เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (12ม.ค.) ที่โรงแรมมิโด กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนายขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นพ.เหวง โตจิราการ พร้อมด้วยตัวแทนนปช. 15 จังหวัด อาทิ ลำปาง ลำพูน อุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น จัดการประชุมสัมมนา เพื่อหารือถึงจุดยืนการเคลื่อนไหวของนปช. โดยใช้ชื่อการสัมมนาว่า"สถานการณ์ปัจจุบันกับภาระหน้าที่ของนปช." มีผู้เข้าร่วมประมาณ 100 คน
ต่อมาเวลา 13.30 น. นายวิภูแถลง แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า เป็นการหารือสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ โดยมีมติว่าจะรณรงค์เคลื่อนไหวใน 3 เรื่อง คือ 1. เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เพราะคือต้นตอของปัญหาการเมือง โดยในวันที่ 21 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป จะมีตัวแทนนปช.ไปยื่นหนังสือต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้หยิบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ คปพร. ที่บรรจุอยู่ในวาระแล้วขึ้นมาพิจารณาทันที
2. เรียกร้องให้รัฐบาลรีบดำเนินการกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กรณียึดทำเนียบฯ สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ หากไม่เร่งดำเนินการจะชุมนุมเคลื่อนไหวเข้มข้นให้รัฐบาลรับผิดชอบ
3. นปช.จะไม่ไปขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. แต่คัดค้านการที่รัฐบาลชุดนี้แต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ มาเป็นรมว.ต่างประเทศ ดังนั้นนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลต้องเร่งรับผิดชอบด้วยการปลดนายกษิต ก่อนที่จะมีการประชุมอาเซียน หรือ นายกษิต ต้องพิจารณาลาออกเอง
ทั้งนี้ กลุ่ม นปช.จะแบ่งภารกิจการเคลื่อนไหวเป็น 2 ส่วน คือ เฉพาะหน้า และระยะยาว ซึ่งภารกิจเฉพาะหน้า คือ จะรณรงค์ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยการเคลื่อนไหวยืดเยื้อต่อเนื่อง ส่วนในระยะยาว จะจัดระบบให้ความรู้กับประชาชน ส่วนในทางยุทธวิธีเห็นว่าควรจะต้องมีการจัดตั้งเวทีชุมนุมถาวร ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ที่มีความพร้อมเพื่อสร้างเครือข่าย
ส่วนการเคลื่อนไหวคัดค้านช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิท จะเดินทางไปยื่นหนังสือยังสถานทูต 9 ประเทศอาเซียน เพื่อชี้แจงถึงความไม่ชอบธรรมในการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีของนายกษิต และความไม่ถูกต้องของรัฐบาลชุดนี้ และจะจัดมวลชนย่อยไปถือป้ายต้อนรับผู้นำอาเซียน ที่จะมาเข้าร่วมประชุมที่สนามบิน พร้อมกับการจัดชุมนุมใหญ่ เป็นเวทีคู่ขนานกับการประชุมอาเซียน แต่จะไปจัดที่จังหวัดอื่น ไม่ใช่ที่หัวหิน เพราะเรารู้ว่าประชาธิปัตย์ ต้องการสื่อนัยยะอะไร และเราจะไม่เป็นเครื่องมือให้ถูกกล่าวหาว่า ละเมิดสถาบันฯ
ด้านนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของแก๊งเสื้อแดงในช่วงที่ผ่านมา ที่ใช้วิธีปาไข่ใส่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์และรัฐมนตรีว่า ถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ประชาชนจะออกมาต่อสู้แสดงจุดยืนต่อรัฐบาล และถือว่าเป็นการต่อสู้โดยสันติวิธี
นายขวัญชัย ไพรพนา กล่าวยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของนปช.ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองหรือพรรคเพื่อไทย เพราะการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ มีหลักการว่าจะไม่พึ่งพานักการเมือง ดังนั้นกรณีที่สื่อมวลชนไปลงข่าวว่าได้รับการประสานจากทีมงานนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นั้นไม่ใช่ แต่จะประสานกับทีมงานในกทม. และทีมงานในภาคต่างๆ
"หลังจากนี้นปช.จะสู้ในฐานะประชาชนมากกว่าภาคการเมือง ผมมีกองทุนที่ประชาชนสมาชิกชมรมคนรักอุดรบริจาคให้ 3.2 แสนบาท ซึ่งฝากไว้ในบัญชี ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. และจะหยิบเงินจำนวนนี้มาใช้ในการเคลื่อนไหว" นายขวัญชัยกล่าว
นายขวัญชัย กล่าวด้วยว่า ระยะนี้ไม่ได้รับการติดต่อจากพ.ต.ท.ทักษิณเลย เพราะตนอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณ ห่างออกไปจากการเคลื่อนไหวของนปช. จึงไม่อยากชูธงปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนที่ผ่านมา เพราะจะทำให้ขาดมวลชนที่อยู่ตรงกลางมาเป็นแนวร่วม จึงเห็นว่าควรจะหันมาชูเป้าหมายรักษาประชาธิปไตยดีกว่า
นายจรัล ดิษฐาอภิชัย กล่าวว่าพอก้าวพ้นยุคทักษิณ ต้องกล่าวว่ามวลชนเสื้อแดงเป็นมวลชนขนาดใหญ่กว่ายุคหลัง14 ต.ค. และไม่มีการชี้นำทางการเมืองแน่นอน ทั้งนี้ขอฝากถึงนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ให้สัมภาษณ์ว่า จะปิดวิทยุชุมชน ขอยึดมาตรฐานเดียวกัน ต้องปิดวิทยุชุมชนในเครือผู้จัดการด้วย
เมื่อถามว่า ได้มีการสำรวจหรือไม่ว่ากลุ่มเสื้อแดงมีกี่กลุ่ม นายวิภูแถลง กล่าวว่า ในส่วนนปช.มีกลุ่มเดียว กลุ่มอื่นเป็นองค์กรแนวร่วม ขณะที่นายขวัญชัย กล่าวว่า วันนี้มีมา 15 จังหวัดและหาก 4 จังหวัดใหญ่ในภาคอีสานคือ นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี และขอนแก่น ผนึกกำลังกัน ก็จะเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งมากขึ้น
เมื่อถามว่า จะมีการผนึกกำลังกับกลุ่มรายการความจริงวันนี้ ของนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ด้วยหรือไม่ ซึ่งกำลังจะจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ดีทีวี นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวว่า ยอมรับว่ากลุ่มของนายวีระ เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพโดยเฉพาะเมื่อมีการตั้งดีทีวี ก็จะถือเป็นช่องทางสื่อสารที่สำคัญ ซึ่งเราเห็นว่าจะต้องช่วยกันเต็มแรง เพราะบ้านเมืองกำลังถูกระบอบอมาตยาธิปไตยครอบงำ ซึ่งการต่อสู้ระบอบอมาตยาธิปไตยกับประชาธิปไตยยังไม่สิ้นสุด
ขณะที่นายสมยศ กล่าวว่า กลุ่มนปช.และกลุ่มความจริงวันนี้ เป็นกลุ่มเดียวกัน อาจะมีการเคลื่อนไหวต่างกัน แต่มีเป้าหมายเหมือนกันคือ การสร้างสรรค์ประชาธิปไตย และต่อต้านเผด็จการ ซึ่งตนมองว่าหลังจากนี้ จะให้เวลารัฐบาล 1 เดือน เพื่อปลดนายกษิต ออกจาก รมว.ต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปได้ว่าหากปลดนายกษิตออก เราก็จะไม่มีการเคลื่อนไหวในช่วงการประชุมอาเซียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวมีการให้ทางตัวแทนสมาชิกจังหวัดต่างๆ สาธิตวิธีการปาไข่ โดยนำรูปนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ แปะที่บอร์ดไว้เป็นเป้า
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ได้แอบมาร่วมสังเกตการณ์ที่โรงแรมมิโดด้วย แต่ไม่ได้มาปรากฏตัวในห้องแถลงข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ได้มีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 20 คน เดินทางมาปักหลักชุมนุมบริเวณรั้วทำเนียบรัฐบาล ตรงข้ามสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดยมีรถติดตั้งเครื่องกระจายเสียงและได้นำป้ายผ้าสิแดงขนาดใหญ่ มีข้อความโจมตีรัฐบาลมาแขวนไว้ที่รั้วทำเนียบฯ พร้อมเปิดเวทีปราศรัยโจมตี ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวได้เดินทางมาจากบริเวณหน้ากระทรวงการต่างประเทศ โดยผู้ชุมนุมได้อ้างว่า เป็นตัวแทนกลุ่มคนรักประชาธิปไตยสนามหลวง
**จตุพร ปัดขวางประชุมอาเซียน
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มนปช. กล่าวการเคลื่อนไหวของทั้งกลุ่มนปช. กลุ่มรายการความจริงวันนี้ และคนเสื้อแดง มีเป้าหมายหลักเบื้องต้น คือนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ โดยช่วงปลายสัปดาห์นี้ จะยื่นหนังสือไปยังสถานทูต 9 ประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นว่า รมว.ต่างประเทศ เป็นผู้ก่อการร้าย เป็นอาชญากร ทั้งนี้ เราไม่ได้ไปขัดขวางการประชุมสุดยอดอาเซียน เพียงแต่ขอเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวรมว.ต่างประเทศ
"ถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนตัว กระทรวงต่างประเทศก็จะเป็นเป้าหมายแรกที่กลุ่มนปช. อาจจะไปปิดล้อมก่อน จากนั้นอาจจะไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลด้วย ถ้าหากนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการเราจะทำการยกระดับการต่อสู้ให้เข้มข้นขึ้น แต่จะไม่ทำแบบกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ยึดสนามบิน และทำเนียบรัฐบาล" นายจตุพร กล่าว
**เล็งจัดแรลลี่ป่วนวันประชุมอาเซียนฯ
สำหรับหารเปิดประชุมสภาฯในวันที่ 21 ม.ค. เพื่อพิจารณากรอบประชุมอาเซียนซัมมิทนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่มีการไปปิดล้อม เพราะเราไม่ได้ขัดขวางการประชุม เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับการนำผู้ก่อการร้ายมาเป็น รมว.ต่างประเทศ ส่วนในวันประชุมสุดยอดอาเซียนซัมมิท ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์นั้น ตอนนี้พวกเรากำลังมีการหารือ และเราอาจจัดเป็นแรลลี่ประชาธิปไตย ที่มีความยาวที่สุดในโลก ซึ่งยอมรับว่ากลุ่มคนเสื้อแดงมีอยู่ทุกที่ ที่ไม่พอใจรัฐบาล
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การปาไข่ใส่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยลดลงนั้น ตนคิดว่าไม่ใช่ประเด็น และไม่ใช่แนวทางของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ยังมองว่ามันยังเลวร้ายน้อยกว่าการยึดสนามบิน ทั้งนี้การปาไข่นั้น พวกตนก็เคยโดน แต่ไม่เคยไปร้องแรกแหกกระเฌอ
**สวน"ป๋าเปรม"โดนกระทืบข้างเดียว
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ออกมาเรียกร้องให้คนไทยหยุดทะเลาะกัน ว่า ขอให้มองไปที่จุดเริ่มต้นในวันที่ 19 ก.ย. 49 อีกทั้งพล.อ.เปรม ควรไปส่งเสียงให้กระบวนการยุติธรรมมีมาตรฐานเดียวกันเสียก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้อีกฝ่ายกระทืบข้างเดียว แล้วจะมาให้หยุดทะเลาะอย่างนี้บ้านเมืองจะสงบได้อย่างไร ขอฝากไปถึงพล.อ.เปรมด้วย
**"เทพเทือก"พร้อมเจรจาเสื้อแดง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงนัดประชุม เพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวในงานอาเซียนซัมมิท และกรณีการปาไข่ว่า รัฐบาลไม่แบ่งแยกประชาชนว่าเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง แต่รัฐบาลจะให้ความเคารพในความคิดของประชาชน ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับรัฐบาลหรือไม่ การเคลื่อนไหวชุมนุม หรือแสดงออก ทางการเมือง เป็นสิทธิของประชาชน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฏหมาย อย่าทำผิดกฏหมาย หรือทำร้ายใคร ขอให้ชุมนุมอย่างสงบ ซึ่งหากทำเช่นนี้ไม่ขัดข้อง และถ้าหากมีข้อเสนอ ข้อแนะนำรัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังในทางที่จะเอามาใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา หากกลุ่มเสื้อแดงบอกมา ตนก็พร้อมที่จะไปคุย ส่วนจะรับฟังตนหรือไม่นั้น คงไม่สามารถบังคับได้ แม้เราจะมีความเห็นไม่เหมือนกันแต่เราสามารถทำงานร่วมกันอย่างสันติได้
ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงมีการพาดพิงถึง พล.อ.เปรม ติณนสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในทำนองที่ต้องการให้มีความเป็นกลางนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ท่านไม่เกี่ยวกับการเมือง ตั้งแต่ตนเป็นผู้ประสานการตั้งรัฐบาลก็ไม่เคยได้พูดคุย หรือขอคำแนะนำจากพล.อ.เปรม ท่านไม่เคยเข้ามาแทรกแซง ตนพบพล.อ. เปรมวันเดียว คือวันที่ไปอวยพรปีใหม่ และพล.อ. เปรมก็ไม่ได้คุยอะไรกับตน ดังนั้นถ้ากลุ่มเสื้อแดงจะมีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง ก็ว่ากันไปในระดับคนที่ทำงานทางการเมืองด้วยกัน ไม่ควรไปดึงคนที่เป็นผู้ใหญ่ ที่เป็นที่เคารพของบ้านเมือง มาให้ท่านไม่สบายใจ
ต่อมาเวลา 13.30 น. นายวิภูแถลง แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า เป็นการหารือสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ โดยมีมติว่าจะรณรงค์เคลื่อนไหวใน 3 เรื่อง คือ 1. เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เพราะคือต้นตอของปัญหาการเมือง โดยในวันที่ 21 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป จะมีตัวแทนนปช.ไปยื่นหนังสือต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้หยิบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับ คปพร. ที่บรรจุอยู่ในวาระแล้วขึ้นมาพิจารณาทันที
2. เรียกร้องให้รัฐบาลรีบดำเนินการกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กรณียึดทำเนียบฯ สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ หากไม่เร่งดำเนินการจะชุมนุมเคลื่อนไหวเข้มข้นให้รัฐบาลรับผิดชอบ
3. นปช.จะไม่ไปขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค. แต่คัดค้านการที่รัฐบาลชุดนี้แต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ มาเป็นรมว.ต่างประเทศ ดังนั้นนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลต้องเร่งรับผิดชอบด้วยการปลดนายกษิต ก่อนที่จะมีการประชุมอาเซียน หรือ นายกษิต ต้องพิจารณาลาออกเอง
ทั้งนี้ กลุ่ม นปช.จะแบ่งภารกิจการเคลื่อนไหวเป็น 2 ส่วน คือ เฉพาะหน้า และระยะยาว ซึ่งภารกิจเฉพาะหน้า คือ จะรณรงค์ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยการเคลื่อนไหวยืดเยื้อต่อเนื่อง ส่วนในระยะยาว จะจัดระบบให้ความรู้กับประชาชน ส่วนในทางยุทธวิธีเห็นว่าควรจะต้องมีการจัดตั้งเวทีชุมนุมถาวร ทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ที่มีความพร้อมเพื่อสร้างเครือข่าย
ส่วนการเคลื่อนไหวคัดค้านช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิท จะเดินทางไปยื่นหนังสือยังสถานทูต 9 ประเทศอาเซียน เพื่อชี้แจงถึงความไม่ชอบธรรมในการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีของนายกษิต และความไม่ถูกต้องของรัฐบาลชุดนี้ และจะจัดมวลชนย่อยไปถือป้ายต้อนรับผู้นำอาเซียน ที่จะมาเข้าร่วมประชุมที่สนามบิน พร้อมกับการจัดชุมนุมใหญ่ เป็นเวทีคู่ขนานกับการประชุมอาเซียน แต่จะไปจัดที่จังหวัดอื่น ไม่ใช่ที่หัวหิน เพราะเรารู้ว่าประชาธิปัตย์ ต้องการสื่อนัยยะอะไร และเราจะไม่เป็นเครื่องมือให้ถูกกล่าวหาว่า ละเมิดสถาบันฯ
ด้านนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของแก๊งเสื้อแดงในช่วงที่ผ่านมา ที่ใช้วิธีปาไข่ใส่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์และรัฐมนตรีว่า ถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ประชาชนจะออกมาต่อสู้แสดงจุดยืนต่อรัฐบาล และถือว่าเป็นการต่อสู้โดยสันติวิธี
นายขวัญชัย ไพรพนา กล่าวยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของนปช.ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองหรือพรรคเพื่อไทย เพราะการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ มีหลักการว่าจะไม่พึ่งพานักการเมือง ดังนั้นกรณีที่สื่อมวลชนไปลงข่าวว่าได้รับการประสานจากทีมงานนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นั้นไม่ใช่ แต่จะประสานกับทีมงานในกทม. และทีมงานในภาคต่างๆ
"หลังจากนี้นปช.จะสู้ในฐานะประชาชนมากกว่าภาคการเมือง ผมมีกองทุนที่ประชาชนสมาชิกชมรมคนรักอุดรบริจาคให้ 3.2 แสนบาท ซึ่งฝากไว้ในบัญชี ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. และจะหยิบเงินจำนวนนี้มาใช้ในการเคลื่อนไหว" นายขวัญชัยกล่าว
นายขวัญชัย กล่าวด้วยว่า ระยะนี้ไม่ได้รับการติดต่อจากพ.ต.ท.ทักษิณเลย เพราะตนอยากให้พ.ต.ท.ทักษิณ ห่างออกไปจากการเคลื่อนไหวของนปช. จึงไม่อยากชูธงปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนที่ผ่านมา เพราะจะทำให้ขาดมวลชนที่อยู่ตรงกลางมาเป็นแนวร่วม จึงเห็นว่าควรจะหันมาชูเป้าหมายรักษาประชาธิปไตยดีกว่า
นายจรัล ดิษฐาอภิชัย กล่าวว่าพอก้าวพ้นยุคทักษิณ ต้องกล่าวว่ามวลชนเสื้อแดงเป็นมวลชนขนาดใหญ่กว่ายุคหลัง14 ต.ค. และไม่มีการชี้นำทางการเมืองแน่นอน ทั้งนี้ขอฝากถึงนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ให้สัมภาษณ์ว่า จะปิดวิทยุชุมชน ขอยึดมาตรฐานเดียวกัน ต้องปิดวิทยุชุมชนในเครือผู้จัดการด้วย
เมื่อถามว่า ได้มีการสำรวจหรือไม่ว่ากลุ่มเสื้อแดงมีกี่กลุ่ม นายวิภูแถลง กล่าวว่า ในส่วนนปช.มีกลุ่มเดียว กลุ่มอื่นเป็นองค์กรแนวร่วม ขณะที่นายขวัญชัย กล่าวว่า วันนี้มีมา 15 จังหวัดและหาก 4 จังหวัดใหญ่ในภาคอีสานคือ นครราชสีมา อุดรธานี อุบลราชธานี และขอนแก่น ผนึกกำลังกัน ก็จะเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งมากขึ้น
เมื่อถามว่า จะมีการผนึกกำลังกับกลุ่มรายการความจริงวันนี้ ของนายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ด้วยหรือไม่ ซึ่งกำลังจะจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ดีทีวี นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวว่า ยอมรับว่ากลุ่มของนายวีระ เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพโดยเฉพาะเมื่อมีการตั้งดีทีวี ก็จะถือเป็นช่องทางสื่อสารที่สำคัญ ซึ่งเราเห็นว่าจะต้องช่วยกันเต็มแรง เพราะบ้านเมืองกำลังถูกระบอบอมาตยาธิปไตยครอบงำ ซึ่งการต่อสู้ระบอบอมาตยาธิปไตยกับประชาธิปไตยยังไม่สิ้นสุด
ขณะที่นายสมยศ กล่าวว่า กลุ่มนปช.และกลุ่มความจริงวันนี้ เป็นกลุ่มเดียวกัน อาจะมีการเคลื่อนไหวต่างกัน แต่มีเป้าหมายเหมือนกันคือ การสร้างสรรค์ประชาธิปไตย และต่อต้านเผด็จการ ซึ่งตนมองว่าหลังจากนี้ จะให้เวลารัฐบาล 1 เดือน เพื่อปลดนายกษิต ออกจาก รมว.ต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปได้ว่าหากปลดนายกษิตออก เราก็จะไม่มีการเคลื่อนไหวในช่วงการประชุมอาเซียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวมีการให้ทางตัวแทนสมาชิกจังหวัดต่างๆ สาธิตวิธีการปาไข่ โดยนำรูปนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ แปะที่บอร์ดไว้เป็นเป้า
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ได้แอบมาร่วมสังเกตการณ์ที่โรงแรมมิโดด้วย แต่ไม่ได้มาปรากฏตัวในห้องแถลงข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ได้มีกลุ่มเสื้อแดงประมาณ 20 คน เดินทางมาปักหลักชุมนุมบริเวณรั้วทำเนียบรัฐบาล ตรงข้ามสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) โดยมีรถติดตั้งเครื่องกระจายเสียงและได้นำป้ายผ้าสิแดงขนาดใหญ่ มีข้อความโจมตีรัฐบาลมาแขวนไว้ที่รั้วทำเนียบฯ พร้อมเปิดเวทีปราศรัยโจมตี ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวได้เดินทางมาจากบริเวณหน้ากระทรวงการต่างประเทศ โดยผู้ชุมนุมได้อ้างว่า เป็นตัวแทนกลุ่มคนรักประชาธิปไตยสนามหลวง
**จตุพร ปัดขวางประชุมอาเซียน
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มนปช. กล่าวการเคลื่อนไหวของทั้งกลุ่มนปช. กลุ่มรายการความจริงวันนี้ และคนเสื้อแดง มีเป้าหมายหลักเบื้องต้น คือนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ โดยช่วงปลายสัปดาห์นี้ จะยื่นหนังสือไปยังสถานทูต 9 ประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นว่า รมว.ต่างประเทศ เป็นผู้ก่อการร้าย เป็นอาชญากร ทั้งนี้ เราไม่ได้ไปขัดขวางการประชุมสุดยอดอาเซียน เพียงแต่ขอเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวรมว.ต่างประเทศ
"ถ้าหากไม่มีการเปลี่ยนตัว กระทรวงต่างประเทศก็จะเป็นเป้าหมายแรกที่กลุ่มนปช. อาจจะไปปิดล้อมก่อน จากนั้นอาจจะไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลด้วย ถ้าหากนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการเราจะทำการยกระดับการต่อสู้ให้เข้มข้นขึ้น แต่จะไม่ทำแบบกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ยึดสนามบิน และทำเนียบรัฐบาล" นายจตุพร กล่าว
**เล็งจัดแรลลี่ป่วนวันประชุมอาเซียนฯ
สำหรับหารเปิดประชุมสภาฯในวันที่ 21 ม.ค. เพื่อพิจารณากรอบประชุมอาเซียนซัมมิทนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่มีการไปปิดล้อม เพราะเราไม่ได้ขัดขวางการประชุม เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับการนำผู้ก่อการร้ายมาเป็น รมว.ต่างประเทศ ส่วนในวันประชุมสุดยอดอาเซียนซัมมิท ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์นั้น ตอนนี้พวกเรากำลังมีการหารือ และเราอาจจัดเป็นแรลลี่ประชาธิปไตย ที่มีความยาวที่สุดในโลก ซึ่งยอมรับว่ากลุ่มคนเสื้อแดงมีอยู่ทุกที่ ที่ไม่พอใจรัฐบาล
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า การปาไข่ใส่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยลดลงนั้น ตนคิดว่าไม่ใช่ประเด็น และไม่ใช่แนวทางของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ยังมองว่ามันยังเลวร้ายน้อยกว่าการยึดสนามบิน ทั้งนี้การปาไข่นั้น พวกตนก็เคยโดน แต่ไม่เคยไปร้องแรกแหกกระเฌอ
**สวน"ป๋าเปรม"โดนกระทืบข้างเดียว
นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ออกมาเรียกร้องให้คนไทยหยุดทะเลาะกัน ว่า ขอให้มองไปที่จุดเริ่มต้นในวันที่ 19 ก.ย. 49 อีกทั้งพล.อ.เปรม ควรไปส่งเสียงให้กระบวนการยุติธรรมมีมาตรฐานเดียวกันเสียก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้อีกฝ่ายกระทืบข้างเดียว แล้วจะมาให้หยุดทะเลาะอย่างนี้บ้านเมืองจะสงบได้อย่างไร ขอฝากไปถึงพล.อ.เปรมด้วย
**"เทพเทือก"พร้อมเจรจาเสื้อแดง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มเสื้อแดงนัดประชุม เพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวในงานอาเซียนซัมมิท และกรณีการปาไข่ว่า รัฐบาลไม่แบ่งแยกประชาชนว่าเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง แต่รัฐบาลจะให้ความเคารพในความคิดของประชาชน ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับรัฐบาลหรือไม่ การเคลื่อนไหวชุมนุม หรือแสดงออก ทางการเมือง เป็นสิทธิของประชาชน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฏหมาย อย่าทำผิดกฏหมาย หรือทำร้ายใคร ขอให้ชุมนุมอย่างสงบ ซึ่งหากทำเช่นนี้ไม่ขัดข้อง และถ้าหากมีข้อเสนอ ข้อแนะนำรัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังในทางที่จะเอามาใช้ประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา หากกลุ่มเสื้อแดงบอกมา ตนก็พร้อมที่จะไปคุย ส่วนจะรับฟังตนหรือไม่นั้น คงไม่สามารถบังคับได้ แม้เราจะมีความเห็นไม่เหมือนกันแต่เราสามารถทำงานร่วมกันอย่างสันติได้
ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงมีการพาดพิงถึง พล.อ.เปรม ติณนสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในทำนองที่ต้องการให้มีความเป็นกลางนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ท่านไม่เกี่ยวกับการเมือง ตั้งแต่ตนเป็นผู้ประสานการตั้งรัฐบาลก็ไม่เคยได้พูดคุย หรือขอคำแนะนำจากพล.อ.เปรม ท่านไม่เคยเข้ามาแทรกแซง ตนพบพล.อ. เปรมวันเดียว คือวันที่ไปอวยพรปีใหม่ และพล.อ. เปรมก็ไม่ได้คุยอะไรกับตน ดังนั้นถ้ากลุ่มเสื้อแดงจะมีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง ก็ว่ากันไปในระดับคนที่ทำงานทางการเมืองด้วยกัน ไม่ควรไปดึงคนที่เป็นผู้ใหญ่ ที่เป็นที่เคารพของบ้านเมือง มาให้ท่านไม่สบายใจ