พิจิตร - ผู้ว่าฯ พิจิตรสั่งตรวจสอบประวัติโรงสีภายหลังพบขบวนการโคตรโกงแอบทำนิติกรรมอำพรางหลังเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว เตรียมล้อมคอกขอทหารร่วมเฝ้าโรงสี พร้อมทำศูนย์ข่าวบอกเล่าเรื่องรับจำนำข้าวถึงชาวนาทุกขั้นตอน หวังพิสูจน์ฝีมือสกัดขบวนการโครตโกงที่เคยเกิดขึ้นซ้ำซากมาแล้ว
นายสมชัย หทยตันติ ผู้ว่าฯพิจิตร เปิดเผยถึงความพร้อมในการที่จะรับโครงการรับจำนำข้าวของ จ.พิจิตร ที่จะเปิดโครงการในวันที่ 1 พ.ย.51 ซึ่งน่าจะมีปริมาณข้าวเปลือกเข้าโครงการไม่น้อยกว่า 1,270,000 ตันว่า ขณะนี้ได้สั่งตรวจสอบคุณสมบัติโรงสีทั้ง 25 โรงสี ที่สมัครเข้ามา เพราะพบว่ามี 4-5 แห่ง ที่เคยมีประวัติโกงชาวนา โกงรัฐบาล โกงธนาคาร ทำนิติกรรมอำพราง เปลี่ยนชื่อเจ้าของผู้ประกอบการมาขอเข้าโครงการรับจำนำด้วย
โดยมีการรื้อข้อมูลใหม่หมด โดยคณะกรรมการโครงการรับจำนำข้าวระดับจังหวัด มีหน้าที่รวบรวมข้อมูล ส่วนการตัดสินชี้ขาดว่าจะเอาโรงสีใดบ้างเข้าร่วมโครงการ เป็นเรื่องที่คณะกรรมการระดับชาติจะตัดสิน แต่อย่างไรก็ตามทางผู้บริหาร และคณะทำงานระดับจังหวัดจะวางมาตรการป้องกันการทุจริตทุกรูปแบบแล้ว
นอกจากนี้ ยังจะขอกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ให้มาร่วมปฏิบัติหน้าที่รับจำนำข้าว และเฝ้าข้าวเปลือก-ข้าวสาร ที่แปรรูปมูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้านบาท ตามโรงสีต่าง ๆ ในพิจิตร นอกเหนือจากการติดกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัยด้วย
ในส่วนของการเตรียมบุคคลากรนั้น เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งว่าองค์กรใดเป็นเจ้าภาพ จังหวัดฯ จึงซักซ้อมกับ ธ.ก.ส. อ.ต.ก. การค้าภายใน กลุ่มเกษตรกร ในการทำหน้าที่แล้ว
สำหรับเกษตรกรที่เคยผิดพลาด เพราะขาดข้อมูลข่าวสารในคราวนี้ก็จะตั้งศูนย์ข่าวส่งข้อมูลผ่านสื่อทุกแขนงไปยังเกษตรกรทุกคนที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่จะเข้าโครงการรับจำนำข้าวให้ได้ทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงอีกด้วย จึงไม่น่าจะทำให้เกิดการทุจริตได้อีกต่อไป และต้องขอร้องชาวนาว่า ถ้าไม่โลภ ก็ไม่ถูกหลอก ถ้าไม่ใจอ่อนก็ไม่ถูกโกง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงก่อนหน้านี้จังหวัดพิจิตรได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวมากที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งในยุคหนึ่งนายสมชัย ก็เคยเข้ามานั่งในเก้าอี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรมาแล้วเช่นกัน และในการกลับมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯพิจิตร คราวนี้จะเป็นการพิสูจน์ฝีมือของเขาอีกครั้งหนึ่งว่าจะสามารถสกัดยับยั้งขบวนการโครตโกงที่เคยเกิดขึ้นมาได้หรือไม่
