พบบริษัทคู่สัญญาฮุบงานประชาสัมพันธ์ สตช.ยุค “พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” ส่อทุจริตตามผลสรุปการสอบสวน ที่แท้เป็นบริษัทลิ่วล้อของพี่ชาย “พล.อ.ประวิตร” นั่นเอง แฉส่วนแบ่งผลประโยชน์เงินงบประมาณวัดครึ่งกรรมการครึ่ง ด้าน “พัชรวาท” ปัดเป็นเรื่องเก่า แต่หากถูกแจ้ง ก็พร้อมไปให้ปากคำ
จากกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ย้ายกลับเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร.โดยถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความไม่เหมาะสม ทั้งจากการมีรายชื่อเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหน้ารัฐสภาจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และการถูกสอบกรณีทุจริตตามที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยในรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี NEWS1 เมื่อคืนวันจันทร์ (22 ธ.ค.) ที่ผ่านมานั้น
โดยในประเด็นหลังมีหลักฐานยืนยัน จากเอกสารเป็นบันทึกสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 19 ธ.ค. 2551 ถึงนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ลงชื่อ นายสุพล ฟองงาม รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ระบุถึงสาเหตุที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ถูกย้ายเข้าช่วยราชการสำนักนายกฯ ก่อนหน้านี้ พร้อมเสนอให้นายอภิสิทธิ์ ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.พัชรวาท โดยมีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธาน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2551 สมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร.ได้รับหนังสือร้องเรียนมาจากคนที่เข้าประมูลงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวน ปรากฏว่ามีความผิดจริง ต่อมาจึงเสนอต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งเพิ่งจะย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกไป และเพิ่งตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท เป็น ผบ.ตร.
แฉสายสัมพันธ์ “ประวิตร” ฮุบงาน สตช.
อย่างไรก็ตาม กรณีทุจริตโครงการดำเนินการจัดจ้างโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่บริษัท เอ็นเอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด ได้รับงานไปทั้งหมด จากการตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูง พบว่า เส้นทางการทำธุรกิจของบริษัทดังกล่าว เริ่มจากการมีสายสัมพันธ์กับกองทัพมาเป็นเวลานานหลายปี โดยเฉพาะเติบโตอย่างมาก ในยุคที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ชาย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บริษัทฯนี้ ผูกขาดเวลาของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ทั้งในวันปกติและวันหยุดราชการ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน บริษัทฯดังกล่าว มีรายการข่าวเช้า ข่าวเที่ยง ข่าวค่ำ และข่าวดึก รวมทั้งรายการพิเศษต่างๆ ในช่อง 5
จากนั้นบริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด ที่มีนายสุรศักดิ์ มุกประดับ เป็นกรรมการบริษัทฯ(ดูรายละเอียด)ได้เกาะสายอำนาจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาโดยตลอดจนกระทั่งเข้ามารับงานการจัดจ้างโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในสมัยที่ พล.ต.ท.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ (ยศขณะนั้น) ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝ่ายบริหาร (ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร.1) ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่า มี พล.อ.ประวิตร เป็นผู้แนะนำ
แบ่งปันผลประโยชน์ 50:50
นอกจากนั้น เมื่อผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการรายวัน ได้สอบถามไปยังบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการรับงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้กับหน่วยราชการ ทราบว่าในเรื่องการจัดการแบ่งปันผลประโยชน์ ระหว่างบริษัทผู้รับงานกับ ผู้อนุมัติงบประมาณในแต่ละโครงการนั้น พบว่าจะมีอัตราที่แน่นอน คือ ถ้าหากเป็นการจัดซื้อ จัดจ้างในแบบวิธีพิเศษ ก็จะมีการแบ่งปันกันในอัตรส่วน 50 ต่อ 50 หรือ วัดครึ่ง กรรมการครึ่ง นั่นเอง แต่ในวิธีปกติ ผู้อนุมัติจะได้ส่วนแบ่งจากงบประมาณ 30%
ดังนั้น ในกรณีการอนุมัติงบประมาณงานการจัดจ้างโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร.,พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.(ขณะนั้น) และพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผู้บัญชาการประจำ ตร.(ขณะนั้น) โดยที่ พล.ต.ท.บุญเรือง เป็นประธานคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ โดยที่บริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด งานตำรวจแห่งชาติ ในครั้งนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะมีการแบ่งปันผลประโยชน์กันหรือไม่
“พัชรวาท” ปากแข็งแต่พร้อมให้ปากคำ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่การตั้งกรรมการสืบสวนกรณีจัดจ้างการผลิตรายการโทรทัศน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยวิธีพิเศษว่า เรื่องนี้อ่านจากหนังสือพิมพ์ ถ้าจะมีการตั้งกรรมการต้องแจ้งผู้ถูกตั้ง ตนเข้าใจว่าคงไม่มี และอ่านจากหนังสือพิมพ์ก็ระบุว่าเหตุเกิดเมื่อปี 2548 แต่ปีนี้ปี 2551
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตามข่าวเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นายสุพล ฟองงาม อดีตรัฐมนตรีประจาสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือถือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สรุปว่ามีการกล่าวหาว่า พล.ต.อ.พัชรวาท และพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำผิดวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ดูจากหนังสือพิมพ์แต่ยังไม่รู้เรื่อง เมื่อถามว่าถ้ามีเรื่องแจ้งเข้ามาก็ต้องไปให้ปากคำใช่ไหม พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า รอเขาสั่งก่อน เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย ไม่มีปัญหาอะไรหรอก
“บุญเรือง-พัชรวาท” แน่นแฟ้นลึกซึ้ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิช ผู้ช่วยผบ.ตร.(ขณะนั้น) และเป็นประธานคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ที่ถูกกล่าวหาว่า อาจมีส่วนทุจริตนั้น พบว่าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ว่ากันว่า ในจำนวนนรต.25 นั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กับ พล.ต.ท.บุญเรือง มีความสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ เรียกว่าเป็นเพื่อนซี้ย่ำบึ๊ก เมื่อ พล.ต.ท.พัชรวาท ก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งรองผบ.ตร.จนเป็นผบ.ตร. พล.ต.ท.บุญเรือง เปรียบเสมือนเป็นแม่บ้าน หรือเสนาธิการคนสำคัญของ พล.ต.ท.พัชรวาท ก็ว่าได้ โดย คอยจัดการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างที่ พล.ต.อ.พัชรวาท รับผิดชอบในสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งหมด
นอกจากนี้ เมื่อครั้งการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจครั้งที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า พล.ต.ท.บุญเรือง ยังมีบทบาทอย่างสูงในการเข้าไปดูแลการแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าว เนื่องจากได้รับความไว้วางใจจาก พล.ต.อ.พัชรวาท นั่นเอง
นอกจากนั้น เมื่อครั้งที่ พล.ต.ท.บุญเรือง ดำรงตำแหน่งเป็นผบช.สตม.นั้น ปรากฏว่า พล.ต.ท.บุญเรือง ถูกคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการในพื้นที่ 3 จัดหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในการสั่งย้ายนายตำรวจระดับผบช.นั้น จะต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.เสียก่อน ซึ่งในวันที่มีการโหวต ด้วยการยกมือเพื่อขอมติให้ พล.ต.ท.บุญเรือง ไปช่วยราชการยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ในที่ประชุม ก.ตร. มีคณะกรรมการที่เป็นเพื่อน นรต.25 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.บุญเรือง อยู่ด้วยหลายนาย อาทิ พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผบ.ตร.และพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ โดยมีเพียง พล.ต.อ.พัชรวาท เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่กล้ายกมือคัดค้านการส่งตัว พล.ต.ท.บุญเรือง ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เปิดปูมบริษัทคู่ขาพัชรวาท
บริษัท เอ็นเอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านการผลิต รายการโทรทัศน์ ขายเวลาโฆษณาทางโทรทัศน์ งานถ่ายทอดสดรายการกีฬา ปัจจุบันรับงานในช่อง 5 กองทัพบกอยู่หลายช่วงเวลา มีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 17 ซอยกิ่งชำนาญอักษร ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ก่อตั้งเมื่อ 4 เมษายน 2543 ทุนจดทะเบียน10ล้านบาท จำนวนพนักงาน 30 คนโดย “เสี่ยเปี๊ยก” นาย สุรศักดิ์ มุกประดับ เป็น กรรมการผู้จัดการ
จากงบกำไรขาดทุนซึ่งแจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ปีที่แล้วบริษัทมีรายได้ 145.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2549 ที่มีรายได้เพียง 23.15 ล้านบาท แต่เมื่อหักรายจ่ายแล้วบริษัทขาดทุน 2.36 ล้านบาท ขณะที่ตามงบดุลสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 บริษัทสินทรัพย์รวม 62.14 ล้านบาท ส่วนหนี้สินมีจำนวนรวม 52.84 ล้านบาท
จากกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ย้ายกลับเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร.โดยถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความไม่เหมาะสม ทั้งจากการมีรายชื่อเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหน้ารัฐสภาจนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และการถูกสอบกรณีทุจริตตามที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยในรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี NEWS1 เมื่อคืนวันจันทร์ (22 ธ.ค.) ที่ผ่านมานั้น
โดยในประเด็นหลังมีหลักฐานยืนยัน จากเอกสารเป็นบันทึกสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 19 ธ.ค. 2551 ถึงนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ลงชื่อ นายสุพล ฟองงาม รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ระบุถึงสาเหตุที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ถูกย้ายเข้าช่วยราชการสำนักนายกฯ ก่อนหน้านี้ พร้อมเสนอให้นายอภิสิทธิ์ ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.พัชรวาท โดยมีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธาน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2551 สมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร.ได้รับหนังสือร้องเรียนมาจากคนที่เข้าประมูลงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวน ปรากฏว่ามีความผิดจริง ต่อมาจึงเสนอต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งเพิ่งจะย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกไป และเพิ่งตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท เป็น ผบ.ตร.
แฉสายสัมพันธ์ “ประวิตร” ฮุบงาน สตช.
อย่างไรก็ตาม กรณีทุจริตโครงการดำเนินการจัดจ้างโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่บริษัท เอ็นเอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด ได้รับงานไปทั้งหมด จากการตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูง พบว่า เส้นทางการทำธุรกิจของบริษัทดังกล่าว เริ่มจากการมีสายสัมพันธ์กับกองทัพมาเป็นเวลานานหลายปี โดยเฉพาะเติบโตอย่างมาก ในยุคที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ชาย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) บริษัทฯนี้ ผูกขาดเวลาของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ทั้งในวันปกติและวันหยุดราชการ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน บริษัทฯดังกล่าว มีรายการข่าวเช้า ข่าวเที่ยง ข่าวค่ำ และข่าวดึก รวมทั้งรายการพิเศษต่างๆ ในช่อง 5
จากนั้นบริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด ที่มีนายสุรศักดิ์ มุกประดับ เป็นกรรมการบริษัทฯ(ดูรายละเอียด)ได้เกาะสายอำนาจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาโดยตลอดจนกระทั่งเข้ามารับงานการจัดจ้างโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในสมัยที่ พล.ต.ท.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ (ยศขณะนั้น) ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝ่ายบริหาร (ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร.1) ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่า มี พล.อ.ประวิตร เป็นผู้แนะนำ
แบ่งปันผลประโยชน์ 50:50
นอกจากนั้น เมื่อผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการรายวัน ได้สอบถามไปยังบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการรับงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้กับหน่วยราชการ ทราบว่าในเรื่องการจัดการแบ่งปันผลประโยชน์ ระหว่างบริษัทผู้รับงานกับ ผู้อนุมัติงบประมาณในแต่ละโครงการนั้น พบว่าจะมีอัตราที่แน่นอน คือ ถ้าหากเป็นการจัดซื้อ จัดจ้างในแบบวิธีพิเศษ ก็จะมีการแบ่งปันกันในอัตรส่วน 50 ต่อ 50 หรือ วัดครึ่ง กรรมการครึ่ง นั่นเอง แต่ในวิธีปกติ ผู้อนุมัติจะได้ส่วนแบ่งจากงบประมาณ 30%
ดังนั้น ในกรณีการอนุมัติงบประมาณงานการจัดจ้างโฆษณาและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร.,พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.(ขณะนั้น) และพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผู้บัญชาการประจำ ตร.(ขณะนั้น) โดยที่ พล.ต.ท.บุญเรือง เป็นประธานคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ โดยที่บริษัท เอ็น เอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด งานตำรวจแห่งชาติ ในครั้งนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะมีการแบ่งปันผลประโยชน์กันหรือไม่
“พัชรวาท” ปากแข็งแต่พร้อมให้ปากคำ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่การตั้งกรรมการสืบสวนกรณีจัดจ้างการผลิตรายการโทรทัศน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยวิธีพิเศษว่า เรื่องนี้อ่านจากหนังสือพิมพ์ ถ้าจะมีการตั้งกรรมการต้องแจ้งผู้ถูกตั้ง ตนเข้าใจว่าคงไม่มี และอ่านจากหนังสือพิมพ์ก็ระบุว่าเหตุเกิดเมื่อปี 2548 แต่ปีนี้ปี 2551
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตามข่าวเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นายสุพล ฟองงาม อดีตรัฐมนตรีประจาสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือถือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สรุปว่ามีการกล่าวหาว่า พล.ต.อ.พัชรวาท และพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และกระทำผิดวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ดูจากหนังสือพิมพ์แต่ยังไม่รู้เรื่อง เมื่อถามว่าถ้ามีเรื่องแจ้งเข้ามาก็ต้องไปให้ปากคำใช่ไหม พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า รอเขาสั่งก่อน เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย ไม่มีปัญหาอะไรหรอก
“บุญเรือง-พัชรวาท” แน่นแฟ้นลึกซึ้ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิช ผู้ช่วยผบ.ตร.(ขณะนั้น) และเป็นประธานคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ที่ถูกกล่าวหาว่า อาจมีส่วนทุจริตนั้น พบว่าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ว่ากันว่า ในจำนวนนรต.25 นั้น พล.ต.อ.พัชรวาท กับ พล.ต.ท.บุญเรือง มีความสนิทสนมกันมากเป็นพิเศษ เรียกว่าเป็นเพื่อนซี้ย่ำบึ๊ก เมื่อ พล.ต.ท.พัชรวาท ก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งรองผบ.ตร.จนเป็นผบ.ตร. พล.ต.ท.บุญเรือง เปรียบเสมือนเป็นแม่บ้าน หรือเสนาธิการคนสำคัญของ พล.ต.ท.พัชรวาท ก็ว่าได้ โดย คอยจัดการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างที่ พล.ต.อ.พัชรวาท รับผิดชอบในสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งหมด
นอกจากนี้ เมื่อครั้งการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจครั้งที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่า พล.ต.ท.บุญเรือง ยังมีบทบาทอย่างสูงในการเข้าไปดูแลการแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าว เนื่องจากได้รับความไว้วางใจจาก พล.ต.อ.พัชรวาท นั่นเอง
นอกจากนั้น เมื่อครั้งที่ พล.ต.ท.บุญเรือง ดำรงตำแหน่งเป็นผบช.สตม.นั้น ปรากฏว่า พล.ต.ท.บุญเรือง ถูกคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการในพื้นที่ 3 จัดหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในการสั่งย้ายนายตำรวจระดับผบช.นั้น จะต้องผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.เสียก่อน ซึ่งในวันที่มีการโหวต ด้วยการยกมือเพื่อขอมติให้ พล.ต.ท.บุญเรือง ไปช่วยราชการยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ในที่ประชุม ก.ตร. มีคณะกรรมการที่เป็นเพื่อน นรต.25 รุ่นเดียวกับ พล.ต.ท.บุญเรือง อยู่ด้วยหลายนาย อาทิ พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผบ.ตร.และพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ โดยมีเพียง พล.ต.อ.พัชรวาท เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่กล้ายกมือคัดค้านการส่งตัว พล.ต.ท.บุญเรือง ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เปิดปูมบริษัทคู่ขาพัชรวาท
บริษัท เอ็นเอส มีเดีย แอสโซซิเอทส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านการผลิต รายการโทรทัศน์ ขายเวลาโฆษณาทางโทรทัศน์ งานถ่ายทอดสดรายการกีฬา ปัจจุบันรับงานในช่อง 5 กองทัพบกอยู่หลายช่วงเวลา มีสำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 17 ซอยกิ่งชำนาญอักษร ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ก่อตั้งเมื่อ 4 เมษายน 2543 ทุนจดทะเบียน10ล้านบาท จำนวนพนักงาน 30 คนโดย “เสี่ยเปี๊ยก” นาย สุรศักดิ์ มุกประดับ เป็น กรรมการผู้จัดการ
จากงบกำไรขาดทุนซึ่งแจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ปีที่แล้วบริษัทมีรายได้ 145.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2549 ที่มีรายได้เพียง 23.15 ล้านบาท แต่เมื่อหักรายจ่ายแล้วบริษัทขาดทุน 2.36 ล้านบาท ขณะที่ตามงบดุลสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 บริษัทสินทรัพย์รวม 62.14 ล้านบาท ส่วนหนี้สินมีจำนวนรวม 52.84 ล้านบาท