ASTVผู้จัดการรายวัน - แฉ ”กระทรวงพาณิชย์" ลวงโลก ปั้นตัวเลขส่งออกเพิ่มตูมเดียว 3 พันล้านเอาไปโป๊ะในยอดส่งออกแต่ละเดือนตั้งแต่ต้นปี ทำให้ยอดส่งออกขยายตัวเกินจริง แถมส่งผลดีทำให้ยอดขาดดุลการค้าลดวูบได้ทันตาเห็น ขณะที่ปลัดฯพาณิชย์แจงตัวเลขที่เพิ่มขึ้น เพราะกรมศุลกากรขอปรับตัวเลข ไม่ได้ปรับตัวเลขใหม่เพื่อทำเป้า
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ขณะนี้มีการตรวจสอบพบการผิดปกติในการจัดทำตัวเลขการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีการปรับตัวเลขเพิ่มขึ้นจากยอดส่งออกเดิมประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้ ถูกนำไปเพิ่มไว้ในยอดการส่งออกของเดือนต่างๆ ตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย. ทำให้ยอดการส่งออกสินค้าไทยเพิ่มขึ้นทั้งในแง่มูลค่า และอัตราการขยายตัว จนน่าผิดสังเกต
ทั้งนี้ ในการแถลงตัวเลขการส่งออกเมื่อเดือนต.ค.51 มีการสรุปยอดการส่งออกรวม 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) มูลค่า 151,192.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.68% แต่พอมาแถลงข่าวตัวเลขการส่งออกในเดือน พ.ย.51 เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.51 ปรากฏว่าตัวเลขรวมการส่งออก 10 เดือนแรกมียอดเพิ่มขึ้นเป็น 154,366.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.23% หรือตัวเลขส่งออกเพิ่มขึ้น 3,174.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะเดียวกัน ยังมีการปรับตัวเลขการนำเข้าด้วย โดยมีการลดมูลค่าการนำเข้าลงมา จากตัวเลขนำเข้ารวม 10 เดือน มีมูลค่า 154,493.2 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ตัวเลข 10 เดือนใหม่ นำเข้ามีมูลค่า 154,325.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ยอดนำเข้าหายไป 167.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
ผลที่เกิดขึ้นจากการปรับตัวเลขดังกล่าว ทำให้ดุลการค้ารวมในเดือนต.ค.ที่ขาดดุลสูงถึง 3,301.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หายไปทันที โดยดุลการค้า 10 เดือนหลังปรับตัวเลขส่งออกใหม่ ปรากฎว่าไทยเกินดุลการค้า 40.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อรวมตัวเลขการส่งออกในเดือน พ.ย.ที่ส่งออกได้มูลค่า 11,870.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 18.59% และนำเข้า 13,072.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.01% ขาดดุลการค้า 1,202.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เหลือยอดขาดดุลรวม 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) แค่ 1,162 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า การปรับตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้นนั้น จะช่วยให้การส่งออกในปีนี้ออกมาดี และเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ 12.5% และเป้าทำงาน 15% ได้อย่างแน่นอน เพราะจากตัวเลขรวม 11 เดือน การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นแล้ว 19.73% ซึ่งมีการคาดกันว่า หากส่งออกในเดือนธ.ค.ทำได้ประมาณ 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ยอดรวมทั้งปีก็จะขยายตัวได้ 18%
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ยืนยันได้ว่า ไม่มีการปรับแต่งตัวเลข แต่เป็นการปรับตัวเลขตามการแจ้งของกรมศุลกากร ที่ได้แจ้งขอปรับตัวเลขการส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกเข้ามา ซึ่งปกติจะไม่มีการการคาดเคลื่อนมากนักแต่ครั้งนี้เพิ่มสูงถึง 3 พันล้านบาท ซึ่งก็แปลกใจว่าเพิ่มมาจากไหน โดยจากการสอบถามไปยังกรมศุลกากร ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นเพราะการนำระบบอีดีไอมาใช้ ทำให้การบันทึกข้อมูลล่าช้า และไม่ถูกต้อง จึงต้องปรับให้ถูกต้อง
"ไม่มีการแต่งตัวเลขแน่นอน เพราะตัวเลขส่งออกที่ทำออกมา เราใช้ฐานข้อมูลจากกรมศุลกากร โดยได้ตัวเลขดิบเข้ามา แล้วมาจัดหมวดหมู่ เพื่อให้ดูง่าย ซึ่งตัวเลขดิบจากกรมศุลกากร เขาก็พูดตลอดว่าเป็นตัวเลขเบื้องต้น หากเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ก็ไปว่าไม่ได้ เมื่อศุลกากรได้ตัวเลขใหม่ และขอให้เปลี่ยน เราในฐานะใช้ข้อมูลก็ต้องเปลี่ยนตาม เพราะถ้าจะแต่งตัวเลข เดือนพ.ย. คงไม่ออกมาติดลบหรอก" นายราเชนทร์กล่าว
นางนันทวัลย์ สกุลตนาค รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทย ที่กระทรวงพาณิชย์แถลงได้รับแจ้งเบื้องต้นจากกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ซึ่งโดยปกติจะมีการปรับเปลี่ยนตัวเลขทุกปี อาจจะทุก 6 เดือน สำหรับปีนี้ ทางกรมศุลกากรได้แจ้งมาว่าปรับตัวเลขการส่งออกตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ย.51 ใหม่ จึงเห็นว่าตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.51 ยังคงเท่าเดิม ส่วนตัวเลขการนำเข้าได้ปรับเช่นเดียวกันแต่ปรับเพียง 6 เดือน ตั้งแต่เดือนม.ค.-มิ.ย.51
“ไม่กังวลจะกระทบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นการปรับปกติทั้งแบบที่เป็นเงินเหรียญสหรัฐ และเงินบาท ซึ่งทุกชาติก็มี เพียงแต่ปีนี้ตัวเลขเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ซึ่งทุกคนคงไม่สังเกต และตัวเลขส่งออกที่แถลงในเดือนพ.ย.51 ที่ติดลบ 18.6% ก็เป็นตัวเลขเบื้องต้นจากกรมศุลกากร ซึ่งอาจจะมีการปรับอีกในช่วงกลางปีหน้า อย่างไรก็ตาม ถ้ากรมศุลกากรแก้ เราก็จะใช้ตัวเลขใหม่ หากไม่แก้ก็จะใช้ตัวเลขเดิม ซึ่งก็ไม่สามารถคาดการณ์ว่าจะกระทบกับเป้าหมายการส่งออกปีนี้หรือไม่” นางนันทวัลย์กล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า ขณะนี้มีการตรวจสอบพบการผิดปกติในการจัดทำตัวเลขการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีการปรับตัวเลขเพิ่มขึ้นจากยอดส่งออกเดิมประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้ ถูกนำไปเพิ่มไว้ในยอดการส่งออกของเดือนต่างๆ ตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย. ทำให้ยอดการส่งออกสินค้าไทยเพิ่มขึ้นทั้งในแง่มูลค่า และอัตราการขยายตัว จนน่าผิดสังเกต
ทั้งนี้ ในการแถลงตัวเลขการส่งออกเมื่อเดือนต.ค.51 มีการสรุปยอดการส่งออกรวม 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) มูลค่า 151,192.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.68% แต่พอมาแถลงข่าวตัวเลขการส่งออกในเดือน พ.ย.51 เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.51 ปรากฏว่าตัวเลขรวมการส่งออก 10 เดือนแรกมียอดเพิ่มขึ้นเป็น 154,366.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.23% หรือตัวเลขส่งออกเพิ่มขึ้น 3,174.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะเดียวกัน ยังมีการปรับตัวเลขการนำเข้าด้วย โดยมีการลดมูลค่าการนำเข้าลงมา จากตัวเลขนำเข้ารวม 10 เดือน มีมูลค่า 154,493.2 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ตัวเลข 10 เดือนใหม่ นำเข้ามีมูลค่า 154,325.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ยอดนำเข้าหายไป 167.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
ผลที่เกิดขึ้นจากการปรับตัวเลขดังกล่าว ทำให้ดุลการค้ารวมในเดือนต.ค.ที่ขาดดุลสูงถึง 3,301.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หายไปทันที โดยดุลการค้า 10 เดือนหลังปรับตัวเลขส่งออกใหม่ ปรากฎว่าไทยเกินดุลการค้า 40.4 ล้านเหรียญสหรัฐ และเมื่อรวมตัวเลขการส่งออกในเดือน พ.ย.ที่ส่งออกได้มูลค่า 11,870.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 18.59% และนำเข้า 13,072.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.01% ขาดดุลการค้า 1,202.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เหลือยอดขาดดุลรวม 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.) แค่ 1,162 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า การปรับตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้นนั้น จะช่วยให้การส่งออกในปีนี้ออกมาดี และเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ 12.5% และเป้าทำงาน 15% ได้อย่างแน่นอน เพราะจากตัวเลขรวม 11 เดือน การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นแล้ว 19.73% ซึ่งมีการคาดกันว่า หากส่งออกในเดือนธ.ค.ทำได้ประมาณ 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ยอดรวมทั้งปีก็จะขยายตัวได้ 18%
นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า ยืนยันได้ว่า ไม่มีการปรับแต่งตัวเลข แต่เป็นการปรับตัวเลขตามการแจ้งของกรมศุลกากร ที่ได้แจ้งขอปรับตัวเลขการส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกเข้ามา ซึ่งปกติจะไม่มีการการคาดเคลื่อนมากนักแต่ครั้งนี้เพิ่มสูงถึง 3 พันล้านบาท ซึ่งก็แปลกใจว่าเพิ่มมาจากไหน โดยจากการสอบถามไปยังกรมศุลกากร ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นเพราะการนำระบบอีดีไอมาใช้ ทำให้การบันทึกข้อมูลล่าช้า และไม่ถูกต้อง จึงต้องปรับให้ถูกต้อง
"ไม่มีการแต่งตัวเลขแน่นอน เพราะตัวเลขส่งออกที่ทำออกมา เราใช้ฐานข้อมูลจากกรมศุลกากร โดยได้ตัวเลขดิบเข้ามา แล้วมาจัดหมวดหมู่ เพื่อให้ดูง่าย ซึ่งตัวเลขดิบจากกรมศุลกากร เขาก็พูดตลอดว่าเป็นตัวเลขเบื้องต้น หากเปลี่ยนแปลงในภายหลัง ก็ไปว่าไม่ได้ เมื่อศุลกากรได้ตัวเลขใหม่ และขอให้เปลี่ยน เราในฐานะใช้ข้อมูลก็ต้องเปลี่ยนตาม เพราะถ้าจะแต่งตัวเลข เดือนพ.ย. คงไม่ออกมาติดลบหรอก" นายราเชนทร์กล่าว
นางนันทวัลย์ สกุลตนาค รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทย ที่กระทรวงพาณิชย์แถลงได้รับแจ้งเบื้องต้นจากกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ซึ่งโดยปกติจะมีการปรับเปลี่ยนตัวเลขทุกปี อาจจะทุก 6 เดือน สำหรับปีนี้ ทางกรมศุลกากรได้แจ้งมาว่าปรับตัวเลขการส่งออกตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ย.51 ใหม่ จึงเห็นว่าตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.51 ยังคงเท่าเดิม ส่วนตัวเลขการนำเข้าได้ปรับเช่นเดียวกันแต่ปรับเพียง 6 เดือน ตั้งแต่เดือนม.ค.-มิ.ย.51
“ไม่กังวลจะกระทบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นการปรับปกติทั้งแบบที่เป็นเงินเหรียญสหรัฐ และเงินบาท ซึ่งทุกชาติก็มี เพียงแต่ปีนี้ตัวเลขเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ซึ่งทุกคนคงไม่สังเกต และตัวเลขส่งออกที่แถลงในเดือนพ.ย.51 ที่ติดลบ 18.6% ก็เป็นตัวเลขเบื้องต้นจากกรมศุลกากร ซึ่งอาจจะมีการปรับอีกในช่วงกลางปีหน้า อย่างไรก็ตาม ถ้ากรมศุลกากรแก้ เราก็จะใช้ตัวเลขใหม่ หากไม่แก้ก็จะใช้ตัวเลขเดิม ซึ่งก็ไม่สามารถคาดการณ์ว่าจะกระทบกับเป้าหมายการส่งออกปีนี้หรือไม่” นางนันทวัลย์กล่าว
