี้ต้องเสียค่าสมาชิกเดือนละ 100 บาท ถ้ามี 1 ล้านคน ก็มีเงินเดือนละ 100 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นพรรคของประชาชนจริงๆ เหมือนเอเอสทีวี ที่เป็นของประชาชน

4.ต้องซื่อสัตย์ เมื่อเราเชื้อเชิญคนข้างนอกมาเป็นรัฐมนตรี ต้องกุมคนคนนั้นไม่ให้คดโกง ทุจริต ถ้ามีข้อกังขาเอาออกเลย เพราะเขามาเป็นรัฐมนตรีได้ ไม่ใช่เพราะมี ส.ส 10 คน แต่เพราะเราเชิญเขามา เมื่อเชิญมาได้ก็ไล่ไปได้ และต้องกล้าหาญที่จะลุกขึ้นมาบอกว่า ผมคือพันธมิตรฯ ไม่ต้องอมพะนำ นี่คือสิ่งที่ผมได้พูดกับแกนนำในเชิงปรัชญา” นายสนธิกล่าว

นายสนธิกล่าวอีกว่า หากจะทำการเมืองใหม่ คงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกฎกติกาที่มีอยู่ เพราะภายใต้กฎหมายที่มีอยู่เดิมสามารถทำได้ เช่น การคัดเลือกคนลงสมัคร แทนที่นายทุนจะเป็นคนกำหนดคนลง เราจะให้ประชาชนเป็นคนกำหนด ซึ่งกฎหมายไม่ได้ห้าม เราใช้กฎหมายพรรคการเมืองเดิมได้ เพียงแต่จะมีแกนนำเป็นผู้พิทักษ์กฎของพรรค

ทั้งนี้ นายสนธิ กล่าวว่า พันธมิตรฯ มีอยู่ 3 ประเภท คือ ประเภทแรกกล้าแสดงออกด้วยการออกมาร่วมชุมนุม ประเภทที่ 2.ไม่สามารถมาประท้วงได้ ด้วยข้อจำกัดบางอย่าง แต่ก็ให้การสนับสนุนด้วยการส่งข้าวส่งน้ำให้ และประเภทที่ 3.เป็นพลังเงียบ ไม่กล้าแสดงออก เพราะกลัวถูกเพ่งเล็ง คนประเภทนี้มีเต็มไปหมด แต่ไม่สามารถแสดงออกได้ในเวลาปกติ แต่จะแสดงออกด้วยการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง

นายสนธิ กล่าวอีกว่า โดยพื้นฐานคิดว่าพฤติกรรมและวัตรปฏิบัติของพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างใกล้เคียงกับที่เราต่อสู้มา เพียงแต่ประชาธิปัตย์ไม่กล้าหาญเท่าพวกเรา อาจเป็นเพราะวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประชาธิปัตย์จะติดโนราห์มากไป ชอบรำ เวลาทักษิณมีอำนาจนึกจะย้ายใครก็ย้ายทีเดียว แต่ประชาธิปัตย์มียางอายมากเกินไป ไม่กล้า มัวแต่รำอยู่นั่น จนเหงื่อไหลไคลย้อย

นายสนธิยกตัวอย่างว่า กรณีที่เราจะทำหนังสือถึงรองนายกฯ เพื่อให้ปลด พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน จากการเป็นพนักงานสอบสวนคดีพันธมิตรฯ เพราะเป็นปฏิปักษ์กับเรา พอนักข่าวไปถามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็บอกว่าไม่มีๆ ไม่ต้องเปลี่ยน เพราะกลัวจะหาว่าไม่เป็นกลาง ประชาธิปัตย์มีปัญหาตรงนี้ คือขาดซึ่งความกล้าหาญ ซึ่งเขาต้องแก้

นายสนธิกล่าวต่อว่า ถ้าสมมติว่าเราตั้งพรรคขึ้นมา เราจะส่ง ส.ส.ลงภาคใต้หรือไม่ โดยความเห็นส่วนตัว ส.ส.เขตจะเว้นภาคใต้ให้พรรคประชาธิปัตย์ แต่ ส.ส.สัดส่วนต้องส่งลง อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นมติของแกนนำที่ต้องส่งลงทั้งหมด ตนก็คงคัดค้านไม่ได้ อาจจะขอเว้นบางเขต เช่น จังหวัดตรัง เพื่อหลีกทางให้นายชวน หลีกภัย หรือเว้นบางเขตในกรุงเทพฯ เพื่อหลีกทางให้นายอภิสิทธิ์ แต่ถ้าแกนนำคนอื่นๆ ไม่ยอมก็คงต้องส่งลงทุกเขต

อย่างไรก็ตาม นายสนธิ กล่าวว่า อยากพูดไปถึงนายชวน นายอภิสิทธิ์ นายบัญญัติ ขอเตือนว่า นี่เป็นการประนีประนอมแล้ว เพราะตนห้ามแกนนำอย่างนายสมศักดิ์ โกศัยสุขไม่ได้

“ตอนนี้พี่สมศักดิ์ ตกมันแล้ว ถ้าไม่รีบทำงาน ผมพูดว่าจะส่งแต่ ส.ส.สัดส่วน เป็นการพูดแบบเห็นใจกัน แต่ถ้าไม่เห็นใจก็จะบอกว่า พี่น้องชาวใต้ เราเลือกประชาธิปัตย์มากี่สิบปีแล้ว ขอโอกาสพันธมิตรฯ สักครั้งได้ไหม ขอบอกท่านรองสุเทพ ให้รีบทำงาน และอย่ารังเกียจเรา ไม่กล้ายืนข้างเรา ไม่ต้องมาบอกว่า เหลืองก็ไม่เอา แดงก็ไม่เอา แล้วจะเอาอะไร ผมรู้อารมณ์พี่น้องคนใต้ดี พี่น้องคนใต้รักใครรักจริง”

นายสนธิ กล่าวอีกว่า หากถามว่าพรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก็ขอถามกลับว่า เมือไหร่ประชาธิปัตย์จะจัดการกับตำรวจอย่างเด็ดขาดเสียที ถ้านายสุเทพจัดการไม่ได้เพียงเพราะว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นน้องชาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่จะไปเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และยังเอา พล.ต.ต.อำนวยไว้ เก็บ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว เอาไว้เพื่อเป็น ผบช.ภ.4 แสดงว่านายสุเทพไม่จริงใจ เมื่อนั้น พรรคพันธมิตรฯ จะเกิดทันที และเป็นพรรคที่จะได้เงินสนับสนุนจากพี่น้อง เหมือน 193 วันที่เราชุมนุม ไม่ต้องไปแอบรับเงินจากนายทุนเจ้าโน้นเจ้านี้ แล้วขายจิตวิญญาณ

“นี่คือคำตอบว่าพรรคจะเกิดขึ้นไหม เกิดไม่เกิดขึ้นอยู่กับประชาธิปัตย์จะมองพันธมิตรฯ ว่าเป็นเพื่อน หรือเป็นเสนียด ถ้ามองว่าเราเป็นศัตรู บอกว่าไม่เอาทั้งเหลืองทั้งแดง ดำเนินคดีหมด โดยไม่ดูเนื้อหาว่าพวกเราโดนกลั่นแกล้งขนาดไหน ถ้าอย่างนี้ ผมขอให้สัจจะว่ายังไงก็ตามพรรคนี้จะลงภาคใต้ทุกจังหวัด จะชนกันตัวต่อตัว จะถามชาวใต้ว่าจะให้โอกาสพวกเราสักครั้งในชีวิตไหม เราจะทำให้ดู เราจะชนใน กทม. ชนทุกที่ที่เป็นเขต 1 ในเมือง ขึ้นอยู่กับว่าประชาธิปัตย์จะมองเราเป็นศัตรู หรือเห็นว่าเป็นคนที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทางเลือกอยู่ที่คุณ ขอให้เลิกอ้อมค้อม หลบซ้ายขวา ต้องยืนนิ่งๆ เหมือนเรา และถึงเวลาที่ต้องเลือกข้าง” นายสนธิกล่าว

ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ความคิดเรื่องการเมืองใหม่ของแกนนำ 5 คนไม่แตกต่างกัน คือนักการเมืองต้องเสียสละ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ แต่วิธีการเราก็เอาประสบการณ์ของแต่ละคนมาแลกเปลี่ยนว่า ถ้าจะตั้งพรรคการเมืองต้องระวังเรื่องนั้นเรื่องนี้ และต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นอย่าใจร้อน ผลีพลาม เพราะจะพลาดพลั้งได้ และที่สำคัญคือความซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเมืองใหม่

ทั้งนี้ พล.ต.จำลองกล่าวว่า ตนเคยทำการเมืองใหม่ด้วยการตั้งพรรคพลังธรรมเมื่อปี 2531 แต่ตอนนั้นคนที่เข้าใจยังมีน้อย และต้องต่อสู้กับการซื้อเสียง ทำให้ได้รับเลือกตั้งไม่มากนัก เมื่อเข้าร่วมรัฐบาลต้องไปเป็นตัวประกอบ เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่ ต้องพยายามให้ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่เช่นนั้นจะเป็นเหมือนเดิมอีก ซึ่งเชื่อว่า มีโอกาสมากขึ้นกว่าเดิม เพราะมีพันธมิตรฯ อยู่ทั่วประเทศ และมีเอเอสทีวีที่ให้ข้อมูลข่าวสาร

ขณะที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวว่า ย้อนหลังสมัยทักษิณเข้ามาแล้วฉ้อโกงทั้งพวกลิ่วล้อ ทำลายสถาบันกษัตริย์ ปชป.ก็นั่งนิ่งไม่กล้าพูดและทำอะไรไม่ได้ พวกเราเห็นว่าไม่ไหวแล้วก็เลยรวมตัวเป็นการเมืองภาคประชาชนจัดการกับทักษิณ พิสูจน์แล้วว่าการเมืองในสภาไม่มีน้ำยา ประชาชนจึงไล่ 3 คนรวด ทั้งทักษิณ สมัคร และสมชาย ไม่มีประเทศไหนทำได้ ที่เราทำเพราะชั่วทั้ง 3 คน แสดงว่าการเมืองภาคประชาชนเกี่ยวข้องกับการเมืองในสภา เนวินตกใจเลยวิ่งมาผสมพันธุ์กับ ปชป. พูดตรงๆ เลยว่า ปชป.เป็นรัฐบาลได้ก็เพราะพันธมิตรฯ และเราลองให้บริหารดู แล้วพี่น้องว่าจะให้เรามีพรรคการเมืองไหม ถ้ามีก็มี ถ้าตั้งก็ตั้ง ให้พี่น้องบอก เพราะเรายึดหลักประชาธิปไตย ซึ่งหลังจากนั้น ประชาชนส่งเสียงสนับสนุนว่าให้ตั้งพรรคการเมือง

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เวลาเราขึ้นเวทีปราศรัยจะใช้เพลงเทียนแห่งธรรมเป็นตัวนำ เพราะเรายึดธรรมนำหน้าเสมอ ถ้าใครบริหารบ้านเมืองแล้วโกงกินไม่ใช่การบริหารแล้ว นั่นหลักการเมืองเก่า

ขณะที่ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า หากถึงคราวที่พรรคการเมืองของพันธมิตรฯ จะเกิดก็คงต้องเกิด ซึ่งแกนนำไม่มีความแตกแยกในเรื่องนี้ เพียงแต่ว่าจะต้องคิดให้ละเอียดรอบคอบและจะมีพลังของพันธมิตรฯ กำกับอยู่กับพรรคการเมืองนี้อย่างไร ซึ่งแนวทางของพันธมิตรฯ นั้นพรรคการเมืองต้องมีธรรมนำหน้า เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้นต้องเกิดจากฐานของความซื่อสัตย์ เสียสละ และกล้าหาญ เกิดด้วยการบริจาคของสมาชิกพันธมิตรฯ

“ถ้าจะตั้งพรรคการเมือง เพราะมีเหตุที่มันจะต้องตั้ง เพราะต้องมีตัวแทนเข้าไปอยู่ในสภา เพื่อเป็นตัวอย่างให้ดู เพื่อเอาการเมืองใหม่ไปผลักดันให้เป็นกฎหมาย เป็นการบริหารงาน เราก็จำเป็นต้องทำ แต่การเมืองภาคประชาชนในนามพันธมิตรฯ ก็ยังอยู่

พรรคการเมืองถ้าจะเกิด ต้องไม่ใช่เรื่องของอำนาจของนักการเมือง ต้องสร้างให้อำนาจของประชาชนให้เติบโต ถ้าเป็นเรื่องผลประโยชน์ ต้องเป็นผลประโยชน์ของคนโดยรวม ไม่ใช่ของกลุ่มทุนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด และเรามีเอเสทีวี มีพันธมิตรฯ คอยตรวจสอบ พรรคการเมืองนี้จะแปลกใหม่ที่สุด เพราะสร้างมาจากภาคประชาชนอย่างแท้จริง เพราะพรรคการเมืองทั่วไปสร้างมาจากลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ หรือมาจากอุดมการณ์บางอย่าง”

นายพิภพกล่าวต่อว่า พรรคการเมืองนี้หากมีการตั้งขึ้นมา จะไม่ถูกกำกับโดยกรรมการพรรค แต่ถูกกำกับโดยพันธมิตรฯ เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่จะออกนอกลู่นอกทาง กระบอกเสียงที่กำกับคือเอเอสทีวี และวิทยุชุมชน นี่คือมิติใหม่ ที่ตนฝันมานานว่าเป็นพรรคการเมืองที่เกิดจากฉันทามติของประชาชนในนามพันธมิตร 10-20 ล้านคน ทั่วประเทศ และจะดูแล ส.ส.ไม่ให้นายทุนครอบงำด้วยการบริจาคเงิน 10 ล้าน 100 ล้าน หรือซื้อโต๊ะจีน

“ที่ผมฝันมากกว่านั้น ผู้ที่เป็นตัวแทนลงเลือกตั้งต้องมาจากประชาชนที่มีฉันทามติ เช่น ในเขตเลือกตั้งของสมุยจะส่งใครลง คนสมุยต้องเป็นคนกำหนด ถ้าเราตั้งพรรคต้องได้นักการเมืองที่ซื่อสัตย์กล้าหาญแน่นอน นักการเมืองหน้าไหนมาเห็นก็จะอายม้วนหนี และเปลี่ยนพฤติกรรมกันหมด ผมเป็นเอ็นจีโอ และเคยทดลองทำการศึกษาทางเลือก ชีวิตทางเลือกมาแล้ว เพราะฉะนั้นพรรคที่เราจะทำ ก็อาจจะเป็นพรรคการเมืองทางเลือก เพื่อเป็นตัวอย่างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของทุกพรรคการเมืองให้ได้” นายพิภพกล่าว
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
พิภพ ธงไชย
สมศักดิ์ โกศัยสุข
กำลังโหลดความคิดเห็น