รองนายกฯ ด้านความมั่นคง กำชับผู้ว่าฯ-ผู้การทุกจังหวัดพร้อมรับมือ รมต.ลงพื้นที่พบประชาชน ลั่นหากดูแลเสื้อแดงชุมนุมโดยสงบไม่ได้จะรับอาสาเป็นผู้ดูแลเอง ยันไม่มีอำนาจล้วงลูกเด้งผู้ว่าเชียงรายพ้นพื้นที่
วันนี้ (5 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์คำสั่งโยกย้ายผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เพราะปล่อยให้กลุ่มเสื้อแดงชุมนุมว่า ไม่ทราบเลยว่าย้ายเมื่อไหร่ ไม่ทราบจริงๆ ต้องถามกระทรวงมหาดไทย ตนไม่ได้ลงลึกขนาดนั้น
เมื่อถามว่าเป็นนโยบายทางการเมืองหรือไม่ที่ไม่พอใจ เพราะผู้ว่าฯ ไม่สามารถดูแลเรื่องการชุมนุมได้ นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าดีที่สุดต้องถามผู้มีอำนาจสั่งย้าย ถ้าเป็นเรื่องของตน มาถามได้ ถ้าเป็นเรื่องคนอื่นตอบแทนไม่ได้ ซักว่าก่อนหน้านี้เหมือนกับว่าผู้ว่าฯ คนดังกล่าวมีความสนิทสนมกับพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ตามกระแสข่าวระบุว่ามาจากการผลักดันของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน นายสุเทพกล่าวว่า ก็อย่างที่เรียน กรุณาไปถามผู้ที่ออกคำสั่ง
ถามอีกว่า ได้หารือกับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ปรึกษา ขออธิบายว่าการเป็นรองนายกฯ กำกับดูแลกระทรวงเขาจริง แต่ไม่สามารถก้าวล่วงไปถึงการปฏิบัติหน้าที่การทำงานแต่ละกระทรวงได้
“ยกตัวอย่างผมกำกับดูแลกระทรวงกลาโหม เขาจะกำกับแต่งตั้งแม่ทัพบก แม่ทัพเรือ ปลัดกระทรวง พลเอก พลโท ผมไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะไม่ใช่อำนาจของผม ส่วนกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม ที่ผมควบคุมก็เช่นเดียวกับการกำกับควบคุมของผม จะควบคุมเฉพาะดูแลให้กระทรวงเหล่านี้เขาได้ทำงานสอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลเท่านั้น” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าเป็นใบสั่งหรือไม่ เพราะไม่สามารถสานต่อนโยบายได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีหรอก
เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีครั้งนี้เหมือนเป็นการไปวัดใจผู้ว่าฯ ด้วยว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้มากแค่ไหน นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อเช้าตนไปส่งเสด็จพระเทพฯ และได้เจอกับผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ก็นั่งหารือระหว่างรอส่งเสด็จ จึงไม่มีเหตุที่ว่าตนลงไปตรวจราชการที่จังหวัดนครนายก เพื่อวัดใจผู้ว่าราชการจังหวัด
“ผมไปเพราะว่า ผมต้องการไปเยี่ยมส่วนราชการ ประชุมปรึกษารือเกี่ยวกับเรื่องที่จะให้เขาปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาล เช่น เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อเช้า (5 ก.พ.) คุยกับผู้ว่าฯ จ.นครนายก ก็ได้ทราบว่าเขาทำชุมชนเศรษฐกิจพอเพียง 1 แห่ง ผมก็ต้องการไปดูว่าที่ทำไปสำเร็จถึงขั้นที่จะเป็นแบบอย่างให้ที่อื่นดูได้หรือไม่ ผมตกลงผู้ว่าฯ จ.นครนายก ว่าต้องการดูว่ามีชุมชนไหนที่มีความพร้อมทำเศรษฐกิจ ก็ให้มาดำเนินการอย่างเร่งด่วน ขาดเหลืออะไรรัฐบาลสนับสนุนเต็มที่ เพราะจะให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ ผมจะไปที่เขื่อน จ.นครนายก โดยมีวัตถุประสงค์ว่า กลมชลประทานสร้างเขื่อนตามพระราชดำริได้เสร็จ แก้ไขปัญหาน้ำเค็มได้ เปิดน้ำให้คนใช้ได้ แต่ที่ผมจะไปดูคือต้องการให้ระบบสมบูรณ์ ถึงขนาดเอาน้ำไปสู่ไร่นาประชาชนได้ ปัญหาคือเขาไม่มีครองเล็กที่จะส่งน้ำเข้าไปในไร่นาประชาชน ชลประทานทำระบบส่งน้ำขาดใหญ่ไว้ แต่พอไปถึงไร่นาไม่ได้ทำ ผมจะไปปรึกษาหารือผู้ว่า จะทำยังไงน้ำไปถึงแปลงไร่นาประชาชนได้ ส่วนรัฐมนตรีท่านอื่นที่ลงไปก็มีหน้าที่ลงไปแก้ไขปัญหาให้ประชาชนแบบนี้” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าได้หารือกับผู้ว่าฯ เรื่องประเมินมวลชนที่จะเคลื่อนไหวในพื้นที่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าว่า ไม่มีการรายงานเรื่องนี้
เมื่อถามว่าในเดือนเมษายนนี้จะมีการโยกย้ายครั้งใหญ่ นายสุเทพกล่าวว่า เอาไว้เดือนเมษายน ค่อยมาคุยกัน มาถามเช่นนี้ตอบไม่ได้เลย เพราะคาดการณ์ไม่ได้ ว่ากรณีที่ถามจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายนหรือไม่ แต่ตามปกติการโยกย้ายข้าราชการเขาก็ทำกันเดือนละ 2 ครั้ง คือเดือนเมษายน กับเดือนกันยายน ก็เป็นเรื่องปกติของทางราชการ
ผู้สื่อถามว่าจังหวัดลพบุรี มีการเตรียม นปช.1 พันคนต้อนรับนายกรัฐมนตรี 5 จุด นายสุเทพ กล่าวว่า คอยดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อถามว่าต่อว่าในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดเชียง เตรียมวางแผนเพื่อให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ได้อย่างสะดวกหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนคิดว่าเขามีสิทธิ์ชุมนุมได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย แต่ถ้าทำอะไรผิดกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด หรือตำรวจที่จะดูแล หรือถ้าเขาไม่ดูแลตนจะดูคนเหล่านั้นต่อไป
เมื่อถามว่าหากเกิดเหตุการณ์ที่มีการขว้างปาสิ่งของ จะคาดโทษกับผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนเห็นว่าผู้การบางจังหวัดที่หย่อนหยานเขาก็ย้านเข้ามาอยู่ประจำอยู่แล้ว ส่วนผู้ว่าฯ ก็ต้องดูว่ากระทรวงมหาดไทยทำอะไรต่อไป เมื่อถามว่าจะมีการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีการเชือดไก่ เชือดลิง แต่คนที่กินเงินเดือนที่เป็นภาษีอากรของประชาชนของประชาชนต้องทำหน้าที่ ถ้าไม่ทำก็ต้องให้คนขยันกว่าตั้งใจกว่าไปทำหน้าที่แทน
เมื่อถามว่าการดูแลความปลอดภัย จะเป็นการชี้วัดผลงานของผู้ว่าฯหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะผลงานของผู้ว่าฯ และผู้บังคับการมีหลายเรื่อง แต่การละเลยไม่ทำหน้าที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถ้าเห็นว่าทำให้เสียหาย ก็เป็นหน้าที่ผู้บังคับบัญชาที่จะต้องพิจารณา เมื่อถามว่าการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม คนใกล้ชิด คมช.ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้คิดอย่างนั้น เราทำตามหน้าที่และจะลงพื้นที่ทุกจังหวัด นายกฯมีบัญชาให้รัฐมนตรีทุกคนลงไปเยี่ยมประชาชน ลงไปตรวจราชการในแต่ละจังหวัด แต่ละคนก็แจ้งความจำนงว่าจะไปที่ไหนกันบ้าง ฉะนั้นไม่ได้เฉพาะเจาะจง อย่างเช่น ตนลงจังหวัดนครนายก เพราะตนสนใจที่จะไป และคิดว่าจะแก้ปัญหาได้บางเรื่อง อยากร่วมทำงานกับผู้ว่าฯและข้าราชการที่นั่น อย่างไรก็ตามแม้ว่าพื้นที่ไหนจะเสี่ยงก็ต้องไปทั่วประเทศ เมื่อถามว่าบางพื้นที่ที่ยากกับการควบคุมจะกำชับอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่วาว่า ก็ต้องควบคุมกันให้ได้
เมื่อถามว่าจะวัดผลสำเร็จการลงพื้นที่ครั้งนี้อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งเป้าว่าไปมาแล้วจะสำเร็จภายในพริบตาเดียว แต่การที่เราเป็นตัวแทนรัฐบาลไปจะทำให้ข้าราชการในต่างจังหวัดมีโอกาสเข้าใจเรื่องนโยบายรัฐบาลชัดเจนขึ้น นอกจากนี้รัฐมนตรีจะได้ซักถามเกี่ยวกับการปฏิบัติตามนโยบาย ที่ได้สั่งการไปแล้วว่า มีความคืบหน้าหรือมีปัญหาตรงไหน รวมทั้งได้ไปเยี่ยมประชาชนในแต่ละจังหวัดพร้อมรับฟังปัญหาประชาชนด้วย เราต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านติงมาว่าเป็นการวางรากฐานในการหาเสียงครั้งหน้า นายสุเทพ กล่าวว่า การหาเสียงยังมีเวลาอีกนาน ไม่ต้องรีบหาเสียง เมื่อถามอีกว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าต้องการกล่อมประชาชนให้ลืม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นการกล่าวหาที่ไร้สาระ ไม่ต้องตอบ