xs
xsm
sm
md
lg

ระบุคนเบื่อ"ครม.หมัก4" เลวมากดักฟังพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่มีการระบุว่านายเนวิน ชิดชอบ อยู่เบื้องหลังการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ว่า ตนไม่สามารถที่จะไปล่วงรู้ได้ แต่จากการฟังการให้สัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรมว.มหาดไทย ส่วนภาพของครม.ที่ปรากฎ คิดว่าประชาชนไม่ถูกใจเท่าไร เพราะประชาชนคาดหวังมากกว่านี้ นึกว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะได้ใช้เวลาช่วงที่เหลืออยู่หาคนดี มีฝีมือมาช่วยกันทำงานอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ ที่รุมเร้าเข้ามาหลายด้าน ตอนที่แต่งตั้ง รมว.ต่างประเทศ ทำให้คนคาดหวังว่า นายสมัคร จะยึดแนวทางที่จะสรรหาคนดีๆ มาทำงานจริงๆ แต่ปรับ ครม.ออกมาแล้วไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่เคยตั้งรมว.ต่างประเทศ จึงทำให้คนผิดหวัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าหน้าตาของครม. ที่ออกมาทำให้คนผิดหวังในการที่จะบริหารประเทศด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อคนผิดหวังก็ทำให้แรงที่จะช่วยสนับสนุนรัฐบาลน้อยลง และ ถ้ารัฐบาลทำไม่ถูกใจ ก็จะมีคนต่อต้านมากขึ้น รัฐบาลก็อยู่ลำบาก
เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์กันว่า นายสมัคร พยายามสร้างอาณาจักรของตัวเองด้วยการเอาที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจเข้ามาร่วมรัฐบาลด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่านายสมัคร พยายามสร้างอาณาจักรของตัวเอง แต่คิดว่า นายสมัครไม่สามารถจะตั้งรัฐมนตรีได้อย่างที่ตัวเองคิด เพราะมีผู้ที่มีอิทธิพลที่อยู่แวดล้อม และเจ้าของพรรคตัวจริง เป็นคนบงการอยู่
"มีคนมาเล่าให้ผมฟังว่า คุณสมัครจะไปทาบทามคนเป็น รมว.มหาดไทย คนหนึ่ง และตอบรับแล้วด้วย แต่เจ้าของพรรคตัวจริงไม่เอา เขาบอกว่าเขาจะเอาคนนี้ ทั้งๆที่มีคนท้วงว่า คนนี้ไม่ค่อยเก่ง ก็บอกว่าไม่รู้เรื่องก็คุมง่ายดี นี่คือสิ่งที่คนเล่า อย่าถือเป็นจริงเป็นจัง แต่สมมุติว่า เรื่องเล่าเป็นจริงก็แปลว่าคุณสมัคร ไม่สามารถตั้งรัฐมนตรีได้อย่างที่ตัวเองต้องการ ทางแก้ก็คือไปหาคนอื่นมาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งอาจจะทำให้ดูหน้าตาดีขึ้นมาหน่อย ผมคิดว่าเป็นอย่างนั้นเสียมากกว่า" นายสุเทพกล่าว
ต่อข้อถามว่าถ้าคนเป็นนายกฯแล้วไม่มีอำนาจในการปรับครม. อย่างแท้จริง สมควรจะเป็นนายกฯ ต่อไปหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องที่ว่าเป็นนายกฯ แล้วไม่มีอำนาจอย่างแท้จริง นายสมัคร เขารู้มาก่อนที่จะไปรับหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนแล้ว และรู้มาก่อนที่จะมาเป็นนายกฯ แต่นายสมัคร ก็เต็มใจอย่างนั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิเคราะห์กันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พยายามลดบทบาทและมีอิทธิพลน้อยลงในพรรคพลังประชาชน นายสุเทพ กล่าวว่า เขาพยายามปล่อยข่าวโดยผ่านสื่อมวลชนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีบทบาทน้อยลง ถูกลิดรอนอำนาจแล้ว แต่เท่าที่ตนทราบไม่เป็นอย่างนั้น และคนที่เขาปล่อยข่าวว่ามาลิดรอนอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ เอาจริงๆ ก็คือลูกน้องคนสำคัญของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น
ส่วนที่นายสมัคร ประกาศโครงการ 116 วัน จากวันแม่สู่วันพ่อนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า สมควรที่จะทำอะไร ที่จะสามารถทำให้คนไทยไม่ต้องเผชิญหน้ากัน และเกิดความสามัคคีกันได้ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำ นายกฯและรัฐบาลเองยิ่งจะต้องช่วยกันทำ แต่ต้องไม่ใช่สักแต่ว่า พูด ต้องทำจริงๆ ไม่ใช่ปากพูดว่าจะให้คนไทยสามัคคีกันแล้วไปยุให้ม็อบมาตีกันเอง อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ดังนั้น นายสมัคร ต้องพิสูจน์ให้คนไทยทั้งประเทศเห็นว่า นายกฯ และครม. ตั้งใจที่จะทำให้เกิดความสมานฉันท์ ไม่ใช่สร้างฉากสร้างภาพ เพราะคนไทยเขาตามทันแล้วเรื่องการสร้างภาพ ซึ่งรัฐบาลต้องพิสูจน์ด้วยการลดเงื่อนไข ที่จะทำให้เกิดความแตกแยกโดยรัฐบาลเสียก่อน เช่น ถ้าประชาชนเห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการแก้ไขที่มุ่งหวังจะช่วยให้เจ้านายของตัวเองพ้นความผิด ไม่ต้องติดคุก หรือพวกตัวเองไม่ต้องถูกดำเนินคดีข้อหาทุจริต หรือการแก้กฎหมายสำคัญของประเทศ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง แล้วประชาชนไม่เห็นด้วยอย่างนี้ ก็ขอให้หยุดแล้วบอกกับประชาชนว่า ไม่ทำแล้วเรื่องนี้ ก็จะสามารถทำให้หยุดชนวนได้
ดังนั้น คิดว่ารัฐบาลควรจะหยุดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยประชุมนี้ โดยไปแก้ในช่วงใกล้หมดอายุรัฐบาล อย่างที่นายสมัครเคยพูดไว้ อย่างนั้นประชาชน ก็คงไม่ว่าอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่าประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) พยายามแก้เกม เพื่อให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะเริ่มแก้เฉพาะที่มาของส.ว.และ ส.ส.ก่อน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีใครเชื่อถ้าจะพูดว่า จะต้องรีบแก้รัฐธรรมนูญมาตราอื่น ที่ไม่ใช่เป็นการช่วยเพื่อพวกพ้องของตัวเองแล้วจะต้องมารีบทำในเวลานี้ ไม่มีใครเชื่อ การที่มารีบแก้รัฐธรรมนูญในเวลานี้ เพราะคดีความทั้งหลายใกล้คุกเข้าไปทุกที จึงต้องรีบเอาตัวรอด และคนเขาก็วิจารณ์กันอย่างนี้ เมื่อถามว่าคิดว่าสภาพการ เมืองต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า การเมืองต้องดูกันทีละวัน เพราะอารมณ์ของนายกฯ และพฤติกรรมของรัฐบาลเป็นอย่างไร ก็มีผลกระทบต่ออารมณ์ของคนไทยไปด้วย จึงต้องดูวันต่อวัน
ต่อข้อถามว่าทำไมอารมณ์ของนายกฯ แปรปรวนค่อนข้างมาก เพราะมีปัจจัยทางการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คงเครียด นายกฯ รู้ปัญหาทั้งหลายดี แต่ทำอะไรไม่ได้ หรือทำไม่ออก ทั้งนี้ไม่เชื่อว่าจะมีความขัดแย้งระหว่างนายกฯ กับเจ้าของพรรคตัวจริง แต่อาจจะไม่พอใจบ้าง แต่คงไม่ถึงขั้นขัดแย้งกัน ต้องดูต่อไปภายในเดือนนี้ เดือนหน้า จะเห็นชัดขึ้นว่าเป็นอย่างไร
ส่วนที่มีการเปิดโปงว่าคนใกล้ชิดนายสมัคร รับเงินเกี่ยวกับเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็สนใจเรื่องนี้ แต่อยากเรียกร้องไปถึงพื่อน ส.ส.ที่ออกมาเปิดโปงว่า ถ้าจะทำเรื่องนี้ในฐานะที่เป็นส.ส.รักษาผลประโยชน์ของประชาชน รักษาความถูกต้อง ควรจะต้องทำให้สิ้นสุดขบวนการ โดยเอาออกมาเปิดเผยให้ชัดเจนแล้วส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ ถ้าทำครึ่งๆกลางๆ จะถูกคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าผิดหวังที่พรรคพวกตัวเองไม่ได้ตำแหน่ง แล้วออกมาตอบโต้กัน
ส่วนที่เกิดความขัดแย้งขึ้นภายในพรรคพลังประชาชนนั้น ตนยังไม่เห็นว่าเขาจะแตกกัน เพราะ วิธีการยึดโยงของเขา ไม่เหมือนกับการยึดโยงกันอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะของเขามีปัจจัยตัวอื่นเป็นตัวยึดเหนี่ยวกันไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่เป็น รมว.มหาดไทยเงา อยากฝากอะไรถึง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทยคนใหม่บ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ที่แล้วมาคนก็วิพากษ์วิจารณ์ พล.ต.อ.โกวิทว่าทำงานไม่เก่ง ไม่ค่อยจะเอาไหน และตนก็รู้สึกอย่างนั้น แต่นั่นเป็นอดีต เมื่อพล.ต.อ.โกวิทมารับตำแหน่งแล้ว ขอให้ท่านฮึดหน่อย มุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้เป็นที่ปรากฎ เอาศักดิ์ศรีเสนาบดีมหาดไทยเป็นที่ตั้ง ลงไปลุยโดยเฉพาะเรื่องปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเป็นหน้าที่ของ รมว.มหาดไทย จะลงไปในพื้นที่ เพราะเมื่อ พล.ต.อ.โกวิท มาเป็นรมว.มหาดไทย ก็มีระเบิดเกิดขึ้นถึง 8 จุด ดังนั้น เมื่อเข้าเฝ้าถวายสัตย์ ปฏิญาณตนแล้ว ก็ต้องลงไปดูพื้นที่ในภาคใต้ ทันที
"ผมติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ คุณเฉลิมแล้ว มีงบประมาณที่เขาขอให้ไปติดตั้งทีวีวงจรปิด ยังไม่ได้มีการติดตั้งครบตามเป้าหมาย ดังนั้น รมว.มหาดไทย คนใหม่ก็ไปติดตั้งเสีย เพราะจุดที่วางระเบิดไม่มีทีวีวงจรปิด จึงทำให้การดำเนินคดีเป็นไปได้ยาก รวมไปถึงชุดเก็บกู้ระเบิด ของเจ้าหน้าที่ หรือหุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด ก็ต้องจัดให้อย่าให้เจ้าหน้าที่ต้องไปเสียชีวิต รวมไปถึงเครื่องตรวจจับระเบิดที่ราคาไม่เท่าไร จริงๆ แล้วทุกสถานีตำรวจควรจะมี เรื่องเหล่านี้ รมว.มหาดไทย ซึ่งเป็นตำรวจเก่าควรจะไปดู รวมไปถึงเรื่องแผนพัฒนาความเป็นอยู่ชีวิตประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยต้องเป็นเจ้าภาพ ไม่อย่างนั้นชีวิตเขาจะดีขึ้นไม่ได้" นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาระบุว่า มีการนำรถโมบายที่ดักฟังโทรศัพท์ที่ใช้ในพื้นที่ภาคใต้ เอามาดักฟังพันธมิตรฯ จึงทำให้ไม่สามารถตัดชนวนระเบิดทั้ง 8 จุดได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจเรื่องนี้ แต่สนใจที่จะติดตามหาข้อมูล เพราะตนเกลียดชังมากกับการไปดักฟังโทรศัพท์ เพราะถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน ถ้ารัฐบาลนี้ไปทำ แล้วเราได้หลักฐานก็ต้องเล่นงานให้เต็มที่ เพราะไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล แต่เป็นเรื่องส่วนตัว และเป็นสิทธิของประชาชนที่จะติดต่อกัน ส่วนกรณีที่จะไปดักฟังผู้กระทำความผิดกฎหมายก็ต้องทำตามกฎหมาย ไม่ใช่เที่ยวไปดักฟังพันธมิตรฯ ดักฟังฝ่ายค้าน อย่างนี้แย่ เลวร้ายมากไม่ควรทำ ถ้าทำก็ต้องเอาผิดให้ได้ อย่างไรก็ตามในตอนนี้ฝ่ายค้านก็รู้สึกว่า ถูกดักฟังเป็นประจำ พวกเขาก็หัวเราะเยาะเราอยู่ แต่จะทำอย่างไรได้ ซึ่งเราจะต้องหาหลักฐานให้ได้ เชื่อว่าวันหนึ่งจะต้องจับได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองท่าทีของรมว.มหาดไทย คนใหม่เมื่อเทียบกับ รมว.มหาดไทย คนเก่าแล้วคาดหวังได้มากแค่ไหน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่กล้าเปรียบเลย และไม่อยากจะซ้ำเติม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไปมากกว่านี้แล้ว แต่ตนฟังจากหลายๆคน ก็ยังไม่เห็นความหวัง ร.ต.อ.เฉลิม งานไม่ทำ แต่ปากดี แต่รมว.มหาดไทยคนใหม่ ท่านพูดไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย แต่ก็ต้องให้โอกาสท่าน ท่านไม่พูด แต่ขอให้ทำก็แล้วกัน ถ้าไม่พูดด้วยไม่ทำด้วย ก็จะแย่กว่าร.ต.อ.เฉลิม ส่วนที่ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่าอีก 5 ปีจะกลับมาใหม่ ตนก็คิดว่ามีสิทธิ์ ถ้าร.ต.อ.เฉลิม พยายาม ซึ่งตนไม่ขอฝากอะไรไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม แต่ขอให้ปลงก็พอ

---------------------
“ชูศักดิ์” ป้อง “ไชยา”ทำถูกต้อง ท้าให้ยื่นถอดถอน เชื่อย้อนหลังไม่ได้
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อสังเกตของบางฝ่ายที่ระบุว่าการ ปรับครม.ครั้งนี้ มีการนำอดีตรัฐมนตรีที่มีปัญหาด้านคุณสมบัติ มาเป็นรัฐมนตรีอีก เช่นนายไชยา สะสมทรัพย์ อดีต รมว.สาธารณสุข ที่กลับมาเป็น รมว.พาณิชย์ จนอาจทำให้พรรคประชาธิปัตย์อาจจะยื่นถอดถอนนายไชยา อีกครั้ง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า นายไชยา คงต้องทำให้ถูกต้อง และต้องเข้าใจว่า สามารถแต่งตั้งนายไชยา เข้ามาเป็นรัฐมนตรีใหม่ได้ เพราะในครั้งนั้นไม่มีการยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง หรือ ตัดสิทธิทางการเมือง อีกทั้งนายไชยา ย้ำว่า เข้าใจกฎหมายผิดในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน และป.ป.ช. ก็ไม่ได้ชี้มูล ซึ่งหากนายไชยา คิดว่ามีความรู้ความสามารถ มันก็อยู่ที่ดุลพินิจของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะยื่นถอดถอนนายไชยา ย้อนหลังได้หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า มันหมดไปแล้ว หากมีการสอบถามเรื่องการตัดสิทธิทางการเมือง มันก็ขึ้นอยู่กับนายไชยา เพราะนายไชยา คิดว่ามันไม่เข้าข่าย และครั้งที่แล้วมันเป็นการเข้าใจผิด และยื่นบัญชีเกินเวลา ครั้งนั้น นายไชยา จึงไม่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินว่า จงใจหรือเจตนาไม่ยื่น หรือยื่นผิดโดยสุจริต มันจึงไม่มีการถอดถอนนายไชยาเกิดขึ้น เมื่อถามว่าจะย้อนกลับไปยื่นถอดถอน นายชายได้อีกหรือไม่ นายชูศักดิ์ ย้อนตอบว่า ไม่รู้ ให้ลองไปยื่นดูแล้วกัน แต่ตนเชื่อว่าทำไม่ได้
กำลังโหลดความคิดเห็น