ดูเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรมีอิทธิพล มีอำนาจเหนือฟ้าสามารถสั่งการ เร่งเร้าให้รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ภายใต้การนำของพรรคพลังประชาชนและแนวร่วม 5 พรรค ให้มีความพยายามลักษณะกระเหี้ยนกระหือโดยมีมติร่วมกันที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้จุดมุ่งหมายอันใหญ่ยิ่งคือ เพื่อล้างผิดให้คุณทักษิณ และบริวาร โดยการแก้ไขมาตรา 291 เพื่อให้เปิดทางให้มีการตั้ง ส.ส.ร. 3 มีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และคาดว่าจะนำรูปแบบการปกครองตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 ซึ่งมีลักษณะรูปการปกครองแบบ กึ่งประธานาธิบดี (Semi-presidential System) อันเป็นรูปแบบการปกครองแบบแบ่งแยกอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารออกจากกัน คือเป็นรูปแบบการปกครองแบบเดียวกันกับประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่ชอบใจ ยินดีปรีดาของฝ่ายสาธารณรัฐ หรือฝ่ายที่มีความมุ่งหมายที่จะโค่นล้มสถาบันหลักของชาติ ซึ่งเรายอมไม่ได้
มาตรา 309 และอีกหลายมาตรา ที่ว่าด้วยเกี่ยวกับการรับรองการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับประกาศและคำสั่ง คปค. ให้ถือว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จุดมุ่งหมายคือ ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นจากคดีความทั้งหมด และทวงคืนขุมทรัพย์มหาศาลร่วม 7 หมื่นล้านที่ถูกอายัดไว้ ทั้งก็เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคพลังประชาชนตัวจริง กลับคืนสู่ไทยและกลับมาเป็นใหญ่สูงสุด ใหญ่ยิ่งกว่าเดิมอีกครั้งหนึ่ง นี่คือยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สั่งการรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ให้ดำเนินอย่างเร่งด่วน และพร้อมสู้ในทุกด้านเมื่อมีการต่อต้านไม่ว่าจะมาจากฝ่ายพันธมิตรฯ สื่อมวลชน นักวิชาการ หรือแม้แต่อำนาจของกองทัพ พวกทักษิณก็ไม่กลัวแล้ว
เราเคยกล่าวแล้ว่า... “นักปราชญ์ ย่อมปฏิเสธ หยุดยั้ง ล้ม แนวทางหายนะทำลายชาติ มันเป็นลัทธิอุบาทว์ที่ได้สร้างความฉิบหายทำลายชาติ สร้างความขัดแย้งมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เสี่ยงภัยเสียเวลา และทำความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงให้กับประเทศไทยเรา ตลอดระยะเวลา 76 ปี คือแนวทางลัทธิรัฐธรรมนูญได้ มีแนวคิดหลักคือร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นระบอบประชาธิปไตย หรือแก้ไขให้เป็นระบอบประชาธิปไตย เราบอกความจริงว่ามันเป็นแนวทางมิจฉาทิฐิ เราย้ำว่า คณะผู้ปกครองที่แสนจะโง่เขลา จะยกร่างแก้ไขสักร้อยครั้งพันฉบับ ก็ไม่มีวันที่จะได้ระบอบประชาธิปไตยหรอก มีแต่การหลอกลวงและล้มเหลว แนวทางดังกล่าวมันผิดพลาดอย่างซ้ำซากมาแล้วถึง 18 ฉบับ ยาวนานถึง 76 ปี ก็ยังคิดทำตามแนวทางมิจฉาทิฐินี้กันอีกหรือ มันน่าจะฉุกคิดกันบ้างนะ มีประเทศไทยประเทศเดียวในโลกที่สอนหลอกให้เข้าใจว่ารัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย เช่น สร้างอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ แต่กลับตั้งชื่อว่าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”
เราข้อย้ำว่า รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วม 5 พรรคกำลังดำเนินการอย่างมิจฉาทิฐิทำลายประเทศชาติที่ร้ายกาจที่สุดจะไปนำไปสู่ความขัดแย้งบ้านเมืองลุกเป็นไฟระลอกใหม่ที่รุนแรงยากที่จะยุติลงได้ ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ยอมไม่ได้จะเป็นความขัดแย้งทั่วทั้งประเทศ ถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายที่ต้องการให้คุณทักษิณ พ้นผิดกลับมาเป็นใหญ่ กับฝ่ายที่ต่อต้าน และฝ่ายที่จะต้องคิดหาทางแก้ไขเหตุวิกฤตชาติอย่างแท้จริง
แนวทางแก้ไขเหตุวิกฤตชาติที่แท้จริงมีอยู่ง่ายมากๆ คือเพียงให้มีปัญญาให้รู้ว่า ดวงอาทิตย์ มาก่อนดาวเคราะห์, พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระธรรม ก่อนพระวินัย, พระพุทธเจ้ามาก่อนพระอรหันตสาวก, จุดมุ่งหมาย ต้องมาก่อนมรรควิธีหรือวิธีการ, ยุทธศาสตร์ ต้องมาก่อนยุทธวิธี, ประมุขแห่งรัฐ มาก่อนนายกรัฐมนตรี
ธรรมปรัชญา ต้องมาก่อนการเมือง, การเมือง ต้องมาก่อนรัฐศาสตร์, รัฐศาสตร์ต้องมาก่อนนิติศาสตร์, หลักการปกครอง ต้องมาก่อนวิธีการปกครอง นี่คือสัมพันธภาพที่ถูกต้องโดยธรรม ฉันใด หลักการปกครอง (ระบอบ) ต้องมาก่อนรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น
จึงเป็นภารกิจอันยิ่งยวดของผู้นำโดยธรรม ที่มีสัมมาทิฐิที่จะต้องดำเนินการ เพื่อให้เกิดความถูกต้องขึ้นในแผ่นดิน ก่อนสิ่งใดทั้งหมดคือการผลักดัน สถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม หรือการสถาปนาระบอบโดยธรรม ให้สำเร็จลุล่วงไปก่อน กระทั่งประชาชนเข้าใจเรื่องหลักการปกครองหรือระบอบฯ แยกออกจากรัฐธรรมนูญได้เสียก่อน จึงค่อยคิดแก้ไข ปรับปรุงรัฐธรรมนูญในภายหลัง
เรากล่าวย้ำว่า การสร้างสรรค์พัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้องโดยธรรม ตามแนวทางของพระพุทธเจ้า เพื่อแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ ด้วยการปกครองแบบธรรมาธิปไตย โดยเสนอให้ประชาชนและนายทหารที่มีคุณธรรมและมีปัญญา ได้ร่วมกันเรียกร้องผลักดัน สถาปนา ระบอบหรือหลักการปกครองโดยธรรมอันเป็นรากฐานแก่นแท้ของกฎธรรมชาติ คือความเป็นใหญ่แห่งธรรม หมายถึง (1) สภาพที่ทรงไว้ (2) สภาวะที่ไม่ตาย (3) สภาวะสันติถาวร (4) แก่นธรรม (5) ต้นเหตุ (6) หลักเอกภาพ (7) สัจธรรม (8) ความจริงแท้ (9) ความยุติธรรม (10) หลักการ (11) คุณธรรม (12) ความถูกต้อง (13) ความประพฤติชอบ (14) สัมมาทิฐิ (15) พระธรรม (16) คำสั่งสอนของพระศาสดาที่ปรากฏขึ้น ฯลฯ พระพุทธเจ้าตรัสว่าธรรมาธิปไตย หมายถึง (1) จงอาศัยธรรมเท่านั้น (2) สักการธรรม (3) ทำความเคารพธรรม (4) นับถือธรรม (5) บูชาธรรม (6) ยำเกรงธรรม (7) มีธรรมเป็นธงชัย (8) มีธรรมเป็นยอด (9) มีธรรมเป็นใหญ่... (บรมธรรม หรือธรรมาธิปไตยเป็นศูนย์กลางของสรรพสิ่ง)
เราได้ประยุกต์สภาวธรรมดังกล่าวข้างต้น อันเป็นรากฐานแก่นแท้ของกฎธรรมชาติ และยุกต์เข้ากับ ลักษณะพิเศษของชาติไทยเราคือรากฐานแก่นแท้ของชาติคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความมั่นคงของชาติ และหลักนิติธรรม กล่าวโดยย่อคือได้นำมาประยุกต์ใช้อย่างถูกต้องโดยธรรม ตามกฎอิทัปปจจยตาฝ่ายกุศล ฝ่ายพัฒนา ได้แก่
(1) หลักธรรมาธิปไตยจะเป็นเหตุปัจจัยให้พระมหากษัตริย์ทรงมีทศพิธราชธรรม
(2) หลักพระมหากษัตริย์ประมุขแห่งรัฐจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
(3) หลักอำนาจอธิปไตยของปวงชนจะเป็นเหตุปัจจัยให้ปวงชนมีหลักเสรีภาพบริบูรณ์
(4) หลักเสรีภาพบริบูรณ์จะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักความเสมอภาคทางโอกาส
(5) หลักความเสมอภาคทางโอกาสจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักภราดรภาพ
(6) หลักภราดรภาพจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรม
(7) หลักเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรมจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักดุลยภาพ
(8) หลักดุลยภาพจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักนิติธรรม
(9) หลักนิติธรรมคือหลักการปกครองทั้ง 9 นี้ จะเป็นเหตุปัจจัยให้ผู้ปกครอง หรือคณะผู้ปกครองผู้มีปัญญาโดยธรรม ดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ เป็นธรรมต่อปวงชนในชาติ หลักการปกครองโดยธรรม ย่อมเป็นปัจจัยต่อการเมืองการปกครองมีความมั่นคงยั่งยืนสืบไป จะเป็นเหตุให้ประเทศไทยพ้นจากขุมนรก ทั้งจะเป็นทั้งชัยชนะและเป็นความก้าวหน้าอย่างยิ่งใหญ่ของปวงชนไทยทุกคน
ทางเดียวสำเร็จยิ่งใหญ่ลุล่วงไปได้ คือองค์พระมหากษัตริย์ ทรงสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9จากนั้นการออกกฎหมายใดๆ ก็ตามทั้ง กฎหมายหลัก (Principle of Law) คือกฎหมายรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติต่างๆ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา ฯลฯต้องไม่ขัดต่อหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 คือไม่ขัดต่อองค์ประกอบแห่งรัฐ (ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์), หลักความมั่นคงแห่งชาติ (Supreme Law), และหลักนิติธรรม (The Rule of Law) ถ้ากฎหมายใดขัดต่อหลักนิติธรรมทั้ง 9 นี้ ก็ให้ปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องเป็นธรรม จะเห็นว่าไม่ยากเลย ของง่ายๆ ประชาชนเข้าใจ แต่พวกผู้ปกครองไม่เข้าใจ
พร้อมทั้งการนำระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริ มาใช้อย่างรอบด้าน ก็จะเกิดความถูกต้องโดยธรรมอย่างยั่งยืนอย่างรอบด้านเกิดขึ้นในบ้านเมือง และเป็นการแก้เหตุวิกฤตชาติที่ยาวนานถึง 76 ปีให้สำเร็จลงได้อย่างแท้จริง ความถูกต้อง ความเข้มแข็ง ความมั่นคง ความมั่งคั่ง ความรู้รักสามัคคีธรรมของชนในชาติก็จะกลับคืนมา ความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าไม่แพ้ประเทศอื่นใดในโลก เราหวังว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะนำไปศึกษา ผลักดัน อุทิศตนด้วยชีวิตอย่างสุดกำลัง เพื่อการสร้างสรรค์สู่การเมืองใหม่สู่ธรรมาธิปไตยอันยิ่งใหญ่ของชาติอย่างแท้จริง
มาตรา 309 และอีกหลายมาตรา ที่ว่าด้วยเกี่ยวกับการรับรองการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับประกาศและคำสั่ง คปค. ให้ถือว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จุดมุ่งหมายคือ ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นจากคดีความทั้งหมด และทวงคืนขุมทรัพย์มหาศาลร่วม 7 หมื่นล้านที่ถูกอายัดไว้ ทั้งก็เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคพลังประชาชนตัวจริง กลับคืนสู่ไทยและกลับมาเป็นใหญ่สูงสุด ใหญ่ยิ่งกว่าเดิมอีกครั้งหนึ่ง นี่คือยุทธศาสตร์และยุทธวิธีของฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สั่งการรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ให้ดำเนินอย่างเร่งด่วน และพร้อมสู้ในทุกด้านเมื่อมีการต่อต้านไม่ว่าจะมาจากฝ่ายพันธมิตรฯ สื่อมวลชน นักวิชาการ หรือแม้แต่อำนาจของกองทัพ พวกทักษิณก็ไม่กลัวแล้ว
เราเคยกล่าวแล้ว่า... “นักปราชญ์ ย่อมปฏิเสธ หยุดยั้ง ล้ม แนวทางหายนะทำลายชาติ มันเป็นลัทธิอุบาทว์ที่ได้สร้างความฉิบหายทำลายชาติ สร้างความขัดแย้งมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เสี่ยงภัยเสียเวลา และทำความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงให้กับประเทศไทยเรา ตลอดระยะเวลา 76 ปี คือแนวทางลัทธิรัฐธรรมนูญได้ มีแนวคิดหลักคือร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นระบอบประชาธิปไตย หรือแก้ไขให้เป็นระบอบประชาธิปไตย เราบอกความจริงว่ามันเป็นแนวทางมิจฉาทิฐิ เราย้ำว่า คณะผู้ปกครองที่แสนจะโง่เขลา จะยกร่างแก้ไขสักร้อยครั้งพันฉบับ ก็ไม่มีวันที่จะได้ระบอบประชาธิปไตยหรอก มีแต่การหลอกลวงและล้มเหลว แนวทางดังกล่าวมันผิดพลาดอย่างซ้ำซากมาแล้วถึง 18 ฉบับ ยาวนานถึง 76 ปี ก็ยังคิดทำตามแนวทางมิจฉาทิฐินี้กันอีกหรือ มันน่าจะฉุกคิดกันบ้างนะ มีประเทศไทยประเทศเดียวในโลกที่สอนหลอกให้เข้าใจว่ารัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตย เช่น สร้างอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ แต่กลับตั้งชื่อว่าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”
เราข้อย้ำว่า รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วม 5 พรรคกำลังดำเนินการอย่างมิจฉาทิฐิทำลายประเทศชาติที่ร้ายกาจที่สุดจะไปนำไปสู่ความขัดแย้งบ้านเมืองลุกเป็นไฟระลอกใหม่ที่รุนแรงยากที่จะยุติลงได้ ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ยอมไม่ได้จะเป็นความขัดแย้งทั่วทั้งประเทศ ถึงขั้นเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายที่ต้องการให้คุณทักษิณ พ้นผิดกลับมาเป็นใหญ่ กับฝ่ายที่ต่อต้าน และฝ่ายที่จะต้องคิดหาทางแก้ไขเหตุวิกฤตชาติอย่างแท้จริง
แนวทางแก้ไขเหตุวิกฤตชาติที่แท้จริงมีอยู่ง่ายมากๆ คือเพียงให้มีปัญญาให้รู้ว่า ดวงอาทิตย์ มาก่อนดาวเคราะห์, พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระธรรม ก่อนพระวินัย, พระพุทธเจ้ามาก่อนพระอรหันตสาวก, จุดมุ่งหมาย ต้องมาก่อนมรรควิธีหรือวิธีการ, ยุทธศาสตร์ ต้องมาก่อนยุทธวิธี, ประมุขแห่งรัฐ มาก่อนนายกรัฐมนตรี
ธรรมปรัชญา ต้องมาก่อนการเมือง, การเมือง ต้องมาก่อนรัฐศาสตร์, รัฐศาสตร์ต้องมาก่อนนิติศาสตร์, หลักการปกครอง ต้องมาก่อนวิธีการปกครอง นี่คือสัมพันธภาพที่ถูกต้องโดยธรรม ฉันใด หลักการปกครอง (ระบอบ) ต้องมาก่อนรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น
จึงเป็นภารกิจอันยิ่งยวดของผู้นำโดยธรรม ที่มีสัมมาทิฐิที่จะต้องดำเนินการ เพื่อให้เกิดความถูกต้องขึ้นในแผ่นดิน ก่อนสิ่งใดทั้งหมดคือการผลักดัน สถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม หรือการสถาปนาระบอบโดยธรรม ให้สำเร็จลุล่วงไปก่อน กระทั่งประชาชนเข้าใจเรื่องหลักการปกครองหรือระบอบฯ แยกออกจากรัฐธรรมนูญได้เสียก่อน จึงค่อยคิดแก้ไข ปรับปรุงรัฐธรรมนูญในภายหลัง
เรากล่าวย้ำว่า การสร้างสรรค์พัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้องโดยธรรม ตามแนวทางของพระพุทธเจ้า เพื่อแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ ด้วยการปกครองแบบธรรมาธิปไตย โดยเสนอให้ประชาชนและนายทหารที่มีคุณธรรมและมีปัญญา ได้ร่วมกันเรียกร้องผลักดัน สถาปนา ระบอบหรือหลักการปกครองโดยธรรมอันเป็นรากฐานแก่นแท้ของกฎธรรมชาติ คือความเป็นใหญ่แห่งธรรม หมายถึง (1) สภาพที่ทรงไว้ (2) สภาวะที่ไม่ตาย (3) สภาวะสันติถาวร (4) แก่นธรรม (5) ต้นเหตุ (6) หลักเอกภาพ (7) สัจธรรม (8) ความจริงแท้ (9) ความยุติธรรม (10) หลักการ (11) คุณธรรม (12) ความถูกต้อง (13) ความประพฤติชอบ (14) สัมมาทิฐิ (15) พระธรรม (16) คำสั่งสอนของพระศาสดาที่ปรากฏขึ้น ฯลฯ พระพุทธเจ้าตรัสว่าธรรมาธิปไตย หมายถึง (1) จงอาศัยธรรมเท่านั้น (2) สักการธรรม (3) ทำความเคารพธรรม (4) นับถือธรรม (5) บูชาธรรม (6) ยำเกรงธรรม (7) มีธรรมเป็นธงชัย (8) มีธรรมเป็นยอด (9) มีธรรมเป็นใหญ่... (บรมธรรม หรือธรรมาธิปไตยเป็นศูนย์กลางของสรรพสิ่ง)
เราได้ประยุกต์สภาวธรรมดังกล่าวข้างต้น อันเป็นรากฐานแก่นแท้ของกฎธรรมชาติ และยุกต์เข้ากับ ลักษณะพิเศษของชาติไทยเราคือรากฐานแก่นแท้ของชาติคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ความมั่นคงของชาติ และหลักนิติธรรม กล่าวโดยย่อคือได้นำมาประยุกต์ใช้อย่างถูกต้องโดยธรรม ตามกฎอิทัปปจจยตาฝ่ายกุศล ฝ่ายพัฒนา ได้แก่
(1) หลักธรรมาธิปไตยจะเป็นเหตุปัจจัยให้พระมหากษัตริย์ทรงมีทศพิธราชธรรม
(2) หลักพระมหากษัตริย์ประมุขแห่งรัฐจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
(3) หลักอำนาจอธิปไตยของปวงชนจะเป็นเหตุปัจจัยให้ปวงชนมีหลักเสรีภาพบริบูรณ์
(4) หลักเสรีภาพบริบูรณ์จะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักความเสมอภาคทางโอกาส
(5) หลักความเสมอภาคทางโอกาสจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักภราดรภาพ
(6) หลักภราดรภาพจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรม
(7) หลักเอกภาพหรือรู้รักสามัคคีธรรมจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักดุลยภาพ
(8) หลักดุลยภาพจะเป็นเหตุปัจจัยให้มีหลักนิติธรรม
(9) หลักนิติธรรมคือหลักการปกครองทั้ง 9 นี้ จะเป็นเหตุปัจจัยให้ผู้ปกครอง หรือคณะผู้ปกครองผู้มีปัญญาโดยธรรม ดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ เป็นธรรมต่อปวงชนในชาติ หลักการปกครองโดยธรรม ย่อมเป็นปัจจัยต่อการเมืองการปกครองมีความมั่นคงยั่งยืนสืบไป จะเป็นเหตุให้ประเทศไทยพ้นจากขุมนรก ทั้งจะเป็นทั้งชัยชนะและเป็นความก้าวหน้าอย่างยิ่งใหญ่ของปวงชนไทยทุกคน
ทางเดียวสำเร็จยิ่งใหญ่ลุล่วงไปได้ คือองค์พระมหากษัตริย์ ทรงสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9จากนั้นการออกกฎหมายใดๆ ก็ตามทั้ง กฎหมายหลัก (Principle of Law) คือกฎหมายรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติต่างๆ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา ฯลฯต้องไม่ขัดต่อหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 คือไม่ขัดต่อองค์ประกอบแห่งรัฐ (ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์), หลักความมั่นคงแห่งชาติ (Supreme Law), และหลักนิติธรรม (The Rule of Law) ถ้ากฎหมายใดขัดต่อหลักนิติธรรมทั้ง 9 นี้ ก็ให้ปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องเป็นธรรม จะเห็นว่าไม่ยากเลย ของง่ายๆ ประชาชนเข้าใจ แต่พวกผู้ปกครองไม่เข้าใจ
พร้อมทั้งการนำระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริ มาใช้อย่างรอบด้าน ก็จะเกิดความถูกต้องโดยธรรมอย่างยั่งยืนอย่างรอบด้านเกิดขึ้นในบ้านเมือง และเป็นการแก้เหตุวิกฤตชาติที่ยาวนานถึง 76 ปีให้สำเร็จลงได้อย่างแท้จริง ความถูกต้อง ความเข้มแข็ง ความมั่นคง ความมั่งคั่ง ความรู้รักสามัคคีธรรมของชนในชาติก็จะกลับคืนมา ความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าไม่แพ้ประเทศอื่นใดในโลก เราหวังว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะนำไปศึกษา ผลักดัน อุทิศตนด้วยชีวิตอย่างสุดกำลัง เพื่อการสร้างสรรค์สู่การเมืองใหม่สู่ธรรมาธิปไตยอันยิ่งใหญ่ของชาติอย่างแท้จริง