xs
xsm
sm
md
lg

40ส.ว.หนุนประสพสุข จับตานิคม-กลุ่ม24ต.ค. รับใช้พลังแม้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา13.00 น.วานนี้ (27 ต.ค.) กลุ่ม 40 ส.ว.จำนวน10 คน นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา นางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ และนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ร่วมกันแถลงข่าวที่รัฐสภา
นายไพบูลย์ กล่าวว่า กลุ่ม 40 ส.ว.ได้หารือถึงการทำหน้าที่ของนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ที่เข้าร่วมประชุม 4 ฝ่าย รวมทั้งการล่ารายชื่อส.ว.เพื่อสนับสนุนการแก้ไข มาตรา 291 เพื่อให้มีส.ส.ร. 3 ซึ่ง กลุ่ม 40 ส.ว.ยืนยันว่า จะสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของนาย ประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา อย่างเข้มแข็ง พร้อมทั้งจะติดตามการทำหน้าที่ของนายนิคม ในการเข้าร่วมสนับสนุนแก้ไขรธน. มาตรา 291 หากพบความไม่เหมาะสม ก็จะดำเนินการตรวจสอบและมีการเคลื่อนไหวต่อไป โดยเฉพาะหากนายนิคมเข้าร่วมล่ารายชื่อ เพื่อสนับสนุนการแก้ไข มาตรา 291 เพราะนายนิคม เป็นถึงรองประธานวุฒิสภา ควรจะปฏิบัติหน้าที่เป็นกลาง แต่เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา มีคนเห็นนายนิคม อยู่ในกลุ่มที่ล่ารายชื่อด้วย ซึ่งหากนายนิคม ยุติพฤติกรรมดังกล่าวเรื่องทุกอย่างก็จบ แต่หากนายนิคม ยังคงเดินหน้าเคลื่อนไหวเรื่องนี้ ทางกลุ่มก็จะหารือเพื่อหามาตรการดำเนินการกับนายนิคม ต่อไป
นายประสาร กล่าวว่า จากเหตุการณ์การเสนอรับองค์ประชุมวุฒิสภา เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา จนมีการปิดประชุมทั้งๆที่ยังมีส.ว.อีกหลายคนยังไม่ได้อภิปราย ทางกลุ่มจะทำหนังสือถึงประธานวุฒิสภา เพื่อให้บรรจุวาระการอภิปรายแก้ไขรธน. มาตรา 291 กับการแก้ไขวิกฤตของชาติ เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างกว้างขวางว่า การมี ส.ส.ร.3 สามารถแก้ไขวิกฤตได้จริงหรือ
นายสมชาย กล่าวว่า จะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ยุติการถ่ายทอดการชุมนุมความจริงวันนี้สัญจร ที่จัดที่สนามกีฬารัชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 1 พ.ย. ที่จะมีการโฟนอินจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากคำแถลงล่าสุดของพ.ต.ท.ทักษิณ หมิ่นเหม่ต่อบุคคลชั้นสูง ซึ่งแม้จะเป็นพลเมืองไทย แต่ศาลตัดสินจำคุก 2 ปีไปแล้ว จึงมีความไม่เหมาะสม และจะสร้างความแตกแยกของคนในชาติรุนแรงขึ้น
นางพรพันธุ์ กล่าวว่า ทางกลุ่มรู้สึกไม่สบายใจที่ถูกกล่าวหาว่า ไปกดดันไม่ให้ประธานวุฒิสภาเข้าร่วมประชุม 4 ฝ่าย ซึ่งทางกลุ่มไม่ได้ขัดขวางการทำหน้าที่ของประธานวุฒิสภาแต่อย่างใด และจากการสอบถามประธานวุฒิสภา ก็ชี้แจงว่าไม่ได้พูดอย่างที่ถูกกล่าวหาก ซึ่งเราจะไม่ประณามใคร หรือถล่มใครโดยไม่มีเหตุผล เพียงชี้แจงให้เข้าใจถึงความถูกต้อง

**จวกส.ว.กลุ่ม24 ต.ค.รับใช้รัฐบาล
น.ส.รสนา กล่าวว่า ขอชี้แจงถึงกลุ่ม 24 ต.ค. กล่าวหาว่า กลุ่ม 40 ส.ว. ทำหน้าที่ไปทำนองเดียวกับฝ่ายค้าน และถูกมองว่าฝักใฝ่การเมือง ซึ่งอยากให้พิจารณาถึงการจัดรายการความจริงวันนี้สัญจร ที่มีการพูดบนเวทีว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเฮงซวยให้ได้ และในที่ประชุมวันนั้น มีส.ส.พรรคพลังประชาชนอยู่ด้วย จึงอยากย้อนถามกลับว่ากลุ่ม 24 ต.ค. มุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมีวุฒิสภาไปร่วม นอกจากนี้ ที่ผ่านมา กลุ่มคนเหล่านี้รัฐประหารโดยใช้เงินเพื่อให้ตนเองเข้ายึดกุมอำนาจรัฐ และ กำลังจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในขณะที่กำลังถูกยุบพรรค และขณะนี้รัฐบาลและส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล กำลังมุ่งสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่วุฒิสภากลับเข้าไปร่วมซึ่งสอดคล้องกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะฉะนั้นขอกล่าวหาว่า ส.ว.กลุ่ม 24 ต.ค. กำลังทำงานให้กับฝ่ายการเมืองพรรครัฐบาล ทั้งที่ ส.ว. ควรจะต้องทำหน้าที่เป็นกลาง ในการกลั่นกรองกฎหมาย ตรวจสอบรัฐบาล แต่กลับทำหน้าที่เป็นเกราะกำบังให้กับรัฐบาล ซึ่งสังคมจะต้องร่วมกันตรวจสอบ
น.ส.สุมล กล่าวว่าเชื่อว่า ส.ว.ทั้ง 2 ฝ่าย ที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน จะทำความเข้าใจกันได้ เชื่อมั่นว่า สถาบันวุฒิสภาจะเป็นสถาบันที่เป็นที่พึ่งที่หวังได้ ไม่อยากให้สื่อลงข่าวว่าวุฒิสภาแตกแยก เพราะเชื่อว่าความบาดหมางครั้งนี้ เป็นแค่ชั่ววูบ และจะเข้าใจในที่สุด เพราะส.ว.ไม่มีพรรค ทุกคนมีเอกสิทธิ การที่ส.ว.จะขึ้นเวที ก็เป็นเอกสิทธิ เพราะไม่ใช่เวทีพรรคการเมือง ดังนั้นที่สื่อเข้าใจว่า ส.ว.แบ่งเป็นฝักฝ่ายนั้น เป็นการเข้าใจผิด หลังที่มีการพูดคุย และมีการประนีประนอมแล้วคงจะเข้าใจกัน ซึ่งทางกลุ่ม 24 ต.ค. จะเป็นฝ่ายที่มาประสาน
นายสมชาย กล่าวว่า การลงชื่อของกลุ่ม 24 ต.ค. จำนวน 65 คน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีส.ว. บางท่านระบุว่า ได้ลงชื่อเพื่อแสดงความเป็นกลาง แต่กลับว่าเป็นการลงชื่อสนับสนุนการแก้ไข ม.291 ซึ่งเรื่องนี้นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี ได้นำหนังสือที่ลงชื่อทั้งสองฉบับมาแสดงให้ตนดู โดยจะเห็นว่าฉบับแรกมีส.ว. ประมาณ 30 คน ลงชื่อสนับสนุนแก้ไข ม.291 ฉบับที่ 2 จะเป็นส.ว.กลุ่ม24 ต.ค. ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า รายชื่อของกลุ่ม 30 คน ดังกล่าวอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
นายคำนูณ กล่าวว่า คงไม่ปฏิเสธว่าเบื้องต้นประธานวุฒิสภา ได้เข้าร่วมประชุม 4 ฝ่าย เพื่อให้มี ส.ส.ร.3 แต่หลังจากวันที่ 20 ต.ค. ประธานวุฒิสภาได้ ขอถอนตัว เนื่องจากเป็นแนวทางที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ดังนั้นนายนิคม จะต้องยุติบทบาทของตัวเอง แม้นายนิคมจะเข้าไปร่วมเสนอโมเดลที่มาของ ส.ส.ร. ก็ตาม แต่ถ้านายนิคม ยังเข้าร่วมประชุม 4 ฝ่ายต่อไป รวมทั้งประกาศล่ารายชื่อ เพื่อสนับสนุน ก็เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แม้จะอ้างว่าเป็นการทำหน้าที่ในฐานะส.ว. เพราะอย่าลืมว่า ตำแหน่งรองประธานวุฒิสภานั้นติดตัวท่านไปด้วย แต่ยังสามารถทำหน้าที่ในส่วนของส.ว.ได้ โดยเมื่อร่างดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา ก็สามารถอภิปรายสนับสนุนในส่วนนั้นได้

**"ประสพสุข"มั่นใจส.ว.ยังหนุน
ด้านนายประสพสุข บุญเดช ปธ.วุฒิสภา ได้กล่าวก่อนหน้านี้ ถึงกรณีที่นายนิคม ไวยรัชพานิช รองปธ.วุฒิสภา คนที่ 1 ออกมาวิพากษ์วิจารณ์บทบาทการทำหน้าที่ของประธาน เกี่ยวกับการถอนตัวจากการหารือ 4 ฝ่ายว่า ตนได้ชี้แจงจนเป็นที่เข้าใจไปแล้วว่า ในการประชุมร่วม 4 ฝ่ายกับหัวหน้าพรรคการเมืองวันที่ 6 ต.ค.นั้น ตนให้นายนิคม ไปศึกษาโมเดล ส.ส.ร. 3 ร่วมกับตัวแทนพรรคการเมือง ส่วนการประชุมในวันที่ 20 ต.ค. ตนได้ลาประชุม ขณะที่นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้เชิญนายนิคมไปประชุม ซึ่งกรณีดังกล่าวนายนิคม ได้เข้าใจตรงกับที่ตนพูดอยู่แล้ว ฉะนั้นที่ถกเถียงกัน คงเป็นการเถียงกันว่าไม่ได้มอบหมายในวันที่ 20 ต.ค. มากกว่า ซึ่งเป็นการนำมาปนกัน แต่คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร
สำหรับปัญหาความขัดแย้งของส.ว.สองกลุ่มใหญ่นั้น เชื่อว่าสามารถเจรจากันได้ ตนไม่คิดว่าเป็นความแตกแยก แต่เป็นความแตกต่างในทางความคิด
เมื่อถามว่าส.ว.ส่วนหนึ่งตั้งกลุ่ม 24 ต.ค. ยิ่งตอกย้ำภาพความขัดแย้ง และสั่นคลอนตำแหน่งปธ.วุฒิสภาหรือไม่ นายประสพสุข กล่าวว่า ยังอีกนานกว่าจะครบเวลา 1 ปีในตำแหน่งปธ.วุฒิสภา คิดว่ากระแสข่าวเลื่อยขาเก้าอี้ คงไม่ใช่เรื่องจริง ตนยังคงเชื่อมั่นในส.ว.ทั้งหมดว่าจะยังสนับสนุนตนอยู่

**"นิคม"เคลียร์เรื่องประชุม4 ฝ่าย
ด้านนายนิคม กล่าวว่า ขอทำความเข้าใจอีกครั้งว่า การหารือ 4 ฝ่าย เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ปธ.วุฒิลาประชุม ตนได้เข้าไปร่วมประชุม เพื่อรายงานผลสรุปโมเดล ส.ส.ร.3 ที่คณะกรรมการดำเนินการยกร่างแก้ไข ม. 291 ที่ตนร่วมประชุมกับตัวแทนจากพรรคการเมืองได้ข้อยุติ และตนทำความเข้าใจกับนายประสพสุข จนเป็นที่เข้าใจกันแล้ว
ส่วนการทำงานในวุฒิสภาที่อาจเดินต่อไปลำบากเพราะ 2 กลุ่มใหญ่ มีความเห็นแตกต่างกันนั้น ตนคิดว่าไม่เป็นปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่แต่ละกลุ่มออกมาบอกถึงจุดยืน แนวคิดของตัวเองมากว่า ส่วนในการทำหน้าที่รองประธาน ก็ยังทำได้ เพราะตนเคารพความเห็นที่แตกต่าง สมัยที่เป็นข้าราชการ กทม. หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว เชื่อว่าสังคมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
เมื่อถามว่า การประกาศจะล่าชื่อสนับสนุนการแก้ไข มาตรา 291 ทำให้โดนโจมตีว่า รองประธานไม่ควรมาขับเคลื่อนเอง นายนิคม กล่าวว่า "ผมไม่ได้ทำ มีใครเห็นผมถือใบล่ารายชื่อที่ไหนหรือ นั่นคนอื่นเป็นคนทำ ส่วนที่มีการโจมตีผม ผมคิดว่าเขาคอยค้านผมตลอดมากกว่า"
เมื่อถามถึงกรณี ส.ว.กลุ่ม 24 ต.ค. ในจำนวนนั้นมีบางส่วนที่ไปลงชื่อสนับสนุนแก้ไขเพิ่มเติม ม. 291 แล้ว นายนิคม กล่าวว่ากลุ่ม 24 ต.ค.ได้ประกาศจุดยืนว่า ขอสงวนสิทธิ์ในเรื่องการเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยในการแก้ม.291 แต่ในกลุ่ม 24 ต.ค. ก็มีครึ่งหนึ่งที่เห็นด้วยกับการแก้ม. 291 ซึ่งก็เป็นเรื่องของ ส.ว.ที่เห็นด้วยจะแยกไปดำเนินการใดๆ


**กลุ่ม 24 ต.ค.เสียงแตกแก้ม.291

นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา 1 ในกลุ่ม 24 ต.ค. เปิดเผยว่า ตนและเพื่อนส.ว.บางส่วน ไม่เห็นด้วยกับการที่ ส.ว.บางคนในกลุ่มไปสนับสนุนการแก้ไข ม.291 เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งส.ส.ร. 3 เพราะเกรงว่า อาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า ส.ว.ทั้ง 64 คนในกลุ่ม เห็นด้วย ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะวัตถุประสงค์ที่ตนลงชื่อในกลุ่มนี้ เพื่อต้องการแสดงจุดยืน คือ ความเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใด และขอศึกษาก่อนว่า ควรแก้ม.291 หรือไม่ "เรื่องนี้เป็นประเด็นที่สุ่มเสี่ยง และอาจจะโดนมองว่า ทั้งกลุ่มเห็นด้วย ซึ่งความเป็นจริงไม่ใช่ ทั้งนี้ขณะนี้ยังไม่อยากมองว่า การล่ารายชื่อ ส.ว.ดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับบุคคลบางคน" นายพิเชต กล่าว และว่า ตน และเพื่อนส.ว.ได้เข้าพบนายประสพสุข เพื่อชี้แจงและปรับความเข้าใจกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น และยืนยันต่อนายประสพสุขว่า ส.ว.ที่สนับสนุนการแก้ ม. 291 เป็นเพียงบางส่วนของ กลุ่ม24 ต.ค. เท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น