ฟุตบอลอาเซียนคัพรอบชิงชนะเลิศนัดแรกระหว่าง ไทย - เวียดนามจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทีมชาติไทยด้วยผลงาน 1-2 ประตูต่อหน้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬาถึงริมขอบสนามรัชมังคลากีฬาสถาน ส่งผลให้เกมรอบชิงชนะเลิศนัดที่สองซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 51 ขุนพลลูกหนังไทยต้องพบกับงานหนักเนื่องจากต้องเดินทางไปแข่งขันนัดตัดสินที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามและต้องชนะเพียงประการเดียวเพื่อคว้าตำแหน่งแชมป์
ฟุตบอลอาเซียนคัพรอบชิงชนะเลิศนัดแรกระหว่าง ไทย - เวียดนามจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทีมชาติไทยด้วยผลงาน 1-2 ประตูต่อหน้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬาถึงริมขอบสนามรัชมังคลากีฬาสถาน ส่งผลให้เกมรอบชิงชนะเลิศนัดที่สองซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 51 ขุนพลลูกหนังไทยต้องพบกับงานหนักเนื่องจากต้องเดินทางไปแข่งขันนัดตัดสินที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามและต้องชนะเพียงประการเดียวเพื่อคว้าตำแหน่งแชมป์
ศึกลูกหนังชิงแชมป์อาเซียนที่ดำเนินการแข่งขันมาถึงรอบชิงชนะเลิศนัดแรกเมื่อวันพุธที่ 24 ธันวาคม 51 ทีมชาติไทยที่โชว์ฟอร์มมาดีตั้งแต่รอบแรกลงสนามพบกับทีมชาติเวียดนาม ณ สนามรัชมังคลากีฬาสถาน โดยการแข่งขันนัดนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินทางมาร่วมให้กำลังใจขุนพลลูกหนังไทยด้วยตนเอง
โดยนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทยเดินทางมาถึงสนามแข่งในเวลาประมาณ 18.30 น. พร้อมสวมเสื้อเชียร์ทีมชาติไทยสีเหลืองหมายเลข 27 ทับด้วยสูทสีดำเดินเข้าสู่สนามท่ามกลางการอารักขาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ระดมกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา ขณะที่ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต่างตบเท้าให้การต้อนรับพร้อมหน้านำโดย นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วยนายกนกพันธ์ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งนี้นายอภิสิทธิ ได้กล่าวกับขุนพลลูกหนังไทยว่า "ขอให้ทุกคนเล่นเต็มที่นานๆจะได้มีโอกาสมาเชียร์ถึงขอบสนาม" จากนั้นได้เดินลงสนามทักทายกับนักเตะทั้งสองทีม
เกมการแข่งขันในนัดนี้ปีเตอร์ รีด กุนซือชาวอังกฤษ จัดทัพนักเตะสยามชุดใหญ่ ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ โดยปรับทัพจากชุดที่เอาชนะอินโดนีเซีย 3 ตำแหน่ง ด้วยการส่ง โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และ สุธี สุขสมกิจ ลงแทน กิตติศักดิ์ ระวังป่า ,สุเชาว์ นุชนุ่ม และอาทิตย์ สุนทรพิตร เมื่อเกมครึ่งแรกเริ่มต้นเพียงสองนาทีนักเตะไทยมีโอกาสทำประตูก่อนจากลูกยิงซ้ายเต็มข้อของ สุธี สุขสมกิจ แต่บอลไปติดกองกลังเวียดนามออกข้างสนามไป ถึงนาที่ที่ 13 ไทยชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เมื่อสุธี สุขสมกิจ ได้ขึ้นโขกบอลโล่งๆจากลูกเปิดทางกราบขวา แต่ ด๊ก ฮง ซุน นายด่านเวียดนาม ปัดออกหลังออกหลังได้อย่างเหลือเชื่อจากนั้นในจังหวะเตะมุม ไทยก็เกือบขึ้นนำอีกครั้งแต่ลูกโหม่งของชลทิตย์ จันทคาม หลุดออกหลังไปแบบได้ลุ้น
ในช่วงท้ายของครึ่งแรกทีมไทยที่บุกเพลินต้องเจอกับจังหวะสวนกลับของเวียดนามเมื่อ เล คอง มิน ขึ้นเกมทางซ้าย เปิดโค้งบอลเข้าศีรษะ เหงียด เวียด ทัง โหม่งบอลตุงตาข่าย หมดปัญญาที่ โกสินทร์ หทัยรัตนกุล จะเซฟได้ เวียดนาขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 40 จากนั้นอีกเพียงสองนาทีแฟนลูกหนังไทยต้องพบกับฝันร้ายเมื่อ เหงียด เวียด ทัง ได้บอลหลุดเดี่ยวจากกลางสนาม เข้าไปดวดเดี่ยวกับโกสินทร์ ก่อนจะไหลให้ เล คอง มิน ซัดเข้าประตูส่งผลให้หมดครึ่งแรกไทยตามเวียดนามอยู่ 0-2 ประตู
เปิดฉากครึ่งหลัง ปีเตอร์ รีด ปรับเกมส่ง อาทิตย์ สุนทรพิตรลงสนามแทนที่ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว จากนั้นขุนพลลูกหนังไทยเปิดเกมบุกหวังทำประตูเสมอแต่ก็พลาดในจังหวะสุดท้ายทุกครั้งจนมาสัมฤทธิ์ผลในนาทีที่ 75 หลังส่งรณชัย รังสิโย กองหน้าดาวรุ่ง ลงเล่นแทน ธีรเทพ วิโนทัย และเพียงสัมผัสแรกของรณชัย ก็ทำให้คนไทยทั้งประเทศเฮกันลั่นเมื่อโหม่งบอลจากลูกเปิดของสุธี สุขสมกิจ ถูกขาด๊ก ฮง ซุน เข้าประตูไปส่งให้ไทยไล่ตาม 1-2 ประตู
จากนั้นอีกเพียงสองนาทีสกอร์การแข่งขันเกือบขยับ เมื่อ ณัฐพงษ์ เปิดบอลจากราบซ้าย บอลหลุดมาถึงธีรศิลป์ วิ่งเข้าแปตุงตาข่าย แต่ทว่า ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงว่า ธีรศิลป์ ล้ำหน้าในจังหวะนี้ ทำเอาแฟนบอลในราชมังคลากีฬาสถานเฮเก้อกันทั้งสนามในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งหลังทีมลูกหนังไทยแทบพับสนามบุกแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แม้ต่อเวลาไปอีก 4 นาทีส่งผลให้การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนัดแรกของฟุตบอลอาเซียนคัพ ไทยถูกเวียดนามบุกมาเอาชนะไปได้ 1-2 ประตูและนัดที่สองในวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 51ทีมไทยต้องชนะเพียงสถานเดียวจึงจะมีสิทธิคว้าแชมป์รายการนี้ ทางด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเดินทางกลับทันทีหลังจบการแข่งขันได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "ตอนนี้เรายังไม่แพ้แค่ผ่านครึ่งทางเท่านั้นเอง ถ้าตั้งใจเล่นแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเหมือนวันนี้ ผมเชื่อว่าเราบุกไปชนะได้แน่ ส่วนสองประตูที่เสียไปเพราะนักเตะขาดสมาธิเพียงครู่เดียว รวมถึงกดดันตัวเองมากไป กลับกันหากไปเล่นที่ เวียดนาม ทางนั้นน่าจะกดดันตัวเองบ้างเหมือนกัน"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารูปเกมเป็นเช่นนี้นัดที่สองไทย จะบุกไปเอาชนะ เวียดนาม ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทยกล่าวว่า "เราต้องยิงหนึ่งประตูให้เร็วที่สุด และต้องเดินหน้ากันต่อไป เสียดายลูกล้ำหน้ากรรมการไม่ให้เป็นประตู ทำให้เกมรุกของเราชะงักไปไม่ไหลลื่นเหมือนช่วงแรก" สุดท้ายเมื่อถูกถามถึงข้อบกพร่องของทีมไทยในนัดนี้นาย
อภิสิทธิ์เผยว่า "ผมไม่ใช่ผู้จัดการทีมมืออาชีพ แต่เชื่อแน่ว่า ปีเตอร์ รีด คงเห็นปัญหาและแก้ไขได้สุดท้ายผมยังเป็นกำลังใจให้เสมอ และเชื่อว่าคนไทยทุกคนก็เป็นกำลังใจให้เช่นเดียวกัน นัดสองขอให้ทำเต็มที่"
ฟุตบอลอาเซียนคัพรอบชิงชนะเลิศนัดแรกระหว่าง ไทย - เวียดนามจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทีมชาติไทยด้วยผลงาน 1-2 ประตูต่อหน้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬาถึงริมขอบสนามรัชมังคลากีฬาสถาน ส่งผลให้เกมรอบชิงชนะเลิศนัดที่สองซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 51 ขุนพลลูกหนังไทยต้องพบกับงานหนักเนื่องจากต้องเดินทางไปแข่งขันนัดตัดสินที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามและต้องชนะเพียงประการเดียวเพื่อคว้าตำแหน่งแชมป์
ศึกลูกหนังชิงแชมป์อาเซียนที่ดำเนินการแข่งขันมาถึงรอบชิงชนะเลิศนัดแรกเมื่อวันพุธที่ 24 ธันวาคม 51 ทีมชาติไทยที่โชว์ฟอร์มมาดีตั้งแต่รอบแรกลงสนามพบกับทีมชาติเวียดนาม ณ สนามรัชมังคลากีฬาสถาน โดยการแข่งขันนัดนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เดินทางมาร่วมให้กำลังใจขุนพลลูกหนังไทยด้วยตนเอง
โดยนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทยเดินทางมาถึงสนามแข่งในเวลาประมาณ 18.30 น. พร้อมสวมเสื้อเชียร์ทีมชาติไทยสีเหลืองหมายเลข 27 ทับด้วยสูทสีดำเดินเข้าสู่สนามท่ามกลางการอารักขาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ระดมกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา ขณะที่ผู้บริหารสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต่างตบเท้าให้การต้อนรับพร้อมหน้านำโดย นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วยนายกนกพันธ์ ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งนี้นายอภิสิทธิ ได้กล่าวกับขุนพลลูกหนังไทยว่า "ขอให้ทุกคนเล่นเต็มที่นานๆจะได้มีโอกาสมาเชียร์ถึงขอบสนาม" จากนั้นได้เดินลงสนามทักทายกับนักเตะทั้งสองทีม
เกมการแข่งขันในนัดนี้ปีเตอร์ รีด กุนซือชาวอังกฤษ จัดทัพนักเตะสยามชุดใหญ่ ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ โดยปรับทัพจากชุดที่เอาชนะอินโดนีเซีย 3 ตำแหน่ง ด้วยการส่ง โกสินทร์ หทัยรัตนกุล, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และ สุธี สุขสมกิจ ลงแทน กิตติศักดิ์ ระวังป่า ,สุเชาว์ นุชนุ่ม และอาทิตย์ สุนทรพิตร เมื่อเกมครึ่งแรกเริ่มต้นเพียงสองนาทีนักเตะไทยมีโอกาสทำประตูก่อนจากลูกยิงซ้ายเต็มข้อของ สุธี สุขสมกิจ แต่บอลไปติดกองกลังเวียดนามออกข้างสนามไป ถึงนาที่ที่ 13 ไทยชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เมื่อสุธี สุขสมกิจ ได้ขึ้นโขกบอลโล่งๆจากลูกเปิดทางกราบขวา แต่ ด๊ก ฮง ซุน นายด่านเวียดนาม ปัดออกหลังออกหลังได้อย่างเหลือเชื่อจากนั้นในจังหวะเตะมุม ไทยก็เกือบขึ้นนำอีกครั้งแต่ลูกโหม่งของชลทิตย์ จันทคาม หลุดออกหลังไปแบบได้ลุ้น
ในช่วงท้ายของครึ่งแรกทีมไทยที่บุกเพลินต้องเจอกับจังหวะสวนกลับของเวียดนามเมื่อ เล คอง มิน ขึ้นเกมทางซ้าย เปิดโค้งบอลเข้าศีรษะ เหงียด เวียด ทัง โหม่งบอลตุงตาข่าย หมดปัญญาที่ โกสินทร์ หทัยรัตนกุล จะเซฟได้ เวียดนาขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 40 จากนั้นอีกเพียงสองนาทีแฟนลูกหนังไทยต้องพบกับฝันร้ายเมื่อ เหงียด เวียด ทัง ได้บอลหลุดเดี่ยวจากกลางสนาม เข้าไปดวดเดี่ยวกับโกสินทร์ ก่อนจะไหลให้ เล คอง มิน ซัดเข้าประตูส่งผลให้หมดครึ่งแรกไทยตามเวียดนามอยู่ 0-2 ประตู
เปิดฉากครึ่งหลัง ปีเตอร์ รีด ปรับเกมส่ง อาทิตย์ สุนทรพิตรลงสนามแทนที่ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว จากนั้นขุนพลลูกหนังไทยเปิดเกมบุกหวังทำประตูเสมอแต่ก็พลาดในจังหวะสุดท้ายทุกครั้งจนมาสัมฤทธิ์ผลในนาทีที่ 75 หลังส่งรณชัย รังสิโย กองหน้าดาวรุ่ง ลงเล่นแทน ธีรเทพ วิโนทัย และเพียงสัมผัสแรกของรณชัย ก็ทำให้คนไทยทั้งประเทศเฮกันลั่นเมื่อโหม่งบอลจากลูกเปิดของสุธี สุขสมกิจ ถูกขาด๊ก ฮง ซุน เข้าประตูไปส่งให้ไทยไล่ตาม 1-2 ประตู
จากนั้นอีกเพียงสองนาทีสกอร์การแข่งขันเกือบขยับ เมื่อ ณัฐพงษ์ เปิดบอลจากราบซ้าย บอลหลุดมาถึงธีรศิลป์ วิ่งเข้าแปตุงตาข่าย แต่ทว่า ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงว่า ธีรศิลป์ ล้ำหน้าในจังหวะนี้ ทำเอาแฟนบอลในราชมังคลากีฬาสถานเฮเก้อกันทั้งสนามในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งหลังทีมลูกหนังไทยแทบพับสนามบุกแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ แม้ต่อเวลาไปอีก 4 นาทีส่งผลให้การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนัดแรกของฟุตบอลอาเซียนคัพ ไทยถูกเวียดนามบุกมาเอาชนะไปได้ 1-2 ประตูและนัดที่สองในวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 51ทีมไทยต้องชนะเพียงสถานเดียวจึงจะมีสิทธิคว้าแชมป์รายการนี้ ทางด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเดินทางกลับทันทีหลังจบการแข่งขันได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า "ตอนนี้เรายังไม่แพ้แค่ผ่านครึ่งทางเท่านั้นเอง ถ้าตั้งใจเล่นแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเหมือนวันนี้ ผมเชื่อว่าเราบุกไปชนะได้แน่ ส่วนสองประตูที่เสียไปเพราะนักเตะขาดสมาธิเพียงครู่เดียว รวมถึงกดดันตัวเองมากไป กลับกันหากไปเล่นที่ เวียดนาม ทางนั้นน่าจะกดดันตัวเองบ้างเหมือนกัน"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารูปเกมเป็นเช่นนี้นัดที่สองไทย จะบุกไปเอาชนะ เวียดนาม ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของไทยกล่าวว่า "เราต้องยิงหนึ่งประตูให้เร็วที่สุด และต้องเดินหน้ากันต่อไป เสียดายลูกล้ำหน้ากรรมการไม่ให้เป็นประตู ทำให้เกมรุกของเราชะงักไปไม่ไหลลื่นเหมือนช่วงแรก" สุดท้ายเมื่อถูกถามถึงข้อบกพร่องของทีมไทยในนัดนี้นาย
อภิสิทธิ์เผยว่า "ผมไม่ใช่ผู้จัดการทีมมืออาชีพ แต่เชื่อแน่ว่า ปีเตอร์ รีด คงเห็นปัญหาและแก้ไขได้สุดท้ายผมยังเป็นกำลังใจให้เสมอ และเชื่อว่าคนไทยทุกคนก็เป็นกำลังใจให้เช่นเดียวกัน นัดสองขอให้ทำเต็มที่"