ส.ส.เพื่อไทย จี้ รมว.ยุติธรรมเร่งสอบดักฟังฮัลโหล พร้อมตีรวนเสนอให้เลื่อนประชุมอาเซียนซัมมิต ป้ายสี “กษิต” จับมือพันธมิตรฯ ยึดสนามบิน เข้าข่ายก่อการร้าย ตีปี๊บประเทศสมาชิกไม่ยอมรับ ปัดสวะให้พ้นตัวเหตุเสื้อแดงปาไข่ใส่“ชวน”
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ และนางนฤมล ธารดำรงค์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าวโดย นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม เร่งดำเนินการสอบสวนเรื่องการดักฟังโทรศัพท์ตามที่ออกมาให้ข่าว เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่และเป็นการกระทำผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญมาตรา 36 ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งตนไม่อยากให้สังคมมองว่าเป็นการให้ร้ายป้ายสี ดังนั้นจะต้องทำให้เกิดความกระจ่าง นอกจากนี้ยังขอร้องให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนออกไปก่อน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ ที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เข้าไปร่วมชุมนุมปิดสนามบินกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งตามหลักสากลถือว่าเป็นการก่อการร้าย
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน นายกษิตยังได้พูดจาต่อว่าสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจนเกิดความเสียหาย และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เคยออกปากขอโทษ จึงมองว่าทางกัมพูชาไม่อยากมาร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าประเทศจีน เวียดนาม ไม่อยากมาร่วมประชุม เพราะสังคมโลกรับไม่ได้กับกระบวนการประชาธิปไตยที่รัฐบาลนี้ได้มาซึ่งอำนาจด้วยวิธีการที่ไม่สง่างาม สังคมโลกจึงยังประชดประชันอยู่
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า จากกรณีที่นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ได้พูดจาถึงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการจังหวัดลำพูนกับลำปาง ในลักษณะอาจมีการทบทวนเรื่องการดำรงตำแหน่งเหล่านั้น อยากให้นายถาวรคำนึงถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 266 และ 268 ด้วยว่า การให้สัมภาษณ์ในลักษณะข่มขู่ข้าราชการอาจเข้าข่ายทำผิดรัฐธรรมนูญได้และฝากถึงข้าราชการทุกคนหากไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกคำสั่งโยกย้ายหรือปลดจากตำแหน่งโดยไม่ชอบธรรมขอให้ร้องเรียนมายัง ส.ส.ฝ่ายค้าน ซึ่งพวกตนจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อนำความยุติธรรมคืนกลับมาให้ทุกคน นอกจากนี้ ในการตั้งตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งมีชื่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.รวมอยู่ด้วย ทั้งที่ยังไม่มีการพิสูจน์ข้อกล่าวหาการทุจริตโครงการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงจนถึงที่สุด จึงเกรงว่านายกรัฐมนตรีอาจจะไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชน จึงควรให้คดีได้ข้อยุติเสียก่อน เพราะหากนายอภิรักษ์ไปให้คำปรึกษาที่ไม่ถูกต้องนายกฯจะเสียหายได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีกลุ่มเสื้อแดงขว้างปาไข่และเลือดหมูใส่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างช่วยลูกพรรคหาเสียงที่จังหวัดลำปาง นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มเสื้อแดง แต่มองว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เหมือนที่กลุ่มคนเสื้อเหลืองดำเนินการมาก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นมองว่าคนไทยชอบทำอะไรเป็นแฟชั่นหรือแห่ตามกัน คนเสื้อเหลืองทำอะไร คนเสื้อแดงก็ทำตาม ซึ่งเป็นการเลียนแบบเหมือนกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ที่โดนปารองเท้าและขวดน้ำใส่
เมื่อถามว่ามีการระบุว่าขบวนการของกลุ่มเสื้อแดงมีนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นคนของพรรคเพื่อไทยอยู่ด้วย จะมีการพูดคุยหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้ามีหลักฐานก็ดำเนินคดีฟ้องร้องได้เลย จะได้ดูว่าตำรวจจะทำอย่างไรบ้างเพราะก่อนหน้านี้ตนกับเพื่อน ส.ส.ก็เคยแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มเสื้อเหลือง แต่จนถึงขณะนี้คดีก็หายเข้ากลีบเมฆหากเลือกปฏิบัติ เลือกที่รักมักที่ชังอย่างนี้ ความปรองดองสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะให้ตนไปห้ามคงไม่ได้ เพราะไม่ได้ข้อเกี่ยวหรือรู้เห็นด้วย กลุ่มคนเหล่านี้เขาก็มีหัวใจ
วันนี้ (7 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ และนางนฤมล ธารดำรงค์ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าวโดย นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม เร่งดำเนินการสอบสวนเรื่องการดักฟังโทรศัพท์ตามที่ออกมาให้ข่าว เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่และเป็นการกระทำผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญมาตรา 36 ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งตนไม่อยากให้สังคมมองว่าเป็นการให้ร้ายป้ายสี ดังนั้นจะต้องทำให้เกิดความกระจ่าง นอกจากนี้ยังขอร้องให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนออกไปก่อน เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ ที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เข้าไปร่วมชุมนุมปิดสนามบินกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งตามหลักสากลถือว่าเป็นการก่อการร้าย
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน นายกษิตยังได้พูดจาต่อว่าสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจนเกิดความเสียหาย และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เคยออกปากขอโทษ จึงมองว่าทางกัมพูชาไม่อยากมาร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าประเทศจีน เวียดนาม ไม่อยากมาร่วมประชุม เพราะสังคมโลกรับไม่ได้กับกระบวนการประชาธิปไตยที่รัฐบาลนี้ได้มาซึ่งอำนาจด้วยวิธีการที่ไม่สง่างาม สังคมโลกจึงยังประชดประชันอยู่
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า จากกรณีที่นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ได้พูดจาถึงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการจังหวัดลำพูนกับลำปาง ในลักษณะอาจมีการทบทวนเรื่องการดำรงตำแหน่งเหล่านั้น อยากให้นายถาวรคำนึงถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 266 และ 268 ด้วยว่า การให้สัมภาษณ์ในลักษณะข่มขู่ข้าราชการอาจเข้าข่ายทำผิดรัฐธรรมนูญได้และฝากถึงข้าราชการทุกคนหากไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกคำสั่งโยกย้ายหรือปลดจากตำแหน่งโดยไม่ชอบธรรมขอให้ร้องเรียนมายัง ส.ส.ฝ่ายค้าน ซึ่งพวกตนจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อนำความยุติธรรมคืนกลับมาให้ทุกคน นอกจากนี้ ในการตั้งตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งมีชื่อนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.รวมอยู่ด้วย ทั้งที่ยังไม่มีการพิสูจน์ข้อกล่าวหาการทุจริตโครงการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงจนถึงที่สุด จึงเกรงว่านายกรัฐมนตรีอาจจะไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชน จึงควรให้คดีได้ข้อยุติเสียก่อน เพราะหากนายอภิรักษ์ไปให้คำปรึกษาที่ไม่ถูกต้องนายกฯจะเสียหายได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีกลุ่มเสื้อแดงขว้างปาไข่และเลือดหมูใส่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างช่วยลูกพรรคหาเสียงที่จังหวัดลำปาง นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มเสื้อแดง แต่มองว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เหมือนที่กลุ่มคนเสื้อเหลืองดำเนินการมาก่อน สิ่งที่เกิดขึ้นมองว่าคนไทยชอบทำอะไรเป็นแฟชั่นหรือแห่ตามกัน คนเสื้อเหลืองทำอะไร คนเสื้อแดงก็ทำตาม ซึ่งเป็นการเลียนแบบเหมือนกรณีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ที่โดนปารองเท้าและขวดน้ำใส่
เมื่อถามว่ามีการระบุว่าขบวนการของกลุ่มเสื้อแดงมีนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นคนของพรรคเพื่อไทยอยู่ด้วย จะมีการพูดคุยหรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้ามีหลักฐานก็ดำเนินคดีฟ้องร้องได้เลย จะได้ดูว่าตำรวจจะทำอย่างไรบ้างเพราะก่อนหน้านี้ตนกับเพื่อน ส.ส.ก็เคยแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มเสื้อเหลือง แต่จนถึงขณะนี้คดีก็หายเข้ากลีบเมฆหากเลือกปฏิบัติ เลือกที่รักมักที่ชังอย่างนี้ ความปรองดองสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้อย่างไร และจะให้ตนไปห้ามคงไม่ได้ เพราะไม่ได้ข้อเกี่ยวหรือรู้เห็นด้วย กลุ่มคนเหล่านี้เขาก็มีหัวใจ