ชาวนาพิจิตรรุมค้าน “ไชยา” ปล่อยผีโรงสีโคตรโกง-ฟอกคนทุจริต

พิจิตร – ประธานคณะกรรมการการเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ส.ว.เปิดเวทีเสวนานโยบายรับจำนำข้าว ฟังเรื่องโคตรโกง ขณะที่กลุ่มเกษตรกรชาวนาค้าน การกลับมาของโรงสีขี้โกง เสนอ ส.ว.ตัดหางปล่อยวัด อดีตมือปราบขบวนการโกงข้าวย้ำเมืองชาละวัน มีโรงสีเน่ากว่า 20 แห่ง เคยโกงข้าวเกือบ 2 พันล้านบาท

วันนี้ (25 ก.ย.) นายบรรชา พงศ์อายุกูล ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์วุฒิสภา ได้จัดเวทีเสวนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากชาวนาพิจิตร ที่เคยถูกโกงค่าจำนำและขายข้าวให้กับโรงสีพิจิตร อีกทั้งรับฟังปัญหาจากชาวนาในโครงการที่ผ่านมาและแนวทางแก้ไขในฤดูกาล 2551/2552 ที่โรงเรียนตะพานหิน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร โดยมีชาวนาราว 500 คน ร่วมเวทีเสวนาในครั้งนี้ด้วย

คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์วุฒิสภา ได้แจ้งให้ชาวนาทราบว่า โครงการรับจำข้าวนาปีจะมีขึ้นแน่นอนในวันที่ 15 ต.ค.2551 โดยราคาการรับจำนำข้าวปลือกเจ้า จะไม่ต่ำกว่า 14,000 บาท อีกทั้งผู้ที่รับผิดชอบการรับจำนำข้าวคราวใหม่นี้ จะเป็นกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์

ขณะที่ นายบรรจง วิจิตรวิไลเลิศ ตัวแทนชาวนาและชาวนาอีกหลายสิบคนได้ผลัดกันแสดงความคิดเห็นคัดค้านแนวนโยบายของ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมต.พาณิชย์ ที่จะให้ขบวนการโกงข้าวชาวนากลับมารับจำนำข้าวอีกครั้ง โดยเปรียบเทียบเหมือนเหล้าเก่าในขวดใหม่ คือ การที่โรงสีที่เคยโกงชาวนาพิจิตรกว่า 20 แห่ง มีชาวนาที่ถูกโกงไม่น้อยกว่า 3,000 คน ตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมา ทำทั้งใบประทวนปลอม ชาวนาปลอม โกงรัฐบาล โกงชาวนา โกงธนาคาร มีการเปลี่ยนชื่อบริษัท เปลี่ยนชื่อผู้ประกอบการแต่ใช้สถานที่เดิม จะได้กลับเข้ามาทำโครงการับจำนำข้าวอีก

กลุ่มเกษตรกรชาวนา ได้เสนอกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์วุฒิสภา ว่า อย่าให้กลุ่มโรงสีที่เคยมีประวัติโกงได้กลับเข้ามาอีก ซึ่งกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์วุฒิสภา ได้รับฟังและจะนำเป็นแนวทางแก้ไขเสนอต่อรัฐบาลต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.จรวย ผลประเสริฐ รองฯ ผบก.ตร.ภ.จ.พจ.ที่เคยเป็นชุดมือปราบโครงการับจำนำข้าว ได้เปิดเผยว่า ขบวนการโกงชาวนาพิจิตร ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองเป็นคนจับกุมและทำสำนวนมีผู้ต้องหามากกว่า 100 คน ทั้งชาวนา เถ้าแก่โรงสี ผจก.ธ.ก.ส. อคส.การค้าภายใน อุตสาหกรรมที่ทำกันเป็นขบวนการ กำลังค่อยๆ ถูกดำเนินคดีส่งฟ้องศาล และมีการติดคุกไปแล้ว 3 ราย ส่วนคดีใหญ่ คือ โรงสีก้องเกียรติ์ โรงสีไพบูรณ์ ที่โกงชาวนาและรัฐบาลมีตัวเลขมากกว่า 100 ล้านบาทนั้น ที่จริงแล้วตัวเลขสูงกว่านี้มาก แต่ อคส.ซึ่งเป็นผู้เสียหายกลับไม่ดำเนินการต่อ

โดยเฉพาะโรงสีไพบูรณ์ค้าข้าว ยังมีข้าวเปลือกผสมแกลบอยู่อีกหลายสต๊อก ที่ยังไม่ได้ตรวจ เพราะ อคส. อ้างว่า ไม่มีงบประมาณในการคัดแยกข้าวเปลือก แต่ตอนนี้กลับลำพองจะกลับมาเข้าโครงการรับจำนำข้าวอีกแล้ว จึงขอเตือนชาวนาว่า เจ็บแล้วต้องจำ ชาวนามีสิทธิ์เลือกที่จะเอาข้าวไปจำนำกับโรงสีที่ตนพึงพอใจ

ส่วนพวกขี้โกงต้องอยู่ให้ห่างเอาไว้ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เฉพาะพิจิตรมีโรงสีเกือบ 20 แห่งที่โกงรัฐบาล โกงชาวนา โกงธนาคาร รวมวงเงินเกือบ 2 พันล้านบาท เป็นการทำลายเศรษฐกิจของประเทศชาติอย่างเห็นได้ชัด จึงขอแสดงความคิดเห็น ต้องฝากคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์วุฒิสภา ช่วยนำเรียนรัฐบาลทบทวนนโยบาย การให้พวกมีมลทินกลับเข้าโครงการรับจำนำข้าวใหม่ด้วย