xs
xsm
sm
md
lg

มาร์คให้ความเชื่อมั่นตปท. อาเซียนยันร่วมถกที่หัวหิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 9.30 น.วานนี้ (14ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับคณะเอกอัครราชทูตต่างประเทศ และหัวหน้าองค์การระหว่างประเทศ ณ งานเลี้ยงรับรอง ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล พร้อมให้ความมั่นว่า รัฐบาลจะนำมาความสมัครสมานสามัคคีกลับสู่สังคมไทยและจะเรียกความเชื่อมั่นคืนจากทุกฝ่าย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทราบดีว่า ที่ผ่านมาทุกท่านต่างติดตามพัฒนาการทางการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่ของประเทศไทยอย่างใกล้ชิดด้วยความสนใจยิ่ง แม้ว่าสถานการณ์ในช่วงปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีความบอบบางอย่างยิ่ง แต่ในขณะนี้ ประเทศไทยได้ก้าวเข้าช่วงของการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง การเปลี่ยนผ่านซึ่งนำมาซึ่งความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสังคม ความชอบธรรมของประชาชนและความเชื่อมั่นจากทุกฝ่าย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตัวบ่งชี้ที่สำคัญก็คือ ประการแรก การเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้นำมาซึ่งความมีเสถียรภาพภายใน เห็นได้จากผลการเลือกตั้งซ่อมทั่วประเทศและผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการถ่วงดุลที่สำคัญ รัฐบาลชุดนี้ให้คำมั่นที่จะสร้างเสถียรภาพให้เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยนำมาซึ่งความเป็นปึกแผ่นมั่นคงของชาตินับแต่วันนี้เป็นต้นไป
"รัฐบาลจะบริหารประเทศภายใต้ประชาธิปไตยและระบอบรัฐสภา และมุ่งที่จะสร้างความสมานฉันท์และความสามัคคีของคนในชาติ ยึดหลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล ความถูกต้องชอบธรรมและความซื่อสัตย์ และยึดมั่นต่อความรับผิดชอบในฐานะรัฐบาลของประชาชน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ประการที่สอง รากฐานทางเศรษฐกิจของไทยยังแข็งแกร่ง รัฐบาลได้ถือการฟื้นฟูเศรษฐกิจและเรียกความเชื่อมั่น ของภาคธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญเป็นอันดับแรก จึงได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งการชดเชยค่าบริการพื้นฐานต่างๆ การฝึกอบรม โครงการพัฒนาในระดับชุมชน มาตรการจูงใจทางด้านภาษี การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่พนักงานและบริษัท มาตรการต่างๆ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยคนไทยและเศรษฐกิจทั้งระบบ สามารถต่อสู้วิกฤตเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกได้อย่างเหมาะสม
ประการที่สาม ไทยยังคงบทบาทสร้างสรรค์ในระดับอนุภูมิภาค และชุมชนระหว่างประเทศ รวมทั้งยังคงยึดมั่นในพันธกิจและข้อผูกพันระหว่างประเทศในทุกระดับ ทุกภาคส่วน อีกทั้งการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ยังเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายต่างประเทศของไทย ทั้งนี้ ประเทศไทยขอยืนยันความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 14 โดยได้กำหนดการประชุมระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์- 1 มีนาคม 2552 ณ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งในฐานะประธานอาเซียน เพื่อผลักดันให้มีกฎบัตรอาเซียนได้ดำเนินการ
สำหรับการเดินทางเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ณ สวิตเซอร์แลนด์ ในปลายเดือนนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะได้พบปะกับผู้นำภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะใช้โอกาสดังกล่าวส่งสัญญาณว่าประเทศไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับเพื่อนและหุ้นส่วนทั่วโลกในทุกๆกิจกรรม
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวในตอนท้ายถึงมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการเป็นเช่นเดียวกับทุกรัฐบาล รัฐบาลจะทำงานอย่างหนักเพื่อประชาชนและประเทศไทย รวมทั้งจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับนานาประเทศด้วยความจริงใจและสร้างสรรค์ ท้ายที่สุด ผลงานจะบ่งบอกได้ดีกว่าคำพูดเอง

**ทูตอาเซียนยืนยันร่วมประชุมที่หัวหิน
ในวันเดียวกันนี้ คณะเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิก อาเซียน ประจำประเทศไทย ประกอบด้วย นาย Antonio Venus Rodriguez เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ นาย Peter Chan เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ นาย Nguyen Duy Hung เอกอัครราชทูตเวียดนาม นายอ้วน พมมะจัก เอกอัครราชทูตลาว นาย Mohammad Hatta เอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย นาง You Ay เอกอัครราชทูตกัมพูชา Dato Husni Zai bin Yaacob เอกอัครราชทูตมาเลเซีย นาย Hipni Matarsad อุปทูตบรูไน และ นาง Aye Aye Mu อุปทูตพม่า ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในโอกาสที่รับตำแหน่งใหม่ และประเทศอาเซียนพร้อมพัฒนา และสานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือกับไทยต่อไป
โดยในโอกาสนี้ คณะเอกอัครราชทูตฯ ได้แสดงการสนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 14 ที่ หัวหิน และยืนยันว่าผู้นำทุกประเทศพร้อมเข้าร่วมการประชุม เพื่อประโยชน์แก่อาเซียน ต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณ สารแสดงความยินดีจากผู้นำประเทศอาเซียน พร้อมทั้งยืนยัน การส่านต่อความสัมพันธ์กับประเทศสมาชิกอาเซียนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น