ห้อง ผบ.ตร.ปิดเงียบ หลังมีคำสั่งย้าย “เสรีพิศุทธ์” ยังคงทำงานในพื้นที่ภาค 9 ตามกำหนดเดิม ขณะที่ “พล.ต.อ.พัชรวาท” รับแล้ว นั่งรักษาการแทน เผย จะตั้งใจทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด พร้อมปัด ไม่เห็นคำสั่งสอบ “เสรีพิศุทธ์”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้(29 ก.พ.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังมีข่าว นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเซ็นต์คำสังให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนเดินทางไปราชการที่สาธารณนัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เดินทางไปราชการในพื้นที่ บช.ภ.8 และ ภ.9 ตั้งแต่เมื่อวานนี้หลังจากที่ช่วงเช้าวานนี้ไปดูแลความเรียบร้อยในการรักษาความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับมา และขณะนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ปฏิบัติราชการอยู่ที่ สภ.รัฐภูมิ จ.สงขลา และได้ทราบกระแสปลด ผบ.ตร.แล้ว แต่ก็ยังคงปฏิบัติราชการเหมือนเดิมตามกำหนดไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงภารกิจ
ส่วนบรรยากาศที่สำนักงาน ผบ.ตร.ชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานปิดเงียบ ปิดไฟมืด ไม่มีตำรวจตำรวจประจำสำนักงานแม้แต่คนเดียวอยู่ ทั้งที่ตามปกติแม้ว่า ผบ.ตร.และตำรวจในสำนักงานติดตามไปปฏิบัติราชการที่อื่นก็จะมีตำรวจสันติบาลอยู่คอยดูแลสำนักงาน นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่ามีการเก็บข้าวของในสำนักงานปีกด้านขวา แต่ก็มีการออกมาปฏิเสธว่าเป็นเพียงการจัดระเบียบภายในสำนักงานเท่านั้น แต่มีรายงานข่าวแจ้งว่าเป็นการเก็บข้าวของออกจริง
ในขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.มค.ที่มีข่าวว่าจะขึ้นรับตำแหน่งรักษาการผบ.ตร.กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่ได้รับคำสั่งหรือเห็นคำสั่งแต่อย่างใด ทั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ปฏิบัติราชการอยู่ที่ ศปก.ตร.ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งให้รองผบ.ตร.มค.ไปทำงานประจำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีรายงานว่าขณะนี้ได้เดินทางเข้ามากทม.ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ ว่า ตนเห็นคำสั่งย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปช่วยราชการแล้ว เป็นเรื่องจริง และมีคำสั่งให้ตนรักษาการแทน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ.นี้
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า การสั่งย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตนมองว่า เป็นเรื่องปกติถ้าหาก ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่อื่นก็ต้องมีคนอื่นเข้ามาทำหน้าที่ ส่วนกำหนดระยะเวลาให้ไปช่วยที่สำนักนายกนั้นตนไม่เห็น รวมทั้งไม่เห็นคำสั่งที่บอกว่าให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อตนทำหน้าที่รักษาการแทนก็จะตั้งใจทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงว่าได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อนเดินทางไปลาวหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ตนเพิ่งเข้ามาในกรุงเทพและเห็นคำสั่งดังกล่าว หลังจากนายกเดินทางไปแล้ว คำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องจริง รวมทั้งเรื่องที่ตนเองได้รับแต่งตั้ง
สำหรับประวัติของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นน้องชายสายเลือดเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับคณะมนตรีความมั่งคงแห่งชาติเกือบทั้งคณะ เกิดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2492 เป็นคนบางกะปิ กรุงเทพฯ เรียนเตรียมทหารรุ่น 9 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 25 บรรจุที่กองกำกับการสนับสุนนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (กก.สอ.ตชด.) โยกเป็นรองสารวัตรที่ กองทะเบียน แล้วย้ายมาดูงานกำลังพลที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ก่อนขึ้นเป็นผู้กำกับการและรองผู้บังคับการที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นผู้บังคับการกองพลาธิการ เป็นผู้ช่วยผบช.ก. เป็นรอง ผบช.ภ.3 แล้วเลื่อนยศเป็น พล.ต.ท.ในตำแหน่ง ผบช.ประจำ ตร.ก่อนเป็น ผบช.สันติบาล เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่ที่ปรึกษา บก.สส.และขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.ในปี พ.ศ.2548 ดูแลงานด้านบริหาร ก่อนสลับมาคุมงานด้านป้องกันปราบปรามเมื่อตุลาคม 2549 เพราะมีอาวุโสอันดับต้นๆ จึงมีชื่อเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.โดยจะเกษียณอายุราชการในปี 2552
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้(29 ก.พ.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังมีข่าว นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเซ็นต์คำสังให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนเดินทางไปราชการที่สาธารณนัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เดินทางไปราชการในพื้นที่ บช.ภ.8 และ ภ.9 ตั้งแต่เมื่อวานนี้หลังจากที่ช่วงเช้าวานนี้ไปดูแลความเรียบร้อยในการรักษาความปลอดภัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับมา และขณะนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ปฏิบัติราชการอยู่ที่ สภ.รัฐภูมิ จ.สงขลา และได้ทราบกระแสปลด ผบ.ตร.แล้ว แต่ก็ยังคงปฏิบัติราชการเหมือนเดิมตามกำหนดไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงภารกิจ
ส่วนบรรยากาศที่สำนักงาน ผบ.ตร.ชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานปิดเงียบ ปิดไฟมืด ไม่มีตำรวจตำรวจประจำสำนักงานแม้แต่คนเดียวอยู่ ทั้งที่ตามปกติแม้ว่า ผบ.ตร.และตำรวจในสำนักงานติดตามไปปฏิบัติราชการที่อื่นก็จะมีตำรวจสันติบาลอยู่คอยดูแลสำนักงาน นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่ามีการเก็บข้าวของในสำนักงานปีกด้านขวา แต่ก็มีการออกมาปฏิเสธว่าเป็นเพียงการจัดระเบียบภายในสำนักงานเท่านั้น แต่มีรายงานข่าวแจ้งว่าเป็นการเก็บข้าวของออกจริง
ในขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.มค.ที่มีข่าวว่าจะขึ้นรับตำแหน่งรักษาการผบ.ตร.กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ยังไม่ได้รับคำสั่งหรือเห็นคำสั่งแต่อย่างใด ทั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ปฏิบัติราชการอยู่ที่ ศปก.ตร.ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่ก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งให้รองผบ.ตร.มค.ไปทำงานประจำในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีรายงานว่าขณะนี้ได้เดินทางเข้ามากทม.ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ ว่า ตนเห็นคำสั่งย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไปช่วยราชการแล้ว เป็นเรื่องจริง และมีคำสั่งให้ตนรักษาการแทน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ.นี้
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า การสั่งย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตนมองว่า เป็นเรื่องปกติถ้าหาก ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่อื่นก็ต้องมีคนอื่นเข้ามาทำหน้าที่ ส่วนกำหนดระยะเวลาให้ไปช่วยที่สำนักนายกนั้นตนไม่เห็น รวมทั้งไม่เห็นคำสั่งที่บอกว่าให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อตนทำหน้าที่รักษาการแทนก็จะตั้งใจทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงว่าได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อนเดินทางไปลาวหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ตนเพิ่งเข้ามาในกรุงเทพและเห็นคำสั่งดังกล่าว หลังจากนายกเดินทางไปแล้ว คำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องจริง รวมทั้งเรื่องที่ตนเองได้รับแต่งตั้ง
สำหรับประวัติของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นน้องชายสายเลือดเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับคณะมนตรีความมั่งคงแห่งชาติเกือบทั้งคณะ เกิดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2492 เป็นคนบางกะปิ กรุงเทพฯ เรียนเตรียมทหารรุ่น 9 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 25 บรรจุที่กองกำกับการสนับสุนนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (กก.สอ.ตชด.) โยกเป็นรองสารวัตรที่ กองทะเบียน แล้วย้ายมาดูงานกำลังพลที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ก่อนขึ้นเป็นผู้กำกับการและรองผู้บังคับการที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นผู้บังคับการกองพลาธิการ เป็นผู้ช่วยผบช.ก. เป็นรอง ผบช.ภ.3 แล้วเลื่อนยศเป็น พล.ต.ท.ในตำแหน่ง ผบช.ประจำ ตร.ก่อนเป็น ผบช.สันติบาล เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่ที่ปรึกษา บก.สส.และขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.ในปี พ.ศ.2548 ดูแลงานด้านบริหาร ก่อนสลับมาคุมงานด้านป้องกันปราบปรามเมื่อตุลาคม 2549 เพราะมีอาวุโสอันดับต้นๆ จึงมีชื่อเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร.โดยจะเกษียณอายุราชการในปี 2552