xs
xsm
sm
md
lg

เลื่อนประชุม"กบง.-กพช."การเมืองส่อถอยแยกLPG

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน- ประชุมถกราคาแอลพีจีแยกเป็น 2 ราคาเพื่อปรับขึ้นภาคขนส่งและอุตสาหกรรมชะลออีกรอบหลังฝ่ายการเมืองพร้อมใจกันติดภารกิจส่งผลให้การประชุมทั้ง กบง. และ กพช. พร้อมใจกันเลื่อนแบบไม่มีกำหนด วงในชี้การเมืองอาจไม่กล้าตัดสินใจเพราะหวั่นกระแสคะแนนนิยมตก รมว.พลังงานเล็งเบรกขึ้นราคาNGV ม.ค. 52 เป็น 12 บ./กก. อ้างเหตุจูงใจเพราะแอลพีจีจะต้องปรับขึ้น

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เปิดเผยว่า การประชุม กพช.วันที่ 31 ต.ค.นี้คงจะต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากตนติดภารกิจ แต่ยืนยันจะพยายามหาเวลาเพื่อประชุมในช่วงพ.ย.นี้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อพิจารณานโยบายการแยกราคาแอลพีจี(ก๊าซหุงต้ม)ที่กระทรวงพลังงานจะสรุปเพื่อนำเสนอแต่จะขึ้นราคาหรือไม่อย่างไรคงไม่ขอแสดงความเห็นเนื่องจากต้องการดูข้อมูลรายละเอียดให้ชัดเจนก่อน
น.พ.วรรณัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตนได้ขอเลื่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เนื่องจากติดภารกิจราชการที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเดิมมีวาระประชุมปรับโครงสร้างราคาแอลพีจี ประกอบกับการประชุม กพช.ซึ่งต้องอนุมัติแผนดังกล่าวก็เลื่อนประชุมเช่นกันเพราะประธานติดภารกิจอื่น ดังนั้นคงจะต้องรอการประชุมใหม่อีกครั้ง
“ การปรับราคาเดิมทีก็อยากให้มีผลเลยหลังการประชุมกพช. อย่างไรก็ตามยืนยันว่าหลักการแล้วจะมีการปรับขึ้นในภาคขนส่งและอุตสาหกรรมแต่การปรับขึ้นจะใช้วิธีทยอยปรับในแต่ละเดือนไปและการอนุมัติให้ขึ้นคงจะไม่เกิน 6-7 บาทต่อกิโลกรัม” รมว.พลังงานกล่าว

***เบรกNGVปี52ขยับเป็น 12 บ./กก.
สำหรับการปรับราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV ตามแผนเดิมจะทยอยปรับเพื่อให้สะท้อนราคาที่แท้จริงโดยม.ค. 2552 จะปรับเป็นไม่เกิน 12 บาทต่อกก. จากปัจจุบัน 8.50 บาทต่อกก.นั้นรมว.พลังงานกล่าวว่าจะทบทวนแผนดังกล่าวหากราคาน้ำมันตลาดโลกขณะนั้นไม่เกิน 80-90 เหรียญต่อบาร์เรลเพื่อลดภาระประชาชนเพื่อส่งเสริมการใช้ NGV แทนแอลพีจีที่รัฐบาลจะมีการปรับขึ้นราคา
“เดิมมติ กพช.มีมติให้ปรับราคาเอ็นจีวีปี 52 เป็น 12 บาทต่อกิโลกรัม ปี53 เป็น 13 บาทต่อกิโลกรัม และปี54 ให้ปรับตามต้นทุนแท้จริง เพราะว่าราคาปัจจุบันที่อยู่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัมนั้น รัฐบาลอุดหนุนอยู่จำนวนหนึ่ง แต่เมื่อราคาน้ำมันอยู่ในระดับนี้ก็ไม่จำเป็นต้องทำตามมติเดิม และไม่จำเป็นต้องแก้ระเบียบด้วย”นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า การเลื่อนประชุมทั้งกบง.และกพช.กะทันหันเป็นที่น่าสังเกตุว่ารัฐบาลอาจจะยังไม่กล้าพอที่จะตัดสินใจแยกราคาแอลพีจีภาคขนส่งและอุตสาหกรรมด้วยการปรับขึ้นราคาเพราะอาจกระทบกับฐานเสียงประชานิยมของรัฐบาลเพราะดูจากท่าทีของฝ่ายการเมืองในอดีตที่ผ่านมายากที่จะตัดสินใจปรับขึ้นแม้ว่าฝ่ายราชการประจำที่เห็นปัญหาการเติบโตการใช้ที่ผิดประเภทจะนำมาซึ่งการนำเข้ามหาศาลและบิดเบือนโครงสร้างทำให้รัฐมีภาระเพิ่มและได้เสนอแนวทางปรับขึ้นมาช้านานแล้วแต่ฝ่ายการเมืองก็ใช้วิธีโยนกันไปกันมาเช่นนี้มาตลอดตั้งแต่สมัยรัฐบาลสมัครเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ประกอบกับสมัย พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ เป็นรมว.พลังงานได้สร้างเงื่อนไขว่าการขึ้นแอลพีจีจะต้องเป็นหน้าที่ของกพช.ทั้งที่อดีตอำนาจตัดสินใจนั้นอยู่ที่ตัวรมว.พลังงานเองสามารถนัดประชุมกบง.พิจารณาได้ทันทีหรือสำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)เสนอมาแล้วรมว.ก็เซ็นอนุมัติได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้กบง.อาจต้องเสนอให้กพช.มอบอำนาจการปรับขึ้นแอลพีจีก่อนแล้วค่อยประชุมอีกครั้งโดยไม่บอกล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เกิดการกักตุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วาระประชุมกพช.นั้นเบื้องต้นมีการกำหนดวาระการพิจารณาไว้ 3 ประเด็นสำคัญคือ 1. การปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีแยกเป็น 2 ราคา 2. กำหนดนโยบายการส่งเสริมแก๊สโซฮอล์ อี -85 เป็นวาระแห่งชาติ และ 3. การปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพี 2007 ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ลดลง 1,4000 เมกะวัตต์.
กำลังโหลดความคิดเห็น