ผู้ว่าฯ-ผู้การจังหวัดลพบุรี ขวัญผวาจัดกำลังรับมือม็อบเสื้อแดงป่วนนายกฯ เต็มอัตราศึก ขู่อย่ามาสร้างวุ่นวาย เพราะเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายเสียเปล่าๆ ขึ้นบัญชีดำ 3 เกลอหัวแข็งนำเสื้อแดงป่วน มีสิทธิ์โดนเช็กบิล
วันนี้ (6 มี.ค.) นายจารุพงศ์ พลเดช ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ยอมรับว่ากลัวถูกโยกย้ายหลังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ออกมาขู่หากไม่สามารถดูแลความสงบเรียบร้อยได้ ซึ่งตนก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าสถานการณ์จะออกมาในลักษณะใด อย่างไรก็ตาม ตนได้เตรียมการรับมือไว้อย่างเต็มที่ ซึ่งไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรตนก็พร้อมยอมรับ
ขณะที่ พล.ต วิเชียร มัญญะหงษ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียด โดยระบุเพียงว่าการอารักขาบุคคลสำคัญนั้นมีระเบียบขั้นตอนอยู่แล้ว อีกทั้งทหารทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต.สถิตย์ ต้นสงวน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ลพบุรี มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงได้ ในระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ เนื่องจากได้ระดมกำลังทั้งตำรวจและทหารกว่า 1,500 นาย ดูแลความสงบเรียบร้อย โดยในส่วนของทหารนั้นได้ขอกำลังสนับสนุนจากมณฑลทหารบกที่ 13 จำนวน 200 นาย
ทั้งนี้ จากการประเมินพบว่าจะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 1,000 คน พร้อมกันนี้ ยังได้เตือนไปยังบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงว่าอย่ามาก่อกวนที่ จ.ลพบุรี เพราะถ้ามาก็เท่ากับมาฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะพวกหัวแข็ง 3 เกลอ หากเข้ามาก็เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกหวั่นไหวหลังถูกผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคาดโทษหากดูแลเหตุการณ์ไม่ได้
โดยก่อนหน้านี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมต้อนรับนายกรัฐมนตรีที่ จ.ลพบุรี ว่าหากเกิดเหตุการณ์ที่มีการขว้างปาสิ่งของจะคาดโทษกับผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนเห็นว่าผู้การบางจังหวัดที่หย่อนหยานเขาก็ย้ายเข้ามาอยู่ประจำอยู่แล้ว ส่วนผู้ว่าฯ ก็ต้องดูว่ากระทรวงมหาดไทยทำอะไรต่อไป เมื่อถามว่าจะมีการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีการเชือดไก่ เชือดลิง แต่คนที่กินเงินเดือนที่เป็นภาษีอากรของประชาชนของประชาชนต้องทำหน้าที่ ถ้าไม่ทำก็ต้องให้คนขยันกว่าตั้งใจกว่าไปทำหน้าที่แทน
เมื่อถามว่าการดูแลความปลอดภัยจะเป็นการชี้วัดผลงานของผู้ว่าฯ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะผลงานของผู้ว่าฯ และผู้บังคับการมีหลายเรื่อง แต่การละเลยไม่ทำหน้าที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถ้าเห็นว่าทำให้เสียหาย ก็เป็นหน้าที่ผู้บังคับบัญชาที่จะต้องพิจารณา เมื่อถามว่าการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม คนใกล้ชิด คมช.ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จะเป็นการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้คิดอย่างนั้น เราทำตามหน้าที่และจะลงพื้นที่ทุกจังหวัด นายกฯมีบัญชาให้รัฐมนตรีทุกคนลงไปเยี่ยมประชาชน ลงไปตรวจราชการในแต่ละจังหวัด แต่ละคนก็แจ้งความจำนงว่าจะไปที่ไหนกันบ้าง ฉะนั้นไม่ได้เฉพาะเจาะจง อย่างเช่นตนลงจังหวัดนครนายก เพราะตนสนใจที่จะไป และคิดว่าจะแก้ปัญหาได้บางเรื่อง อยากร่วมทำงานกับผู้ว่าฯและข้าราชการที่นั่น อย่างไรก็ตามแม้ว่าพื้นที่ไหนจะเสี่ยงก็ต้องไปทั่วประเทศ เมื่อถามว่าบางพื้นที่ที่ยากกับการควบคุมจะกำชับอะไรหรือไม่ นายสุเทพ กล่วาว่า ก็ต้องควบคุมกันให้ได้
เมื่อถามว่าจะวัดผลสำเร็จการลงพื้นที่ครั้งนี้อย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ได้ตั้งเป้าว่าไปมาแล้วจะสำเร็จภายในพริบตาเดียว แต่การที่เราเป็นตัวแทนรัฐบาลไปจะทำให้ข้าราชการในต่างจังหวัดมีโอกาสเข้าใจเรื่องนโยบายรัฐบาลชัดเจนขึ้น นอกจากนี้รัฐมนตรีจะได้ซักถามเกี่ยวกับการปฏิบัติตามนโยบาย ที่ได้สั่งการไปแล้วว่า มีความคืบหน้าหรือมีปัญหาตรงไหน รวมทั้งได้ไปเยี่ยมประชาชนในแต่ละจังหวัดพร้อมรับฟังปัญหาประชาชนด้วย เราต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศ