รมว.ต่างประเทศ รับหน้าเสื่อ “หมัก” สั่งกระชับสัมพันธ์เพื่อนบ้าน หมั่นขยายบทบาทในเวทีโลก ได้โอกาสโชว์วิชัน รมต.อาเซียน ที่สิงคโปร์งานแรก คุยโวนำร่อง “แม้ว” มาแน่ก่อน พ.ค.นี้
วันนี้ (14 ก.พ.) นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้หารือกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะได้บรรยายตารางเดินทางเยือนต่างประเทศ และกำหนดการประชุมสำคัญๆ เช่น การประชุมอังค์ถัด การประชุมอาเซม และการประชุมเอเปก โดยได้ประสานกับนายกรัฐมนตรี กำหนดวันเวลาที่เหมาะสมในการเดินทาง
นายนพดล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายว่าจะเน้นกระชับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงจะขยายบทบาทของไทยไปยังเวทีโลก โดยคาดว่าจะเริ่มที่ประเทศลาวเป็นประเทศแรก ในช่วงปลายเดือน ก.พ.หรือต้นเดือน มี.ค.นี้ ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีเพื่อให้ศึกษา เช่น เรื่องปัญหาชายแดนภาคใต้ และประเด็นที่เกี่ยวโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความคิดเห็น และกระทรวงการต่างประเทศพร้อมนำไปปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าได้พูดคุยเรื่องการเมืองของประเทศมาเลเซีย ว่าเป็นไปตามกลไกและการเปลี่ยนแปลงตามปกติ และมั่นใจว่านโยบายต่างประเทศระหว่างไทย-มาเลเซีย จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง มาเลเซียยังคงให้ความสำคัญในการช่วยคลี่คลายปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ และทันทีที่มีโอกาสตนจะเดินทางไปพบปะกับผู้นำมาเลเซีย
นายนพดล กล่าวอีกว่า ในวันที่ 19 ก.พ.นี้จะเดินทางไปประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นโอกาสแรกในการเดินทางเยือนต่างประเทศ และคงได้พูดคุยกับประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อให้สอดคล้องตามแนวนโยบายและความเป็นไปตามกลไก อย่างไรก็ตาม คงจะไม่ได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ฮ่องกง
“ผมได้พูดคุยทางโทรศัพท์เป็นการส่วนตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะคนที่เคารพรัก ซึ่งท่านตั้งใจจะเดินทางกลับประเทศไทย แต่ไม่ใช่วันนี้ตามข่าวที่เกิดขึ้น โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับก่อนเดือน พ.ค. และจะไม่กลับมาอย่างเงียบๆ หรือแอบเข้ามา แต่จะมาตามปกติ ส่วนตัวไม่ใช่ที่ปรึกษาทางกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว ดังนั้น ไม่อยากให้ความเห็นเรื่องนี้มากนัก แต่อาจจะให้ข้อมูลเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ทางเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง” นายนพดล กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีปัญหาเขาพระวิหาร นายนพดล กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยกระทรวงฯ มีหน้าที่รักษาอธิปไตยและเขตแดนของชาติ ทั้งนี้จะหารือเพื่อทางช่องทางการทูต และคงมีโอกาสหารือกับรองนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชาในปลายเดือน ก.พ.นี้ มั่นใจว่าจะดูแลเรื่องนี้เป็นอย่างดี โดยจะไม่ส่งผลกระทบกับเรื่องความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ