xs
xsm
sm
md
lg

ความต่างระหว่างแดงกับเหลือง

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

มีคนหลายคนพยายามพูดว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง หรือ นปช.-นรกป่วนชาตินั้นไม่ต่างกับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พูดง่ายๆ ว่า มีการพยายามอธิบายว่า พันธมิตรฯ เคลื่อนไหวคัดค้านรัฐบาลพรรคพลังประชาชนอย่างไร กลุ่มเสื้อแดงก็เคลื่อนไหวแบบนั้นกับพรรคประชาธิปัตย์

แน่นอนว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ในอดีตและกลุ่มเสื้อแดงในปัจจุบัน ถ้าหากมองผิวเผินและอาจดูเหมือนจะคล้ายๆ กัน แต่ถ้าดูให้ลึกลงไปจะเห็นว่า มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ไม่ได้แตกต่างกันในแง่ที่ว่า ฝ่ายหนึ่งใส่เสื้อเหลือง ฝ่ายหนึ่งใส่เสื้อแดง ไม่ได้แตกต่างกันในแง่ปริมาณ แต่แตกต่างกันในในทางคุณภาพและเหตุผลที่ทั้งสองฝ่ายแสดงออกมา

ทั้งนี้ผมขอยืนยันนะครับว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงสามารถทำได้ตามสิทธิเสรีภาพและกรอบของรัฐธรรมนูญอย่างที่พันธมิตรฯ นำมาอ้างในการชุมนุม แต่การแสดงออกในการชุมนุม และเหตุผลที่ใช้ชุมนุมจะตัดสินว่า การชุมนุมของฝ่ายเสื้อแดงนั้นมีความชอบธรรมหรือไม่

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นการเคลื่อนไหวของการเมืองภาคประชาชน ในขณะที่กลุ่มเสื้อแดงจัดตั้งโดยสมาชิกพรรคพลังประชาชนหรือพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาเคลื่อนไหว พร้อมๆ กับการเปิดโปงการปล้นชาติของนักการเมือง แต่กลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่าจะมีผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์หลายคนมาขึ้นเวทีพันธมิตรฯ แต่ก็มีอดีตผู้สมัครพรรคไทยรักไทย พรรคร่วมรัฐบาลหลายคนมาขึ้นเวทีของพันธมิตรฯ เช่นเดียวกัน

ผู้สมัครและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ เช่น สำราญ รอดเพชร ประพันธ์ คูณมี กษิต ภิรมย์ พิเชษ พัฒนโชติ อดีตสมาชิกไทยรักไทย ที่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ก็มีหลายคน เช่น เทิดภูมิ ใจดี สุชาติ ศรีสังข์ เสกสรร แสนภูมิ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีอดีตผู้สมัครและสมาชิกพรรคการเมืองอื่นอีกหลายพรรคหลายคน

ส่วนหลังจากเลิกราจากเวทีพันธมิตรฯ แล้ว ใครจะเดินทางไหน ใครจะมีอุดมการณ์อย่างไรก็เป็นเรื่องของปักเจกบุคคล ไม่ได้เกี่ยวกับแนวทางของพันธมิตรฯ ที่คัดค้านรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ และคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิด

หลังจากนี้คุณกษิต ไปเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นเรื่องของคุณกษิตกับพรรคประชาธิปัตย์ไม่เกี่ยวกับพันธมิตรฯ

ทั้งนี้ต้องแยกแยะอาจารย์สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ที่เป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอาจารย์สมเกียรติเคลื่อนไหวกับพันธมิตรฯ มาตั้งแต่ต้น และทั้งพรรคประชาธิปัตย์และอาจารย์สมเกียรติประกาศชัดเจนว่า การเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่ายนั้นแยกออกจากกัน

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่ได้มีเป้าหมายในการเข้าไปสู่อำนาจรัฐ แต่มีเป้าหมายที่จะสร้างการเมืองใหม่ และกำจัดนักการเมืองโกงชาติกินเมือง

พันธมิตรฯ ไม่ได้คัดค้านรัฐบาลพรรคพลังประชาชนอย่างทันทีที่ชนะการเลือกตั้ง แต่พันธมิตรฯได้ออกแถลงการณ์ว่า จะเปิดโอกาสให้รัฐบาลพรรคพลังประชาชนที่ชนะการเลือกตั้งเข้ามาตามระบอบประชาธิปไตยได้ทำงานก่อน ต่อเมื่อรัฐบาลได้ประพฤติมิชอบ มีการกลั่นแกล้งโยกย้ายข้าราชการ มีความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิด พันธมิตรฯ จึงออกมาเคลื่อนไหว

ถ้ารัฐบาลพรรคพลังประชาชนที่มาจากการเลือกตั้งไม่ได้ใช้อำนาจในทางมิชอบ พันธมิตรฯ ก็คงจะไม่ประกาศฟื้นตัวกลับเข้ามาอีก และถึงประกาศฟื้นตัว ก็คงจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมากเช่นนี้

ก่อนพันธมิตรฯ จะรวมตัวครั้งใหม่ สื่อมวลชนค่ายมติชนเพื่อนผม เช่น สรกล อดุลยานนท์ (หนุ่มเมืองจันท์) สุชาติ ศรีสุวรรณ (คนเมืองชล) ก็เขียนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่า พันธมิตรฯ อ่อนแรงแล้วไม่มีใครเอาด้วยแล้ว ซึ่งผมก็ประหลาดใจ ไม่รู้เพื่อนเอาข้อมูลมาจากไหน เพราะข้อเท็จจริงก็คือ หลังการชุมนุมปี 2549 มีประชาชน แห่มาแน่นบ้านพระอาทิตย์ทุกวัน

ผมคงไม่ต้องบอกนะครับว่า หลังการชุมนุม 193 วันในปี 2551 เที่ยวนี้ บ้านพระอาทิตย์ และสำนักงานของ ASTV ได้กลายเป็นที่นัดหมายนัดพบของพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไปเรียบร้อยแล้ว

การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงมีเหตุและผลในตัวของมันเอง

แต่การเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงต่อรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์นั้นเกิดขึ้นทันที ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้เริ่มทำงาน การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงจึงเป็นไปเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐให้กับพรรคเพื่อไทย และปกป้องพ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว

พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้บริหารประเทศไปในแนวทางที่มิชอบและยังไม่กระทำผิด เพราะถ้าพรรคประชาธิปัตย์มีความประพฤติเช่นนั้นก็คงถูกพันธมิตรฯ ขับไล่เช่นเดียวกับพรรคพลังประชาชน

การออกมาคัดค้านคุณกษิต ภิรมย์ อย่างรุนแรงของกลุ่มเสื้อแดงนั้นก็มาจากเหตุผลเดียวคือ การประกาศยกเลิกพาสปอร์ตทูตหรือพาสปอร์ตแดงของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวลำบากขึ้น เป็นความแค้นส่วนตัวของทักษิณ

ทั้งๆ ที่หากมองตามข้อเท็จจริงแล้ว การยกเลิกพาสปอร์ตแดงของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ยังน้อยไป เพราะถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายที่หนีความผิดของศาลไทย และเป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัวมาดำเนินคดี พ.ต.ท.ทักษิณไม่ควรจะมีสิทธิถือหนังสือเดินทางเพื่อหลบหนีไปไหนต่อไป

ลองคิดดูว่า มันขัดแย้งกันหรือไม่ เมื่อรัฐไทยต้องการตัวพ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดี รัฐไทยกลับอนุญาตให้พ.ต.ท.ทักษิณใช้หนังสือเดินทาง เพื่อหลบหนีการจับกุมของตัวเอง

ที่เห็นอย่างชัดเจนก็คือ พันธมิตรฯ ไม่ได้มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงในการขับไล่รัฐมนตรีพรรคพลังประชาชน ไม่ได้ใช้ก้อนหินขว้างปา ใช้น้ำกรดสาด อย่างเก่งพันธมิตรฯ ก็ใช้มือตบไล่ หรือโห่ฮา แต่พันธมิตรฯ ก็มีใบเสร็จหรือมีเหตุผลชัดเจนอยู่แล้วว่า เพราะรัฐมนตรีเหล่านั้นมีพฤติกรรมที่มิชอบ ไม่ใช่กระทำอย่างไม่มีเหตุผลอย่างที่กลุ่มเสื้อแดงกระทำต่อรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์

มีบางคนพยายามอธิบายว่า พันธมิตรฯ ใช้ความรุนแรงเพราะมีการพบไม้ท่อน ไม้กอล์ฟ ระเบิดปิงปองในทำเนียบรัฐบาล พันธมิตรฯ เคยขับรถพุ่งชนตำรวจ เอาด้ามธงแทงตำรวจ โดยเป็นการพูดตัดตอนไม่ได้ย้อนมองไปว่า เหตุและปัจจัยที่มาของสิ่งเหล่านั้นว่า ก่อนจะลุกขึ้นสู้พันธมิตรฯ ถูกกระทำด้วยความรุนแรงอย่างไร

พวกที่เคยคัดค้านการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ทั้งสื่อมวลชนบางคน ทั้งนักวิชาการ พวกนี้ล้วนแล้วแต่ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงด้วยตรรกะเดียวกัน

ความต่างระหว่างแดงกับเหลืองทั้งหมดนี้ จึงสะท้อนและประจานความจอมปลอมในบ้านเมืองเราด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น