ภายหลังจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน โดยกำหนดพื้นที่ชัดเจนที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ โดยให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.เป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่สนามบินดอนเมือง และให้ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 เป็นผู้รับผิดชอบในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ
สองนายตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้ มีตัวตน และมีที่มาเป็นอย่างไร ทำไมรัฐบาลจึงเลือกใช้นายตำรวจทั้ง 2 นาย ประวัติและผลงานของทั้ง 2 บุคคล จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประจักษ์ว่า “ตำรวจ” หรือ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” จะเลือกใคร ระหว่างประชาชน กับทรราช!!!
พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 26 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดีของศาลไทย โดยอดีต เมื่อครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เถลิงอำนาจในเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ได้ส่ง พล.ต.ท.ฉลอง ซึ่งขณะนั้นครองยศ พล.ต.ต.ไปเป็นรอง ผบช.ภาค 7 ดูแลพื้นที่ภาคตะวันตก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่ส่องสุมมือปืนมากที่สุดในประเทศ ทำงานสนองทักษิณปราบฝ่ายตรงข้าม โดย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ในขณะนั้นทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แถมยังปูนบำเหน็จให้ครองยศ พล.ต.ท.ในตำแหน่งผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.) อีก
ต่อมา พล.ต.ท.ฉลอง ได้ไปดำรงตำแหน่ง ผบช.ภาค 7 สมใจอยาก ซึ่งในขณะที่ดำรงตำแหน่งผบช.ภ.7 นั้น เกิดคดีสำคัญ คือ คดีคนร้ายลอบสังหาร นางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคไทยรักไทย เสียชีวิต และพล.ต.ท.ฉลอง ก็ทำการคลี่คลายคดีอย่างสุดความสามารถ โดยมี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. พี่ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปแถลงข่าวความคืบหน้าและควบคุมคดีโชว์ผลงาน
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ฉลอง จะเกษียณอายุราชการในปี 2552 นี้ โดยก่อนมาดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 เคยเป็นหนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อให้ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. แต่แล้วหวยก็มาออกตรงที่ให้ไปดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 และได้รับการแต่งตั้งให้ควบคุมสถานการณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ปัจจุบันอายุ 57 ปี จะเกษียณอายุราชการในปี 2554 เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2494 จบ ร.ร.นายร้อยตำรวจ “นรต.รุ่น 26” รุนเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และจบปริญญาโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิต จาก ม.ธรรมศาสตร์ ปี 2538 และนิติศาสตรมหาบัณฑิต ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ปี 2543 ผ่านอบรมหลักสูตร ร.ร.ผบก.รุ่น 18 และ วปอ.รุ่น 48
เติบโตในเส้นทางสีกากีเริ่มตั้งแต่ปี 2516 เป็น ผบ.มว.ประจำ กก.สอ.ตชด.จากนั้นเติบโตผ่านตำแหน่งสำคัญในกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อาทิ รอง สว.ผ.5 กก.5 ป. รอง สว.ผ.4 กก.2 ป. ผู้ช่วย นว.ผบก.ป. นว.ผบก.ป. สว.ผ.ธุรการ กก.นผ.บก.อก.บช.ก. สว.ผ.7 กก.8 ป. สว.ผ.8 กก.8 ป. รอง ผกก.1 ป. ผกก.1 ป. รอง ผบก.ป. รอง ผบก.อก.บช.ก.
พล.ต.ท.สุชาติ เป็นนายพล ติดยศ พล.ต.ต.ครั้งแรกเมื่อปี 2544 เป็น ผบก.อก.บช.ก.โยกเป็น ผบก.ทล.ปี 2546 ในครั้งนั้นใครก็รู้ว่า ไปเป็น ผบก.ทล.ได้เพราะใคร และเพราะเหตุผลใด ก็รถตำรวจทางหลวงในยุคนั้นนั่นแหละ ที่ลือสะพัดกันว่า มีการใช้รถตราโล่ขนธนบัตรไปใช้ในการเลือกตั้งตามหัวเมืองต่างๆ จากนั้นก็ได้ดิบได้ดี ขึ้นเป็นรอง ผบช.ก.ในปี 2547 และโยกมาเป็นรอง ผบช.น.เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2551 ต่อมาได้รับการคาดหมายว่าจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบช.ก.ทว่าโค้งสุดท้าย ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ระหว่างการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ และทำเนียบรัฐบาล ซึ่งครั้งนั้นก็เกิดเหตุการณ์ทุบตีประชาชนจากฝีมือตำรวจ หลังจากที่เจ้าหน้าที่บังคับคดีเข้าไปปิดหมายศาล
ผลงานชิ้นโบแดงในครั้งนั้น ส่งผลให้ พล.ต.ท.สุชาติ ที่มีชื่อไปเป็น ผบช.ก.กลับมาดัน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ขึ้นไปเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.และตัวเองขึ้นเถลิงเก้าอี้ ผบช.น.เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา!! แต่ผลงานอันอัปยศได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ประชาชนเลือดตกยางออก และเสียชีวิต
ในครั้งนี้จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะพิสูจน์ตัวตนของพล.ต.ท.ฉลอง และพล.ต.ท.สุชาติว่า เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตัวจริง หรือเป็นผู้คอยพิทักษ์บัลลังก์ให้กับเพื่อนรักที่ตกอยู่ในสถานะนักโทษหลบหนีคดีของศาลไทย
สองนายตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้ มีตัวตน และมีที่มาเป็นอย่างไร ทำไมรัฐบาลจึงเลือกใช้นายตำรวจทั้ง 2 นาย ประวัติและผลงานของทั้ง 2 บุคคล จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประจักษ์ว่า “ตำรวจ” หรือ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” จะเลือกใคร ระหว่างประชาชน กับทรราช!!!
พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 26 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหลบหนีคดีของศาลไทย โดยอดีต เมื่อครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เถลิงอำนาจในเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ได้ส่ง พล.ต.ท.ฉลอง ซึ่งขณะนั้นครองยศ พล.ต.ต.ไปเป็นรอง ผบช.ภาค 7 ดูแลพื้นที่ภาคตะวันตก ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่ส่องสุมมือปืนมากที่สุดในประเทศ ทำงานสนองทักษิณปราบฝ่ายตรงข้าม โดย พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.ในขณะนั้นทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แถมยังปูนบำเหน็จให้ครองยศ พล.ต.ท.ในตำแหน่งผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.) อีก
ต่อมา พล.ต.ท.ฉลอง ได้ไปดำรงตำแหน่ง ผบช.ภาค 7 สมใจอยาก ซึ่งในขณะที่ดำรงตำแหน่งผบช.ภ.7 นั้น เกิดคดีสำคัญ คือ คดีคนร้ายลอบสังหาร นางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคไทยรักไทย เสียชีวิต และพล.ต.ท.ฉลอง ก็ทำการคลี่คลายคดีอย่างสุดความสามารถ โดยมี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. พี่ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปแถลงข่าวความคืบหน้าและควบคุมคดีโชว์ผลงาน
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ฉลอง จะเกษียณอายุราชการในปี 2552 นี้ โดยก่อนมาดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 เคยเป็นหนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อให้ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. แต่แล้วหวยก็มาออกตรงที่ให้ไปดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.1 และได้รับการแต่งตั้งให้ควบคุมสถานการณ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ปัจจุบันอายุ 57 ปี จะเกษียณอายุราชการในปี 2554 เกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2494 จบ ร.ร.นายร้อยตำรวจ “นรต.รุ่น 26” รุนเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และจบปริญญาโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิต จาก ม.ธรรมศาสตร์ ปี 2538 และนิติศาสตรมหาบัณฑิต ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ปี 2543 ผ่านอบรมหลักสูตร ร.ร.ผบก.รุ่น 18 และ วปอ.รุ่น 48
เติบโตในเส้นทางสีกากีเริ่มตั้งแต่ปี 2516 เป็น ผบ.มว.ประจำ กก.สอ.ตชด.จากนั้นเติบโตผ่านตำแหน่งสำคัญในกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อาทิ รอง สว.ผ.5 กก.5 ป. รอง สว.ผ.4 กก.2 ป. ผู้ช่วย นว.ผบก.ป. นว.ผบก.ป. สว.ผ.ธุรการ กก.นผ.บก.อก.บช.ก. สว.ผ.7 กก.8 ป. สว.ผ.8 กก.8 ป. รอง ผกก.1 ป. ผกก.1 ป. รอง ผบก.ป. รอง ผบก.อก.บช.ก.
พล.ต.ท.สุชาติ เป็นนายพล ติดยศ พล.ต.ต.ครั้งแรกเมื่อปี 2544 เป็น ผบก.อก.บช.ก.โยกเป็น ผบก.ทล.ปี 2546 ในครั้งนั้นใครก็รู้ว่า ไปเป็น ผบก.ทล.ได้เพราะใคร และเพราะเหตุผลใด ก็รถตำรวจทางหลวงในยุคนั้นนั่นแหละ ที่ลือสะพัดกันว่า มีการใช้รถตราโล่ขนธนบัตรไปใช้ในการเลือกตั้งตามหัวเมืองต่างๆ จากนั้นก็ได้ดิบได้ดี ขึ้นเป็นรอง ผบช.ก.ในปี 2547 และโยกมาเป็นรอง ผบช.น.เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2551 ต่อมาได้รับการคาดหมายว่าจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบช.ก.ทว่าโค้งสุดท้าย ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ระหว่างการชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ และทำเนียบรัฐบาล ซึ่งครั้งนั้นก็เกิดเหตุการณ์ทุบตีประชาชนจากฝีมือตำรวจ หลังจากที่เจ้าหน้าที่บังคับคดีเข้าไปปิดหมายศาล
ผลงานชิ้นโบแดงในครั้งนั้น ส่งผลให้ พล.ต.ท.สุชาติ ที่มีชื่อไปเป็น ผบช.ก.กลับมาดัน พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ขึ้นไปเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.และตัวเองขึ้นเถลิงเก้าอี้ ผบช.น.เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา!! แต่ผลงานอันอัปยศได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ประชาชนเลือดตกยางออก และเสียชีวิต
ในครั้งนี้จะเป็นอีกจุดหนึ่งที่จะพิสูจน์ตัวตนของพล.ต.ท.ฉลอง และพล.ต.ท.สุชาติว่า เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตัวจริง หรือเป็นผู้คอยพิทักษ์บัลลังก์ให้กับเพื่อนรักที่ตกอยู่ในสถานะนักโทษหลบหนีคดีของศาลไทย