xs
xsm
sm
md
lg

พัชรวาทย่ำศพคืนผบ.ตร.แฉโยกย้ายพันทุจริตจัดซื้อท้าทายคุณธรรม"มาร์ค"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV/ผู้จัดการรายวัน-จวกรัฐบาลรักษาการ "พัชรวาท" ย่ำศพประชาชนคืนเก้าอี้ ผบ.ตร. “สนธิ” จี้“อภิสิทธิ์” สางเงื่อนงำ ระบุถูกย้ายเข้าสำนักนายกฯ ครั้งแรก ไม่ใช่เพราะค้านคำสั่งสลายชุมนุม แต่เพราะถูกร้องเรียนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ รมต.สำนักนายกฯ คนเก่าทำหนังสือเสนอ “มาร์ค” ตั้ง กก.สอบแล้ว แถมโดนร้อง ป.ป.ช.มีส่วนฆ่า 7 ตุลาฯ ด้าน “ชวรัตน์” คนเซ็นแจงพัลวันอ้างเพราะคำสั่งยืมตัวหมดอายุ ชี้ไม่มีแรงกดดันจากพล.อ.ประวิตร ขณะที่เจ้าตัวยันกลับถิ่นไม่เกี่ยวพี่ชายนั่งรมว.กลาโหม "อภิสิทธิ์"ปัดเป็นเรื่องของรัฐบาลรักษาการ ยันยึดข้อเท็จจริงสอบเหตุ 7 ตุลาเลือด
วานนี้(22 ธ.ค.) ภายหลังจากมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กลับไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมอำนาจเต็มในการสั่งการดูแลตำรวจทั่วประเทศกว่า 2 แสนนาย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 305/2551 ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาปฏิบัติงานสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนของสังกัดเดิมไปก่อนและให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษาราชการแทน มีผล ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 นั้น ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคำสั่งโยกย้ายดังกล่าวเป็นอย่างมาก
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี NEWS1 ว่า ขณะนี้มองว่าการเมืองเก่าได้มาถึงบททดสอบสุดท้ายแล้ว จากการที่พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องจับมือกับกลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ ที่ประชาชนพันธมิตรฯ ตั้งข้อรังเกียจ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ.อยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม ยังให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือเป็นพรรคน้ำดี และให้โอกาสนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเกิดในตระกูลที่ดี มีการศึกษาดี และเชื่อว่าเป็นคนที่มีคุณธรรมจริยธรรม
อย่างไรก็ตาม นายสนธิกล่าวว่า นายอภิสิทธิ์มีบททดสอบอันแรก ซึ่งเป็นบททดสอบที่ใหญ่และจะชี้ขาดว่าการเมืองเก่าจะเดินต่อไปได้หรือไม่ นั่นคือกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ถูกย้ายกลับจากช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)อีกครั้ง โดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการรองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นคนเซ็นคำสั่งย้ายกลับมา
นายสนธิกล่าวว่าเรื่องนี้มีหลายประเด็น ประเด็นแรก ทำไมนายชวรัตน์จึงกล้าเซ็นย้ายกลับมา ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ แล้ว เหลือแค่การแถลงนโยบายเพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการเท่านั้น ทำไมจึงไม่รอให้นายอภิสิทธิ์เป็นผู้พิจารณาว่าควรจะย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทกลับมาหรือไม่
นายสนธิ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้มีเบื้องหลัง เนื่องจากมีบันทึกสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 19 ธ.ค. 2551 ถึงนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ลงชื่อนายสุพล ฟองงาม รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ระบุถึงสาเหตุที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ถูกย้ายเข้าช่วยราชการสำนักนายกฯ ก่อนหน้านี้ พร้อมเสนอให้นายอภิสิทธิ์ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.พัชรวาท โดยมีนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธาน
ทั้งนี้ การย้าย พล.ต.อ.พัชรวาทเข้าประจำสำนักนายกฯ ในสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จากข่าวที่ออกมาจากทางฝ่าย พล.ต.อ.พัชรวาท อ้างว่าเพราะ พล.ต.อ.พัชรวาทไม่ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ปราบปรามการชุมนุม แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว หนังสือฉบับลับมากลงนามโดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล เลขาธิการนายกฯ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2551 สมัย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร.ได้รับหนังสือร้องเรียนมาจากคนที่เข้าประมูลงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ รอง ผบ.ตร. ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวน ปรากฏว่ามีความผิดจริง ต่อมาจึงเสนอต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ซึ่งเพิ่งจะย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกไป และเพิ่งตั้ง พล.ต.อ.พัชรวาทเป็น ผบ.ตร. จึงเก็บเรื่องนี้ใส่ลิ้นชัก ทั้งที่ควรดำเนินการทันที และต้องไม่ตั้งพล.ต.อ.พัชรวาท เป็น ผบ.ตร. แต่ควรย้ายเข้าสำนักนายกฯ ทันที
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กัดเรื่องนี้ไม่ปล่อย จึงทำเรื่องร้องเรียนสอบถามนายกรัฐมนตรีตั้งสมัยนายสมัคร จนถึงนายสมชายรวม 5 ครั้ง เพื่อสอบถามความคืบหน้าและ เพื่อเป็นพื้นฐาน ถ้านายกฯ ไม่ดำเนินการจะมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นายชูศักดิ์ จึงมีหนังสือด่วนถึงนายสมชาย และให้ความเห็นว่า ถ้าไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งนายกจะถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงเสนอตั้งกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.พัชรวาท และ พล.ต.ท.บุญเรือง ซึ่งนายสมชายได้ลงชื่อเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน และให้ย้าย พล.ต.อ.พัชวาทมาที่สำนักนายกฯ
นายสนธิ กล่าวต่อว่า เห็นได้ชัดว่า พล.ต.อ.พัชรวาทถูกย้ายเข้าสำนักนายกฯ เพราะข้อหาที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ตั้งว่าประพฤติมิชอบ ทุจริต ตามหลักฐานที่มีการร้องเรียน ไม่ใช่การต่อต้านคำสั่งฆ่าประชาชน นอกจากนี้ เมื่อ 3-4 วันที่แล้ว พล.ต.อ.พัชรวาท ถูกกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติระบุว่าต้องรับผิดชอบต่อการสั่งฆ่าประชาชนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช.แล้ว และจะส่งให้นายกฯ คนใหม่ด้วย จึงมีคำถามว่านายชวรัตน์ กล้าอย่างไรจึงเซ็นคำสั่งให้ พล.ต.อ.พัชรวาทย้ายกลับมา นี่คือการท้าทายคุณธรรมจริยธรรม ของรัฐบาลประชาธิปัตย์อย่างมาก
นอกจากนี้ตนยังมีข้อมูลว่า ตำรวจในยุค พล.ต.อ.พัชรวาท เป็น ผบ.ตร.ยังได้สั่งไม่ฟ้องแกนนำ นปก.ที่ไปก่อจลาจลหน้าบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และมีการทำให้คดีนายจักรภพ เพ็ญแข หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ล่าช้า ทำให้คดีนายวีระ มุกสิกพงศ์ จาบจ้วงเบื้องสูงยืดเยื้อออกไป รวมทั้งกรณีที่กลุ่มนายขวัญชัย ไพรพนา ไล่ฆ่าประชาชนที่อุดรธานี โดยที่ตำรวจยืนดูเฉยๆ พล.ต.อ.พัชรวาท ก็ไมได้สั่งเร่งดำเนินคดีหรือตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายตำรวจที่รับผิดชอบแต่อย่างใด
นายสนธิ กล่าวว่า กรณี พล.ต.อ.พัชรวาทถูกย้ายกลับมาเป็น ผบ.ตร.นั้น หรือจะเป็นการพิสูจน์ข่าวลือที่ว่า เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการเมืองกันระหว่างกลุ่มนายเนวิน และทหาร โดยเหยียบย่ำศพของประชาชนที่ตายไปให้ตัวเองขึ้นมาเป็นใหญ่ ถ้าไม่ใช่ทำไมนายชวรัตน์ต่องรีบเซ็น หรือว่า เพราะกลัวความจะแตก กลัวนายอภิสิทธิ์จะรู้ว่า ที่ พล.ต.อ.พัชรวาทถูกย้ายก่อนหน้านี้ เพราะปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ใช่เพราะไม่เห็นด้วยกับการฆ่าประชาชน
นายสนธิ กล่าวต่อว่า กรณี พล.ต.อ.พัชรวาทกำลังรอทดสอบนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์อยู่ว่า จะยึดมั่นในจริยธรรม และคุณธรรมเพียงใด แต่เวลานี้ยังให้โอกาสอยู่ เชื่อว่าไม่เกิน 3 เดือน ก็พิสูจน์แล้ว ซึ่งถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ล้มเหลวครั้งนี้ด้วยเหตุใดก็ตาม ก็จะพิสูจน์ว่าการเมืองเก่าใช้กับเมืองไทยไม่ได้อีกต่อไป นี่คือบททดสอบการเมืองเก่าบทสุดท้ายแล้ว กรณี พล.ต.อ.พัชรวาทจะเป็นบททดสอบบทแรก และเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ ถ้าไม่ผ่าน ก็ไม่รู้จะช่วยนายอภิสิทธิ์อย่างไร

**”พัชรวาท” ยันไม่เกี่ยวพี่ชาย
วานนี้(22 ธ.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กลับไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เข้ามาที่สำนักงาน ผบ.ตร.ชั้น 7 เวลาประมาณ 10.00 น.
พล.ต.อ.พัชรวาท เปิดเผยว่า สำหรับเหตุผลที่กลับมาจริงๆ แล้วรัฐบาลในฐานะผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อรัฐบาลสั่งประการใดก็ทำปฏิบัติตามนั้น ซึ่งไม่ต้องมีการพูดคุยสั่งมาก่อนที่จะให้กลับมานั่งในตำแหน่งนี้เราก็ต้องปฏิบัติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่กลับมาเพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ.พี่ชายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมใช่หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ไม่รู้นอกประเด็นหรือเปล่า แต่คิดว่าไม่เกี่ยวกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่อข้อถามที่ว่าหนักใจหรือไม่ เนื่องจากไปเพราะม็อบเสื้อเหลืองและตอนนี้ม็อบเสื้อแดงก็กำลังจะกลับมา ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่หนักใจ ตนเองยังยึดถือแนวทางเดิม ทำงานด้วยความอดทน เน้นการเจรจา ไม่ทำร้ายประชาชน ยึดหลักแบบเดิม ส่วนเรื่องมาตรการที่จะดูแลม็อบเสื้อแดงที่จะมาชุมนุมที่หน้ารัฐสถาในวันแถลงนโยบายนั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า เรื่องนี้ขอดูก่อนเพราะไปช่วยราชการสำนักนายกฯได้พักหนึ่งในรายละเอียดไม่ทราบขอดูรายละเอียดว่ารักษาการ ผบ.ตร.ได้ทำอะไรไปบ้างคงต้องคุยกับท่านก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่การเมืองเข้ามาแทรกแซงสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างชัดเจน ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ไม่ รัฐบาลคือผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

**นโยบาย ตร.ยังไม่เปลี่ยน**
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้กลับมาปฏิบัติราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามคำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.2551 ว่า ขณะนี้การทำงานของตำรวจยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือคำสั่งอะไรจาก พล.ต.อ.พัชรวาท เนื่องจากเพิ่งกลับมาปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การกลับมาทำงานของ พล.ต.อ.พัชรวาท จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการทำงานใหม่หรือไม่ พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า สำหรับการแบ่งงานของ รอง ผบ.ตร.ต่างๆ นั้นขณะนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ หรือนโยบายหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท ยังไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้ เนื่องจากเพิ่งกลับมาทำงาน และยังไม่มีการสั่งการอะไรตำรวจก็ยังจะปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามเดิม

**อ้างช่วยราชการเสร็จสิ้น**
ก่อนหน้านี้คำสั่งสำนักนายรัฐมนตรี ที่ 305/2551 ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาปฏิบัติงานสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนของสังกัดเดิมไปก่อนและให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้รักษาราชการแทน มีผล ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551
ดังนั้น จากคำสั่งดังกล่าว บัดนี้การช่วยราชการดังกล่าวได้เสร็จสิ้นลงแล้ว สำนักนายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งเลขที่ 325/2551 ให้ พล.ต.อ.พัชรวาท กลับมาปฏิบัติราชการในตำแหน่งเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.2551 ลงนามคำสั่งโดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี
สำหรับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นน้องชายสายเลือดเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เกิดเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2492 เป็นคนบางกะปิ กรุงเทพฯ เรียนเตรียมทหารรุ่น 9 นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 25 บรรจุที่กองกำกับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (กก.สอ.ตชด.) โยกเป็นรองสารวัตรที่กองทะเบียน แล้วย้ายมาดูงานกำลังพลที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ก่อนขึ้นเป็นผู้กำกับการและรองผู้บังคับการที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นผู้บังคับการกองพลาธิการ เป็นผู้ช่วย ผบช.ก. เป็นรอง ผบช.ภ.3 แล้วเลื่อนยศเป็น พล.ต.ท.ในตำแหน่ง ผบช.ประจำ ตร.ก่อนเป็น ผบช.สันติบาล เป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ทำหน้าที่ที่ปรึกษา บก.สส.
ต่อมาในปี 2548 ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.ดูแลงานด้านบริหาร ก่อนสลับมาคุมงานด้านป้องกันปราบปรามเมื่อตุลาคม 2549 ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ารักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 29 ก.พ.2551 แทน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส และ พล.ต.อ.พัชรวาท ถือเป็น ผบ.ตร.คนแรกที่ถูกโยกออกนอกหน่วยและได้กลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมอย่างรวดเร็ว

**นายกฯชี้เป็นเรื่องรัฐบาลรักษาการ**
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำสั่งย้าย พล.ต.อ. พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับดำรงตำแหน่งเดิม ภายหลังจากที่มีคำสั่งให้ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ว่า เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลรักษาการ เพราะตนยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณ
ผู้สื่อข่าวถามว่าสามารถชี้แจงได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของรักษาการนายกฯ เพราะท่านเป็นผู้ออกคำสั่ง เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่รักษาการนายกฯเข้ารับดำรงตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้จึงมีกระแสเรื่องโยกย้าย พล.ต.อ.พัชรวาท นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจของท่านไปแล้ว ส่วนรัฐบาลนี้ต้องมาว่ากันว่ามีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของรัฐบาลนี้จะมาตรวจสอบ พล.ต.อ.พัชรวาทหรือไม่ เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงมาดูข้อเท็จจริง อีกที เมื่อถามว่า จะมีการหารือกับ ครม.วันนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) จะได้ปรารภเรื่องการทำงาน และหารือเรื่องต่างๆในที่ประชุม

**“ชวรัตน์”ยัน ไม่มีแรงกดดันจาก”ประวิตร”
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีลงนามในคำสั่งขณะเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีขอตัวพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุววรณ กลับมาเป็นผู้บัญการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า เนื่องจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นได้ลงนามคำสั่งให้พล.ต.อ.พัชรวาท ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่28พ.ย. เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจตนจึงขอตัวกลับมา เมื่อดูตามกฎหมายแล้วไม่มีปัญหาทางกฎหมายแม้จะลงนาในช่วงรักษาการ เมื่อถามว่าทำไมไม่รอให้รัฐบาลใหม่ เป็นคนดำเนินการนายชวรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลใหม่ต้องรอการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาก่อนถึงจะสั่งการได้
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการกดดันและได้รับการร้องขอจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พี่ชายของพล.ต.อ.พัชรวาท นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน แต่เพราะท่านเสร็จราชการจากสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ตนจึงส่งคืนมาให้สำนักงานตำรวจฯ รวมทั้งพล.ต.อ.พัชรวาท ก็ไม่มีความผิดอะไร
ส่วนความเหมาะสมเนื่องจากพล.ต.อ.พัชรวาท ถูกคณะกรรมการสิทธิมนุยชน แห่งชาติตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์7ต.ค.นายชวรัตน์ กล่าวว่า คนละเรื่อง เรื่องนี้เป็นกรณีนายสมชาย ลงนามให้พล.ต.อ.พัชรวาท ไปช่วยราชการ และเมื่อสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งมาว่าพล.ต.อ.พัชรวาท เสร็จสิ้นภารกิจแล้วจึงได้ขอตัวกลับมา เมื่อถามถึงพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ ผบ.ตร.จะไปช่วยงานที่ใด นายชวรัตน์กล่าวว่า ที่เดิม เป็นจเรตำรวจเหมือนเดิม

**"นวย"เปลี่ยนสีขู่จับ นปช.กบฎ**
วันเดียวกันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวถึงการดูแลการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ว่า ขณะนี้ไม่มีการแบ่งแยกเสื้อสี ไม่มีสีเหลือง และสีแดง มีแต่สีของความเป็นชาติ ฉะนั้น ถ้าจะมีการชุมนุมแสดงความคิดก็สามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย แต่หากการชุมนุมนั้นขัดรัฐธรรมนูญ หรือมีการปิดล้อมรัฐสภา ขัดขวางไม่ให้มีการประชุมแถลงนโยบายเกิดขึ้น ถือเป็นการขัดขวางไม่ให้อำนาจบริหารสามารถทำงานได้ ก็จะถือเป็นความผิด ซึ่งส่วนนี้ตนก็ต้องดำเนินการขออนุมัติหมายจับในข้อหากบฏ และขอยืนยันว่าจะดำเนินการภายใต้มาตรฐานเดียวกัน

**ศาลให้ประกันเสื้อแดงทุบรถ**
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสมภพ พรหมจินดา แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ยื่นคำร้องพร้อมเงินสด 90,000 บาท เพื่อขอยื่นประกันตัว นายโชคชัย คำลือ อายุ 25 ปี กลุ่มแนวร่วม นปช.ผู้ต้องหาในคดีใช้ก้อนหินทุบรถยนต์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2551 ที่ผ่านมา เหตุเกิดที่หน้ารัฐสภา โดยการยื่นขอประกันตัววันนี้ มีกลุ่มเสื้อแดง นำโดย นายสุขุม วงประสิทธิ ประธานกลุ่มรักประชาธิปไตยสนามหลวง กับพวกราว 10 คน ใส่เสื้อแดงเดินทางมาให้กำลังใจด้วย ทั้งนี้ ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาออกไปโดยตีราคาประกัน 90,000 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น