กลุ่ม 40 ส.ว.จวก “นิคม” ไม่เคารพประธานวุฒิฯ แอบอ้างเป็นตัวแทนเข้าประชุม 4 ฝ่าย ทั้งที่รู้ว่า “ประสพสุข” ไม่สนับสนุน ส.ส.ร.3 เหน็บทำตัวเหมือนอยู่พรรคการเมือง ล่าชื่อสมาชิกหนุนแก้ รธน.ส่อขัดคุณสมบัติ ส.ว.“รสนา” แฉ ส.ว.บางกลุ่มไร้ศักดิ์ศรี เล่นเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญฟอกผิดให้รัฐบาล
การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (24 ต.ค.) ต้องปิดลงเมื่อเวลา 16.40 น.หลังจากที่ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาถูกสมาชิกอภิปรายตั้งคำถาม กรณีอ้างว่าเป็นตัวแทนประธานวุฒิสภา ไปร่วมประชุม 4 ฝ่ายสนับสนุนการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญชุดที่ 3 (ส.ส.ร.3) ซึ่งสมาชิกส่วนหนึ่งมองว่าไม่เหมาะสม ทำให้ที่ประชุมมีการถกเถียงกันอย่างดุเดือด จนในที่สุดได้มีการเสนอปิดประชุม
ภายหลังปิดประชุม ส.ว.กลุ่มหนึ่งได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ห้องแถลงข่าว ในนามกลุ่ม 24 ตุลา 51 อ้างว่า มีความเป็นกลางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ในกลุ่มนี้มีชื่อ นายนิคม ไวยรัชพานิช ที่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญรวมอยู่ด้วย หลังจากแถลงเสร็จแล้ว กลุ่ม 40 ส.ว.นำโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายคำนูณ สิทธิสมาน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา และนางสาว รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันแถลงข่าว
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การที่ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ได้อภิปรายชี้แจงสาเหตุที่เข้าประชุม 4 ฝ่าย เมื่อวันที่ 20 ต.ค.โดยอ้างว่า เป็นตัวแทนวุฒิสภา ขณะที่ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา บอกว่า ในวันที่ 20 ต.ค.ไม่สามารถติดต่อนายนิคมได้ ความจริง นายนิคม น่าจะติดต่อไปยัง นายประสพสุข ก่อน และ นายนิคม น่าจะทราบจากข่าวว่า นายประสพสุข ไม่ยอมรับ ส.ส.ร.3 การกระทำครั้งนี้ของ นายนิคม ทำให้การบริหารงานในวุฒิสภามีปัญหา เพราะ นายนิคม ไม่ให้ความเคารพประธานวุฒิ นอกจากนี้ การล่ารายชื่อ ส.ว.ให้สนับสนุน ส.ส.ร.3 ของ นายนิคม ดูเหมือนว่าไปสังกัดพรรคการเมืองหรือไม่
“ต้องดูว่าการกระทำของท่านขัดต่อคุณสมบัติของ ส.ว.มาตรา 115 ที่ห้ามไม่ให้สมาชิกไปเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ นายนิคม กลับไปเป็นผู้ยกร่างเสียเอง คิดว่า การตั้ง ส.ส.ร.3 ขึ้นมาน่าจะมีวาระซ่อนเร้น การเล่นเกมในสภาครั้งนี้ที่มีสมาชิกให้นับองค์ประชุมเหมือนเล่นเกมกันในสภาของ ส.ส.เพราะนับองค์ประชุมทำให้ล่ม” นายไพบูลย์ กล่าว
ด้าน นายคำนูณ กล่าวว่า เหตุการณ์การประชุมในวันนี้เป็นเรื่องเดิมๆ วันนี้จะบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เป็นครั้งแรกที่สมาชิกวุฒิสภาปี 2551 กลับไปทำพฤติกรรมเหมือนวุฒิสภาปี 2543 ที่ใช้เสียงส่วนมากล้มประชุมสภา กลายเป็นว่าเสียงของ 40 ส.ว.เป็นเสียงข้างน้อยในสภา ปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่รู้ว่าเรียกอะไร
น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวว่า การะประชุมวันนี้ เห็นได้ชัดว่า แต่ละคนกำลังแสดงจุดยื่นของตัวเองในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้รัฐบาลสามารถทำได้ แต่ก็จะไม่มีความชอบธรรม ดังนั้น จึงลงมาดึงวุฒิสภาเพื่อให้ความชอบธรรมเกิดขึ้น ทั้งนี้ ตนพยายามที่จะอภิปรายเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อให้ ส.ว.ที่ยังเป็นกลางได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า ในเวลานี้ยังไม่จำเป็นต้องแก้รัฐธรรมนูญ เพราะการแก้ไขเป็นเพียงการปลดล็อกคดียุบพรรค และนิรโทษกรรม 111 คน ซึ่งเห็นได้ชัดว่ารัฐบาลไม่ได้เคารพรัฐธรรมนูญอย่างที่เคยปฏิญาณเอาไว้ และไม่รักษาประโยชน์ของประเทศ และพยายามใช้กลไกรัฐสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอาศัย ส.ว.เป็นจุดพรางตัว เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง
น.ส.รสนา กล่าวต่อว่า น่าเสียใจที่มี ส.ว.กลุ่มหนึ่งที่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใช้เกมการเมือง เหมือนการกระทำของ ส.ส.ที่มีพรรคการเมืองสังกัด เช่น การนับองค์ประชุม ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี และขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 122 ที่ระบุว่า ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ต้องทำหน้าที่ฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย โดยไม่ทำประโยชน์เพื่อพรรคการเมือง
“ส่วนที่รัฐบาลกำหนดกรอบเวลาการร่างรัฐธรรมนูญไว้ที่ 180 วันนั้น ดิฉันมองว่า 30 วันก็น่าจะเสร็จแล้ว เพราะรัฐบาลจะใช้เกมแบบเดิมๆ ใช้เสียงข้างมากในรัฐสภาเร่งแก้ไข เพื่อให้รัฐธรรมนูญเสร็จก่อนที่จะมีการพิจารณาคดียุบพรรค” น.ส.รสนา กล่าว