xs
xsm
sm
md
lg

“วิฑูรย์” สวน “ไอ้ตู่” คิดไปเองทุจริต “ป๋องเน่า”-ลั่นพร้อมไขก๊อกทันทีหาก ป.ป.ช.ชี้มูล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิฑูรย์ นามบุตร
“ไอ้ตู่” ตั้งกระทู้ “ปลากระป่องเน่า” จี้ “วิฑูรย์” เอาตัวคนบริจาคมายืนยัน ท้า “อภิสิทธิ์” อย่าเร่งปรับ ครม.หนี รอไว้ให้เชือดรอบไม่ไว้วางใจ ด้าน “วิทูรย์” เผย สธ.เตรียมเอาผิดโรงงานปลากระป๋องแล้ว พร้อมส่ง ป.ป.ช.-สตง.ตรวจสอบแล้ว ลั่นหากชี้มูลทุจริต พร้อมลาออกทันที จวก “ตู่” คิดไปเอง อีกไม่นานความจริงปรากฏ

วันนี้ (29 ม.ค.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กระทู้สดถามนายรัฐมนตรี เรื่องปลากระป๋องเน่าเสีย โดยมี นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ มาชี้แจงแทน โดย นายจตุพร กล่าวว่า เรื่องนี้สื่อมวลชน และคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ได้เป็นผู้ตรวจสอบ โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีการทุจรติเอาของเน่าเสียไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในปี 2552 นี้ เรื่องนี้ควรจะอภิปรายก่อนปี 2500 ที่เรียกกันว่า ถุงยังชีพ แต่ตนเรียกว่า “ถุงปลิดชีพ” หรือ “ถุงสิ้นชีพ” ที่ใครได้รับก็ต้องมีอันเป็นไป หน้าถุงมีโลโก้ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ

นายจตุพร กล่าวว่า นายกฯ เคยประกาศกฎเหล็กให้รัฐมนตรี ว่า ความรับผิดชอบเป็นเรื่องเหนือสิ่งอื่นใด แม้กฎหมายจะเอาผิดไม่ได้ แต่ ครม.ของนายอภิสิทธิ์ ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง การอภิปรายของตนครั้งนี้ ไม่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรี แต่อยากให้ นายวิฑูรย์ อยู่ในรัฐบาลนี้นานๆ เหมือนตามสำนวนไทยโบราณ “เอาปลาเน่าตัวหนึ่งไปอยู่ในข้อง”

นายจตุพร ได้นำปลากระป๋องยี่ห้อชาวดอยมาโชว์ พร้อมกับอ่านจากข่าวหนังสือพิมพ์ เพื่อลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยโจมตีว่า กระทรวงพัฒนาสังคมฯได้แจกผ้าห่มให้กับผู้ประสบภัยหนาว แต่ก็เป็นผ้าห่มบางๆ ใช้กันยุง เพราะหนาเท่ากับมุ้ง นอกจากนี้ ในถุงยังชีพนอกจากจะมีปลากระป๋องเน่าแล้ว ยังมีน้ำพริกเผายี่ห้อโอชาเน่า ข้าวสารมอดขึ้นถุงละ 4 กิโลกรัม ยาหมดอายุ และยาสีฟันยี่ห้อที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน และจากการตรวจสอบแล้ว ชื่อผู้บริจาค คือ นายวิเชน สมมาตร ไม่มี แต่มีชื่อที่ใกล้เคียง คือ นายวิเชน สงฆ์มาก เป็นผู้บริจาคปลากระป๋องถึง 5,000 ชุด แต่ นายวิฑูรย์ ให้สัมภาษณ์ว่า บริจาค 1,500 ชุด และได้แจกจ่ายลงไปที่ จ.พัทลุงแล้ว ต่อมาได้มีการแจกรอบที่สอง 3,500 ชุด พบว่า มีปลากระป่องเน่า จึงได้สั่งระงับการแจกจ่าย

นายจตุพร ถามว่า ทำไม นายวิฑูรย์ และ นายวัลลพ ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ที่ยืนยันมาตั้งแต่ต้น ว่า เป็นการจัดซื้อปลากระป๋องในราคากลาง แต่ต่อมากลับพลิกลิ้น ว่า เป็นการได้รับบริจาคแทน เพราะไปพบว่าโรงงานที่ผลิตปลากระป๋องเน่าถูกสั่งปิด และเป็นการผลิตที่ผิดกฎหมาย เข้าข่ายถูกดำเนินคดีเรื่องโรงงานปลอมแปลง มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 5 แสนบาท โทษมันจะยาวจึงเปลี่ยนแปลง บอกว่า เป็นการบริจาคแทน ถามว่า การบริจาคคนธรรมดาจะไปหาซื้อของที่ไหนจำนวนมาก และตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการเอาของมาก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินที่หลังใช่หรือไม่

นายวิฑูรย์ กล่าวชี้แจงว่า ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐานข้อเท็จจริง เรื่องนี้ตนได้แถลงข่าวถึง 2 ครั้งที่กระทรวง แต่เป็นการแถลงข่าวที่ไม่สอดคล้องกัน ก็เป็นบทเรียนว่าอย่าพูดอะไรง่ายๆ เมื่อเกิดเหตุตนได้สอบถามเจ้าหน้าที่ ว่า มีของอะไรที่จะช่วยเหลือประชาชนได้บ้าง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่า มีของที่จะไปมอบให้จำนวนหนึ่ง ก็มีการมอบถุงยังชีพที่ จ.พัทลุง 1,500 ชุด จากนั้นก็มีข่าวว่าแจกของไม่มีคุณภาพ เมื่อทราบเรื่องก็สั่งให้ปลัดระงับการแจกของ ที่ตนแถลงข่าวครั้งแรก ตนเข้าใจว่า เป็นการจัดซื้อของระเบียบทางราชการ จึงได้ชี้แจงไปอย่างนั้น

ส่วนที่ถามว่า ทำไมไม่มีข้อมูลการรับบริจาคที่ศูนย์บริจาคที่กรุงเทพฯ เพราะ นายวิเชน บอกว่าต้องการจะจัดส่งเอง จึงไม่มีข้อมูลดังกล่าว ซึ่งการบริจาคตรงนี้ได้มีหนังสือที่ศูนย์บริจาคในพื้นที่เป็นหลักฐานยืนยัน

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาฯ ได้ประสานสาธารณสุขในพื้นที่ตรวจสอบสิ่งของที่ไม่มีคุณภาพ รวมทั้งรายงานมาให้ทราบด้วย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขต้องดำเนินการไปเอาผิดกับโรงงานที่ผลิตปลากระป๋องไม่มีคุณภาพ ต้องแยกกันกับคนซื้อ ว่า เราไม่รู้ว่าในกระป๋องจะเป็นอาหารเน่า จึงเป็นเรื่องที่โรงงานต้องรับผิดชอบ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งความดำเนินคดีกับโรงงานไปแล้ว และการรับบริจาคจะเข้มงวดมากเกินไปก็ไม่ได้ ตนจึงสั่งว่าสำหรับผู้บริจาคไม่ต้องเคร่งครัดมาก

“เรื่องนี้ผมไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ จะดำเนินการให้ถึงที่สุด โดยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องปลากระป๋องไม่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ก็เกรงข้อครหาว่า จะเอาคนภายในมาตรวจสอบกันเอง จึงได้เสนอไปยังคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.และคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคของสภา ขณะนี้ทางกรรมาธิการ กับกระทรวงสาธารณะสุข ก็ได้ไปตรวจสอบโรงงานอยู่ และยังทำหนังสือไปยังสำนักงบประมาณ รวมทั้ง สตง.ให้มาตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างถุงยังชีพ รวมถึง ป.ป.ช.ด้วยเช่นกัน เพราะต้องการพิสูจน์ความจริงไม่อยากตกเป็นจำเลยของสังคม ผมไม่อยากได้ฉายารัฐมนตรีปลากระป๋องเน่า มันเจ็บปวด ไม่รู้จริงๆ ว่า มีการแจกของที่ไม่มีคุณภาพ ถ้าผมรู้จะสั่งระงับแต่เบื้องต้น ผมทำอะไรด้วยความระมัดระวัง เพราะผมต้นทุนต่ำเป็นสายล่อฟ้า ผมสู้กับพวกท่านมาตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน พวกท่านไปรุมถล่มผมที่ จ.อุบลฯ หลายครั้ง แต่ผมก็พอเอาตัวรอดได้ และรู้ว่าต้องโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ๆ แต่ก็ไม่กังวล”

ด้าน นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อปลัดกระทรวงพัฒนาสังคม บอกว่า ถุงยังชีพทั้งหมดจัดซื้อตามราคากลาง ราชการทำอย่างโปร่งใส ว่า ของทุกชิ้นได้ตรวจสอบคุณภาพ ผ่านการรับรองจากองค์กรอาหารและยา (อย.) อยากรู้ว่า ได้ดำเนินการอะไรกับปลัดกระทรวง หรือยัง เพราะสิ่งที่พูดสวนทางโดยสิ้นเชิง และ นายวิเชน ที่อุปโลกน์ขึ้นมา ทำไมไม่นำมาแสดงตัว เพราะเขาต้องถูกดำเนินคดีว่าเอาอาหารเป็นพิษไปบริจาค เพราะทำลายชื่อเสียงของกระทรวง และยังให้อาหารเป็นพิษกับประชาชน

นายวิฑูรย์ ชี้แจงว่า สิ่งที่ นายจตุพร พูดเป็นการคิดไปเองฝันไปเอง ว่า จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ หรือเป็นสิ่งที่เคยทำมาก่อน ต่อไปก็จะปรากฏออกมา เช่น เรื่องการเคหะขาดทุน 8 หมื่นกว่าล้านบาท จากโครงการบ้านเอื้ออาทร และรัฐมนตรีที่อยู่แถว จ.นนทบุรี ของบอบรม พาคนไปเที่ยวเกินงบจริง การตรวจสอบกันและกันเป็นเรื่องดี แต่ตอนนี้ต้องให้เวลาคณะกรรมการชุดต่างๆ ได้ตรวจสอบก่อน ส่วน นายวิเชน จะมาให้การเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจะเรียกมา ไม่อยากให้เรื่องนี้ทำให้ประเทศเสียหาย ใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ตนไม่มาปกป้องใคร ยืนยันว่า ไม่เคยรู้จัก นายวิเชน แต่เชื่อว่า คณะกรรมการต้องตามหาเจอ เพราะเป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียง

“หากคณะกรรมการ บอกว่า ปลัดกระทรวงผิด ก็ต้องผิดตามระเบียบราชการ หรือถ้าบอกว่าผมผิด ในฐานะนักการเมืองก็ต้องรับผิดชอบทางการเมือง ผมต้องขอโทษคนพัทลุงไม่ต้องการไปซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน อยากช่วยเหลือด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผมเป็นผู้แทนมา 20 ปี คนอีสานเลือก อุบลเลือกมา ถ้าผมไม่ดีไม่มีคุณธรรมเพียงพอ ผมสู้พวกท่านไม่ได้ ผมอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ท่านก็รู้ว่าการเลือกตั้งยากลำบากแค่ไหน แต่ละครั้งเลือดตาแทบกระเด็น ผมก็เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยย้ายไปจากพรรคนี้ ทั้งที่ลำบากในภาคอีสาน พรรคพวกหลายคนก็เป็นห่วง ในเรื่องนี้ผมไม่ให้นายกฯ ต้องลำบาก เพราะงานใหญ่กำลังเดินหน้าไปด้วยดีในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน สร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศ ผมเป็น ส.ส.รอท่านอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ มา 17 ปี หากมีการทุจริตจริง ผมพร้อมจะแสดงสปิริต พร้อมรับผิดชอบทันที ผมจะไม่ให้เสียมาตรฐานของพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่รอให้ศาลตัดสินเพียงแต่ ป.ป.ช.ชี้มูล ยังไม่ต้องบอกว่าผิดเหมือนผู้ว่าฯ อภิรักษ์ (โกษะโยธิน) เรื่องรถดับเพลิง ผมจะแสดงสปิริตลาออก และหากมีการทุจริตนอกจากจะลาออกแล้ว ผมจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต”

 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง




นายจตุพร พรหมพันธุ์




กำลังโหลดความคิดเห็น