xs
xsm
sm
md
lg

วุฒิสภาเดือดรุมซัก “นิคม” ดอดถก 4 ฝ่าย จนต้องชิงปิดประชุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เหตุการณ์ระหว่างการประชุม
วุฒิสภา ถกเรื่องตัวแทนประชุม 4 ฝ่ายเดือด “นิคม” ยังตะแบงได้รับมอบหมายจากประธานไปเป็นตัวแทน พร้อมถล่มไร้ภาวะผู้นำ แต่ถูก กลุ่ม 40 ส.ว.อัดยับ จนต้องสั่งปิดประชุมกลางคัน

วันนี้ (25 ต.ค.) ในการประชุมวุฒิสภา มีสมาชิกขอหารือปัญหาการประชุม 4 ฝ่าย เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา เข้าร่วมประชุม โดย นายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว.สรรหา ได้หารือในที่ประชุม ว่า ช่วงที่ผ่านมาได้มีข่าวที่กระทบเกียรติศักดิ์ ชื่อเสียงของวุฒิสภาโดยเฉพาะกรณีที่ประธานวุฒิสภาได้มอบหมายให้ นายนิคม เข้าประชุม จนนำไปสู่การจัดตั้ง ส.ส.ร.3 ซึ่งสร้างความสับสนกับประชาชน และเห็นว่า วุฒิสภาต้องเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่การเมืองจึงอยากสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้

นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร กล่าวว่า อยากให้ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ชี้แจงว่าไปร่วมประชุมทำหน้าที่ตามที่ประธานมอบหมาย หรือไปในนามส่วนตัวและในการประชุมรัฐสภาวันที่ 7 ต.ค.ได้เกิดเหตุวุ่นวายหลายอย่าง รวมทั้งมีบุคคลภายนอกเข้าร่วมประชุมกับพวกเราในสภา ถ้าหากคนของเรา เป็นคนนำบุคคลภายนอกเข้ามาก็จะเสียหาย ในฐานะประธานสภา จะต้องเตรียมการป้องกัน หากเกิดเรื่องดังกล่าวในการประชุมวุฒิสภา เพราะวันร้ายคืนร้าย อาจจะมีคนนำภรรยาเข้ามาประชุมด้วยก็ได้

ขณะที่ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.ซึ่งถูกพาดพิงได้ลุกชี้แจง ยืนยันว่า เป็นผู้ติดตามซึ่งเหตุว่า มี ส.ส.เข้ามาล้อม 4-5 คน มีลักษณะจะใช้นิ้วจิ้มที่หน้า เกรงว่า จะไม่ปลอดภัย ได้รับอันตราย จึงเข้ามาช่วย

จากนั้น นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ได้ขออนุญาตประธานวุฒิฯ ว่า จะงดทำหน้าที่ประธานวุฒิฯ เพราะรู้ว่าจะต้องถูกพาดพิงแน่ ซึ่งมีสมาชิกหลายคนตั้งข้อสงสัยถึงความเหมาะสมกรณีที่ตนเข้าไปเป็นกรรมการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 291 รู้สึกผิดหวังนิดหน่อยที่ประธานวุฒิสภา ควรจะทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมในขณะนี้ เพราะสิ่งที่ตนไปดำเนินการเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 125 โดยเป็นไปตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

ยืนยันว่า สิ่งที่ดำเนินการทั้งหมดเป็นการกระทำในนามของประธานวุฒิสภา ซึ่งท่านได้มอบหมายหน้าที่ให้ตนไว้ก่อนที่จะเดินทางไปประชุมไอพียูที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตนพยายามสดับตรับฟังการแสดงความเห็นจากทุกฝ่ายมาตลอด ทั้งการเสนอการเมืองใหม่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยพรรคการเมือง ซึ่งตนกล้าพูดได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นต้นเหตุของปัญหามาถึงทุกวันนี้ ดังนั้นแนวของ ส.ส.ร.3 จึงเป็นการเปิดโอกาสให้คนนอก โดยเฉพาะประชาชนและนักวิชาการเข้ามาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนมองเห็นแสงถึงแม้ว่าจะเท่ารูเข็ม

“ผมมาทำหน้าที่นี้สองครั้ง ก็ได้ผลออกมาอย่างนั้น แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ทำใจไม่ได้ เพราะนึกว่าจะหมดหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.เพราะประธานวุฒิสภาก็กลับมาแล้ว และผมก็ขอว่าจะไม่เข้าประชุมแล้วเพราะเกรงจะเป็นประเด็นการเมือง แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นคราวเคราะห์หรือไม่ ไม่ทราบ เพราะต้องนำ นางทิพวัลย์ สมุทรักษ์ ส.ว.สรรหา และ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะได้รับเลื่อนอันดับเป็น ส.ส.เข้าพบประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็เห็นประธานสภา และประธานวุฒิสภา และนายกฯ สวมกอดกันอยู่ นึกว่าจะเกี้ยเซี๊ยะตกลงจะประชุมร่วมกันเรียบร้อยแล้ว จึงเรียนไปว่าผมหมดหน้าที่แล้วจึงเดินออกมา แต่ประธานสภาได้ให้เจ้าหน้าที่วิ่งมาตามผมให้ไปรายงานต่อที่ประชุมถึงโมเดลที่เสนอ ก็นึกว่าประธานวุฒิสภาจะเข้าร่วมประชุม อยู่ๆ ท่านก็ไม่เข้า มีสื่อมาถามว่าทำไมท่านไม่เข้า ยังบอกไปว่า ท่านเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ท่านอายุมากแล้วอาจจะเหนื่อย อาจจะมอบให้ผมมาทำหน้าที่แทน แต่ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีการแถลงข่าวว่าที่ผมเข้าไปร่วมไม่ได้มอบหมายด้วยวาจา แต่ทำหน้าที่เป็นการส่วนตัว” นายนิคม กล่าว

นายนิคม กล่าวว่า คนที่ผ่านประสบการณ์ เป็นข้าราชการตั้งแต่ระดับเล็กจนระดับสูง เป็นถึงรองปลัด กทม.รู้ธรรมเนียม รู้มารยาท รู้ว่าจะทำอะไรเวลาใด และไม่เคยทำให้องค์กรผิดหวัง การบอกว่า มีแค่ 2 ฝ่ายกับ 1 บุคคล เป็นการหยามกันเกินไป ถึงบอกว่านี่แหละศักดิ์ศรี ฆ่าได้หยามไม่ได้ ยืนยันว่า ทำไปตามหน้าที่ เข้าไปทำในนามของประธานวุฒิสภา แต่อะไรที่ทำให้เหตุการณ์เป็นอย่างนั้น วันนี้จำเป็นต้องลงมาชี้แจงข้างล่างนี้เพื่อให้เข้าใจ และต้องเข้าใจความรู้สึกของตนด้วย พยายามทำหน้าที่ ส.ว.อย่างดีที่สุด โดยเสนอโมเดลที่เป็นกลาง สามารถแก้ไขปัญหา และให้เป็นเวทีของทุกฝ่ายได้หันหน้าเข้ามาหากัน ดังนั้น อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ว่าจะนำไปสู่วิกฤตการณ์ ทุกวันนี้ไม่มีใครเสนอทางออก มีแต่คนปิดประตูกันทางออกกันหมด ยืนยันว่า ทำหน้าที่อย่างถูกต้องและสมกับเป็นวุฒิสภา ต้องทำหน้าที่อย่างทรงเกียรติ มีคุณธรรม จริยธรรม ตอนอยู่บนบัลลังก์ก็ไม่เคยเอนเอียง เลือกเขาเลือกเรา ตนมีแต่เพื่อน เป็นคนมีเพื่อนเยอะ

นายนิคม กล่าวว่า ก็ต้องขอบคุณในไมตรีเมื่อเหตุการณ์ในวันที่ 7 ต.ค.ที่ท่านพยายามให้พวกเราออกจากวงล้อมพันธมิตรฯ แต่ตนไม่สามารถออกไปได้ ตราบใดที่ข้าราชการยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ยิ่งใกล้ค่ำความปลอดภัยจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ตนไม่ปีนรั้ว จนทุกคนออกได้หมดจึงได้กลับ ตนไม่ปีนรั้วพร้อมจะฟันฝ่า นี่คือ ความรับผิดชอบ ความรับผิดชอบเกิดจากตัวเอง ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบังคับ วุฒิภาวะก็ไม่ต้องให้ใครมาบังคับ หน้าที่ส.ว.เป็นอย่างไรรู้กันอยู่ พยายามจะฟันฝ่า วันนี้ถือว่าทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว คนที่กล่าวหาขอให้ความเป็นธรรมแก่ตนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยากให้ประธานมาฟังจะได้รู้ว่า บทบาทความเป็นผู้นำนั้น ควรจะต้องทำอย่างไร

จากนั้น ส.ว.หลายคนได้ลุกขึ้นอภิปรายแสดงความเห็น โดยเฉพาะสมาชิกกลุ่ม 40 ส.ว.ได้กล่าวคัดค้านการเข้าร่วมประชุม 4 ฝ่ายของประธานวุฒิสภา และ นายนิคม ขณะที่ ส.ว.บางส่วนเห็นด้วยที่วุฒิสภาจะเข้าไปร่วมแก้วิกฤตประเทศ โดยการตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมาเพื่อเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่การอภิปรายของ ส.ว.ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นไปอย่างเคร่งเครียด มีการลุกขึ้นโต้ตอบกันด้วยถ้อยคำรุนแรง ในที่สุด นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี เสนอให้ปิดประชุม และเลื่อนการประชุมในเรื่องนี้ออกไปในครั้งหน้า แต่ถูกคัดค้านจากกลุ่ม 40 ส.ว.อาทิ นาย สมชาย แสวงการ นายวรินทร์ เทียมจรัส นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.โดย นายวรินทร์ ได้เสนอญัตติให้มีการประชุมต่อไป

ขณะที่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า มีสมาชิกหลายคนพูดพาดพิงประธานวุฒิสภา โดยใช้คำว่า ประธานวุฒิสภาหยามกันมากเกินไป ทำให้ นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า อยากให้ประธานวุฒิสภาแสดงความเป็นผู้นำว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น และประธานควรอยู่ในที่ประชุมด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ส.ว.ทั้งสองฝ่ายลุกขึ้นโต้เถียงกันไม่หยุด ในที่สุด น.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานชี้แจงว่า ขณะนี้ประธานวุฒิสภาติดภารกิจอยู่นอกสภา จะกลับมาอีกครั้งในตอนเย็นวันเดียวกัน จากนั้นสั่งพักการประชุม 10 นาที และเมื่อเปิดประชุมอีกครั้ง นายเกชายังยืนยันให้นับองค์ประชุม ขณะที่สมาชิกกลุ่ม 40 ส.ว.ขอให้นายเกชาถอนญัตตินับองค์ประชุมออกไป แต่ นายเกชา ยังยืนกรานเช่นนั้น ทำให้ น.ส.ทัศนา สั่งปิดประชุมเพื่อยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ในเวลา 16.40 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการปิดประชุมวุฒิสภา ส.ว.ทั้งสองฝ่ายได้พากันต่อคิวแถลงข่าวตอบโต้กันและกัน โดยในกลุ่ม ส.ว.เลือกตั้งและ ส.ว.สรรหา ประมาณ 10 คน นำโดยนายประสิทธิ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี นางนฤมล ศิรวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ นายกริช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี นางรสสุคนธ์ ภูริเดช ส.ว.สรรหา

นางนฤมล กล่าวว่า การแถลงข่าวของกลุ่มตนในครั้งนี้ขอใช้ชื่อกลุ่มว่ากลุ่ม ส.ว. 24 ตุลา 51 ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่ามีปัญหาความขัดแย้งของ ส.ว. ทางกลุ่มเห็นมาอยู่ตลอด ยืนยันว่าเราจะไม่ออฟไซด์หรือไม่ทำตัวล้าหลัง ส่วนจุดยืนของเราคือเป็นอิสระจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ขณะนี้ได้มี ส.ว.เข้าร่วมลงชื่อแล้วจำนวน 64 คน เพื่อแสดงความเป็นกลาง ยังไม่มีความเห็นว่าจะเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะต้องรอฟังการอภิปรายจากหลายฝ่ายก่อน รวมทั้งต้องรอดูท่าทีที่ชัดเจนจากนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาด้วยว่าจะแสดงจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบรายชื่อ 64 ส.ว. พบว่ามีชื่อของนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะล่าชื่อ ส.ว.ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับนายประสพสุข และกลุ่ม 40 ส.ว. นอกจากนี้ยังมีชื่อ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา นายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการแถลงข่าว กลุ่ม ส.ว.24 ตุลา 51 ได้เดินออกจากห้องแถลงข่าว ซึ่งได้สวนกับกลุ่ม 40 ส.ว.ที่รอใช้ห้องแถลงข่าวอยู่ โดยระหว่างนั้นนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้เอ่ยปากแซวว่า ต่อไปคงไม่ต้องประชุมอภิปรายกันในสภากันแล้ว คงต้องแถลงข่าวโต้กันเองไปเลย ซึ่งกลุ่ม ส.ว. 24 ตุลา 51 ได้ยินแต่ไม่ได้กล่าวโต้ตอบแต่อย่างใด เพียงแต่เดินเลี่ยงออกไป

สำหรับรายชื่อกลุ่ม 24 ตุลา 64 คน ประกอบด้วย

นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์
นายสุโข วุฑฒิโชติ ส.ว.สมุทรปราการ
พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ ส.ว.ชุมพร
นางกอบกุล พันธุ์เจริญวรกุล ส.ว.สรรหา
พล.ท. สุจินดา สุทธิพงศ์ ส.ว.สรรหา
พล.ต.ท. พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ส.ส.อุดรธานี
นายมงคล ศรีกำแหง ส.ว.จันทบุรี
นายวรวุฒิ โรจนพานิช ส.ว.สรรหา
พ.ต.อ.พายัพ ทองชื่น ส.ว.สรรหา
พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ส.ว.สุราษฎร์ธานี

นายสุรพงษ์ ตันธนศรีกุล ส.ว.กาญจนบุรี
นางจิราวรรณ จงสุทธนามณี วัฒนศิริธร ส.ว.เชียงราย
นายจตุรงค์ ธีระกนก ส.ว.ร้อยเอ็ด
นายสุพจน์ เลียดประถม ส.ว.ตราด
นายประเสริฐ ประคูณศึกษาพันธุ์ ส.ว.ขอนแก่น
นายจำนงค์ สวมประคำ ส.ว.สรรหา
นายประดิษฐ์ ตันวัฒนะพงษ์ ส.ว.สกลนคร
นายธวัชชัย บุญมา ส.ว.นครนายก
นายพรชัย สุนทรพันธุ์ ส.ว.สรรหา
นายถนอม ส่งเสริม ส.ว.อุบลราชธานี

นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี
นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี
นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี
นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี
นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม
นายโสภณ ศรีมาเหล็ก ส.ว.น่าน
นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี
พล.ร.อ.ณรงค์ ยุทธวงศ์ ส.ว.สรรหา
นายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์
นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร

นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหา
พล.อ.อ.อาคม กาญจนหิรัญส.ว.สรรหา
นายสุพจน์ โพธิ์ทองคำ ส.ว.สรรหา
นายจรัล จึงยิ่งเรืองรุ่ง ส.ว.สระบุรี
นายสมชาติ พรรณพัฒน์ ส.ว.นครปฐม
พล.ต.ต.องอาจ สุวรรณสิงห์ ส.ว.เลย
นายพิชานพินิจ กุลละวณิชย์ ส.ว.สรรหา
นายสงคราม ชื่นภิบาล ส.ว.สรรหา
นายภิญโญ สายนุ้ย ส.ว.กระบี่
นายรักพงษ์ ณ อุบล ส.ว.หนองบัวลำภู

นายบวรศักดิ์ คณาเสน ส.ว.อำนาจเจริญ
นายประวัติ ทองสมบูรณ์ ส.ว.มหาสารคาม
พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา
นางรสสุคนธ์ ภูริเดช ส.ว.สรรหา
พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ส.ว.มุกดาหาร
นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ
นางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา ส.ว.ชัยนาท
นายไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ส.ว.ปทุมธานี
นายพีระ มานะทัศน์ ส.ว.ลำปาง
พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ ส.ว.อ่างทอง

นายศุภวัฒน์ เทียนถาวร ส.ว.สิงห์บุรี
นายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา
นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล ส.ว.กาฬสินธุ์
นายสุเมธ ศรีพงษ์ ส.ว.นครราชสีมา
นายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร ส.ว.เชียงใหม่
นายสมศักดิ์ บุญเปลื้อง ส.ว.ลำพูน
พล.ต.ต.ขจร สัยวัตร์ ส.ว.หนองคาย
นายโชติรัช ชวนิชย์ ส.ว.สรรหา
นายชรินทร์ หาญสืบสาย ส.ว.ตาก
นายศิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา
นางสมพร จูมั่น ส.ว.เพชรบูรณ์
นายยุทธนา ยุพฤทธิ์ ส.ว.ยโสธร
นายสุวิศว์ เมฆเสรีกุล ส.ว.สมุทรสาคร


กลุ่ม 24 ตุลาฯ 51 แถลงข่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น