xs
xsm
sm
md
lg

ทหารวอนคนไทยสามัคคี คิดต่างได้แต่อย่าแตกแยก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เช้าวานนี้ (7ม.ค.) พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานพิธีตักบาตร เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2552 ถึงสถานการณ์บ้านเมืองว่า อยากฝากนโยบายรัฐบาลเรื่องการสร้างความสมานฉันท์ เป็นหน้าที่เราทุกคน ในฐานะเป็นข้าราชการประจำต้องช่วยกันดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลให้ประสบความสำเร็จ ในส่วนความคิดสามารถคิดต่างกันได้ แต่ในความแตกแยกที่แสดงออก อยากขอร้องถ้าเป็นไปได้ขอให้ลดละ การคิดต่างกันเป็นประโยชน์ทำให้การดำเนินการของรัฐบาลพัฒนาไปในแง่ดี แต่ความแตกแยกที่เกิดขึ้น เราก็ไม่สบายใจ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
"ความจริงร้องขอมาตลอดว่า ไม่อยากเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้น ปีใหม่นี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะเริ่มต้นคิดกันใหม่ว่า สิ่งที่ทำมา หากเราให้อภัยไม่ถือโทษโกรธกันในเรื่องความแตกแยกทางความคิด ก็เป็นเรื่องที่ดีทำให้ปี 2552 ทุกคนมีความสุขอย่างแท้จริง"
ส่วนกรณีที่ นาย ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกม็อบเสื้อแดงนำไข่ไก่ปาหน้าในระหว่างช่วยลูกพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ลำปางนั้น พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ท่านนายกฯ ชวน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ท่านให้อภัยไม่ถือโทษโกรธเคืองกับกลุ่มไหนที่ทำกับท่าน ซึ่งความจริงท่านก็โดนเยอะ แต่ท่านพร้อมให้อภัย ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของการเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติ ถือเป็นจุดเริ่มต้นทำให้อีกฝ่ายได้คิดว่า ขนาดอดีตนายกรัฐมนตรีโดนอย่างนี้ ท่านยังให้อภัย คงน่าจะกลับไปคิดได้ว่า สิ่งเหล่านี้หากเราไม่ทำ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า ชื่อเสียงของประเทศชาติน่าจะได้รับการยอมรับจากนานาประเทศมากกว่า
เมื่อถามว่า นโยบายรัฐบาลผ่านมา 1 สัปดาห์ น้อยไปหรือไม่ที่จะให้คนไทยรู้รักสามัคคี พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ต้องช่วยกัน ระยะเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์คงทำอะไรได้ไม่มาก ในส่วนกองทัพพร้อมสนองนโยบายรัฐบาล ซึ่ง ผบ.เหล่าทัพ ได้พูดคุยกันเรื่องนี้เกี่ยวกับการจัดทำแผนเร่งด่วนที่จะตอบสนองนโยบายรัฐบาล เราคุยกันอยู่ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ประชาชนมีความรักความสามัคคีเกิดขึ้นให้เร็วที่สุด
สำหรับความคิดที่ว่า เมื่อกลุ่มพันธมิตรฯใช้ม็อบกดดันได้ กลุ่มเสื้อแดงก็ทำได้เช่นกันนั้น พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลใจเย็น ไม่ถือโทษโกรธเคือง ฝ่ายเสื้อแดงต้องคิดได้ แม้จะมีบทเรียนว่าทำไมเสื้อเหลืองทำได้ เสื้อแดงทำไมทำไม่ได้ คิดว่าคงอย่างที่ท่านนายกรัฐมนตรีเคยพูดตลอดว่า ต้องใช้หลักนิติธรรม และหลักนิติรัฐ ในการบริหารจัดการให้เกิดความสมัครสมานสามัคคี หากเห็นว่ากลุ่มเสื้อเหลืองทำไม่ถูกต้อง กลุ่มเสื้อแดงก็ไม่ควรปฏิบัติตาม
สำหรับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปจ้างล็อบบี้ยิสต์ต่างชาติโจมตีประเทศไทยเพื่อให้เกิดความเสียหาย พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ค่อนข้างมาก และมีการหาข้อมูลที่ชัดเจนว่าท่านได้ไปจ้างบริษัทไหนอย่างไร ในการดำเนินการ เพราะสื่อพยายามไปตรวจสอบกันเอง
ทั้งนี้ เข้าใจว่าเรื่องนี้สามารถทำความเข้าใจกับประชาชนได้ว่าสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามทำอยู่นั้น มีผลไม่ดี ส่งผลกระทบต่อประเทศชาติอย่างไร คงพอจะทำความเข้าใจกับประชาชนได้ว่า สิ่งที่พ.ต.ท. ทักษิณ ลงทุนไปนั้นอาจจะไม่คุ้มค่า คือตนเองก็มีความคิดว่า ต่างชาติมีความเข้าใจไทยในวัฒนธรรมองค์กรของคนไทยไม่ชัดเจนเท่าไร และที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปดำเนินการในการจ้างบริษัทล็อบบี้ยีสต์ ซึ่งเป็นคนต่างชาติก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไร ในความคิดของตน
เมื่อถามว่า ในฐานะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเป็นผู้นำประเทศ แต่ไปดำเนินการทำร้ายประเทศของตนเอง การเลือกตั้งต่อไปนี้ เราควรใช้ดุลพินิจให้ดีในการเลือกส.ส. พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ไม่อยากออกแสดงความคิดเห็น เพราะจะไปเกี่ยวกับการเมือง เกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เดี๋ยวจะกลายเป็นการชี้นำ
เมื่อถามว่า รัฐบาลร้องขอทหารไปดูแลบุคคลสำคัญทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของกองทัพอยู่แล้ว ต้องดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญทั้งหมด หากร้องขอมาก็ไม่ขัดข้อง เหตุที่จะเกิดขึ้นกับวีไอพีทั้งหมด เรายอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ในลักษณะที่เคยเกิดขึ้น
ส่วนข่าวที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถูกข่มขู่ปองร้ายเอาชีวิตนั้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายรักษาความปลอดภัยของกองทัพอยู่แล้วที่จะดูแลเรื่องนี้ คงไม่ได้มีอะไรสั่งการเพิ่มเติม เป็นหน้าที่ของศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) จัดเจ้าหน้าที่ไปดูแล ทั้งนี้ เราไม่ได้พูดถึงรายละเอียดว่ากระแสข่าวดังกล่าวมีมูลความจริงมากน้อยเพียงใด
เมื่อถามว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีถูกดักฟังโทรศัพท์ กองทัพจะมีมาตรการดูแลความปลอดภัยในเรื่องการดักฟังโทรศัพท์อย่างไร พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า เราไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากมาย แต่ที่ทำได้คือเปลี่ยนโทรศัพท์ แต่จริงๆ แล้วทุกบริษัทก็สามารถแฮกข้อมูลไปได้ทั้งหมด แต่เราก็พยายามหลีกเลี่ยงใช้โทรศัพท์ที่จะพูดในเรื่องที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้ ควรจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด เพราะการใช้โทรศัพท์เป็นเอกสิทธิส่วนบุคคล แต่เมื่อถูกดักฟัง ก็เป็นเรื่องที่ไม่ดี โดยจะต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น