“พีระพันธุ์” เมินไล่บี้อีแอบดักฟังโทรศัพท์ รู้ดีต้นตอเป็นใคร

รมว.ยุติธรรม ยอมรับทาบ “นาม ยิ้มแย้ม” เป็นคณะทำงาน แต่ไม่ใช่ที่ปรึกษารัฐมนตรี พร้อมแฉถูกดักฟังโทรศัพท์หาข้อมูล แต่ไม่ติดใจสืบหาแหล่งที่มาของข่าว เพราะทราบต้นตอของมือดีจอมฉกแอบดักฟังกันดีอยู่แล้ว ย้ำช่วงนี้ยังไม่ปรับโยกย้ายตำแหน่งใดในหน่วยงาน

วันนี้ (5 ม.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการทาบทาม นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยมีเงินประจำ และรถประจำตำแหน่งว่า ไม่ทราบว่าข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาจากที่ไหน แต่แนวทางการทำงานตนจะตั้งคณะทำงานหลายหน่วย ประมาณ 7-8 ชุด เพื่อช่วยงานด้านต่างๆ ของกระทรวง แต่ยอมรับว่าได้โทรศัพท์ทาบทามนายนาม ยิ้มแย้ม มาเป็นคณะทำงาน ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันยังไม่ได้หารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในเรื่องดังกล่าว

“ผมอยากบอกว่า นี่เป็นเพียงความพยายามของผมที่จะทดสอบว่าการสื่อสารทางโทรศัพท์ของผม และผมเชื่อว่ามีการฟังการสื่อสารทางโทรศัพท์ของผม แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนดักฟัง สิ่งนี้เป็นการทดสอบของผม และเผอิญเรื่องที่ผมพูดคงเป็นเรื่องที่เขาสนใจ เลยนำไปโยงกัน ผมทดลองการดักฟังโทรศัพท์มาตั้งแต่ผมรับตำแหน่ง ที่ผ่านมามันคงไม่ประทับใจแต่เรื่องนี้ประทับใจเลยปล่อยออกมา” นายพีระพันธุ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะแก้ปัญหาการถูกดักฟังโทรศัพท์หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่แก้ไขอะไร ปล่อยไปเรื่อยๆ ใครอยากฟังก็ทำไป และคงไม่ต้องสืบอะไรมาก เพราะรู้กันอยู่ว่ามันมีกี่แห่งที่มีอุปกรณ์เครื่องมือแบบนี้และสามารถดักฟังได้

ต่อข้อถามที่ว่า ต้องเรียกอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือหน่วยงานอื่นๆมาสอบถามหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า คงไม่ต้องเรียก แต่ตนมีวิธี ที่ผ่านมาจะเคยเกิดกรณีนี้หรือไม่ นั้นไม่ทราบ แต่เมื่อตนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ตอนนี้ในกระทรวงยุติธรรมมีข่าวปล่อยกันมาก และไม่อยากให้เชื่อกระแสข่าวมากนัก

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (6 ม.ค.) กระทรวงยุติธรรมจะมีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงหรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะเพิ่งเริ่มทำงาน แต่ตนอยากบอกสิ่งที่ตนอยากทำ คือการเสนอแก้กฎหมาย มากกว่าการโยกย้าย

นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเปิดอภิปรายรัฐบาลนอกรัฐสภาว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านทำได้ แต่ที่ผ่านมาก็เรียกร้องไม่ให้พรรคประชาธิปัตย์ ใช้เวทีนอกสภาอภิปราย แต่ตอนนี้กลับทำเสียเอง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจ