จากกรณีนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แจกถุงยังชีพช่วย
เหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่จ.พัทลุง ปรากฏว่าในถุงยังชีพมีปลากระป๋องเน่ารวมอยู่ด้วย และกรณีนายบุญจง
วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แจกเงินช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นงบประมาณของกระทรวงพัฒนา
สังคมฯ และแนบนามบัตรของตัวเองไปด้วย ได้ก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และกลายเป็นปัญหา
ที่สร้างความกดดันไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
กระทั่งเมื่อเช้าวานนี้ (3 ก.พ.) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นายอภิสิทธิ์ ได้เรียกนาย
วิฑูรย์ เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
หลังการเข้าพบนายกรัฐมนตรี นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถาม 2 เรื่อง คือความ
คืบหน้าของคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่ตนเป็นประธานอยู่ และถาม
เรื่องถุงยังชีพ ที่มีปลากระป๋อง โดยนายกฯให้ตนนำหลักฐาน ข้อมูลไปให้ดูหลังการประชุมครม.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองหรือไม่ นายวิฑูรย์ ตอบว่า
"ผมได้ตัดสินใจไว้แล้ว แต่ขออนุญาตบอกกับนายกฯ ก่อนว่าจะตัดสินใจอย่างไร"
**"วิฑูรย์"แถลงข่าวลาออก
ต่อมา เวลา 12.50 น. นายวิฑูรย์ ได้เปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีการแจกถุงยังชีพที่มี
ปัญหาเรื่องปลากระป๋องเน่า โดยเริ่มต้นว่า ทุกอย่างต้องขอกราบเรียนว่าได้ตัดสินใจด้วยตนเอง เพื่อ
ประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ตนรัก และเป็นพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวที่ตนอยู่มาตลอด และ
เพื่อประโยชน์ของนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินหน้าบริหารบ้านเมืองต่อไป ซึ่งการทำงานในขณะนี้กำลังเดิน
หน้าไปได้ด้วยดี ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง และเพื่อประโยชน์ของประชาชน
"ผมยืนยันในข้อเท็จจริงว่า เรื่องถุงยังชีพที่จ.พัทลุง ไม่มีเรื่องของการโกง และผมขอยืนยันใน
เรื่องของการตรวจสอบ ผมพร้อมที่จะให้ตรวจสอบ ให้ความร่วมมือ และจะไปให้ปากคำ ให้ข้อมูล และข้อ
เท็จจริงทุกอย่างในกระบวนการตรวจสอบ ผมเรียนไปยังพี่น้องชาวอุบลราชธานี ที่ผมเป็นผู้แทนมาตลอด
ระยะเวลา 24 ปี ผมเป็น สจ.มาสองสมัย เป็น ส.ส. 7 สมัย และเป็นผู้แทนที่ไม่เคยสอบตก อยู่พรรคการเมือง
พรรคเดียวมาตลอด ผมต้องการให้พี่น้องชาวจังหวัดอุบลฯ ที่เลือกผมมาตั้ง 9 ครั้ง ได้มีความรู้สึกภาคภูมิ
ใจว่า นักการเมืองลูกอีสาน เลือดอุบลฯ คนนี้ ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง มีมาตรฐานทางจริยธรรม ทางการเมือง
ซึ่งจะต้องอยู่เหนือกฎหมาย การลาออกของผมครั้งนี้ ก็ต้องบอกครับว่า ยอมรับว่า เจ็บปวด เพราะการ
ดำเนินการต่างๆนั้น ผมเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง การแจกถุงยังชีพ ที่ จ.พัทลุง ผมไม่รู้ว่า มีของไม่ดี อยู่ใน
ถุงยังชีพนั้น ผมเห็นใจประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อน ผมก็เป็นนักการเมืองคนหนึ่ง ไม่ไปซ้ำเติม
ประชาชนเด็ดขาด เพียงแต่ผมเองไม่รู้ว่าของข้างในมันไม่ดี และก็ต้องเรียนไปยังพี่น้องประชาชนทั่วไป
ด้วยว่า สิ่งที่เอาไปนั้น มันไม่ใช่ไม่ดีทั้งหมด อะไรที่ดี ชาวบ้านก็เอาไปใช้ อะไรไม่ดี พวกผมพอรู้ว่ามีปัญหา
ก็รีบให้เจ้าหน้าที่เก็บคืน ส่วนที่เหลือ ก็ไม่ได้ให้มีการแจกจ่ายอีกต่อไป เป็นการแสดงออกถึงความรับผิด
ชอบ"
นายวิฑูรย์ ยืนยันว่า การลาออกครั้งนี้ไม่มีการกดดันใดๆ จากทางพรรค และจากผู้หลักผู้ใหญ่
ในพรรค แต่เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบทางการเมือง ความรับผิดชอบต่อสังคม ถ้าการตรวจ
สอบจากคณะกรรมการชุดต่างๆ มีผลออกมาเป็นอย่างไร คิดว่าทางพรรค และพี่น้องประชาชน คงให้ความ
เป็นธรรมกับตนในอนาคต
" ดังนั้นผมจึงขอลาออก จากการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนานาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป" นายวิฑูรย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ถึงเหตุผลการลาออก แต่นายวิฑูรย์ ตัดบทว่า ขออนุญาตไม่ตอบคำ
ถาม และจะชี้แจงในโอกาสต่อไป จากนั้นนายวิฑูรย์ ได้ลุกขึ้นจากห้องแถลงข่าวไปทันที
ทั้งนี้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งฝ่ายรักษาความ
ปลอดภัยของนายวิฑูรย์ ได้เดินประกบนายวิฑูรย์ มาจนถึงประตูรถของนายวิฑูรย์ ซึ่งจอดไว้ที่หน้าตึก
บัญชาการ 1 เพื่อคอยกันไม่ให้ผู้สื่อข่าว สอบถามนายวิฑูรย์
**หากไม่ผิดขอโอกาสกลับสู่การเมือง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสอบถามนายวิฑูรย์ว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ จะกระทบฐานเสียงในภาค
อีสาน และจะชี้แจงประชาชนอย่างไร นายวิฑูรย์ กล่าวว่า น่าจะมีผลดี
เมื่อถามว่า หากผลการสอบสวนออกมาแล้วระบุว่าไม่ผิด จะกลับมาทำงานในรัฐบาลอีกหรือไม่
นายวิฑูรย์ กล่าวว่ารอผลการสอบสวนก่อน ต้องขอดูอีกที อาจจะเล่น ถ้าผลตรวจสอบออกมาเป็นทางบวก
เมื่อถามว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ยืนยันกับรัฐสภาว่าไม่ผิด ไม่ทุจริตไม่ลาออก ทำไมวันนี้
ตัดสินใจแบบนี้ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า การตัดสินใจแบบนี้เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกว่ามีตำแหน่งทางการเมือง
ไปกดดันการสอบสวนขององค์กรต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรม ทุกฝ่ายจะได้ดำเนินการสอบสวนไป
อย่างสบายใจ
เมื่อถามว่าได้แจ้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รอง
นายกฯ แล้วหรือไม่ และมีผลเช่นใด นายวิฑูรย์ กล่าวว่าได้แจ้งให้นายกฯ ทราบแล้ว เมื่อถามว่านายกฯ
และนายสุเทพ ว่าอย่างไรบ้าง นายวิฑูรย์ กำลังจะตอบคำถามนี้ แต่ในจังหวะนั้น นายสาทิตย์ ได้สะกิดนาย
วิฑูรย์ ให้ขึ้นรถ และไม่ต้องตอบคำถามนี้ ก่อนที่จะขึ้นรถและเดินทางออกไปจากทำเนียบรัฐบาลทันที
**"มาร์ค"ชมวิฑูรย์ทำเพื่อส่วนรวม
หลังการลาออกของนายวิทูรย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ที่จะ
มาดำรงตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมฯ แทนนายวิฑูรย์ ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะพิจารณาในช่วงบ่าย โดย
จะหารือกับกรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยส.ส.เพื่อให้งานเดินได้
" อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เรียบร้อย" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับการลาออกของนายวิฑูรย์ เป็นการกดดันจากตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายวิฑูรย์ได้มาหารือกับตน สิ่งที่ท่านได้ยึดถือคือ ประโยชน์ของการทำงานรัฐบาล
ต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด ฉะนั้นการตัดสินใจของนายวิฑูรย์ เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลเป็นไปด้วยความราบ
รื่น
"ขอย้ำว่า อยากให้เลิกค่านิยมที่ว่า ออกไม่ออก เป็นเรื่องถูกหรือผิด ผิดหรือไม่ เป็นเรื่ององค์กรที่
เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ตรวจสอบ ซึ่งคุณวิฑูรย์ ได้ยื่นให้มีการตรวจสอบทั้งส่วนของกรรมาธิการ และสำนัก
งานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และองค์กรตรวจสอบอื่นๆ ฉะนั้นผมขอขอบคุณ
ที่คุณวิฑูรย์ แสดงออกถึงจิตวิญญาณสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในอนาคตต่อไป"
เมื่อถามว่า ผลออกมาอย่างไรนายวิฑูรย์ มีสิทธิ์กลับเข้ามารับตำแหน่งอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์
กล่าวว่า แน่นอน เราจะให้โอกาสนายวิฑูรย์ ดูตามความเหมาะสมต่อไป
**"บุญจง"ไม่ทำความเสียหายต่อปชช.
ส่วนกรณีของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.คมนาคมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายบุญจงได้มา
ชี้แจงกับตนเช่นเดียวกัน และรวบรวมข้อมูลต่างๆ ซึ่งระหว่าง 2 กรณีนี้มีความแตกต่างกัน
" กรณีของนายวิฑูรย์ ตามที่ตรวจสอบไป มีเรื่องการใช้เงินของราชการ ทำให้เกิดความเสียหาย
แก่ประชาชน ซึ่งเป็นประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ปรากฏว่าการตรวจสอบต่างๆ มีค่อนข้างมาก แต่
ในส่วนของนายบุญจง ตามที่ได้ตรวจสอบ ยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับทางประชาชน มีประเด็นเดียวที่
เป็นคำถามขึ้นมาว่า เป็นการสร้างความเข้าใจผิดว่าเงินต่างๆ ของราชการที่บริจาคออกไป เป็นเงินของนาย
บุญจง แต่เมื่อดูจากข้อมูลไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะเงินที่จ่ายมีการติดตามเรียกร้องทวงถามมานาน ตั้งแต่
ก่อนรัฐบาลนี้เข้ามา และช่วงที่นำเงินตรงนี้ไป มีการดำเนินการที่ไม่ใช่รัฐมนตรีเพียงท่านเดียว เป็นเรื่อง
ของข้าราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เรื่องทั้งหมดมีการร้องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) และ
ป.ป.ช.แล้ว คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องซับซ้อน เพราะมีภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด สามารถตรวจสอบได้
ฉะนั้นขอให้เป็นดุลพินิจของ กกต. และป.ป.ช." นายอภิสิทธิ์กล่าว
**รับครม.ปรับแค่ตำแหน่งเดียว
เมื่อถามว่า การปรับครม.ครั้งนี้ จะมีเพียงตำแหน่งเดียว คือนายวิฑูรย์ ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์
กล่าวยอมรับว่า ใช่ เมื่อผู้สื่อข่าวย้อนถามอีกว่า การที่นายบุญจง แนบนามบัตรไปด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
นายบุญจงไม่ได้แนบนามบัตร มีเพียงการแจกนามบัตร ไม่ได้เย็บติดกับเงิน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน คง
ตรวจสอบกันได้ ถ้าผิดก็ดำเนินการต่อไป คงไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า สาเหตุที่ไม่ปรับนายบุญจง ออกเพราะไม่กล้าแตะคนของนายเนวิน ชิดชอบ ใช่หรือ
ไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ตนตัดสินใจด้วยตนเอง กรณีนายบุญจง ประเด็นมีเพียงเท่านี้ รองนายกฯ
ที่กำกับดูแล(หมายถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เตือนว่า ต่อไปการทำกิจกรรมต่างๆ ต่อมวลชนอย่าให้เกิด
ความสงสัยอะไรขึ้นมา เมื่อถามว่า จะให้เวลาตรวจสอบนานเท่าไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของ
องค์กรอิสระ ตนไปเกี่ยวข้องไม่ได้ คิดว่าเรื่องไม่ซับซ้อน น่าจะได้ข้อยุติเร็วๆนี้
เมื่อถามว่า หากกกต.และป.ป.ช. มีการชี้มูลมา ได้มีการทำความเข้าใจกับนายบุญจงแล้วหรือยัง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่มีปัญหานายบุญจง กับตนคงเข้าใจตรงกัน ถ้ามีการชี้มูลอะไรออกมา ควรจะเป็น
อย่างไร เมื่อถามอีกว่า แต่กรณีของนายบุญจง ได้ออกมายอมรับว่ามีการแจกนามบัตรจริง นายอภิสิทธิ์
กล่าวว่า ถูกต้องเขายอมรับว่าแจกนามบัตร แต่ที่บอกว่าเย็บติดกันไปกับเงินไม่มี
**ให้"สุเทพ"รักษาการพม.ไปก่อน
เมื่อถามถึงการแจกของช่วยเหลือต่างๆ จะทำอย่างไรไม่ให้ถูกมองว่าเป็นการหาเสียงของนักการ
เมืองนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอย้ำว่าการทำงานต่างๆ ของรัฐบาลเป็นเงินภาษีของประชาชน ไม่ใช่เงินของ
นักการเมือง ทุกคนต้องยึดแนวทางนี้ เมื่อถามว่าการตัดสินใจของนายวิฑูรย์ ทำให้รัฐบาลหรือนายกฯ
สบายใจขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องสบายใจหรือไม่สบายใจ ตนเห็นใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
รู้ว่าการตัดสินใจเช่นนี้ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายสำหรับนักการเมือง ขอบคุณนายวิฑูรย์ ที่ตัดสินใจบนพื้น
ฐานของประโยชน์ส่วนรวม โดยตำแหน่งรมว.พัฒนาสังคม จะให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้รักษา
ราชการแทนไปก่อน
เมื่อถามว่ากรณีนี้จะเป็นบทเรียนให้กับคนอื่นๆ ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ย้ำอีกครั้งว่า
ในส่วนของนายวิฑูรย์ ไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง แต่การทำงานทั้งหมดต้องคำนึงถึงตรงนี้ เพราะการทำงาน
ของรัฐบาลอยู่ที่การใว้เนื้อเชื่อใจของประชาชน เมื่อมีเครื่องหมายคำถาม ก็จะทำให้ทำงานยาก ทุกคนต้อง
ช่วยกันไม่ให้เกิดปัญหา
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะเข้าไปตรวจสอบเรื่องถุงยังชีพ ของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ หรือไม่ นาย
อภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายวิฑูรย์ได้สั่งการหลังจากเกิดเรื่อง ทั้งการจัดซื้อจัดจ้างถุงยังชีพ การบริจาคให้มีความ
รัดกุมมากขึ้น ส่วนเรืองปลากระป๋อง ไม่ได้ยุติอยู่เพียงแค่นี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบพบว่า ยัง
มีการนำของที่ไม่มีคุณภาพไปผลิต หรือเข้าสู่กระบวนการผลิต
**รมว.พม.คนใหม่ต้องสะสาง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย อ้างว่า นายวิฑูรย์ ลาออกไม่ใช่เรื่องสปิริต แต่เป็นเพราะจำนนต่อหลักฐาน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตั้งกระทู้สดถามไป ก็มีการชี้แจงไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น แต่การตัดสิน
ใจของนายวิฑูรย์ ได้อธิบายไปหมดแล้ว เมื่อถามว่าปัญหาภายในกระทรวงพัฒนาสังคม จะขุดรากถอนโคน
จะมีการจัดการอย่างไร เพราะมีมาทุกรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นภาระหนักของ รมว. คนใหม่
ต้องเร่งเข้าไปสะสางเรื่องนี้ ตั้งใจว่าเมื่อได้รัฐมนตรีคนใหม่ จะพูดคุยเรื่องนี้เป็นพิเศษ ไม่มีใครเป็นคนของ
ใคร พรรคประชาธิปัตย์จะสรรหาในส่วนของเรา
**"อิสระ"ส้มหล่นนั่งรมว.พม.
ต่อมาเวลา 14.00 น.ได้มีการประชุมร่วมระหว่างส.ส. และคณะกรรมการบริหารพรรคประชา
ธิปัตย์ โดยมีวาระสำคัญคือ กรณีนายวิทูรย์ ลาออกจากตำแหน่งรมว.พัฒนาสังคมฯ ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้ง
ว่านายวิทูรย์ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงเหตุผลการลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่า ที่ตัดสินใจลาออกเพื่อให้
นายกฯ จะได้ทำงานสบายขึ้น ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เสนอชื่อนายอิสสระ
สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี เป็นรมว.พัฒนาสังคมฯ แทนนายวิทูรย์ โดยไม่มีสมาชิกคนใดแย้งหรือเสนอชื่อ
บุคคลอื่นเข้าชิง และมีมติเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว
นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวเตือนรัฐมนตรีของพรรคว่า ให้ทำงานอย่างระมัดระวัง โดยนำ
เรื่องของนายวิทูรย์มาเป็นบทเรียนหากใครทำงานมีปัญหา ก็มีมาตรการ 9 ข้อบังคับอยู่แล้ว
นอกจากนี้ในส่วนของตำแหน่งที่ปรึกษาฯ และเลขานุการรมว.พัฒนาสังคมฯ ก็จะมีการสรรหา
ใหม่ เพื่อให้รัฐมนตรีทำงานได้สะดวก และไม่เป็นที่ครหา และเหตุผลที่นายอิสสระได้เป็นรัฐมนตรี เพราะ
พรรคจำเป็นต้องมีรัฐมนตรีที่มาจากตัวแทนภาคอีสาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานทางการเมืองใน
ภาคอีสาน โดยเฉพาะการช่วงชิงฐานเสียงจากพรรคคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ จะนำรายชื่อนายอิสสระ ขึ้นทูลเกล้าในคืนวันนี้ (3 ) ด้วย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในที่ประชุมยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการวอร์รูม ที่เคยมีการตั้งใน
ช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน โดยมีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน เป็นประธานร่วมกับ ส.ส.7-8
คน โดยจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์รายวัน และดูประเด็น ถ้ามีเรื่องจำเป็นต้องตอบโต้ทางการเมือง ก็จะ
ตอบโต้ในลักษณะที่สร้างสรรค์ทันที รวมทั้งจะทำความเข้าใจในสิ่งที่คลาดเคลื่อน ในส่งที่ฝ่ายตรงข้ามพูด
จาไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หยิบยกกรณีของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ซึ่งนาย
อภิสิทธิ์บอกว่า ไม่สิทธิ์ที่จะไปปรับออกได้ ต้องให้เกียรติพรรคร่วม แต่เป็นหน้าที่ของนายบุญจง ที่ต้องชี้
แจงต่อสังคมให้ได้ ส่วนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม และนายชินวรณ์ บุญเกียรติ ประธาน
คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)ว่า ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 174 ว่าด้วย
คุณสมบัติลักษณะต้องห้าม และมาตรา 168 วรรค 6 ที่ห้ามให้ ส.ส.กระทำการใดที่มีส่วนโยตรงหรือทาง
อ้อมในการใช้งบประมาณ อีกทั้งยังยกตัวอย่างเมื่อปี 2548 ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มี
รัฐมนตรี เคยเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี และศาลรัฐธรรมนูญ เคยวินิจฉัยว่าไม่มีความผิด
นอกจากนี้นายสุเทพ ยังได้กล่าวถึงกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะดำเนินคดีอาญา
ในเรื่องการช่วย นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชาย หาเสียงในการลงสมัคร อบจ.สุราษฎร์ธานีว่า จะสามารถ
ชี้แจงได้ พร้อมทั้งย้ำว่าตนไม่มีความผิด
** ชื่อรมว.พม.ถึงมือเลขาฯครม.แล้ว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการสรรหาบุคคลที่จะมาแทนนายวิฑูรย์ ว่า ที่ประชุมพรรคได้ลงมติแล้ว
และดำเนินการต่อไป ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และจะมีการดำเนินการ คงจะ
เสร็จภายใน 1-2 วันนี้ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการทูลเกล้าฯ ต่อไป
เมื่อถามว่า หลังการแต่งตั้งจะมีการมอบหมายอะไรเป็นพิเศษกับ รมต.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์
กล่าวว่า จริงๆแล้วมีนโยบายสำคัญในกระทรวงซึ่งต้องดำเนินการต่อไป เข้าใตจว่าแง่การทำงานใน
กระทรวงเวลามีการเปลี่ยนแปลงจะต้องรีบเข้าไปเพื่อดูแลให้ทุกอย่างเรียบร้อยเพื่อให้งานเดินหน้าได้
ส่วนปัญหาที่คั่งค้างอยู่ก็ต้องเร่งสะสาง ตนไม่ได้หนักใจอะไร คิดว่าทุกอย่างเดินได้
**"อิสระสานงานต่อ-สางถุงยังชีพ
ด้านนายอิสสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี กล่าวภายหลังได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง
แทนนายวิฑูรย์ ว่าดีใจที่พรรคมอบหมายให้ตนทำภารกิจที่สำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยว หัวต่อ โดยใน
ที่ประชุมมีการเสนอชื่อตนเพียงคนเดียว ไม่มีการเสนอชื่อคนอื่น และมีมติเป็นเอกฉันท์
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ เพราะกระทรวงพม. เป็นกระทรวงถูกจับตามากที่สุด นายอิส
สระ กล่าวว่า ต้องรอโปรดเกล้าฯ ก่อน ส่วนขั้นตอนในการทำงานต่อไป ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่ยืนยันว่า
จะเดินหน้าสานต่อโครงการของรัฐ เช่น โครงการแจกเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ ส่วนปัญหาเรื่องถุงยังชีพนั้น
คงต้องเข้าไปดูก่อนว่า มีถุงยังชีพที่ยังไม่ได้แจก และแจกไปแล้ว มีปัญหาอย่างไร
**ตั้งอนุฯสอบ"บุญจง"ให้เวลา30วัน
วานนี้ (3 ก.พ.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. เปิดเผยว่า กกต. มีมติมอบให้อนุกรรรม
การวินิจฉัยเรื่องคัดค้าน และปัญหาหรือข้อโต้แย้ง คณะที่ 14 ที่มี พล.อ.ยอดชาย เทพยสุวรรณ เป็นประธาน
สอบสวน กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นคำ
ร้องขอให้ตรวจสอบการสิ้นสมาชิกภาพของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 106 (6) ประกอบ มาตรา 266 เนื่องจากแจกเบี้ยยังชีพของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ แนบนามบัตร
โดยให้แล้วเสร็จภายใน30วัน
**"ชุมพล"ยันชทพ.ไม่ปรับครม.
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการลาออกของนายวิฑูรย์ ว่าจะไม่
กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะเสถียรภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับคะแนนเสียง เพราะแม้ว่าจะมีเสียง 300
หรือ 400 เสียง แต่ไม่ได้แก้ปัญหาเพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชน ประชาชนก็คงรับไม่ได้ ส่วน
เรื่องปลากระป๋องเน่า ก็ต้องปล่อยให้ผ่านกระบวนการตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม การหาบุคคลที่จะ
มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แทนนายวิฑูรย์ เป็นเรื่องที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ จะไปพิจารณา
เมื่อถามพรรคชาติไทยพัฒนาจะปรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคด้วยหรือไม่ นายชุมพล กล่าว
ว่าพรรคเราไม่มีปัญหาและพอใจกับโควต้ารัฐมนตรี และจะไม่ขอโควต้าเพิ่ม หรือเปลี่ยนตัวบุคคล
**เตรียมฟ้องอาญาวิฑูรย์-วัลลภ
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ในวันที่ 11 ก.พ.ทางมูลนิธิฯจะไป
ฟ้องร้องต่อศาลอาญา เพื่อให้เอาผิดและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ
และนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ รวมไปผู้ผลิตปลากระป๋องยี่ห้อชาวดอย เป็น
จำนวนเงิน 1 ล้านบาท ตามความผิด พ.ร.บ.วิธีพิจาณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 หลังจากที่เกิดเหตุการณ์แจก
ปลากระป๋องไม่ได้คุณภาพให้กับประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นการทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย
**ส.ว.ขอตรวจสอบปลากระป๋องเน่า
นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร เลขานุการคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ
วุฒิสภา กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งของนายวิฑูรย์ว่า ถือเป็นการแสดงสปิริต และสร้างบรรทัดฐานที่
ให้แก่ฝ่ายบริหาร ซึ่งสอดคล้องการ แนวทาง 9 ข้อ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รวมถึง
มาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้วางไว้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ต้องดำเนินการต่อไป ไม่เกี่ยวกับการลาออกของนายวิฑูร ซึ่งทางคณะ
กรรมาธิการฯ จะดำเนินการตรวจสอบหาพยานหลักฐานโดยจะทำหนังสือแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อ
คณะกรรมาธิการฯต่อไป
**บี้"วัลลภ"ร่วมรับผิดชอบด้วย
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวถึงกรณีที่ นายอิสระ สมชัย ส.ส.
อุบลราชธานี จะมาดำรงตำแหน่งรมว.พัฒนาสังคมฯ แทนนายวิฑูรย์ ว่า กระทรวงพัฒนาสังคมฯเปลี่ยน
รัฐมนตรีบ่อยมาก ซึ่งนายอิสระ เป็นประธานที่ปรึกษา รมว.พัฒนาสังคม และเป็น ส.ส.อยู่ในกลุ่มเดียวกับ
นายวิฑูรย์
ทั้งนี้ องค์กรสตรี ไม่เห็นด้วยหากจะเอา ส.ส.กลุ่มเดียวกับนายวิฑูรย์ เข้ามาเป็นรมว.พม. เพราะ
จะยิ่งไปซ้ำรอยปัญหาเดิม ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข และหากเกิดปัญหาก็ต้องปรับออกอีก คนมีคุณสมบัติ
ไม่ถึงเป็นรัฐมนตรี ภาพพจน์ไม่ดี กระทรวงพม. ก็ถูกถ่วงเวลาให้ทำงานไม่ได้ ขณะที่ปัญหาสังคมมีมากมาย
อยากให้นายกฯ ตั้งคนที่เข้าใจปัญหาสังคม เข้าใจเรื่องเด็ก สตรี คนพิการ คนชรา จริงๆ
"ขอเรียกร้องให้นายกฯ เลิกระบบโควต้าได้แล้ว เพราะเป็นข้อจำกัดที่ทำให้คนไม่ดีเข้ามา และ
พรรคประชาธิปัตย์ กำลังกระทำเหมือนกับที่เคยไปว่ารัฐบาลเก่าไว้ การปรับครม.ครั้งนี้ ขอให้นายกฯ เอา
คนมีวิสัยทัศน์ มีความสามารถ ไร้ข้อครหา นายกฯไม่น่าหมดปัญญา จนหาคนดี คนเก่งมาเป็น รมว.พม.ไม่
ได้ เพราะคนในพรรคที่เหมาะสม มีหลายคน เช่น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ดีกว่า
คนที่มีชื่อในโผปรับครม.ที่เป็นข่าว" ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิงกล่าว
**จี้"วัลลภ"ต้องร่วมรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายวิฑูรย์ ลาออกแล้ว นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ
ในฐานะข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ควรแสดงความรับผิดชอบเช่นเดียวกับนายวิฑูรย์ ด้วย
หรือไม่ นายจะเด็จ กล่าวว่า นายวิฑูรย์ ควรนำข้อมูลปัญหาปลากระป๋องเน่ามาเปิดเผยว่า มีข้าราชการ
ระดับสูงคนใดบ้างที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดปัญหา ซึ่งนายวัลลภ ถือเป็นผู้นำของฝ่ายข้าราชการประจำ ต้อง
แสดงความรับผิดชอบ ไม่เฉพาะข้าราชการการเมืองเท่านั้นที่รับผิดชอบเรื่องนี้ โดย รมว.พม. คนใหม่ต้อง
เป็นคนมีวิสัยทัศน์ ไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ที่สำคัญต้องเข้ามาจัดการรื้อระบบเรื่องการแจกของช่วย
เหลือประชาชน สาวปัญหาเรื่องนี้ให้ชัดเจนให้ได้ มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาซ้ำซากอีก
**วิฑูรย์ยันไม่เจ็บปวด เป็นธรรมดา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตรมว.พัฒนาสังคมฯ ได้เดินลง
มาจากห้องภายในตึกสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลาย พร้อมทั้งให้
สัมภาษณ์ว่า ไว้สักพักจะให้สัมภาษณ์ ถึงรายละเอียด ตอนนี้จะเดินทางไปประชุมที่พรรคประชาธิปัตย์
ตามปกติ และทุกเรื่องก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบต่อไป
เมื่อถามว่าทำไมถึงไม่รอผลการตรวจสอบที่แน่ชัดก่อนจะประกาศลาออก นายวิฑูรย์ กล่าวว่า
ที่ทำไปเพราะอยากให้สังคมเกิดความสบายใจ เป็นการแสดงสปิริตทางการเมือง ถึงจะไม่มีความผิด ไม่มี
การทุจริต ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ก็ตาม แต่ทุกอย่างก็พร้อมที่จะให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ
เมื่อถามว่ารู้สึกเจ็บปวดในการตัดสินใจครั้งนี้หรือไม่นั้น นายวิฑูรย์ ยิ้มและบอกว่าไม่เจ็บปวด
เพราะเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง
**ที่ปรึกษา “วิฑูรย์ เผยปชช.โทร.ให้กำลังใจเพียบ
นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ที่ปรึกษา รมว.พม. กล่าวว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบ
ในเรื่องของปลากระป๋องเน่า ทั้ง 7 ชุดนั้น ก็ยืนยันว่าจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป สำหรับคณะกรรมการ 2
ชุด ของกระทรวงฯ เอง ตอนนี้ได้แต่งตั้งแล้ว แต่นายวิฑูรย์ ยังไม่ได้ลงนามเนื่องจากในรายชื่อดังกล่าว
ต้องการให้มีคนนอกร่วมดำเนินการด้วย
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่ นายเอกชัย กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริง
แล้ว หากท่านรู้ว่าถุงยังชีพที่นำไปแจกประชาชนมีของที่ไม่มีคุณภาพปนอยู่ ก็คงสั่งระงับ ซึ่งนายวิฑูรย์ ก็
ไม่มีเจตนา ซึ่งเราก็ยังยืนยันในความบริสุทธิ์
เมื่อถามว่านายวิฑูรย์เป็นแพะหรือไม่ ที่ปรึกษา รมว.พม. อึ้งไปสักพักก่อนตอบว่า ไม่ทราบ
**เย้ยไม่ใช่สปิริตแต่จำนนด้วยหลักฐาน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายวิฑูรย์ ลาออกจากตำแหน่งรม
ว.พัฒนาสังคมฯ ไม่ได้เป็นการแสดงสปริต แต่เกิดจากการจำนนต่อหลักฐาน ที่พรรคเพื่อไทยได้ติดตาม
ตรวจสอบ และการกระทำของนายวิฑูรย์ ต้องการตัดนิ้วเพื่อรักษาชีวิตพรรคประชาธิปัตย์ไว้ เนื่องจากกลัว
โยงถึงนักการเมืองที่เป็นเจ้าแม่กระทรวง มีชื่อย่อ "บ." และนักการเมืองที่เป็นใหญ่ในรัฐบาล ที่เป็นเจ้าของ
โรงงานปลากระป๋อง ชื่อย่อ "จ." และที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายวิฑูรย์ ลาออก
เพราะกลัวกลิ่นปลากระป๋องเน่าติดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯหรือไม่ เพราะเจ้าแม่"บ." มีความ
ใกล้ชิดกับนายสุเทพ
ทั้งนี้ แม้นายวิฑูรย์ ลาออก แต่จากที่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับนายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.
นนทบุรี พรรคเพื่อไทย อดีต รมว.พัฒนาสังคมฯ ทำให้มีข้อมูลเชื่อมโยงที่เอาผิดกับ นายวิฑูรย์ เจ้าแม่"บ."
และ คนชื่อ" อ." ที่มีร้านขายของชำอยู่ที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ดังนั้นจะเดินหน้าฟ้องเอาผิดกับบุคคล
เหล่านี้ต่อไป
เหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่จ.พัทลุง ปรากฏว่าในถุงยังชีพมีปลากระป๋องเน่ารวมอยู่ด้วย และกรณีนายบุญจง
วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แจกเงินช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นงบประมาณของกระทรวงพัฒนา
สังคมฯ และแนบนามบัตรของตัวเองไปด้วย ได้ก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และกลายเป็นปัญหา
ที่สร้างความกดดันไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
กระทั่งเมื่อเช้าวานนี้ (3 ก.พ.) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นายอภิสิทธิ์ ได้เรียกนาย
วิฑูรย์ เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
หลังการเข้าพบนายกรัฐมนตรี นายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถาม 2 เรื่อง คือความ
คืบหน้าของคณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่ตนเป็นประธานอยู่ และถาม
เรื่องถุงยังชีพ ที่มีปลากระป๋อง โดยนายกฯให้ตนนำหลักฐาน ข้อมูลไปให้ดูหลังการประชุมครม.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองหรือไม่ นายวิฑูรย์ ตอบว่า
"ผมได้ตัดสินใจไว้แล้ว แต่ขออนุญาตบอกกับนายกฯ ก่อนว่าจะตัดสินใจอย่างไร"
**"วิฑูรย์"แถลงข่าวลาออก
ต่อมา เวลา 12.50 น. นายวิฑูรย์ ได้เปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีการแจกถุงยังชีพที่มี
ปัญหาเรื่องปลากระป๋องเน่า โดยเริ่มต้นว่า ทุกอย่างต้องขอกราบเรียนว่าได้ตัดสินใจด้วยตนเอง เพื่อ
ประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ตนรัก และเป็นพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวที่ตนอยู่มาตลอด และ
เพื่อประโยชน์ของนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินหน้าบริหารบ้านเมืองต่อไป ซึ่งการทำงานในขณะนี้กำลังเดิน
หน้าไปได้ด้วยดี ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง และเพื่อประโยชน์ของประชาชน
"ผมยืนยันในข้อเท็จจริงว่า เรื่องถุงยังชีพที่จ.พัทลุง ไม่มีเรื่องของการโกง และผมขอยืนยันใน
เรื่องของการตรวจสอบ ผมพร้อมที่จะให้ตรวจสอบ ให้ความร่วมมือ และจะไปให้ปากคำ ให้ข้อมูล และข้อ
เท็จจริงทุกอย่างในกระบวนการตรวจสอบ ผมเรียนไปยังพี่น้องชาวอุบลราชธานี ที่ผมเป็นผู้แทนมาตลอด
ระยะเวลา 24 ปี ผมเป็น สจ.มาสองสมัย เป็น ส.ส. 7 สมัย และเป็นผู้แทนที่ไม่เคยสอบตก อยู่พรรคการเมือง
พรรคเดียวมาตลอด ผมต้องการให้พี่น้องชาวจังหวัดอุบลฯ ที่เลือกผมมาตั้ง 9 ครั้ง ได้มีความรู้สึกภาคภูมิ
ใจว่า นักการเมืองลูกอีสาน เลือดอุบลฯ คนนี้ ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง มีมาตรฐานทางจริยธรรม ทางการเมือง
ซึ่งจะต้องอยู่เหนือกฎหมาย การลาออกของผมครั้งนี้ ก็ต้องบอกครับว่า ยอมรับว่า เจ็บปวด เพราะการ
ดำเนินการต่างๆนั้น ผมเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง การแจกถุงยังชีพ ที่ จ.พัทลุง ผมไม่รู้ว่า มีของไม่ดี อยู่ใน
ถุงยังชีพนั้น ผมเห็นใจประชาชนซึ่งได้รับความเดือดร้อน ผมก็เป็นนักการเมืองคนหนึ่ง ไม่ไปซ้ำเติม
ประชาชนเด็ดขาด เพียงแต่ผมเองไม่รู้ว่าของข้างในมันไม่ดี และก็ต้องเรียนไปยังพี่น้องประชาชนทั่วไป
ด้วยว่า สิ่งที่เอาไปนั้น มันไม่ใช่ไม่ดีทั้งหมด อะไรที่ดี ชาวบ้านก็เอาไปใช้ อะไรไม่ดี พวกผมพอรู้ว่ามีปัญหา
ก็รีบให้เจ้าหน้าที่เก็บคืน ส่วนที่เหลือ ก็ไม่ได้ให้มีการแจกจ่ายอีกต่อไป เป็นการแสดงออกถึงความรับผิด
ชอบ"
นายวิฑูรย์ ยืนยันว่า การลาออกครั้งนี้ไม่มีการกดดันใดๆ จากทางพรรค และจากผู้หลักผู้ใหญ่
ในพรรค แต่เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบทางการเมือง ความรับผิดชอบต่อสังคม ถ้าการตรวจ
สอบจากคณะกรรมการชุดต่างๆ มีผลออกมาเป็นอย่างไร คิดว่าทางพรรค และพี่น้องประชาชน คงให้ความ
เป็นธรรมกับตนในอนาคต
" ดังนั้นผมจึงขอลาออก จากการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนานาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป" นายวิฑูรย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ถึงเหตุผลการลาออก แต่นายวิฑูรย์ ตัดบทว่า ขออนุญาตไม่ตอบคำ
ถาม และจะชี้แจงในโอกาสต่อไป จากนั้นนายวิฑูรย์ ได้ลุกขึ้นจากห้องแถลงข่าวไปทันที
ทั้งนี้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งฝ่ายรักษาความ
ปลอดภัยของนายวิฑูรย์ ได้เดินประกบนายวิฑูรย์ มาจนถึงประตูรถของนายวิฑูรย์ ซึ่งจอดไว้ที่หน้าตึก
บัญชาการ 1 เพื่อคอยกันไม่ให้ผู้สื่อข่าว สอบถามนายวิฑูรย์
**หากไม่ผิดขอโอกาสกลับสู่การเมือง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสอบถามนายวิฑูรย์ว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ จะกระทบฐานเสียงในภาค
อีสาน และจะชี้แจงประชาชนอย่างไร นายวิฑูรย์ กล่าวว่า น่าจะมีผลดี
เมื่อถามว่า หากผลการสอบสวนออกมาแล้วระบุว่าไม่ผิด จะกลับมาทำงานในรัฐบาลอีกหรือไม่
นายวิฑูรย์ กล่าวว่ารอผลการสอบสวนก่อน ต้องขอดูอีกที อาจจะเล่น ถ้าผลตรวจสอบออกมาเป็นทางบวก
เมื่อถามว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ยืนยันกับรัฐสภาว่าไม่ผิด ไม่ทุจริตไม่ลาออก ทำไมวันนี้
ตัดสินใจแบบนี้ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า การตัดสินใจแบบนี้เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกว่ามีตำแหน่งทางการเมือง
ไปกดดันการสอบสวนขององค์กรต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรม ทุกฝ่ายจะได้ดำเนินการสอบสวนไป
อย่างสบายใจ
เมื่อถามว่าได้แจ้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รอง
นายกฯ แล้วหรือไม่ และมีผลเช่นใด นายวิฑูรย์ กล่าวว่าได้แจ้งให้นายกฯ ทราบแล้ว เมื่อถามว่านายกฯ
และนายสุเทพ ว่าอย่างไรบ้าง นายวิฑูรย์ กำลังจะตอบคำถามนี้ แต่ในจังหวะนั้น นายสาทิตย์ ได้สะกิดนาย
วิฑูรย์ ให้ขึ้นรถ และไม่ต้องตอบคำถามนี้ ก่อนที่จะขึ้นรถและเดินทางออกไปจากทำเนียบรัฐบาลทันที
**"มาร์ค"ชมวิฑูรย์ทำเพื่อส่วนรวม
หลังการลาออกของนายวิทูรย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ที่จะ
มาดำรงตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมฯ แทนนายวิฑูรย์ ทางพรรคประชาธิปัตย์ จะพิจารณาในช่วงบ่าย โดย
จะหารือกับกรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยส.ส.เพื่อให้งานเดินได้
" อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เรียบร้อย" นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับการลาออกของนายวิฑูรย์ เป็นการกดดันจากตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายวิฑูรย์ได้มาหารือกับตน สิ่งที่ท่านได้ยึดถือคือ ประโยชน์ของการทำงานรัฐบาล
ต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด ฉะนั้นการตัดสินใจของนายวิฑูรย์ เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลเป็นไปด้วยความราบ
รื่น
"ขอย้ำว่า อยากให้เลิกค่านิยมที่ว่า ออกไม่ออก เป็นเรื่องถูกหรือผิด ผิดหรือไม่ เป็นเรื่ององค์กรที่
เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ตรวจสอบ ซึ่งคุณวิฑูรย์ ได้ยื่นให้มีการตรวจสอบทั้งส่วนของกรรมาธิการ และสำนัก
งานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และองค์กรตรวจสอบอื่นๆ ฉะนั้นผมขอขอบคุณ
ที่คุณวิฑูรย์ แสดงออกถึงจิตวิญญาณสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในอนาคตต่อไป"
เมื่อถามว่า ผลออกมาอย่างไรนายวิฑูรย์ มีสิทธิ์กลับเข้ามารับตำแหน่งอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์
กล่าวว่า แน่นอน เราจะให้โอกาสนายวิฑูรย์ ดูตามความเหมาะสมต่อไป
**"บุญจง"ไม่ทำความเสียหายต่อปชช.
ส่วนกรณีของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.คมนาคมนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายบุญจงได้มา
ชี้แจงกับตนเช่นเดียวกัน และรวบรวมข้อมูลต่างๆ ซึ่งระหว่าง 2 กรณีนี้มีความแตกต่างกัน
" กรณีของนายวิฑูรย์ ตามที่ตรวจสอบไป มีเรื่องการใช้เงินของราชการ ทำให้เกิดความเสียหาย
แก่ประชาชน ซึ่งเป็นประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ปรากฏว่าการตรวจสอบต่างๆ มีค่อนข้างมาก แต่
ในส่วนของนายบุญจง ตามที่ได้ตรวจสอบ ยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับทางประชาชน มีประเด็นเดียวที่
เป็นคำถามขึ้นมาว่า เป็นการสร้างความเข้าใจผิดว่าเงินต่างๆ ของราชการที่บริจาคออกไป เป็นเงินของนาย
บุญจง แต่เมื่อดูจากข้อมูลไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะเงินที่จ่ายมีการติดตามเรียกร้องทวงถามมานาน ตั้งแต่
ก่อนรัฐบาลนี้เข้ามา และช่วงที่นำเงินตรงนี้ไป มีการดำเนินการที่ไม่ใช่รัฐมนตรีเพียงท่านเดียว เป็นเรื่อง
ของข้าราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เรื่องทั้งหมดมีการร้องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) และ
ป.ป.ช.แล้ว คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องซับซ้อน เพราะมีภาพถ่ายบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด สามารถตรวจสอบได้
ฉะนั้นขอให้เป็นดุลพินิจของ กกต. และป.ป.ช." นายอภิสิทธิ์กล่าว
**รับครม.ปรับแค่ตำแหน่งเดียว
เมื่อถามว่า การปรับครม.ครั้งนี้ จะมีเพียงตำแหน่งเดียว คือนายวิฑูรย์ ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์
กล่าวยอมรับว่า ใช่ เมื่อผู้สื่อข่าวย้อนถามอีกว่า การที่นายบุญจง แนบนามบัตรไปด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
นายบุญจงไม่ได้แนบนามบัตร มีเพียงการแจกนามบัตร ไม่ได้เย็บติดกับเงิน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน คง
ตรวจสอบกันได้ ถ้าผิดก็ดำเนินการต่อไป คงไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า สาเหตุที่ไม่ปรับนายบุญจง ออกเพราะไม่กล้าแตะคนของนายเนวิน ชิดชอบ ใช่หรือ
ไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ตนตัดสินใจด้วยตนเอง กรณีนายบุญจง ประเด็นมีเพียงเท่านี้ รองนายกฯ
ที่กำกับดูแล(หมายถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ) เตือนว่า ต่อไปการทำกิจกรรมต่างๆ ต่อมวลชนอย่าให้เกิด
ความสงสัยอะไรขึ้นมา เมื่อถามว่า จะให้เวลาตรวจสอบนานเท่าไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของ
องค์กรอิสระ ตนไปเกี่ยวข้องไม่ได้ คิดว่าเรื่องไม่ซับซ้อน น่าจะได้ข้อยุติเร็วๆนี้
เมื่อถามว่า หากกกต.และป.ป.ช. มีการชี้มูลมา ได้มีการทำความเข้าใจกับนายบุญจงแล้วหรือยัง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าไม่มีปัญหานายบุญจง กับตนคงเข้าใจตรงกัน ถ้ามีการชี้มูลอะไรออกมา ควรจะเป็น
อย่างไร เมื่อถามอีกว่า แต่กรณีของนายบุญจง ได้ออกมายอมรับว่ามีการแจกนามบัตรจริง นายอภิสิทธิ์
กล่าวว่า ถูกต้องเขายอมรับว่าแจกนามบัตร แต่ที่บอกว่าเย็บติดกันไปกับเงินไม่มี
**ให้"สุเทพ"รักษาการพม.ไปก่อน
เมื่อถามถึงการแจกของช่วยเหลือต่างๆ จะทำอย่างไรไม่ให้ถูกมองว่าเป็นการหาเสียงของนักการ
เมืองนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอย้ำว่าการทำงานต่างๆ ของรัฐบาลเป็นเงินภาษีของประชาชน ไม่ใช่เงินของ
นักการเมือง ทุกคนต้องยึดแนวทางนี้ เมื่อถามว่าการตัดสินใจของนายวิฑูรย์ ทำให้รัฐบาลหรือนายกฯ
สบายใจขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องสบายใจหรือไม่สบายใจ ตนเห็นใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
รู้ว่าการตัดสินใจเช่นนี้ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายสำหรับนักการเมือง ขอบคุณนายวิฑูรย์ ที่ตัดสินใจบนพื้น
ฐานของประโยชน์ส่วนรวม โดยตำแหน่งรมว.พัฒนาสังคม จะให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้รักษา
ราชการแทนไปก่อน
เมื่อถามว่ากรณีนี้จะเป็นบทเรียนให้กับคนอื่นๆ ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ย้ำอีกครั้งว่า
ในส่วนของนายวิฑูรย์ ไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง แต่การทำงานทั้งหมดต้องคำนึงถึงตรงนี้ เพราะการทำงาน
ของรัฐบาลอยู่ที่การใว้เนื้อเชื่อใจของประชาชน เมื่อมีเครื่องหมายคำถาม ก็จะทำให้ทำงานยาก ทุกคนต้อง
ช่วยกันไม่ให้เกิดปัญหา
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะเข้าไปตรวจสอบเรื่องถุงยังชีพ ของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ หรือไม่ นาย
อภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายวิฑูรย์ได้สั่งการหลังจากเกิดเรื่อง ทั้งการจัดซื้อจัดจ้างถุงยังชีพ การบริจาคให้มีความ
รัดกุมมากขึ้น ส่วนเรืองปลากระป๋อง ไม่ได้ยุติอยู่เพียงแค่นี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบพบว่า ยัง
มีการนำของที่ไม่มีคุณภาพไปผลิต หรือเข้าสู่กระบวนการผลิต
**รมว.พม.คนใหม่ต้องสะสาง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย อ้างว่า นายวิฑูรย์ ลาออกไม่ใช่เรื่องสปิริต แต่เป็นเพราะจำนนต่อหลักฐาน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตั้งกระทู้สดถามไป ก็มีการชี้แจงไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น แต่การตัดสิน
ใจของนายวิฑูรย์ ได้อธิบายไปหมดแล้ว เมื่อถามว่าปัญหาภายในกระทรวงพัฒนาสังคม จะขุดรากถอนโคน
จะมีการจัดการอย่างไร เพราะมีมาทุกรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นภาระหนักของ รมว. คนใหม่
ต้องเร่งเข้าไปสะสางเรื่องนี้ ตั้งใจว่าเมื่อได้รัฐมนตรีคนใหม่ จะพูดคุยเรื่องนี้เป็นพิเศษ ไม่มีใครเป็นคนของ
ใคร พรรคประชาธิปัตย์จะสรรหาในส่วนของเรา
**"อิสระ"ส้มหล่นนั่งรมว.พม.
ต่อมาเวลา 14.00 น.ได้มีการประชุมร่วมระหว่างส.ส. และคณะกรรมการบริหารพรรคประชา
ธิปัตย์ โดยมีวาระสำคัญคือ กรณีนายวิทูรย์ ลาออกจากตำแหน่งรมว.พัฒนาสังคมฯ ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้ง
ว่านายวิทูรย์ ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงเหตุผลการลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่า ที่ตัดสินใจลาออกเพื่อให้
นายกฯ จะได้ทำงานสบายขึ้น ขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เสนอชื่อนายอิสสระ
สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี เป็นรมว.พัฒนาสังคมฯ แทนนายวิทูรย์ โดยไม่มีสมาชิกคนใดแย้งหรือเสนอชื่อ
บุคคลอื่นเข้าชิง และมีมติเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว
นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวเตือนรัฐมนตรีของพรรคว่า ให้ทำงานอย่างระมัดระวัง โดยนำ
เรื่องของนายวิทูรย์มาเป็นบทเรียนหากใครทำงานมีปัญหา ก็มีมาตรการ 9 ข้อบังคับอยู่แล้ว
นอกจากนี้ในส่วนของตำแหน่งที่ปรึกษาฯ และเลขานุการรมว.พัฒนาสังคมฯ ก็จะมีการสรรหา
ใหม่ เพื่อให้รัฐมนตรีทำงานได้สะดวก และไม่เป็นที่ครหา และเหตุผลที่นายอิสสระได้เป็นรัฐมนตรี เพราะ
พรรคจำเป็นต้องมีรัฐมนตรีที่มาจากตัวแทนภาคอีสาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานทางการเมืองใน
ภาคอีสาน โดยเฉพาะการช่วงชิงฐานเสียงจากพรรคคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ จะนำรายชื่อนายอิสสระ ขึ้นทูลเกล้าในคืนวันนี้ (3 ) ด้วย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในที่ประชุมยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการวอร์รูม ที่เคยมีการตั้งใน
ช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน โดยมีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน เป็นประธานร่วมกับ ส.ส.7-8
คน โดยจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์รายวัน และดูประเด็น ถ้ามีเรื่องจำเป็นต้องตอบโต้ทางการเมือง ก็จะ
ตอบโต้ในลักษณะที่สร้างสรรค์ทันที รวมทั้งจะทำความเข้าใจในสิ่งที่คลาดเคลื่อน ในส่งที่ฝ่ายตรงข้ามพูด
จาไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หยิบยกกรณีของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ซึ่งนาย
อภิสิทธิ์บอกว่า ไม่สิทธิ์ที่จะไปปรับออกได้ ต้องให้เกียรติพรรคร่วม แต่เป็นหน้าที่ของนายบุญจง ที่ต้องชี้
แจงต่อสังคมให้ได้ ส่วนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม และนายชินวรณ์ บุญเกียรติ ประธาน
คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)ว่า ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 174 ว่าด้วย
คุณสมบัติลักษณะต้องห้าม และมาตรา 168 วรรค 6 ที่ห้ามให้ ส.ส.กระทำการใดที่มีส่วนโยตรงหรือทาง
อ้อมในการใช้งบประมาณ อีกทั้งยังยกตัวอย่างเมื่อปี 2548 ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มี
รัฐมนตรี เคยเห็นชอบร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี และศาลรัฐธรรมนูญ เคยวินิจฉัยว่าไม่มีความผิด
นอกจากนี้นายสุเทพ ยังได้กล่าวถึงกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะดำเนินคดีอาญา
ในเรื่องการช่วย นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชาย หาเสียงในการลงสมัคร อบจ.สุราษฎร์ธานีว่า จะสามารถ
ชี้แจงได้ พร้อมทั้งย้ำว่าตนไม่มีความผิด
** ชื่อรมว.พม.ถึงมือเลขาฯครม.แล้ว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการสรรหาบุคคลที่จะมาแทนนายวิฑูรย์ ว่า ที่ประชุมพรรคได้ลงมติแล้ว
และดำเนินการต่อไป ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และจะมีการดำเนินการ คงจะ
เสร็จภายใน 1-2 วันนี้ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการทูลเกล้าฯ ต่อไป
เมื่อถามว่า หลังการแต่งตั้งจะมีการมอบหมายอะไรเป็นพิเศษกับ รมต.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์
กล่าวว่า จริงๆแล้วมีนโยบายสำคัญในกระทรวงซึ่งต้องดำเนินการต่อไป เข้าใตจว่าแง่การทำงานใน
กระทรวงเวลามีการเปลี่ยนแปลงจะต้องรีบเข้าไปเพื่อดูแลให้ทุกอย่างเรียบร้อยเพื่อให้งานเดินหน้าได้
ส่วนปัญหาที่คั่งค้างอยู่ก็ต้องเร่งสะสาง ตนไม่ได้หนักใจอะไร คิดว่าทุกอย่างเดินได้
**"อิสระสานงานต่อ-สางถุงยังชีพ
ด้านนายอิสสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี กล่าวภายหลังได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง
แทนนายวิฑูรย์ ว่าดีใจที่พรรคมอบหมายให้ตนทำภารกิจที่สำคัญ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยว หัวต่อ โดยใน
ที่ประชุมมีการเสนอชื่อตนเพียงคนเดียว ไม่มีการเสนอชื่อคนอื่น และมีมติเป็นเอกฉันท์
ผู้สื่อข่าวถามว่า หนักใจหรือไม่ เพราะกระทรวงพม. เป็นกระทรวงถูกจับตามากที่สุด นายอิส
สระ กล่าวว่า ต้องรอโปรดเกล้าฯ ก่อน ส่วนขั้นตอนในการทำงานต่อไป ยังไม่มีการพูดคุยกัน แต่ยืนยันว่า
จะเดินหน้าสานต่อโครงการของรัฐ เช่น โครงการแจกเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ ส่วนปัญหาเรื่องถุงยังชีพนั้น
คงต้องเข้าไปดูก่อนว่า มีถุงยังชีพที่ยังไม่ได้แจก และแจกไปแล้ว มีปัญหาอย่างไร
**ตั้งอนุฯสอบ"บุญจง"ให้เวลา30วัน
วานนี้ (3 ก.พ.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. เปิดเผยว่า กกต. มีมติมอบให้อนุกรรรม
การวินิจฉัยเรื่องคัดค้าน และปัญหาหรือข้อโต้แย้ง คณะที่ 14 ที่มี พล.อ.ยอดชาย เทพยสุวรรณ เป็นประธาน
สอบสวน กรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา และ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นคำ
ร้องขอให้ตรวจสอบการสิ้นสมาชิกภาพของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 106 (6) ประกอบ มาตรา 266 เนื่องจากแจกเบี้ยยังชีพของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ แนบนามบัตร
โดยให้แล้วเสร็จภายใน30วัน
**"ชุมพล"ยันชทพ.ไม่ปรับครม.
นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการลาออกของนายวิฑูรย์ ว่าจะไม่
กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะเสถียรภาพไม่ได้ขึ้นอยู่กับคะแนนเสียง เพราะแม้ว่าจะมีเสียง 300
หรือ 400 เสียง แต่ไม่ได้แก้ปัญหาเพื่อสนองตอบความต้องการของประชาชน ประชาชนก็คงรับไม่ได้ ส่วน
เรื่องปลากระป๋องเน่า ก็ต้องปล่อยให้ผ่านกระบวนการตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม การหาบุคคลที่จะ
มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แทนนายวิฑูรย์ เป็นเรื่องที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ จะไปพิจารณา
เมื่อถามพรรคชาติไทยพัฒนาจะปรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคด้วยหรือไม่ นายชุมพล กล่าว
ว่าพรรคเราไม่มีปัญหาและพอใจกับโควต้ารัฐมนตรี และจะไม่ขอโควต้าเพิ่ม หรือเปลี่ยนตัวบุคคล
**เตรียมฟ้องอาญาวิฑูรย์-วัลลภ
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ในวันที่ 11 ก.พ.ทางมูลนิธิฯจะไป
ฟ้องร้องต่อศาลอาญา เพื่อให้เอาผิดและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ
และนายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ รวมไปผู้ผลิตปลากระป๋องยี่ห้อชาวดอย เป็น
จำนวนเงิน 1 ล้านบาท ตามความผิด พ.ร.บ.วิธีพิจาณาคดีผู้บริโภค พ.ศ.2551 หลังจากที่เกิดเหตุการณ์แจก
ปลากระป๋องไม่ได้คุณภาพให้กับประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นการทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย
**ส.ว.ขอตรวจสอบปลากระป๋องเน่า
นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร เลขานุการคณะกรรมาธิการติดตามการบริหารงบประมาณ
วุฒิสภา กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งของนายวิฑูรย์ว่า ถือเป็นการแสดงสปิริต และสร้างบรรทัดฐานที่
ให้แก่ฝ่ายบริหาร ซึ่งสอดคล้องการ แนวทาง 9 ข้อ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รวมถึง
มาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้วางไว้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ต้องดำเนินการต่อไป ไม่เกี่ยวกับการลาออกของนายวิฑูร ซึ่งทางคณะ
กรรมาธิการฯ จะดำเนินการตรวจสอบหาพยานหลักฐานโดยจะทำหนังสือแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงต่อ
คณะกรรมาธิการฯต่อไป
**บี้"วัลลภ"ร่วมรับผิดชอบด้วย
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวถึงกรณีที่ นายอิสระ สมชัย ส.ส.
อุบลราชธานี จะมาดำรงตำแหน่งรมว.พัฒนาสังคมฯ แทนนายวิฑูรย์ ว่า กระทรวงพัฒนาสังคมฯเปลี่ยน
รัฐมนตรีบ่อยมาก ซึ่งนายอิสระ เป็นประธานที่ปรึกษา รมว.พัฒนาสังคม และเป็น ส.ส.อยู่ในกลุ่มเดียวกับ
นายวิฑูรย์
ทั้งนี้ องค์กรสตรี ไม่เห็นด้วยหากจะเอา ส.ส.กลุ่มเดียวกับนายวิฑูรย์ เข้ามาเป็นรมว.พม. เพราะ
จะยิ่งไปซ้ำรอยปัญหาเดิม ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข และหากเกิดปัญหาก็ต้องปรับออกอีก คนมีคุณสมบัติ
ไม่ถึงเป็นรัฐมนตรี ภาพพจน์ไม่ดี กระทรวงพม. ก็ถูกถ่วงเวลาให้ทำงานไม่ได้ ขณะที่ปัญหาสังคมมีมากมาย
อยากให้นายกฯ ตั้งคนที่เข้าใจปัญหาสังคม เข้าใจเรื่องเด็ก สตรี คนพิการ คนชรา จริงๆ
"ขอเรียกร้องให้นายกฯ เลิกระบบโควต้าได้แล้ว เพราะเป็นข้อจำกัดที่ทำให้คนไม่ดีเข้ามา และ
พรรคประชาธิปัตย์ กำลังกระทำเหมือนกับที่เคยไปว่ารัฐบาลเก่าไว้ การปรับครม.ครั้งนี้ ขอให้นายกฯ เอา
คนมีวิสัยทัศน์ มีความสามารถ ไร้ข้อครหา นายกฯไม่น่าหมดปัญญา จนหาคนดี คนเก่งมาเป็น รมว.พม.ไม่
ได้ เพราะคนในพรรคที่เหมาะสม มีหลายคน เช่น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ดีกว่า
คนที่มีชื่อในโผปรับครม.ที่เป็นข่าว" ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิงกล่าว
**จี้"วัลลภ"ต้องร่วมรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนายวิฑูรย์ ลาออกแล้ว นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ
ในฐานะข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ควรแสดงความรับผิดชอบเช่นเดียวกับนายวิฑูรย์ ด้วย
หรือไม่ นายจะเด็จ กล่าวว่า นายวิฑูรย์ ควรนำข้อมูลปัญหาปลากระป๋องเน่ามาเปิดเผยว่า มีข้าราชการ
ระดับสูงคนใดบ้างที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดปัญหา ซึ่งนายวัลลภ ถือเป็นผู้นำของฝ่ายข้าราชการประจำ ต้อง
แสดงความรับผิดชอบ ไม่เฉพาะข้าราชการการเมืองเท่านั้นที่รับผิดชอบเรื่องนี้ โดย รมว.พม. คนใหม่ต้อง
เป็นคนมีวิสัยทัศน์ ไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ที่สำคัญต้องเข้ามาจัดการรื้อระบบเรื่องการแจกของช่วย
เหลือประชาชน สาวปัญหาเรื่องนี้ให้ชัดเจนให้ได้ มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาซ้ำซากอีก
**วิฑูรย์ยันไม่เจ็บปวด เป็นธรรมดา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตรมว.พัฒนาสังคมฯ ได้เดินลง
มาจากห้องภายในตึกสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลาย พร้อมทั้งให้
สัมภาษณ์ว่า ไว้สักพักจะให้สัมภาษณ์ ถึงรายละเอียด ตอนนี้จะเดินทางไปประชุมที่พรรคประชาธิปัตย์
ตามปกติ และทุกเรื่องก็จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบต่อไป
เมื่อถามว่าทำไมถึงไม่รอผลการตรวจสอบที่แน่ชัดก่อนจะประกาศลาออก นายวิฑูรย์ กล่าวว่า
ที่ทำไปเพราะอยากให้สังคมเกิดความสบายใจ เป็นการแสดงสปิริตทางการเมือง ถึงจะไม่มีความผิด ไม่มี
การทุจริต ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ก็ตาม แต่ทุกอย่างก็พร้อมที่จะให้ทุกฝ่ายตรวจสอบ
เมื่อถามว่ารู้สึกเจ็บปวดในการตัดสินใจครั้งนี้หรือไม่นั้น นายวิฑูรย์ ยิ้มและบอกว่าไม่เจ็บปวด
เพราะเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง
**ที่ปรึกษา “วิฑูรย์ เผยปชช.โทร.ให้กำลังใจเพียบ
นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ ที่ปรึกษา รมว.พม. กล่าวว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบ
ในเรื่องของปลากระป๋องเน่า ทั้ง 7 ชุดนั้น ก็ยืนยันว่าจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป สำหรับคณะกรรมการ 2
ชุด ของกระทรวงฯ เอง ตอนนี้ได้แต่งตั้งแล้ว แต่นายวิฑูรย์ ยังไม่ได้ลงนามเนื่องจากในรายชื่อดังกล่าว
ต้องการให้มีคนนอกร่วมดำเนินการด้วย
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่ นายเอกชัย กล่าวว่า โดยข้อเท็จจริง
แล้ว หากท่านรู้ว่าถุงยังชีพที่นำไปแจกประชาชนมีของที่ไม่มีคุณภาพปนอยู่ ก็คงสั่งระงับ ซึ่งนายวิฑูรย์ ก็
ไม่มีเจตนา ซึ่งเราก็ยังยืนยันในความบริสุทธิ์
เมื่อถามว่านายวิฑูรย์เป็นแพะหรือไม่ ที่ปรึกษา รมว.พม. อึ้งไปสักพักก่อนตอบว่า ไม่ทราบ
**เย้ยไม่ใช่สปิริตแต่จำนนด้วยหลักฐาน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่นายวิฑูรย์ ลาออกจากตำแหน่งรม
ว.พัฒนาสังคมฯ ไม่ได้เป็นการแสดงสปริต แต่เกิดจากการจำนนต่อหลักฐาน ที่พรรคเพื่อไทยได้ติดตาม
ตรวจสอบ และการกระทำของนายวิฑูรย์ ต้องการตัดนิ้วเพื่อรักษาชีวิตพรรคประชาธิปัตย์ไว้ เนื่องจากกลัว
โยงถึงนักการเมืองที่เป็นเจ้าแม่กระทรวง มีชื่อย่อ "บ." และนักการเมืองที่เป็นใหญ่ในรัฐบาล ที่เป็นเจ้าของ
โรงงานปลากระป๋อง ชื่อย่อ "จ." และที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การที่นายวิฑูรย์ ลาออก
เพราะกลัวกลิ่นปลากระป๋องเน่าติดนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯหรือไม่ เพราะเจ้าแม่"บ." มีความ
ใกล้ชิดกับนายสุเทพ
ทั้งนี้ แม้นายวิฑูรย์ ลาออก แต่จากที่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับนายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.
นนทบุรี พรรคเพื่อไทย อดีต รมว.พัฒนาสังคมฯ ทำให้มีข้อมูลเชื่อมโยงที่เอาผิดกับ นายวิฑูรย์ เจ้าแม่"บ."
และ คนชื่อ" อ." ที่มีร้านขายของชำอยู่ที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ดังนั้นจะเดินหน้าฟ้องเอาผิดกับบุคคล
เหล่านี้ต่อไป
