การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยืดเยื้อยาวนานเกือบ 4 เดือนแล้ว เป็นการชุมนุมที่ทรหดอดทน เสียสละ กล้าหาญ และได้ฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการ โดยเฉพาะอุปสรรคจากการใช้อำนาจรัฐทุกชนิด ทุกประเภท มาได้อย่างมั่นคง
หลายเสียงจากความห่วงหาอาทรและหลายเสียงจากกโลบายหวังดีประสงค์ร้าย ในทำนองว่าประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จะหาทางลงไม่ได้ จะอ่อนล้า จะท้อถอย และถูกบั่นทอนจนเสียความชอบธรรม มาถึงวันนี้ก็ได้ผ่านการพิสูจน์แล้วอย่างอุดมสมบูรณ์
ผ่านการพิสูจน์ว่าแม้ฝนจะตก แดดจะจ้า แม้จะถูกใส่ร้ายป้ายสี แม้จะถูกกลั่นแกล้งข่มขู่คุกคามนานัปการ แต่การชุมนุมก็ยังสามารถยืนอยู่ได้และสามารถขยายตัวเติบใหญ่อย่างไม่หยุดยั้ง
ธงการเมืองที่ชูขึ้นอย่างเด่นชัดว่ามุ่งโค่นระบอบทักษิณ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ เอาประเทศไทยของเราคืนมา กำจัดกวาดล้างการเมืองแบบทุนสามานย์ สร้างการเมืองใหม่ ได้รับชัยชนะต่อเนื่องมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และได้รับการขานรับอย่างกว้างขวาง
วันนี้รัฐบาลหุ่นเชิดสมัคร สุนทรเวช ได้ถูกโค่นลงไปแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยวิธีการผูกคอตายและกลายเป็นพรรคมารแบบที่เคยเป็นมาแล้วเมื่อครั้งเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ด้วยการประกาศสนับสนุน “สาม ส.” ของพรรคพลังประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง มิได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแม้แต่น้อย นี่คือนิสัยสันดานของพรรคมารที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และทำให้การเมืองเก่าหมดความชอบธรรม และเป็นที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ ที่ไม่อาจให้อภัยได้อีกต่อไปเลย
การตัดสินใจแบบนี้ก็คือการตัดสินใจเลือกเอาหุ่นเชิดตัวใหม่เข้ามาแทนหุ่นเชิดตัวเก่าที่เพิ่งถูกโค่นล้มลงไป โดยไม่เคยสำนึกรับผิดชอบใด ๆ ต่อประเทศชาติและประชาชน ดังนั้นประชาชาติไทยจึงหวังพึ่งอันใดกับพรรคเหล่านี้ไม่ได้
จะเป็น ส.ใด ในสาม ส. ก็คือหุ่นเชิดทั้งนั้น การต่อสู้ของประชาชนที่ผ่านมาคือการต่อสู้เพื่อขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ดังนั้นแม้หุ่นตัวหนึ่งล้มลงไปแล้ว หุ่นตัวใหม่จะเป็น ส. ไหนก็ตามล้วนเป็นหุ่นเชิดเหมือนกัน และนี่คือสาเหตุของวิกฤตในบ้านเมืองที่ยังไม่หมดสิ้น และยังคงสร้างกรรมทำเข็ญต่อไปไม่มีที่สุด
ดังนั้นประชาชนจึงไม่มีวันที่จะหลงเชื่อหรือเคลิบเคลิ้มไปกับมายาภาพของการเปลี่ยนตัวหุ่นเชิด และการเปลี่ยนตัวหุ่นเชิดแบบนี้ก็ไม่มีทางทำให้ประชาชนยุติหรือผ่อนคลายการต่อสู้ลงไปได้
มีแต่จะเห็นว่าอันตรายที่ร้ายแรงยังคงดำรงอยู่ ยังคงรุนแรงอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนท่าทีที่หยาบช้าสามานย์มาเป็นท่าทีที่ประนีประนอมมากขึ้น โดยเนื้อในยังคงเป็นการสืบทอดความชั่วช้าเลวทรามทั้งปวงเหมือนเดิมทุกประการ
มันจะยังกระทำแบบเดิมทุกอย่าง แต่จะพูดจาสุภาพเรียบร้อยอ่อนน้อมถ่อมตัวมากขึ้น
จิตใจมารยังอยู่เหมือนเดิม แม้เสื้อผ้าจะเปลี่ยนแปลงไป ก็ไม่ได้ทำให้หุ่นเชิดหรือวิญญาณมารกลายเป็นสัตบุรุษไปได้
เพราะเหตุนี้ประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จึงคงต้องยืนหยัดต่อสู้ต่อไปไม่ว่าจะยืดเยื้อยาวนานสักปานใด เพราะความยืดเยื้อยาวนานนั้นแม้ทำให้อ่อนล้าเหนื่อยยากลำบาก แต่ก็ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นมากมาย
วันนี้นักเรียน นิสิต นักศึกษาซึ่งเป็นเยาวชนของชาติ เป็นอนาคตของชาติ เป็นพลังบริสุทธิ์ เร่าร้อน สร้างสรรค์ ได้ตื่นตัวขึ้นมาจากมนต์มายาของระบอบทุนนิยมสามานย์เข้าเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมต่อสู้กับประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์แล้ว นี่คือสิ่งที่ได้มาจากความยืดเยื้อยาวนานที่ไม่อาจมองข้ามไปได้
ในบรรดา สาม ส. นั้น ขณะนี้ต้องถือว่า ส.สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังมีแนวโน้มว่าจะได้นั่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในขณะที่ ส.สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นตัวสำรอง
โดย ส.ส. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในแก๊งสี่คนกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก กำลังตกอยู่ในสำเภาลำเดียวกันกับกลุ่มบุรีรัมย์ ซึ่งตกเป็นเป้าหมายที่จะถูกล้างผลาญเพื่อดับชีวิตทางการเมืองของคนพวกนี้ลงไปไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดอีก
ดังนั้นในพรรคพลังประชาชน แม้จะมีเสียงข้างมากแต่ก็อาจกล่าวได้ว่าแตกเป็นสองเสี่ยงที่ยากจะประนีประนอมกันอีกต่อไปแล้ว
เวลาใดที่กลุ่มบุรีรัมย์หรือแก๊งสี่คนสำนึกตนว่าตกเป็นเป้าที่จะถูกทำลายล้างอย่างเลือดเย็นและอำมหิตก็อาจมีจิตสำนึกขึ้นมาได้สักเวลาหนึ่ง และหากกลับตัวเปลี่ยนใจเมื่อใดก็อาจสร้างคุณูปการที่ทำให้แผนเชิดสาม ส. เป็นหุ่นเชิดต้องพังพินาศไปก็เป็นได้
คนแบบเนวิน ชิดชอบ นั้นเก่งและเก๋าทางการเมืองรอบตัวทั้งบุ๋นบู๊ จัดจ้านเชิงชั้นปฏิบัติการทางการเมืองที่ยากจะหาตัวจับ ยิ่งถูกเหยียบกระทืบหรือตกเป็นเป้าหมายทำลายล้างจากขั้วอำนาจใหม่หลังล่มสลายของรัฐบาลสมัครมากเท่าใด ก็ยิ่งประมาทน้ำใจไม่ได้
พลังขุมนี้อาจทำให้การเมืองไทยพลิกผันจนพรรคพลังประชาชนต้องตกกลายเป็นฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวก็เป็นได้ ใครจะไปรู้
ทางด้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เสนอการเมืองใหม่ขึ้นมาแล้ว ได้ต่อยอดแนวคิด “รัฐบาลประชาภิวัฒน์” และ “สภาประชาภิวัฒน์” แล้ว นี่คือจังหวะก้าวที่รุดไปข้างหน้าอีกก้าวใหญ่ของแนวทางการเมืองใหม่
สภาประชาภิวัฒน์ควรได้รับการจัดตั้งขึ้นมาก่อน โดยเชิญผู้แทนของกลุ่มอาชีพทุกอาชีพทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือกัน เพื่อกำหนดแนวทางและวิธีการในการนำพาชาติออกจากวิกฤตและสร้างการเมืองใหม่ให้ปรากฏชัดเจนขึ้น
อย่าคิดว่าการปฏิวัติประชาชาติหรือประชาภิวัฒน์จะเกิดขึ้นไม่ได้ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
คราวนั้นประชาชาติฟิลิปปินส์เคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาลจอมเผด็จการมาร์กอสที่โกงชาติ ขายชาติ ติดอันดับแนวหน้าของโลก
ประชาชาติฟิลิปปินส์เข้ายึดทำเนียบมาลากันยัง จากนั้นก็เชิญตัวแทนกลุ่มอาชีพมาเข้าร่วมปรึกษาหารือ ครั้นเห็นชอบพร้อมกันแล้วข้าราชการ ทหาร ตำรวจ โดยเฉพาะทหารฟิลิปปินส์ 3 กองพันได้แต่งเครื่องแบบเข้าร่วมชุมนุมด้วย
ในทันทีนั้นจอมเผด็จการมาร์กอสก็หนีออกไปต่างประเทศ รัฐบาลเผด็จการล้มลง ฝ่ายต่อต้านจึงได้จัดตั้งรัฐบาลประชาภิวัฒน์ขึ้นสำเร็จ
การปฏิวัติประชาชาติแบบมาลากันยังของฟิลิปปินส์ในวันนั้นยังเล็กกว่า อ่อนแอกว่า เทียบไม่ได้กับการต่อสู้ของประชาชาติไทยในวันนี้
ประชาชาติไทยทุกหมู่เหล่าจะยอมจำนน ยอมรับ รัฐบาลหุ่นเชิดตัวใหม่ หรือว่าจะผลักดันสภาประชาภิวัฒน์ก็คงได้เห็นกันในไม่กี่วันข้างหน้านี้!
สภาประชาภิวัฒน์จัดตั้งขึ้นเมื่อใดก็จะเป็นหน่อเนื้อที่แข็งแรงให้กับการเกิดขึ้นของรัฐบาลประชาภิวัฒน์เมื่อนั้น.
หลายเสียงจากความห่วงหาอาทรและหลายเสียงจากกโลบายหวังดีประสงค์ร้าย ในทำนองว่าประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จะหาทางลงไม่ได้ จะอ่อนล้า จะท้อถอย และถูกบั่นทอนจนเสียความชอบธรรม มาถึงวันนี้ก็ได้ผ่านการพิสูจน์แล้วอย่างอุดมสมบูรณ์
ผ่านการพิสูจน์ว่าแม้ฝนจะตก แดดจะจ้า แม้จะถูกใส่ร้ายป้ายสี แม้จะถูกกลั่นแกล้งข่มขู่คุกคามนานัปการ แต่การชุมนุมก็ยังสามารถยืนอยู่ได้และสามารถขยายตัวเติบใหญ่อย่างไม่หยุดยั้ง
ธงการเมืองที่ชูขึ้นอย่างเด่นชัดว่ามุ่งโค่นระบอบทักษิณ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ เอาประเทศไทยของเราคืนมา กำจัดกวาดล้างการเมืองแบบทุนสามานย์ สร้างการเมืองใหม่ ได้รับชัยชนะต่อเนื่องมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และได้รับการขานรับอย่างกว้างขวาง
วันนี้รัฐบาลหุ่นเชิดสมัคร สุนทรเวช ได้ถูกโค่นลงไปแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยวิธีการผูกคอตายและกลายเป็นพรรคมารแบบที่เคยเป็นมาแล้วเมื่อครั้งเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ด้วยการประกาศสนับสนุน “สาม ส.” ของพรรคพลังประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง มิได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแม้แต่น้อย นี่คือนิสัยสันดานของพรรคมารที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง และทำให้การเมืองเก่าหมดความชอบธรรม และเป็นที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ ที่ไม่อาจให้อภัยได้อีกต่อไปเลย
การตัดสินใจแบบนี้ก็คือการตัดสินใจเลือกเอาหุ่นเชิดตัวใหม่เข้ามาแทนหุ่นเชิดตัวเก่าที่เพิ่งถูกโค่นล้มลงไป โดยไม่เคยสำนึกรับผิดชอบใด ๆ ต่อประเทศชาติและประชาชน ดังนั้นประชาชาติไทยจึงหวังพึ่งอันใดกับพรรคเหล่านี้ไม่ได้
จะเป็น ส.ใด ในสาม ส. ก็คือหุ่นเชิดทั้งนั้น การต่อสู้ของประชาชนที่ผ่านมาคือการต่อสู้เพื่อขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ดังนั้นแม้หุ่นตัวหนึ่งล้มลงไปแล้ว หุ่นตัวใหม่จะเป็น ส. ไหนก็ตามล้วนเป็นหุ่นเชิดเหมือนกัน และนี่คือสาเหตุของวิกฤตในบ้านเมืองที่ยังไม่หมดสิ้น และยังคงสร้างกรรมทำเข็ญต่อไปไม่มีที่สุด
ดังนั้นประชาชนจึงไม่มีวันที่จะหลงเชื่อหรือเคลิบเคลิ้มไปกับมายาภาพของการเปลี่ยนตัวหุ่นเชิด และการเปลี่ยนตัวหุ่นเชิดแบบนี้ก็ไม่มีทางทำให้ประชาชนยุติหรือผ่อนคลายการต่อสู้ลงไปได้
มีแต่จะเห็นว่าอันตรายที่ร้ายแรงยังคงดำรงอยู่ ยังคงรุนแรงอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนท่าทีที่หยาบช้าสามานย์มาเป็นท่าทีที่ประนีประนอมมากขึ้น โดยเนื้อในยังคงเป็นการสืบทอดความชั่วช้าเลวทรามทั้งปวงเหมือนเดิมทุกประการ
มันจะยังกระทำแบบเดิมทุกอย่าง แต่จะพูดจาสุภาพเรียบร้อยอ่อนน้อมถ่อมตัวมากขึ้น
จิตใจมารยังอยู่เหมือนเดิม แม้เสื้อผ้าจะเปลี่ยนแปลงไป ก็ไม่ได้ทำให้หุ่นเชิดหรือวิญญาณมารกลายเป็นสัตบุรุษไปได้
เพราะเหตุนี้ประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จึงคงต้องยืนหยัดต่อสู้ต่อไปไม่ว่าจะยืดเยื้อยาวนานสักปานใด เพราะความยืดเยื้อยาวนานนั้นแม้ทำให้อ่อนล้าเหนื่อยยากลำบาก แต่ก็ได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ขึ้นมากมาย
วันนี้นักเรียน นิสิต นักศึกษาซึ่งเป็นเยาวชนของชาติ เป็นอนาคตของชาติ เป็นพลังบริสุทธิ์ เร่าร้อน สร้างสรรค์ ได้ตื่นตัวขึ้นมาจากมนต์มายาของระบอบทุนนิยมสามานย์เข้าเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมต่อสู้กับประชาชนผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์แล้ว นี่คือสิ่งที่ได้มาจากความยืดเยื้อยาวนานที่ไม่อาจมองข้ามไปได้
ในบรรดา สาม ส. นั้น ขณะนี้ต้องถือว่า ส.สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังมีแนวโน้มว่าจะได้นั่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในขณะที่ ส.สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นตัวสำรอง
โดย ส.ส. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในแก๊งสี่คนกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก กำลังตกอยู่ในสำเภาลำเดียวกันกับกลุ่มบุรีรัมย์ ซึ่งตกเป็นเป้าหมายที่จะถูกล้างผลาญเพื่อดับชีวิตทางการเมืองของคนพวกนี้ลงไปไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดอีก
ดังนั้นในพรรคพลังประชาชน แม้จะมีเสียงข้างมากแต่ก็อาจกล่าวได้ว่าแตกเป็นสองเสี่ยงที่ยากจะประนีประนอมกันอีกต่อไปแล้ว
เวลาใดที่กลุ่มบุรีรัมย์หรือแก๊งสี่คนสำนึกตนว่าตกเป็นเป้าที่จะถูกทำลายล้างอย่างเลือดเย็นและอำมหิตก็อาจมีจิตสำนึกขึ้นมาได้สักเวลาหนึ่ง และหากกลับตัวเปลี่ยนใจเมื่อใดก็อาจสร้างคุณูปการที่ทำให้แผนเชิดสาม ส. เป็นหุ่นเชิดต้องพังพินาศไปก็เป็นได้
คนแบบเนวิน ชิดชอบ นั้นเก่งและเก๋าทางการเมืองรอบตัวทั้งบุ๋นบู๊ จัดจ้านเชิงชั้นปฏิบัติการทางการเมืองที่ยากจะหาตัวจับ ยิ่งถูกเหยียบกระทืบหรือตกเป็นเป้าหมายทำลายล้างจากขั้วอำนาจใหม่หลังล่มสลายของรัฐบาลสมัครมากเท่าใด ก็ยิ่งประมาทน้ำใจไม่ได้
พลังขุมนี้อาจทำให้การเมืองไทยพลิกผันจนพรรคพลังประชาชนต้องตกกลายเป็นฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวก็เป็นได้ ใครจะไปรู้
ทางด้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เสนอการเมืองใหม่ขึ้นมาแล้ว ได้ต่อยอดแนวคิด “รัฐบาลประชาภิวัฒน์” และ “สภาประชาภิวัฒน์” แล้ว นี่คือจังหวะก้าวที่รุดไปข้างหน้าอีกก้าวใหญ่ของแนวทางการเมืองใหม่
สภาประชาภิวัฒน์ควรได้รับการจัดตั้งขึ้นมาก่อน โดยเชิญผู้แทนของกลุ่มอาชีพทุกอาชีพทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือกัน เพื่อกำหนดแนวทางและวิธีการในการนำพาชาติออกจากวิกฤตและสร้างการเมืองใหม่ให้ปรากฏชัดเจนขึ้น
อย่าคิดว่าการปฏิวัติประชาชาติหรือประชาภิวัฒน์จะเกิดขึ้นไม่ได้ มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
คราวนั้นประชาชาติฟิลิปปินส์เคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาลจอมเผด็จการมาร์กอสที่โกงชาติ ขายชาติ ติดอันดับแนวหน้าของโลก
ประชาชาติฟิลิปปินส์เข้ายึดทำเนียบมาลากันยัง จากนั้นก็เชิญตัวแทนกลุ่มอาชีพมาเข้าร่วมปรึกษาหารือ ครั้นเห็นชอบพร้อมกันแล้วข้าราชการ ทหาร ตำรวจ โดยเฉพาะทหารฟิลิปปินส์ 3 กองพันได้แต่งเครื่องแบบเข้าร่วมชุมนุมด้วย
ในทันทีนั้นจอมเผด็จการมาร์กอสก็หนีออกไปต่างประเทศ รัฐบาลเผด็จการล้มลง ฝ่ายต่อต้านจึงได้จัดตั้งรัฐบาลประชาภิวัฒน์ขึ้นสำเร็จ
การปฏิวัติประชาชาติแบบมาลากันยังของฟิลิปปินส์ในวันนั้นยังเล็กกว่า อ่อนแอกว่า เทียบไม่ได้กับการต่อสู้ของประชาชาติไทยในวันนี้
ประชาชาติไทยทุกหมู่เหล่าจะยอมจำนน ยอมรับ รัฐบาลหุ่นเชิดตัวใหม่ หรือว่าจะผลักดันสภาประชาภิวัฒน์ก็คงได้เห็นกันในไม่กี่วันข้างหน้านี้!
สภาประชาภิวัฒน์จัดตั้งขึ้นเมื่อใดก็จะเป็นหน่อเนื้อที่แข็งแรงให้กับการเกิดขึ้นของรัฐบาลประชาภิวัฒน์เมื่อนั้น.