ผู้จัดการรายวัน-“ไชยา”เตรียมโน้มน้าวกขช.รับจำนำข้าวนาปีตันละ 1.4 หมื่นบาท 15 ต.ค.นี้ ระบุเหตุผลต้องยึดตามมติครม.เดิม และป้องกันรัฐขาดทุนจากการจำนำข้าวนาปรังที่ผ่านมา เผยหากกขช.ทุบโต๊ะปรับลดราคาจำนำ พร้อมโยนงานจำนำข้าวให้ธ.ก.ส.ทำต่อ ชงครม.วันนี้ ปลดแบนโรงสีบัญชีดำ เปิดทางร่วมจำนำข้าว แฉข่าวรัฐปรับราคาจำนำทำข้าวราคารูดทันทีเหลือตันละ 9 พันบาท แถมมีพวกหัวหมอช้อนซื้อข้าวไว้จำนำกับรัฐ
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ 15 ต.ค.นี้ จะมีการพิจารณาโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/52 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ยังยืนยันที่จะให้รัฐบาลรับจำนำข้าวเปลือกนาปีในราคาตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิม ที่อนุมัติเมื่อวันที่ 9 ก.ย. รับจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 1.6 หมื่นบาท ข้าวเปลือกเจ้าตันะล 1.4 หมื่นบาท และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 9,000 บาท โดยจะชี้แจงเหตุผลถึงความจำเป็นที่จะต้องรับจำนำในราคานี้ ส่วนเป้าหมายรับจำนำข้าวเปลือก 8 ล้านตัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ในตลาด
“จะชี้แจงเหตุผลให้กขช.รับทราบว่าทำไมถึงต้องรับจำนำข้าวในราคาเท่าเดิม โดยเฉพาะข้าวเปลือกในราคาตันละ 1.4 หมื่นบาท เพราะถ้าต่ำกว่านั้น ข้าวนาปรังที่รับจำนำมาจะขาดทุนทันที ซึ่งขึ้นอยู่กับกขช.ที่จะตัดสินใจ แต่หากตัดสินใจลดราคาจำนำข้าวเปลือกเจ้าเหลือตันละ 1.2 หมื่นบาท กระทรวงฯ อาจไม่รับทำโครงการจำนำข้าว และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้ดูแลโครงการเหมือนเดิม” นายไชยากล่าว
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (14 ต.ค.) จะเสนอประเด็นการปลดล็อกโรงสีที่ขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) กับภาครัฐให้ครม.รับทราบ โดยโรงสีที่มีโทษปานกลางและต่ำเกือบ 100 ราย จะขอให้พิจารณาลดเบี้ยปรับจากวันละ 0.2% หรือปีละ 72% เหลือ 15% ปี เพื่อให้โรงสีเหล่านั้นเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/52 ได้ ส่วนโรงสีที่มีโทษรุนแรง โดยมีเจตนาโกงและฟ้องดำเนินคดีแล้ว ซึ่งมีอยู่ ประมาณ 29 ราย จะไม่เข้าข่ายได้รับการพิจารณา ซึ่งได้เคยเสนอประเด็นดังกล่าวต่อการประชุมครม.นายสมชาย ครั้งแรกแล้ว แต่ครม.ยังนิ่งเฉยในเรื่องดังกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การประชุม กขช. วันที่ 15 ต.ค.นี้ คาดว่าทางฝั่งกระทรวงการคลัง จะเสนอให้ทบทวนราคาจำนำข้าวเปลือกเจ้าลดลงมาเหลือ 1.2 หมื่นบาท/ตัน เพราะหวั่นเกรงว่าจะไม่มีงบประมาณมารับจำนำ หากตั้งราคาจำนำในราคา 1.4 หมื่นบาท ซึ่งสูงกว่าราคาตลาด ทำให้ข้าวจะทะลักเข้าสู่โครงการรับจำนำทั้งหมด ทำให้ต้องใช้เงินมากถึง 1.2 แสนล้านบาท โดยมีแนวโน้มที่อาจจะทบทวนราคาจำนำลงมา เพราะนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมดูแลงานด้านเศรษฐกิจ มีความเป็นห่วงในเรื่องงบประมาณที่จะนำมาใช้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะมีการทบทวนราคาจำนำข้าวเปลือกเหลือตันละ 1.2 หมื่นบาท ทำให้ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกเจ้าในตลาดลดลงมาเหลือแค่ 9 พันกว่าบาท/ตันแล้ว และมีการเร่งกว้านซื้อข้าวในตลาดจากเกษตรกร เพื่อรอที่จะนำมาเข้าร่วมโครงการรับจำนำ เพราะหวังส่วนต่างทางด้านราคาที่สูงกว่า
นายประสิทธิ บุญเฉย รักษาการนายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ และพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอให้รัฐบาลรับจำนำข้าวเปลือกนาปีในราคาเดิมตามมติของครม.เดิม คือ ข้าวเปลือกเจ้า 1.4 หมื่นบาท และให้ใช้วิธีปฏิบัติให้เหมือนกับการจำนำข้าวนาปรังที่ผ่านมา เพราะราคาจำนำดังกล่าว เป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้ภายใต้ต้นทุนการปลูกข้าวที่สูงขึ้น โดยขณะนี้ต้นทุนการปลูกข้าวต่อไร่อยู่ที่ 7,070 บาท
“ในช่วงระยะเวลา 2 วัน ที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะลดราคาจำนำข้าว ทำให้ข้าวเปลือกราคาลดลงตันละ 1,000-1,500 บาททันที จากเดินข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ 1.2 หมื่นบาท/ตัน สำหรับความชื้น 15% ตอนนี้เหลือแค่ 1-1.5 หมื่นบาท ขณะที่ข้าวความชื้นสูงราคาลดลงมาเหลือ 8,500-9,000 บาท แล้ว” นายประสิทธิ์ กล่าว
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ 15 ต.ค.นี้ จะมีการพิจารณาโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2551/52 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ยังยืนยันที่จะให้รัฐบาลรับจำนำข้าวเปลือกนาปีในราคาตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิม ที่อนุมัติเมื่อวันที่ 9 ก.ย. รับจำนำข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 1.6 หมื่นบาท ข้าวเปลือกเจ้าตันะล 1.4 หมื่นบาท และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 9,000 บาท โดยจะชี้แจงเหตุผลถึงความจำเป็นที่จะต้องรับจำนำในราคานี้ ส่วนเป้าหมายรับจำนำข้าวเปลือก 8 ล้านตัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ในตลาด
“จะชี้แจงเหตุผลให้กขช.รับทราบว่าทำไมถึงต้องรับจำนำข้าวในราคาเท่าเดิม โดยเฉพาะข้าวเปลือกในราคาตันละ 1.4 หมื่นบาท เพราะถ้าต่ำกว่านั้น ข้าวนาปรังที่รับจำนำมาจะขาดทุนทันที ซึ่งขึ้นอยู่กับกขช.ที่จะตัดสินใจ แต่หากตัดสินใจลดราคาจำนำข้าวเปลือกเจ้าเหลือตันละ 1.2 หมื่นบาท กระทรวงฯ อาจไม่รับทำโครงการจำนำข้าว และให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้ดูแลโครงการเหมือนเดิม” นายไชยากล่าว
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (14 ต.ค.) จะเสนอประเด็นการปลดล็อกโรงสีที่ขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) กับภาครัฐให้ครม.รับทราบ โดยโรงสีที่มีโทษปานกลางและต่ำเกือบ 100 ราย จะขอให้พิจารณาลดเบี้ยปรับจากวันละ 0.2% หรือปีละ 72% เหลือ 15% ปี เพื่อให้โรงสีเหล่านั้นเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2551/52 ได้ ส่วนโรงสีที่มีโทษรุนแรง โดยมีเจตนาโกงและฟ้องดำเนินคดีแล้ว ซึ่งมีอยู่ ประมาณ 29 ราย จะไม่เข้าข่ายได้รับการพิจารณา ซึ่งได้เคยเสนอประเด็นดังกล่าวต่อการประชุมครม.นายสมชาย ครั้งแรกแล้ว แต่ครม.ยังนิ่งเฉยในเรื่องดังกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การประชุม กขช. วันที่ 15 ต.ค.นี้ คาดว่าทางฝั่งกระทรวงการคลัง จะเสนอให้ทบทวนราคาจำนำข้าวเปลือกเจ้าลดลงมาเหลือ 1.2 หมื่นบาท/ตัน เพราะหวั่นเกรงว่าจะไม่มีงบประมาณมารับจำนำ หากตั้งราคาจำนำในราคา 1.4 หมื่นบาท ซึ่งสูงกว่าราคาตลาด ทำให้ข้าวจะทะลักเข้าสู่โครงการรับจำนำทั้งหมด ทำให้ต้องใช้เงินมากถึง 1.2 แสนล้านบาท โดยมีแนวโน้มที่อาจจะทบทวนราคาจำนำลงมา เพราะนายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมดูแลงานด้านเศรษฐกิจ มีความเป็นห่วงในเรื่องงบประมาณที่จะนำมาใช้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะมีการทบทวนราคาจำนำข้าวเปลือกเหลือตันละ 1.2 หมื่นบาท ทำให้ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกเจ้าในตลาดลดลงมาเหลือแค่ 9 พันกว่าบาท/ตันแล้ว และมีการเร่งกว้านซื้อข้าวในตลาดจากเกษตรกร เพื่อรอที่จะนำมาเข้าร่วมโครงการรับจำนำ เพราะหวังส่วนต่างทางด้านราคาที่สูงกว่า
นายประสิทธิ บุญเฉย รักษาการนายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ และพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอให้รัฐบาลรับจำนำข้าวเปลือกนาปีในราคาเดิมตามมติของครม.เดิม คือ ข้าวเปลือกเจ้า 1.4 หมื่นบาท และให้ใช้วิธีปฏิบัติให้เหมือนกับการจำนำข้าวนาปรังที่ผ่านมา เพราะราคาจำนำดังกล่าว เป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้ภายใต้ต้นทุนการปลูกข้าวที่สูงขึ้น โดยขณะนี้ต้นทุนการปลูกข้าวต่อไร่อยู่ที่ 7,070 บาท
“ในช่วงระยะเวลา 2 วัน ที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะลดราคาจำนำข้าว ทำให้ข้าวเปลือกราคาลดลงตันละ 1,000-1,500 บาททันที จากเดินข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ 1.2 หมื่นบาท/ตัน สำหรับความชื้น 15% ตอนนี้เหลือแค่ 1-1.5 หมื่นบาท ขณะที่ข้าวความชื้นสูงราคาลดลงมาเหลือ 8,500-9,000 บาท แล้ว” นายประสิทธิ์ กล่าว
