เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (25 ม.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินเข้ามาในรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ ดีสเตชั่น โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นแกนนำรัฐบาล มาเริ่มต้นตามกติกากันใหม่ ขอให้ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา โดยทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน เพื่อความปรองดอง ประเทศชาติถึงจะอยู่รอด พร้อมย้ำว่า จะต้องคืนความเป็นธรรมให้แก่ตนเองและครอบครัว ถ้าอยากให้ทุกอย่างยุติต้องคืนความเป็นธรรม ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะต่อสู้บนนรกหรือสวรรค์ ก็จะต่อสู้ ถ้าไม่คืนความเป็นธรรมให้ก็จะไม่มีวันหยุดเคลื่อนไหว ซึ่งทุกวันนี้มีความพยายามดำเนินคดี และรังแกตนเองทุกอย่าง แล้วอย่าคิดว่าจะส่งคนมาฆ่าตนที่ต่างประเทศ เพราะถึงตายก็ไม่หยุดแน่ ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ มีความระแวงว่า ตนเองไม่จงรักภักดี
"ผมขอยืนยันว่า ผมจงรักภักดีมากที่สุดคนหนึ่ง อย่ามาหาเรื่องกัน สมมติฐานนี้ผิดก็ควรทำสมมติฐานให้ถูก ความไม่จงรักภัดดีที่ผมถูกกล่าวหาก็จะได้รับการแก้ไข ผมขอเรียกร้องว่า ขอให้ทุกฝ่ายเข้าหน้าเข้าหากัน เริ่มต้นใหม่ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา ในชีวิตผมได้รับพระราชทานอะไรมามากมาย ผมมีความกตัญญู หวังว่าสักวันหนึ่งเมื่อใช้กรรมที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้วหมด ต่อไปก็คงจะโชคดี ได้รับกรรมดี กลับมารับใช้แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนถ้าพรรคพวกได้เป็นรัฐบาล"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ชีวิตในระยะนี้เหมือนคนร่อนเร่พเนจร ไปอยู่ตรงนั้น ตรงนี้บ้าง ไม่เหมือนตอนเป็นนายกรัฐมนตรี มีความสุข ตอนนี้เดินทางไปโน่นไปนี่ ได้พบผู้คนมากมาย ไม่ได้อยู่กับครอบครัว นานๆลูกๆ จะโผล่ มาหาสักที
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ร่างกายแข็งแรง จิตใจเข้มแข็ง พร้อมต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม เพราะไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่มีใครยอมรับได้ ตนเพิ่งไปอเมริกาใต้มา คนที่นั่นเขายอมรับนับถือนายเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกา ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาก็ต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม
ดังนั้น ภาวะจิตใจตนต้องอดทนและเข้มแข็ง ต้องต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมต่อไป ต้องแสวงหาหาความเป็นธรรมให้เจอ ตนเองโชดคดีที่ได้มีโอกาสโอกาสเรียนรู้ธรรมะ และนั่งสมาธิ พยายามนั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน ก็เบาขึ้น จิตว่างก็คิดอะไรได้มากขึ้น
นายวีระ มุสิกพงศ์ ถามว่า รัฐบาลทุ่มงบประมาณ 570 ล้าน เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศไปสร้างความเชื่อถือให้กับประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ คิดอย่างไร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบว่า เรื่องนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย และไม่เกิดประโยชน์ มันต้องอยู่ที่การกระทำ ทั่วโลกเขาจึงจะเชื่อถือ ไม่ใช่จู่ๆ ก็เอาทหารไปร่วมกับพันธมิตรฯปิดสนามบิน ทหารอยู่เบื้องหลังแอบจัดตั้งรัฐบาล เอาพันธมิตรฯมาเป็นรัฐมนตรี ซึ่งไม่รู้ว่าการดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ถึงบอกว่าไม่มีใครเชื่อ ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ใช้ศาลเปลี่ยนเสียงน้อยเป็นเสียงข้างมาก เปลี่ยนเสียงข้างมากเป็นเสียงข้างน้อยได้ เศรษฐกิจมีปัญหา ความเชื่อมั่นและความเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเป็นแบบนี้การลงทุนเขาก็ไม่มี การประชุมอาเซียนซัมมิต เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จัดการประชุมไม่ได้ อย่างนี้รัฐบาลทำงานยาก เป็นรัฐบาลสมเสร็จ หน้าตาเป็นอย่างไร ก็ไม่รู้
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังวิจารณ์ถึงนโยบายประชานิยมที่รัฐบาลนำมาใช้ขณะนี้ว่า สาดน้ำเพื่อดับไฟแต่ไม่มีน้ำ สุดท้ายก็ตายกันหมด วันนี้อยากให้ภาครัฐ และภาคเอกชน ภาคประชาชนจับมือกันไว้ให้แน่น ภาคประชาชนเดือนร้อนอะไร ให้ภาครัฐช่วยอะไร เอาผู้ที่เดือนร้อนเข้ามามีส่วนร่วมช่วยกันแก้
ทั้งนี้นโยบายพรรคไทยรักไทย ไม่ใช่จู่ๆ เราจะทำเลย แต่ตนได้ไปคุยกับประชาชนว่า ทำแบบนี้จะเกิดประโยชน์หรือไม่ เขาอยากให้เราทำอะไร รัฐต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน แต่เมื่อคนทำต่างกัน ก็ทำไม่เหมือนกันแน่ ก็ขอให้รัฐบาลทำให้สำเร็จ เพราะจะมีคนที่ตกงานเพิ่มขึ้นอีกมากอย่างแน่นอน วันนี้รัฐมนตรีคลังต้องบริหารการเงินให้ดี ดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
**อัด"แม้ว"จอมลวงโลก
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหนีอาญาแผ่นดิน โดยโฟนอินผ่านดีทีวี และให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์อาซาฮีนั้น จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงของวิกฤติการณ์บ้านเมือง โดยพยายามตัดตอนความจริง และสรุปสถานการณ์แบบเอาดีใส่ตัวโยนความชั่วร้ายให้คนอื่น เช่น การพูดถึงบทบาทของศาล หรือตุลาการภิวัฒน์ และบทบาทของกองทัพ นั้นก็พูดถึงตอนปลายสถานการณ์ คือหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 แต่ไม่ยอมพูดถึงที่มาของเหตุการณ์รัฐประหารที่เกิดจากการเผด็จอำนาจ หรือพยายามกินรวบประเทศของระบอบทักษิณ ที่สยายปีกจากการยึดอำนาจบริหาร เข้าควบคุมเหนืออำนาจนิติบัญญัติ องค์กรอิสระ และแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และอำนาจตุลาการ และยังแปรสภาพกองทัพ เป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยส่งเครือญาติและเพื่อร่วมรุ่นมานั่งในตำแหน่งบังคับบัญชาหลายระดับ
สิ่งเหล่านี้ต่างหากเป็นที่มา และเป็นต้นเหตุของวิกฤติประเทศที่ยืดเยื้อเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน แต่ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับไม่ยอมรับความจริง และไม่ยอมรับผลของคำพิพากษา แต่เคลื่อนไหวลอบบี้สารพัดวิธี เพื่อหลอกลวงประชาคมโลกว่า ตัวเองถูกรังแกหรือเป็นแพะทางการเมือง ซึ่งเป็นพฤติกรรมลวงโลกอย่างชัดเจน
**มาร์คยันให้ความเป็นธรรมกับแม้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่หยุดเคลื่อนไหวโจมีรัฐบาลว่า คิดว่าทุกคนในประเทศขณะนี้ทราบข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลชุดนี้มาตามวิถีทางรัฐสภาของรัฐธรรมนูญ และเป็นแนวทางที่ปฏิบัติกันในระบบรัฐสภาทั่วโลกคือเสียงข้างมากสภาสามารถที่จะเลือกสนับสนุนรัฐบาล และมีการเปลี่ยนแปลงได้ ถือเป็นเรื่องปกติ ขณะเดียวกันหลังจากรัฐบาลตั้งขึ้นมา ก็ได้เดินหน้าทำงานหลายเรื่อง และตอนนี้ประชาชนก็รอคอยมาตรการต่างๆอยู่ ตรงนี้ถือเป็นข้อเท็จจริงและคนส่วนใหญ่เข้าใจ หากจะมีใครหรือบุคคลเห็นเป็นอย่างอื่นก็มีสิทธิ์ที่จะพูด
เมื่อถามว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมหยุด หรือประชาชนไม่เข้าใจกันแน่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่ามันมีทั้งประเด็นทางการเมือง และมีประเด็นที่กลุ่มคนเขามีความรู้สึกทางการเมือง เข้าใจทางการเมืองที่เป็นความเชื่อของเขา เราต้องเคารพความแตกต่างตรงนี้
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีแนวคิดที่จะใช้กลุ่มเพื่อเนวิน ชิดชอบ เข้าเจรจาประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้การทำงานไม่ได้มีปัญหา มีการชุมนุมเรียกร้องบ้าง แต่ก็ทำงานกันไปได้ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงกรณที่พ.ต.ท.ทักษิณ เปรียบตัวเองเหมือนนกขมิ้นไร้รัง นายกฯมีอะไรจะพูดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความเป็นธรรมกับคนไทยทุกคน ท่านเป็นคนไทยคนหนึ่ง เราก็ให้ความเป็นธรรมกับท่านตามกฎหมาย
**รัฐบาลทำเป็นหูทวนลมไม่ได้
นายสุริยะใส กล่าวว่า แม้การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่มีพลังเหมือนเดิม แต่รัฐบาลจะนิ่งดูดาย หรือหูทวนลมไม่ได้ เพราะเครือข่ายทักษิณจะเหิมเกริม ท้าทายกฎหมายบ้านเมือง จนอาจเกิดม็อบ หรือการจลาจลไปเรื่อยๆ หากปล่อยให้เคลื่อนไหวได้อิสระแบบนี้ ระยะยาวจะควบคุมสถานการณ์ลำบาก ซึ่งเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะตีความว่าเป็นสิทธิคงไม่ได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีสถานภาพเป็นผู้ต้องหาไปแล้ว เพราะถ้าบริสุทธิ์จริงต้องมาพิสูจน์ตัวเองในชั้นศาล
ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเร่งหาช่องทางนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด หรือแม้แต่กลุ่มเสื้อแดง ที่มีพฤติกรรมละเมิดกฎหมาย และพาดพิงสถาบันฯ ก็ต้องดำเนินการทันที ไม่ใช่ตั้งรับแบบนี้
ส่วนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายเสื้อแดงคงไม่มีพลัง เป็นเพียงงานใหม่ของบรรดา ส.ส.ที่ตกงาน เพราะพรรคถูกยุบ และเปลี่ยนขั้วอำนาจมาเป็นฝ่ายค้านทำให้ช่องทางทำมาหากินหดหาย จึงว่าจ้างมวลชนในเครือข่ายออกมาต่อต้านรัฐบาล และพันธมิตรฯ เพื่อวางบิลเท่านั้นเอง ซึ่งเหตุการณ์ที่จ.ร้อยเอ็ดไม่ได้ทำให้พันธมิตรฯ หวั่นไหว ยังจะเดินหน้าจัดเวทีอีกหลายจังหวัด โดยเวทีปราศรัยใหญ่วันที่ 31 ม.ค.ที่จ.สระบุรี 11 ก.พ.ที่ จ.ชุมพร 12 ก.พ.ที่จ.ระนอง 13 ก.พ.ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธุ์ 14 ก.พ.ที่ จ.อุดรธานี 15 ก.พ.ที่ จ.ขอนแก่น 28 ก.พ.ที่ จ.พิษณุโลก ฯลฯ และยังมีเวทีปราศรัยย่อยอีกหลายจังหวัด เพื่อรณรงค์สร้างการเมืองใหม่และให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน
**ขอบคุณรัฐบาลที่ปล่อยแม้วโฟนอิน
นายอดิศร เพียงเกษ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ดี สเตชั่น จำกัด กล่าวถึงการดำเนินรายการความจริงวันนี้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอิน เข้ามาในรายการว่า ต้องขอบคุณรัฐบาลที่เปิดโอกาสให้ โดยไม่ตัดสัญญาณ และขอให้รัฐบาลอย่าได้มองสถานีประชาธิปไตย เป็นสื่อตรงข้ามรัฐ แต่เราจะทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับรัฐบาล
"ในสัปดาห์หน้า จะประกาศรับสมัครผู้ที่สนใจเป็นนักข่าวแนวร่วมภาคประชาชนอย่างเป็นทางการไม่จำกัดจำนวน จากทั่วทุกภาคของประเทศไทย สมัครเป็นอาสาสมัครข่าว ส่งข่าวสารมายังสถานีในช่องทางต่างๆ ผ่านรายการตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าสมัครใดๆทั้งสิ้น"นายอดิศรกล่าว
นายอดิศร กล่าวว่า สถานีประชาธิปไตย ไม่ใช่สถานีของคนใดคนหนึ่ง หากนายกรัฐมนตรี มีเวลาว่างก็สามารถโฟนอินเข้ามาได้
--------------------------
"ผมขอยืนยันว่า ผมจงรักภักดีมากที่สุดคนหนึ่ง อย่ามาหาเรื่องกัน สมมติฐานนี้ผิดก็ควรทำสมมติฐานให้ถูก ความไม่จงรักภัดดีที่ผมถูกกล่าวหาก็จะได้รับการแก้ไข ผมขอเรียกร้องว่า ขอให้ทุกฝ่ายเข้าหน้าเข้าหากัน เริ่มต้นใหม่ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา ในชีวิตผมได้รับพระราชทานอะไรมามากมาย ผมมีความกตัญญู หวังว่าสักวันหนึ่งเมื่อใช้กรรมที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้วหมด ต่อไปก็คงจะโชคดี ได้รับกรรมดี กลับมารับใช้แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนถ้าพรรคพวกได้เป็นรัฐบาล"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า ชีวิตในระยะนี้เหมือนคนร่อนเร่พเนจร ไปอยู่ตรงนั้น ตรงนี้บ้าง ไม่เหมือนตอนเป็นนายกรัฐมนตรี มีความสุข ตอนนี้เดินทางไปโน่นไปนี่ ได้พบผู้คนมากมาย ไม่ได้อยู่กับครอบครัว นานๆลูกๆ จะโผล่ มาหาสักที
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ร่างกายแข็งแรง จิตใจเข้มแข็ง พร้อมต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม เพราะไม่ได้รับความยุติธรรม ไม่มีใครยอมรับได้ ตนเพิ่งไปอเมริกาใต้มา คนที่นั่นเขายอมรับนับถือนายเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกา ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาก็ต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม
ดังนั้น ภาวะจิตใจตนต้องอดทนและเข้มแข็ง ต้องต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมต่อไป ต้องแสวงหาหาความเป็นธรรมให้เจอ ตนเองโชดคดีที่ได้มีโอกาสโอกาสเรียนรู้ธรรมะ และนั่งสมาธิ พยายามนั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน ก็เบาขึ้น จิตว่างก็คิดอะไรได้มากขึ้น
นายวีระ มุสิกพงศ์ ถามว่า รัฐบาลทุ่มงบประมาณ 570 ล้าน เพื่อให้กระทรวงการต่างประเทศไปสร้างความเชื่อถือให้กับประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ คิดอย่างไร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบว่า เรื่องนี้ไม่ได้ช่วยอะไรเลย และไม่เกิดประโยชน์ มันต้องอยู่ที่การกระทำ ทั่วโลกเขาจึงจะเชื่อถือ ไม่ใช่จู่ๆ ก็เอาทหารไปร่วมกับพันธมิตรฯปิดสนามบิน ทหารอยู่เบื้องหลังแอบจัดตั้งรัฐบาล เอาพันธมิตรฯมาเป็นรัฐมนตรี ซึ่งไม่รู้ว่าการดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ถึงบอกว่าไม่มีใครเชื่อ ไม่เคารพการตัดสินใจของประชาชน ใช้ศาลเปลี่ยนเสียงน้อยเป็นเสียงข้างมาก เปลี่ยนเสียงข้างมากเป็นเสียงข้างน้อยได้ เศรษฐกิจมีปัญหา ความเชื่อมั่นและความเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเป็นแบบนี้การลงทุนเขาก็ไม่มี การประชุมอาเซียนซัมมิต เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จัดการประชุมไม่ได้ อย่างนี้รัฐบาลทำงานยาก เป็นรัฐบาลสมเสร็จ หน้าตาเป็นอย่างไร ก็ไม่รู้
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังวิจารณ์ถึงนโยบายประชานิยมที่รัฐบาลนำมาใช้ขณะนี้ว่า สาดน้ำเพื่อดับไฟแต่ไม่มีน้ำ สุดท้ายก็ตายกันหมด วันนี้อยากให้ภาครัฐ และภาคเอกชน ภาคประชาชนจับมือกันไว้ให้แน่น ภาคประชาชนเดือนร้อนอะไร ให้ภาครัฐช่วยอะไร เอาผู้ที่เดือนร้อนเข้ามามีส่วนร่วมช่วยกันแก้
ทั้งนี้นโยบายพรรคไทยรักไทย ไม่ใช่จู่ๆ เราจะทำเลย แต่ตนได้ไปคุยกับประชาชนว่า ทำแบบนี้จะเกิดประโยชน์หรือไม่ เขาอยากให้เราทำอะไร รัฐต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน แต่เมื่อคนทำต่างกัน ก็ทำไม่เหมือนกันแน่ ก็ขอให้รัฐบาลทำให้สำเร็จ เพราะจะมีคนที่ตกงานเพิ่มขึ้นอีกมากอย่างแน่นอน วันนี้รัฐมนตรีคลังต้องบริหารการเงินให้ดี ดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร
**อัด"แม้ว"จอมลวงโลก
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหนีอาญาแผ่นดิน โดยโฟนอินผ่านดีทีวี และให้สัมภาษณ์ผ่านหนังสือพิมพ์อาซาฮีนั้น จงใจบิดเบือนข้อเท็จจริงของวิกฤติการณ์บ้านเมือง โดยพยายามตัดตอนความจริง และสรุปสถานการณ์แบบเอาดีใส่ตัวโยนความชั่วร้ายให้คนอื่น เช่น การพูดถึงบทบาทของศาล หรือตุลาการภิวัฒน์ และบทบาทของกองทัพ นั้นก็พูดถึงตอนปลายสถานการณ์ คือหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 แต่ไม่ยอมพูดถึงที่มาของเหตุการณ์รัฐประหารที่เกิดจากการเผด็จอำนาจ หรือพยายามกินรวบประเทศของระบอบทักษิณ ที่สยายปีกจากการยึดอำนาจบริหาร เข้าควบคุมเหนืออำนาจนิติบัญญัติ องค์กรอิสระ และแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และอำนาจตุลาการ และยังแปรสภาพกองทัพ เป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยส่งเครือญาติและเพื่อร่วมรุ่นมานั่งในตำแหน่งบังคับบัญชาหลายระดับ
สิ่งเหล่านี้ต่างหากเป็นที่มา และเป็นต้นเหตุของวิกฤติประเทศที่ยืดเยื้อเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน แต่ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับไม่ยอมรับความจริง และไม่ยอมรับผลของคำพิพากษา แต่เคลื่อนไหวลอบบี้สารพัดวิธี เพื่อหลอกลวงประชาคมโลกว่า ตัวเองถูกรังแกหรือเป็นแพะทางการเมือง ซึ่งเป็นพฤติกรรมลวงโลกอย่างชัดเจน
**มาร์คยันให้ความเป็นธรรมกับแม้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่หยุดเคลื่อนไหวโจมีรัฐบาลว่า คิดว่าทุกคนในประเทศขณะนี้ทราบข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลชุดนี้มาตามวิถีทางรัฐสภาของรัฐธรรมนูญ และเป็นแนวทางที่ปฏิบัติกันในระบบรัฐสภาทั่วโลกคือเสียงข้างมากสภาสามารถที่จะเลือกสนับสนุนรัฐบาล และมีการเปลี่ยนแปลงได้ ถือเป็นเรื่องปกติ ขณะเดียวกันหลังจากรัฐบาลตั้งขึ้นมา ก็ได้เดินหน้าทำงานหลายเรื่อง และตอนนี้ประชาชนก็รอคอยมาตรการต่างๆอยู่ ตรงนี้ถือเป็นข้อเท็จจริงและคนส่วนใหญ่เข้าใจ หากจะมีใครหรือบุคคลเห็นเป็นอย่างอื่นก็มีสิทธิ์ที่จะพูด
เมื่อถามว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมหยุด หรือประชาชนไม่เข้าใจกันแน่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่ามันมีทั้งประเด็นทางการเมือง และมีประเด็นที่กลุ่มคนเขามีความรู้สึกทางการเมือง เข้าใจทางการเมืองที่เป็นความเชื่อของเขา เราต้องเคารพความแตกต่างตรงนี้
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีแนวคิดที่จะใช้กลุ่มเพื่อเนวิน ชิดชอบ เข้าเจรจาประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้การทำงานไม่ได้มีปัญหา มีการชุมนุมเรียกร้องบ้าง แต่ก็ทำงานกันไปได้ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงกรณที่พ.ต.ท.ทักษิณ เปรียบตัวเองเหมือนนกขมิ้นไร้รัง นายกฯมีอะไรจะพูดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความเป็นธรรมกับคนไทยทุกคน ท่านเป็นคนไทยคนหนึ่ง เราก็ให้ความเป็นธรรมกับท่านตามกฎหมาย
**รัฐบาลทำเป็นหูทวนลมไม่ได้
นายสุริยะใส กล่าวว่า แม้การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่มีพลังเหมือนเดิม แต่รัฐบาลจะนิ่งดูดาย หรือหูทวนลมไม่ได้ เพราะเครือข่ายทักษิณจะเหิมเกริม ท้าทายกฎหมายบ้านเมือง จนอาจเกิดม็อบ หรือการจลาจลไปเรื่อยๆ หากปล่อยให้เคลื่อนไหวได้อิสระแบบนี้ ระยะยาวจะควบคุมสถานการณ์ลำบาก ซึ่งเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะตีความว่าเป็นสิทธิคงไม่ได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีสถานภาพเป็นผู้ต้องหาไปแล้ว เพราะถ้าบริสุทธิ์จริงต้องมาพิสูจน์ตัวเองในชั้นศาล
ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเร่งหาช่องทางนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด หรือแม้แต่กลุ่มเสื้อแดง ที่มีพฤติกรรมละเมิดกฎหมาย และพาดพิงสถาบันฯ ก็ต้องดำเนินการทันที ไม่ใช่ตั้งรับแบบนี้
ส่วนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายเสื้อแดงคงไม่มีพลัง เป็นเพียงงานใหม่ของบรรดา ส.ส.ที่ตกงาน เพราะพรรคถูกยุบ และเปลี่ยนขั้วอำนาจมาเป็นฝ่ายค้านทำให้ช่องทางทำมาหากินหดหาย จึงว่าจ้างมวลชนในเครือข่ายออกมาต่อต้านรัฐบาล และพันธมิตรฯ เพื่อวางบิลเท่านั้นเอง ซึ่งเหตุการณ์ที่จ.ร้อยเอ็ดไม่ได้ทำให้พันธมิตรฯ หวั่นไหว ยังจะเดินหน้าจัดเวทีอีกหลายจังหวัด โดยเวทีปราศรัยใหญ่วันที่ 31 ม.ค.ที่จ.สระบุรี 11 ก.พ.ที่ จ.ชุมพร 12 ก.พ.ที่จ.ระนอง 13 ก.พ.ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธุ์ 14 ก.พ.ที่ จ.อุดรธานี 15 ก.พ.ที่ จ.ขอนแก่น 28 ก.พ.ที่ จ.พิษณุโลก ฯลฯ และยังมีเวทีปราศรัยย่อยอีกหลายจังหวัด เพื่อรณรงค์สร้างการเมืองใหม่และให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน
**ขอบคุณรัฐบาลที่ปล่อยแม้วโฟนอิน
นายอดิศร เพียงเกษ ประธานกรรมการบริหารบริษัท ดี สเตชั่น จำกัด กล่าวถึงการดำเนินรายการความจริงวันนี้ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอิน เข้ามาในรายการว่า ต้องขอบคุณรัฐบาลที่เปิดโอกาสให้ โดยไม่ตัดสัญญาณ และขอให้รัฐบาลอย่าได้มองสถานีประชาธิปไตย เป็นสื่อตรงข้ามรัฐ แต่เราจะทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับรัฐบาล
"ในสัปดาห์หน้า จะประกาศรับสมัครผู้ที่สนใจเป็นนักข่าวแนวร่วมภาคประชาชนอย่างเป็นทางการไม่จำกัดจำนวน จากทั่วทุกภาคของประเทศไทย สมัครเป็นอาสาสมัครข่าว ส่งข่าวสารมายังสถานีในช่องทางต่างๆ ผ่านรายการตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าสมัครใดๆทั้งสิ้น"นายอดิศรกล่าว
นายอดิศร กล่าวว่า สถานีประชาธิปไตย ไม่ใช่สถานีของคนใดคนหนึ่ง หากนายกรัฐมนตรี มีเวลาว่างก็สามารถโฟนอินเข้ามาได้
--------------------------
