ผู้จัดการรายวัน – สถาบันอาหาร ตั้งเป้ามูลค่าส่งออกเพิ่ม 10% ทุกปี มูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านในปี 2555 ชี้ปัญหาผู้ประกอบการส่งออกอาหารไทยยังขาดคุณภาพ จี้เร่งปรับตัวใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มศักยภาพ
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยถึงโครงการการจัดทำแผนแม่บทอุตสาหกรรมอาหารปี 2551-2555 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันอาหาร และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทย มุ่งเน้น 4 เรื่องหลัก คือ 1.การสร้างมูลค่าเพิ่ม 2.พัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิต เน้นปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล 3. ยกระดับภาพลักษณ์ และ4.สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมขีดความมารถการแข่งขัน
ทั้งนี้ ตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกภายใน 5 ปี เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% และโรงงานผลิตอาหารของไทย จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตในระดับสากลไม่ต่ำกว่า 50% ของจำนวนโรงงานทั้งหมด รวมถึงสินค้าอาหารของไทยจะต้องมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนทั่วโลก ในการเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว เชื่อว่าในอีก 5 ปี ข้างหน้าอุตสาหกรรมอาหารของไทยจะมีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ในปี 2555 นี้
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยส่งออกอาหารอยู่ในลำดับที่ 7 ของโลก มีส่วนแบ่งในตลาดโลกร้อยละ 2.39 ส่วนอันดับ 1 คือยุโรป และสหรัฐฯ มีสัดส่วน 43.97% ของตลาดรวม ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของไทยคือสินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป ขณะที่พฤติกรรมการบริโภคเริ่มให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ ความสดใหม่ ความสะดวก แต่การส่งออกไทยก็พบปัญหาและอุปสรรค โดยจะเน้นปริมาณมากกว่ามูลค่าเพิ่ม ขณะที่ทรัพยากรลดลงและต้องพบปัญหาเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมันผันผวน การกีดกันทางการค้าท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง เนื่องจากคู่แข่งพัฒนาสินค้าได้ใกล้เคียง ดังนั้น ประเทศไทยต้องเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการแปรรูปสินค้าเกษตร การเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่อง
”ผ่านมาส่วนแบ่งตลาดส่งออกของไทย ลดลงนั้นเกิดจากภาคการผลิตขาดความรู้ ทั้งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะนำมาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ประเทศคู่แข่งเริ่มเข้ามาแชร์ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตรแปรรูป ดังนั้นหากยังไม่มีการพัฒนา จะทำให้ประเทศคู่แข่งแย่งชิงตลาดในส่วนนี้ไปได้” ผอ.สถาบันอาหาร กล่าว
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยถึงโครงการการจัดทำแผนแม่บทอุตสาหกรรมอาหารปี 2551-2555 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันอาหาร และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทย มุ่งเน้น 4 เรื่องหลัก คือ 1.การสร้างมูลค่าเพิ่ม 2.พัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิต เน้นปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล 3. ยกระดับภาพลักษณ์ และ4.สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมขีดความมารถการแข่งขัน
ทั้งนี้ ตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกภายใน 5 ปี เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% และโรงงานผลิตอาหารของไทย จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตในระดับสากลไม่ต่ำกว่า 50% ของจำนวนโรงงานทั้งหมด รวมถึงสินค้าอาหารของไทยจะต้องมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนทั่วโลก ในการเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว เชื่อว่าในอีก 5 ปี ข้างหน้าอุตสาหกรรมอาหารของไทยจะมีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ในปี 2555 นี้
ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยส่งออกอาหารอยู่ในลำดับที่ 7 ของโลก มีส่วนแบ่งในตลาดโลกร้อยละ 2.39 ส่วนอันดับ 1 คือยุโรป และสหรัฐฯ มีสัดส่วน 43.97% ของตลาดรวม ซึ่งสินค้าส่งออกหลักของไทยคือสินค้าเกษตรและอาหารแปรรูป ขณะที่พฤติกรรมการบริโภคเริ่มให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ ความสดใหม่ ความสะดวก แต่การส่งออกไทยก็พบปัญหาและอุปสรรค โดยจะเน้นปริมาณมากกว่ามูลค่าเพิ่ม ขณะที่ทรัพยากรลดลงและต้องพบปัญหาเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมันผันผวน การกีดกันทางการค้าท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง เนื่องจากคู่แข่งพัฒนาสินค้าได้ใกล้เคียง ดังนั้น ประเทศไทยต้องเน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการแปรรูปสินค้าเกษตร การเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่อง
”ผ่านมาส่วนแบ่งตลาดส่งออกของไทย ลดลงนั้นเกิดจากภาคการผลิตขาดความรู้ ทั้งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่จะนำมาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ประเทศคู่แข่งเริ่มเข้ามาแชร์ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตรแปรรูป ดังนั้นหากยังไม่มีการพัฒนา จะทำให้ประเทศคู่แข่งแย่งชิงตลาดในส่วนนี้ไปได้” ผอ.สถาบันอาหาร กล่าว
