ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (24 ก.พ.) นายวีระ มุสิกพงษ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย พร้อมส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง ได้นำกลุ่มคนเสื้อแดง หรือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ชุมนุมอยู่ที่ท้องสนามหลวง เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่รักษาการอยู่ภายในทำเนียบฯ ได้เรียกแถว เตรียมความพร้อมและกระจายกำลังเข้ารักษาพื้นที่ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะริมกำแพงทำเนียบรัฐบาล ริมถนนพิษณุโลก ตรงข้ามกับสำนักงาน ก.พ. และประตู 1 เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดง ได้จอดรถปราศรัยและชุมนุมในบริเวณนั้น โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนยอดตึกสันติไมตรี พยายามประชาสัมพันธ์เรื่องความสามัคคี
ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามขอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เปิดทางเข้าประตู 1 เพื่อให้ได้ตั้งเวทีปราศรัยและชุมนุมบริเวณ ถนนหน้าทำเนียบฯและตึกไทยคู่ฟ้า ริมคลองเปรมประชากร ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ชั้นใน โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เข้ามาเจรจากับ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น. แต่ไม่เป็นผลทำให้ นายจตุพร นำม็อบผ่าแนวกั้นของตำรวจ และสิ่งกีดขวางที่มีทั้งรถบดถนน แผงคอนกรีตและลวดหนาม เข้าไป โดยกลุ่มคนเสื้อแดง ใช้เวลาไม่นานก็สามารถเข้ามายึดพื้นที่ดังกล่าวไว้ได้ทั้งหมด
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า เจ้าหน้าตำรวจได้บันทึกภาพวีดีโอการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงไว้แล้วเพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมปิดทางเข้าออกบริเวณทำเนียบฯ เพื่อไม่ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (25 ก.พ.)นั้น เจ้าหน้าที่ มีมาตรการกำหนดประตูเข้าประตูออกเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา
ขณะที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. กล่าวว่า พอใจสถานการณ์การชุมนุม ที่ไม่มีเหตุรุนแรง ซึ่งยังคงอยู่ในขั้นตอนที่สามารถเจรจากันได้ โดยยังไม่มีการเตรียม การสลายการชุมนุม ส่วนที่มีการเตรียมรถดับเพลิง และแก๊สน้ำตาไว้นั้น เป็นการเตรียมการเพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม หากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นตามหลักสากล
พล.ต.ท.วรพงษ์ เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่บุกเข้าภายในทำเนียบรัฐบาล แต่หากมีการบุกรุกเข้ามา จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายและยืนยันว่านายกรัฐมนตรี จะสามารถเข้ามาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (24 ก.พ.)ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีมาตรการรองรับความปลอดภัย
รายงานข่าวแจ้งว่าระหว่างการประชุมครม. ที่โรงแรมดุสิตรี สอร์ทโปโลคลับ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล ให้เชื่อมต่อสัญญาณ CCTV ถ่ายทอดสด ภาพการชุมนุม ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำเนียบฯ มายังที่ประชุมครม.พร้อมกันนี้มีการรายงานว่า สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจาก ผู้ชุมนุมขอชุมนุมบริเวณประตู 1 สะพานชมัยมรุเชฐ เท่านั้น ขณะที่นายกรัฐมนตรียืนยัน ในที่ประชุมครม.ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลตามปกติ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้รับรายงานกลุ่มคนเสื้อแดง ปิดล้อมทำเนียบฯแล้ว ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังอยู่ ส่วนจะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่ต้องดูสถานการณ์คืนนี้ก่อน อย่างไรก็ตามในการประชุม ครม.ก็ได้ดูภาพการชุมนุมแต่ก็ดูไม่นาน
จะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่อยู่ที่ผู้ชุมนุม แต่รัฐบาลยืนยันว่าดำเนินการทุกอย่าง อยู่บนพื้นนฐานของความถูกต้อง ความเห็นแตกต่างกันได้ แสดงออกได้ แต่อย่าเกินเลยขอบเขตของกฎหมาย รัฐบาลก็มีหน้าที่รักษากฎหมาย และอยากให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศของบ้านเมือง เพราะทุกคนทราบดีว่า การประชุมอาเซียนเป็นงานที่สำคัญ และเป็นที่หน้าที่ของเราในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งเชื่อว่า ถ้าเรารักษาบรรยากาศบ้านเมืองได้ดี การแก้ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ก็จะทำได้ง่าย แต่ถ้าบรรยากาศเสียทุกอย่างก็จะแก้ไขยาก
นายอภิสิทิธิ์ ยืนยันว่า ตนจะเข้าทำงานในทำเนียบฯรัฐบาลตามปกติ ยังไม่คิดที่จะเตรียมหาที่ทำงานที่อื่น
เหตุการณ์จะไม่เหมือนวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เพราะขั้นตอน วิธีการ แนวปฏิบัติของรัฐบาลต่างกันรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะใช้ความรุนแรง แต่รัฐบาลก็จำเป็นต้องรักษากฎหมาย ซึ่งหากต้องรักษากฎหมายก็จะดำเนินการตามขั้นตอน ตามมาตรฐานสากล
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ศาลได้อนุมัติการปล่อยตัวแกนนำ นปช. ที่บุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่มีเงื่อนไข ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ปรากฎว่า ในขณะนี้การเคลื่อนไหวทางการเมือง ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่ดำเนินการตามกฎหมาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็อยากให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมาย เคารพศาล ถ้ามีอะไรที่จะต้องดำเนินการ เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการไป
ผูสื่อข่าวรายงานว่าหลังจากผู้ชุมนุมสามารถปิดล้อมหน้าทำเนียบฯได้แล้วจึงตั้งเวทีถาวรขวางถ.บนสะพานชมัยมรุเชฐหันหน้าเข้าตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งลักษณะคล้ายกับช่วงที่กลุ่มพันธมิตรชุมนุมประชาขนเพื่อประชาธิปไตยตั้งเวที จนถูกคณะครู โรงเรียนราชวินิตฟ้องศาลแพ่งให้ดำเนินการจนถูกตัดสินให้รื้อเวที เพื่อเปิดช่องจราจรในที่สุด
นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำม็อบ กล่าวว่า กลุ่ม นปช.จะไม่บุกเข้าไปใน ทำเนียบฯ ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ ขอบอกว่ากลุ่มเสื้อแดงพร้อมที่จะชุมนุม 3 วัน 7 วัน 1เดือน หรือ1ปี ก็พร้อมที่จะชุมนุม ส่วนที่นายกรัฐมนตรียืนยันจะเข้าทำงานในทำเนียบฯ นั้น ตนยินดีให้นายกรัฐมนตรี เข้ามาทำงานตามปกติ แต่อาจจะต้องเดินฝ่าผู้ชุมนุมเข้าไป แต่ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ไม่กล้าเข้ามาแน่นอน
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ กล่าวว่าจะขอหารือกับแกนนำม็อบก่อนว่าจะให้นายกฯเข้าทำงานในทำเนียบฯหรือไม่ ซึ่งเดิมไม่คิดที่จะขัดขวางการเข้ามาทำงานของนายกฯ แต่วันนี้เห็นเจตนาและการกระทำของนายอภิสิทธิ์ ที่ทำน่าเกลียดกับคนเสื้อแดง โดยเอารั้วลวดหนามมาล้อมทำเนียบฯการกระทำ ของนายอภิสิทธิ์ วันนี้อาจจะทำให้การเดินทางเข้าทำเนียบของนายอภิสิทธิ์ ในวันพรุ่งนี้เปลี่ยนไป
ในความเห็นส่วนตัวเมื่อนายอภิสิทธิ์ แสดงความไม่เป็นมิตรกับคนเสื้อแดง เราก็มีสิทธิที่จะทบทวนในการแสดงออกต่อนายอภิสิทธิ์เหมือนกัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่รักษาการอยู่ภายในทำเนียบฯ ได้เรียกแถว เตรียมความพร้อมและกระจายกำลังเข้ารักษาพื้นที่ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะริมกำแพงทำเนียบรัฐบาล ริมถนนพิษณุโลก ตรงข้ามกับสำนักงาน ก.พ. และประตู 1 เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดง ได้จอดรถปราศรัยและชุมนุมในบริเวณนั้น โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนยอดตึกสันติไมตรี พยายามประชาสัมพันธ์เรื่องความสามัคคี
ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามขอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เปิดทางเข้าประตู 1 เพื่อให้ได้ตั้งเวทีปราศรัยและชุมนุมบริเวณ ถนนหน้าทำเนียบฯและตึกไทยคู่ฟ้า ริมคลองเปรมประชากร ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ชั้นใน โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เข้ามาเจรจากับ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น. แต่ไม่เป็นผลทำให้ นายจตุพร นำม็อบผ่าแนวกั้นของตำรวจ และสิ่งกีดขวางที่มีทั้งรถบดถนน แผงคอนกรีตและลวดหนาม เข้าไป โดยกลุ่มคนเสื้อแดง ใช้เวลาไม่นานก็สามารถเข้ามายึดพื้นที่ดังกล่าวไว้ได้ทั้งหมด
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า เจ้าหน้าตำรวจได้บันทึกภาพวีดีโอการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงไว้แล้วเพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมปิดทางเข้าออกบริเวณทำเนียบฯ เพื่อไม่ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (25 ก.พ.)นั้น เจ้าหน้าที่ มีมาตรการกำหนดประตูเข้าประตูออกเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา
ขณะที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. กล่าวว่า พอใจสถานการณ์การชุมนุม ที่ไม่มีเหตุรุนแรง ซึ่งยังคงอยู่ในขั้นตอนที่สามารถเจรจากันได้ โดยยังไม่มีการเตรียม การสลายการชุมนุม ส่วนที่มีการเตรียมรถดับเพลิง และแก๊สน้ำตาไว้นั้น เป็นการเตรียมการเพื่อรับมือกับกลุ่มผู้ชุมนุม หากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นตามหลักสากล
พล.ต.ท.วรพงษ์ เชื่อว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไม่บุกเข้าภายในทำเนียบรัฐบาล แต่หากมีการบุกรุกเข้ามา จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายและยืนยันว่านายกรัฐมนตรี จะสามารถเข้ามาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ (24 ก.พ.)ได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีมาตรการรองรับความปลอดภัย
รายงานข่าวแจ้งว่าระหว่างการประชุมครม. ที่โรงแรมดุสิตรี สอร์ทโปโลคลับ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาล ให้เชื่อมต่อสัญญาณ CCTV ถ่ายทอดสด ภาพการชุมนุม ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำเนียบฯ มายังที่ประชุมครม.พร้อมกันนี้มีการรายงานว่า สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจาก ผู้ชุมนุมขอชุมนุมบริเวณประตู 1 สะพานชมัยมรุเชฐ เท่านั้น ขณะที่นายกรัฐมนตรียืนยัน ในที่ประชุมครม.ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลตามปกติ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้รับรายงานกลุ่มคนเสื้อแดง ปิดล้อมทำเนียบฯแล้ว ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังอยู่ ส่วนจะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่ต้องดูสถานการณ์คืนนี้ก่อน อย่างไรก็ตามในการประชุม ครม.ก็ได้ดูภาพการชุมนุมแต่ก็ดูไม่นาน
จะชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่อยู่ที่ผู้ชุมนุม แต่รัฐบาลยืนยันว่าดำเนินการทุกอย่าง อยู่บนพื้นนฐานของความถูกต้อง ความเห็นแตกต่างกันได้ แสดงออกได้ แต่อย่าเกินเลยขอบเขตของกฎหมาย รัฐบาลก็มีหน้าที่รักษากฎหมาย และอยากให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศของบ้านเมือง เพราะทุกคนทราบดีว่า การประชุมอาเซียนเป็นงานที่สำคัญ และเป็นที่หน้าที่ของเราในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งเชื่อว่า ถ้าเรารักษาบรรยากาศบ้านเมืองได้ดี การแก้ปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ก็จะทำได้ง่าย แต่ถ้าบรรยากาศเสียทุกอย่างก็จะแก้ไขยาก
นายอภิสิทิธิ์ ยืนยันว่า ตนจะเข้าทำงานในทำเนียบฯรัฐบาลตามปกติ ยังไม่คิดที่จะเตรียมหาที่ทำงานที่อื่น
เหตุการณ์จะไม่เหมือนวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เพราะขั้นตอน วิธีการ แนวปฏิบัติของรัฐบาลต่างกันรัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะใช้ความรุนแรง แต่รัฐบาลก็จำเป็นต้องรักษากฎหมาย ซึ่งหากต้องรักษากฎหมายก็จะดำเนินการตามขั้นตอน ตามมาตรฐานสากล
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ศาลได้อนุมัติการปล่อยตัวแกนนำ นปช. ที่บุกบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่มีเงื่อนไข ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ปรากฎว่า ในขณะนี้การเคลื่อนไหวทางการเมือง ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่ดำเนินการตามกฎหมาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็อยากให้ทุกฝ่ายเคารพกฎหมาย เคารพศาล ถ้ามีอะไรที่จะต้องดำเนินการ เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการไป
ผูสื่อข่าวรายงานว่าหลังจากผู้ชุมนุมสามารถปิดล้อมหน้าทำเนียบฯได้แล้วจึงตั้งเวทีถาวรขวางถ.บนสะพานชมัยมรุเชฐหันหน้าเข้าตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งลักษณะคล้ายกับช่วงที่กลุ่มพันธมิตรชุมนุมประชาขนเพื่อประชาธิปไตยตั้งเวที จนถูกคณะครู โรงเรียนราชวินิตฟ้องศาลแพ่งให้ดำเนินการจนถูกตัดสินให้รื้อเวที เพื่อเปิดช่องจราจรในที่สุด
นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำม็อบ กล่าวว่า กลุ่ม นปช.จะไม่บุกเข้าไปใน ทำเนียบฯ ส่วนการชุมนุมจะยืดเยื้อหรือไม่ ขอบอกว่ากลุ่มเสื้อแดงพร้อมที่จะชุมนุม 3 วัน 7 วัน 1เดือน หรือ1ปี ก็พร้อมที่จะชุมนุม ส่วนที่นายกรัฐมนตรียืนยันจะเข้าทำงานในทำเนียบฯ นั้น ตนยินดีให้นายกรัฐมนตรี เข้ามาทำงานตามปกติ แต่อาจจะต้องเดินฝ่าผู้ชุมนุมเข้าไป แต่ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรี ไม่กล้าเข้ามาแน่นอน
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ กล่าวว่าจะขอหารือกับแกนนำม็อบก่อนว่าจะให้นายกฯเข้าทำงานในทำเนียบฯหรือไม่ ซึ่งเดิมไม่คิดที่จะขัดขวางการเข้ามาทำงานของนายกฯ แต่วันนี้เห็นเจตนาและการกระทำของนายอภิสิทธิ์ ที่ทำน่าเกลียดกับคนเสื้อแดง โดยเอารั้วลวดหนามมาล้อมทำเนียบฯการกระทำ ของนายอภิสิทธิ์ วันนี้อาจจะทำให้การเดินทางเข้าทำเนียบของนายอภิสิทธิ์ ในวันพรุ่งนี้เปลี่ยนไป
ในความเห็นส่วนตัวเมื่อนายอภิสิทธิ์ แสดงความไม่เป็นมิตรกับคนเสื้อแดง เราก็มีสิทธิที่จะทบทวนในการแสดงออกต่อนายอภิสิทธิ์เหมือนกัน