นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. แกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้แกนนำพรรคเพื่อไทย กำลังพิจารณาการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายที่พรรคกำลังพิจารณานั้นประกอบด้วย นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีเรื่อง ความผิดปกติกรณีการแจกถุงยังชีพให้กับประชาชนในพื้นที่ จ.พัทลุง และเกิดมีปลากระป๋องเน่า นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่แจกเงินช่วยเหลือประชาชนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมแนบนามบัตรที่บ้านพักในจ.นครราชสีมา และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่เป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งขณะนี้จำนวนเสียง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย 187 คนนั้นเพียงพอที่จะยื่นขอเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ส่วนจะยื่นเมื่อใดนั้นฝ่ายกฎหมาย ของพรรคเพื่อไทยกำลังพิจารณา
นายวิชาญ กล่าวว่า หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีปรับ ครม.ทั้ง 3 คนออกจากตำแหน่งก่อน เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้จะเป็นสิ่งที่รัฐบาล สามารถทำได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ารัฐบาลนั้นไม่สามารถหนีความรับผิดชอบไปได้ และการปรับ ครม.จะทำให้กระทบเสถียรภาพภายในของรัฐบาล ทั้งคนที่จะถูกปรับออกและคนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง ที่จะต้องมีการวิ่งเต้นทุกวิถีทาง รวมทั้งจะมีการกระทบกระเทือนไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล แต่ถ้า นายอภิสิทธิ์ ไม่ปรับ ครม. แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็กำลังพิจารณาที่จะยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี พร้อมกับยื่นถอดถอนได้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลนั้นมีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบการกระทำของรัฐมนตรีทุกคน เมื่อรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แล้วนายกรัฐมนตรียังปกป้อง พรรคก็พร้อมที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางในนายกฯ พร้อมกับการยื่นถอดถอนและเสนอผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
สำหรับผู้ที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้นจะต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาฯได้แล้ว เพราะหมดความชอบธรรม ในการได้มาซึ่งอำนาจ และที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์เคยเรียกร้องให้รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลาออกหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหว โดยอ้างว่าต้องฟังเสียงของประชาชน วันนี้เสื้อแดง ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ยุบสภา นายอภิสิทธิ์ต้องฟังเสียงประชาชนโดยการยุบสภา ห้ามลาออก เพราะถ้าลาออกจากนายกฯปัญหาจะไม่จบ ไม่เกิดความปรองดองในชาติ
นอกจากนี้อีกสาเหตุหนึ่งที่นายกฯต้องยุบสภาฯ เนื่องจากบริหารงานยังไม่ถึง 1 เดือนปรากฎว่ามีรัฐมนตรีหลายคนส่อทุจริตหากินจากโครงการต่างๆ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านกำลังจับจ้องการทำงานขององค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. และ กกต. โดยเฉพาะ กกต. ในเรื่องของการดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย จากการ ร้องเรียนของนายพลพีร์ สุวรรณฉวี ซึ่งผ่านมากว่า 10 เดือนก็ยังไม่มีการดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นายมีชัย จิตต์พิพัฒน์ อดีตผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดิน ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายบุญจงในเรื่องการแจกซีดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นการแจกทรัพย์สิน ต่อ สภ.จักราช จ.นครราชสีมา แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆเกิดขึ้น
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่าในวันที่ 4 ก.พ.นี้นายมีชัย จะไปยื่นร้องร้องเรียนต่อ กกต. และต่อหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้ดำเนินการกับ กกต.หากไม่มีการจัดการใดๆ อีก ทั้งนี้ยังขอเรียกร้องให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯที่กกต. มีมติให้ดำเนินคดีอาญาโดยไว ไม่ใช่พอเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยก็รีบดำเนินการ แต่พอเป็นเรื่องของประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลก็ทิ้งค้างคาไว้
สำหรับเรื่องการปลากระป๋อง ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังดำเนินการ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการกับส.ส.หญิง ชื่อย่อ บ. ที่เป็นเจ๊ใหญ่ในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่ากระทำความผิด ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 266 ในเรื่องผลประโยชน์ขัดกันระหว่างอำนาจหน้าที่ของ ส.ส. ส่วนข้าราชการการเมืองชื่อ อ. ก็จะยื่นดำเนินคดีอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวเรียกร้องให้นายกฯดำเนินการหาข้อเท็จจริงในเรื่อง ปลากระป๋องเน่า ไม่ว่าจะเป็นตัวของนายวิเชน สมมาตร ที่นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ระบุว่าเป็นผู้บริจาค รวมถึงหลักฐานในการบริจาค หรือหากเป็นการจัดซื้อของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ก็ขอให้เอาหลักฐานการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษออกมา รวมทั้งเรื่องของป้ายกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ติดรูปนายวิฑูรย์ อันเป็นการเอางบราชการมาหาเสียง ให้ตนเอง ซึ่งที่จริงแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะยังไม่มีอำนาจสั่งการ เนื่องจากไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา หากนายกฯไม่สามารถดำเนินการได้ ก็ขอให้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น
นายวิชาญ กล่าวว่า หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีปรับ ครม.ทั้ง 3 คนออกจากตำแหน่งก่อน เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้จะเป็นสิ่งที่รัฐบาล สามารถทำได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ารัฐบาลนั้นไม่สามารถหนีความรับผิดชอบไปได้ และการปรับ ครม.จะทำให้กระทบเสถียรภาพภายในของรัฐบาล ทั้งคนที่จะถูกปรับออกและคนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง ที่จะต้องมีการวิ่งเต้นทุกวิถีทาง รวมทั้งจะมีการกระทบกระเทือนไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล แต่ถ้า นายอภิสิทธิ์ ไม่ปรับ ครม. แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็กำลังพิจารณาที่จะยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี พร้อมกับยื่นถอดถอนได้ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลนั้นมีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบการกระทำของรัฐมนตรีทุกคน เมื่อรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แล้วนายกรัฐมนตรียังปกป้อง พรรคก็พร้อมที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางในนายกฯ พร้อมกับการยื่นถอดถอนและเสนอผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
สำหรับผู้ที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้นจะต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาฯได้แล้ว เพราะหมดความชอบธรรม ในการได้มาซึ่งอำนาจ และที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์เคยเรียกร้องให้รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ลาออกหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหว โดยอ้างว่าต้องฟังเสียงของประชาชน วันนี้เสื้อแดง ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ยุบสภา นายอภิสิทธิ์ต้องฟังเสียงประชาชนโดยการยุบสภา ห้ามลาออก เพราะถ้าลาออกจากนายกฯปัญหาจะไม่จบ ไม่เกิดความปรองดองในชาติ
นอกจากนี้อีกสาเหตุหนึ่งที่นายกฯต้องยุบสภาฯ เนื่องจากบริหารงานยังไม่ถึง 1 เดือนปรากฎว่ามีรัฐมนตรีหลายคนส่อทุจริตหากินจากโครงการต่างๆ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านกำลังจับจ้องการทำงานขององค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. และ กกต. โดยเฉพาะ กกต. ในเรื่องของการดำเนินคดีอาญากับนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย จากการ ร้องเรียนของนายพลพีร์ สุวรรณฉวี ซึ่งผ่านมากว่า 10 เดือนก็ยังไม่มีการดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่นายมีชัย จิตต์พิพัฒน์ อดีตผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดิน ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายบุญจงในเรื่องการแจกซีดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือว่าเป็นการแจกทรัพย์สิน ต่อ สภ.จักราช จ.นครราชสีมา แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆเกิดขึ้น
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่าในวันที่ 4 ก.พ.นี้นายมีชัย จะไปยื่นร้องร้องเรียนต่อ กกต. และต่อหน่วยงานอื่นๆ เพื่อให้ดำเนินการกับ กกต.หากไม่มีการจัดการใดๆ อีก ทั้งนี้ยังขอเรียกร้องให้ดำเนินคดีอาญากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯที่กกต. มีมติให้ดำเนินคดีอาญาโดยไว ไม่ใช่พอเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยก็รีบดำเนินการ แต่พอเป็นเรื่องของประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลก็ทิ้งค้างคาไว้
สำหรับเรื่องการปลากระป๋อง ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังดำเนินการ รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการกับส.ส.หญิง ชื่อย่อ บ. ที่เป็นเจ๊ใหญ่ในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่ากระทำความผิด ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 266 ในเรื่องผลประโยชน์ขัดกันระหว่างอำนาจหน้าที่ของ ส.ส. ส่วนข้าราชการการเมืองชื่อ อ. ก็จะยื่นดำเนินคดีอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวเรียกร้องให้นายกฯดำเนินการหาข้อเท็จจริงในเรื่อง ปลากระป๋องเน่า ไม่ว่าจะเป็นตัวของนายวิเชน สมมาตร ที่นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ระบุว่าเป็นผู้บริจาค รวมถึงหลักฐานในการบริจาค หรือหากเป็นการจัดซื้อของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ก็ขอให้เอาหลักฐานการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษออกมา รวมทั้งเรื่องของป้ายกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ติดรูปนายวิฑูรย์ อันเป็นการเอางบราชการมาหาเสียง ให้ตนเอง ซึ่งที่จริงแล้วไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะยังไม่มีอำนาจสั่งการ เนื่องจากไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา หากนายกฯไม่สามารถดำเนินการได้ ก็ขอให้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น
