พิจิตร – โรงสีพิจิตรเริ่มแปรรูปข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง เชื่อดันราคาข้าวในตลาดเพิ่มขึ้นอีกแน่ ขณะที่ ธ.ก.ส.เร่งขนย้ายข้าวสารเข้าเข้าคลังนครสวรรค์-กำแพงเพชร หลังเจ้าของคลังแถบเมืองชาละวันยังไม่ติดตั้งกล้องวงจรปิด หนีปัญหาข้าวหายจากคลังเหมือนอดีต
นายบรรจง ตั้งจิตวัฒนากูล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย และประธานชมรมโรงสีข้าวจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำข้าวของพิจิตร ได้มีการสั่งแปรรูปแล้วใน 6 โรงสี คือ โรงสีร่วมเจริญ 2 ไรซ์, โรงสีรัตนาไรซ์, โรงสีสิงห์โตทอง, โรงสีโพทะเลธัญญกิจ, ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรพิจิตร, โรงสีสรรรวมผล 999 พิจิตร
โดยแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร 5% จำนวน 8,660 ตัน ซึ่งจะทำให้วงจรความต้องการข้าวมีมากขึ้นในท้องตลาดส่งผลให้ราคาข้าวสาร 5% จากกระสอบละ 2,050 บาท ขยับขึ้นราคาไปอีกกระสอบละ 100 บาท และคาดว่า วันนี้ (14 ก.ค.) ราคาข้าวสารจะขยับขึ้นอีกกระสอบละ 100-200 บาทแน่นอน ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้บริโภคต้องซื้อข้าวสารกินในราคาแพงขึ้น แต่ผลดีคือชาวนา ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศก็จะขายข้าวเปลือกได้ราคาดีตามไปด้วยเช่นกัน
ด้าน นายธรรมนูญ เทศขำ ผอ.ธ.ก.ส.พิจิตร ยังได้รายงายผลการดำเนินการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 ต่อ ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรว่า การเปิดรับจำนำข้าวตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.-10 ก.ค 51 มีโรงสีเข้าร่วมโครงการแล้ว 15 แห่ง มีข้าวเข้าโครงการรับจำนำแล้ว 38,232 ตัน เป็นเงิน 463 ล้านบาท เกษตรกร 3,386 ราย ได้รับประโยชน์และคาดการณ์ว่ากลางเดือนสิงหาคม 51 ข้าวเปลือกแถบพ้นที่ อ. ตะพานหิน, อ.บางมูลนาก, อ.โพทะเล จะเก็บเกี่ยวมากกว่า 2 แสนตัน ดังนั้น กำลังเร่งพิจารณาโรงสีบางมูลนากธัญญะและโรงสีพงศ์อายุกูล ให้รองรับการรับจำนำข้าวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ส่วนการแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร เดิมทีเดียวจะให้ส่งเข้าเก็บรักษาที่คลังสินค้าท่าข้าวบุญรักษ์ อ.บางมูลนาก แต่ทำไม่ได้ในขณะนี้เพราะอยู่ในระหว่างติดตั้งกล้องวงจรปิดจึงทำให้โรงสีทั้ง 6 แห่งที่เริ่มแปรรูปข้าวแล้วจำนวน 8,660 ตัน ต้องนำข้าวไปฝากเก็บไว้ที่คลังสินค้า SW อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ และคลังสินค้าสิงห์โตทองไร้ซ์ จ.กำแพงเพชร แก้ขัดไปชั่วคราวก่อน เพื่อระบายข้าวออกจากสต๊อกของโรงสีที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวเพื่อเตรียมรับมือข้าวที่จะเก็บเกี่ยวในกลางเดือน ส.ค.51 ส่วนปัญหาการทุจริตนั้นผ่านมาแล้ว 25 วันยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใดคาดว่าโรงสีโจรทั้งหลายคงเข็ดหลาบและเข้าคุกหมดแล้ว อีกทั้งนโยบายเอาจริงที่ได้ผล
นายบรรจง ตั้งจิตวัฒนากูล อุปนายกสมาคมโรงสีข้าวไทย และประธานชมรมโรงสีข้าวจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ขณะนี้ข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำข้าวของพิจิตร ได้มีการสั่งแปรรูปแล้วใน 6 โรงสี คือ โรงสีร่วมเจริญ 2 ไรซ์, โรงสีรัตนาไรซ์, โรงสีสิงห์โตทอง, โรงสีโพทะเลธัญญกิจ, ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรพิจิตร, โรงสีสรรรวมผล 999 พิจิตร
โดยแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร 5% จำนวน 8,660 ตัน ซึ่งจะทำให้วงจรความต้องการข้าวมีมากขึ้นในท้องตลาดส่งผลให้ราคาข้าวสาร 5% จากกระสอบละ 2,050 บาท ขยับขึ้นราคาไปอีกกระสอบละ 100 บาท และคาดว่า วันนี้ (14 ก.ค.) ราคาข้าวสารจะขยับขึ้นอีกกระสอบละ 100-200 บาทแน่นอน ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้บริโภคต้องซื้อข้าวสารกินในราคาแพงขึ้น แต่ผลดีคือชาวนา ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศก็จะขายข้าวเปลือกได้ราคาดีตามไปด้วยเช่นกัน
ด้าน นายธรรมนูญ เทศขำ ผอ.ธ.ก.ส.พิจิตร ยังได้รายงายผลการดำเนินการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 ต่อ ดร.ปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรว่า การเปิดรับจำนำข้าวตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.-10 ก.ค 51 มีโรงสีเข้าร่วมโครงการแล้ว 15 แห่ง มีข้าวเข้าโครงการรับจำนำแล้ว 38,232 ตัน เป็นเงิน 463 ล้านบาท เกษตรกร 3,386 ราย ได้รับประโยชน์และคาดการณ์ว่ากลางเดือนสิงหาคม 51 ข้าวเปลือกแถบพ้นที่ อ. ตะพานหิน, อ.บางมูลนาก, อ.โพทะเล จะเก็บเกี่ยวมากกว่า 2 แสนตัน ดังนั้น กำลังเร่งพิจารณาโรงสีบางมูลนากธัญญะและโรงสีพงศ์อายุกูล ให้รองรับการรับจำนำข้าวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ส่วนการแปรรูปข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร เดิมทีเดียวจะให้ส่งเข้าเก็บรักษาที่คลังสินค้าท่าข้าวบุญรักษ์ อ.บางมูลนาก แต่ทำไม่ได้ในขณะนี้เพราะอยู่ในระหว่างติดตั้งกล้องวงจรปิดจึงทำให้โรงสีทั้ง 6 แห่งที่เริ่มแปรรูปข้าวแล้วจำนวน 8,660 ตัน ต้องนำข้าวไปฝากเก็บไว้ที่คลังสินค้า SW อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ และคลังสินค้าสิงห์โตทองไร้ซ์ จ.กำแพงเพชร แก้ขัดไปชั่วคราวก่อน เพื่อระบายข้าวออกจากสต๊อกของโรงสีที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวเพื่อเตรียมรับมือข้าวที่จะเก็บเกี่ยวในกลางเดือน ส.ค.51 ส่วนปัญหาการทุจริตนั้นผ่านมาแล้ว 25 วันยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใดคาดว่าโรงสีโจรทั้งหลายคงเข็ดหลาบและเข้าคุกหมดแล้ว อีกทั้งนโยบายเอาจริงที่ได้ผล