ASTVผู้จัดการรายวัน-ผู้ส่งออกชี้ราคาข้าวส่อแววร่วง หลังยอดส่งออกลดทั้งปริมาณและราคา แถมคู่แข่งทั้งเวียดนามและอินเดียกลับเข้ามาสู่ตลาด ส่งผลให้โอกาสที่ชาวนาจะขายข้าวได้ราคาดีเหมือนปีที่ผ่านมาเป็นไปได้ยาก เตรียมขอหารือ “พรทิวา” กำหนดแนวทางบริหารจัดการข้าว
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ คาดว่าจะลดลงมากทั้งในแง่ปริมาณ และราคา โดยคาดว่าน่าจะมีข้าวส่งออกเพียง 8-8.5 ล้านตันเท่านั้น น้อยกว่าปีที่แล้วที่ส่งออกได้ถึง 10 ล้านตัน หรือหายไป 1-1.5 ล้านตัน ขณะที่มูลค่าการส่งออกน่าจะลดลงด้วยประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือลดจากปีที่แล้วที่ 200,000 ล้านบาท เหลือ 160,000 ล้านบาท ซึ่งอาจกระทบต่อเป้าหมายส่งออกทั้งหมดของรัฐบาลในปีหน้า เพราะตลอดปี 2551 การส่งออกข้าวมีอัตราเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
“ปีหน้าวัฎจักรข้าวจะกลับเข้าสู่ขาลง หลังจากเมื่อต้นปีที่แล้วราคาปรับขึ้นมาก เพราะได้อานิสงค์ จากวิกฤตอาหารโลก ทำให้ทั่วโลกต่างแห่ซื้อข้าวกันมาก และผู้ส่งออกรายใหญ่ ทั้งเวียดนามและอินเดีย ไม่ได้ส่งออกข้าว ทำให้ไทยได้ประโยชน์จากตรงนี้มาก แล้วทำให้ข้าวเกินตันละ 1,000 เหรียญสหรัฐ แต่วันนี้เวียดนามกลับมาส่งออกได้แล้ว และอินเดียจะกลับมาส่งออกได้ปีหน้า ทำให้ไทยกลับมามีคู่แข่งทั้งข้าว 5% และข้าวนึ่ง”นายชูเกียรติกล่าว
ขณะเดียวกันมูลค่าการค้าข้าวทั่วโลกในปีนี้จะลดลง จากปีที่ผ่านมา มีการซื้อขายกัน 30 ล้านตัน จะเหลือเพียง 28 ล้านตัน เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้หลายตลาดซื้อข้าวสต็อกไว้ลดลง ประกอบกับหลายประเทศเริ่มหันมาปลูกข้าวเอง และลดการนำเข้าข้าว เช่น อินโดนีเซีย ทำให้มูลค่าค้าข้าวลดลง แม้ความต้องการบริโภคจากทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
นายชูเกียรติกล่าวว่า ราคาข้าวจะกลับมาต่ำอีกครั้ง และจะไม่เห็นราคาขึ้นไปเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐ เพราะตอนนี้เวียดนามนำข้าว 5% ออกมาขายเพียงตันละ 400 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ต่ำกว่าข้าวไทยที่ขาย ณ วันที่ 24 ธ.ค.ตันละ 569 เหรียญสหรัฐ ซึ่งราคาข้าวของเวียดนามที่ถูกกว่ามากจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกไทย เนื่องจากที่ผ่านมาข้าวไทยกับเวียดนาม มีส่วนต่างเพียง 20-30 เหรียญสหรัฐ แต่ขณะนี้กลับห่างเกิน 100 เหรียญสหรัฐ
“คาดว่ารัฐบาลต้องแบกภาระรับจำนำข้าวอีกมาก เพราะเอกชนคงเข้าไปซื้อข้าวจากชาวนาน และโรงสีไม่ได้มาก เพราะคำสั่งซื้อข้าวจากต่างชาติที่มีเข้ามามีไม่มาก ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องบริหารข้าวให้ดี ทั้งในแง่ของการจำนำข้าว และการระบายข้าวออก โดยการรับจำนำควรตั้งอยู่บนพื้นฐานที่แท้จริง อย่าหวังผลทางการเมืองมากจนทำให้ตลาดเสียหาย เพราะการรับจำนำราคาสูงโอเว่อร์ ในสมัยที่ผ่านมา ก็ทำให้ระบบเสียหายถึงวันนี้ และเร็วๆ นี้ สมาคมฯ จะขอเข้าหารือกับนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เพื่อเสนอและรับทราบแนวทางบริหารข้าว”นายชูเกียรติกล่าว
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ คาดว่าจะลดลงมากทั้งในแง่ปริมาณ และราคา โดยคาดว่าน่าจะมีข้าวส่งออกเพียง 8-8.5 ล้านตันเท่านั้น น้อยกว่าปีที่แล้วที่ส่งออกได้ถึง 10 ล้านตัน หรือหายไป 1-1.5 ล้านตัน ขณะที่มูลค่าการส่งออกน่าจะลดลงด้วยประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือลดจากปีที่แล้วที่ 200,000 ล้านบาท เหลือ 160,000 ล้านบาท ซึ่งอาจกระทบต่อเป้าหมายส่งออกทั้งหมดของรัฐบาลในปีหน้า เพราะตลอดปี 2551 การส่งออกข้าวมีอัตราเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
“ปีหน้าวัฎจักรข้าวจะกลับเข้าสู่ขาลง หลังจากเมื่อต้นปีที่แล้วราคาปรับขึ้นมาก เพราะได้อานิสงค์ จากวิกฤตอาหารโลก ทำให้ทั่วโลกต่างแห่ซื้อข้าวกันมาก และผู้ส่งออกรายใหญ่ ทั้งเวียดนามและอินเดีย ไม่ได้ส่งออกข้าว ทำให้ไทยได้ประโยชน์จากตรงนี้มาก แล้วทำให้ข้าวเกินตันละ 1,000 เหรียญสหรัฐ แต่วันนี้เวียดนามกลับมาส่งออกได้แล้ว และอินเดียจะกลับมาส่งออกได้ปีหน้า ทำให้ไทยกลับมามีคู่แข่งทั้งข้าว 5% และข้าวนึ่ง”นายชูเกียรติกล่าว
ขณะเดียวกันมูลค่าการค้าข้าวทั่วโลกในปีนี้จะลดลง จากปีที่ผ่านมา มีการซื้อขายกัน 30 ล้านตัน จะเหลือเพียง 28 ล้านตัน เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้หลายตลาดซื้อข้าวสต็อกไว้ลดลง ประกอบกับหลายประเทศเริ่มหันมาปลูกข้าวเอง และลดการนำเข้าข้าว เช่น อินโดนีเซีย ทำให้มูลค่าค้าข้าวลดลง แม้ความต้องการบริโภคจากทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
นายชูเกียรติกล่าวว่า ราคาข้าวจะกลับมาต่ำอีกครั้ง และจะไม่เห็นราคาขึ้นไปเกิน 1,000 เหรียญสหรัฐ เพราะตอนนี้เวียดนามนำข้าว 5% ออกมาขายเพียงตันละ 400 เหรียญสหรัฐเท่านั้น ต่ำกว่าข้าวไทยที่ขาย ณ วันที่ 24 ธ.ค.ตันละ 569 เหรียญสหรัฐ ซึ่งราคาข้าวของเวียดนามที่ถูกกว่ามากจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกไทย เนื่องจากที่ผ่านมาข้าวไทยกับเวียดนาม มีส่วนต่างเพียง 20-30 เหรียญสหรัฐ แต่ขณะนี้กลับห่างเกิน 100 เหรียญสหรัฐ
“คาดว่ารัฐบาลต้องแบกภาระรับจำนำข้าวอีกมาก เพราะเอกชนคงเข้าไปซื้อข้าวจากชาวนาน และโรงสีไม่ได้มาก เพราะคำสั่งซื้อข้าวจากต่างชาติที่มีเข้ามามีไม่มาก ดังนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องบริหารข้าวให้ดี ทั้งในแง่ของการจำนำข้าว และการระบายข้าวออก โดยการรับจำนำควรตั้งอยู่บนพื้นฐานที่แท้จริง อย่าหวังผลทางการเมืองมากจนทำให้ตลาดเสียหาย เพราะการรับจำนำราคาสูงโอเว่อร์ ในสมัยที่ผ่านมา ก็ทำให้ระบบเสียหายถึงวันนี้ และเร็วๆ นี้ สมาคมฯ จะขอเข้าหารือกับนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เพื่อเสนอและรับทราบแนวทางบริหารข้าว”นายชูเกียรติกล่าว