นายสมัคร สุนทรเวช ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินไปแล้ว และมอบหมายอำนาจรักษาการสถานการณ์ฉุกเฉินให้กับพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก
ณ บัดนี้ผู้บัญชาการทหารบกจึงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดและเด็ดขาดในการควบคุมรักษาและแก้ไขสถานการณ์ตามประกาศภาวะฉุกเฉินนั้นทั่วทั้งพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ฝ่ายมหาดไทยก็ดี ตำรวจก็ดี และทหารทั้งปวงย่อมอยู่ในอำนาจบังคับบัญชาและการสั่งการของผู้บัญชาการทหารบกทั้งสิ้น ทั้งมีอำนาจสั่งการเรื่องกำลังทุกหน่วยทุกเหล่าอย่างเต็มที่
เพราะเหตุนี้ความกระเหี้ยนกระหือรือที่จะสลายการชุมนุมของประชาชนด้วยวิธีรุนแรงจึงถูกหยุดยั้งไปดังมาตรการ 3-4 ประการ ที่ผู้บัญชาการทหารบกได้แถลงไปแล้ว
ประเทศไทยขณะนี้มีสถานการณ์สองอย่างซ้อนกันอยู่ ซึ่งต้องจำแนกแยกแยะให้ดี
อย่างแรกคือการชุมนุมของประชาชนเพื่อประท้วงรัฐบาลและเรียกร้องให้นายสมัคร สุนทรเวช ลาออก ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมากว่า 100 วันแล้ว ด้วยความสงบสันติและปราศจากอาวุธ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลก็ดี ผู้บัญชาการทหารบกก็ดี ผู้บัญชาการเหล่าทัพอื่น ๆ ก็ดี ล้วนมีความเห็นตรงกันว่าการชุมนุมประท้วงเช่นนี้ไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน และได้ยับยั้งไม่ให้นายสมัคร สุนทรเวช ประกาศภาวะฉุกเฉินตลอดมา
ซึ่งเป็นความถูกต้องอย่างยิ่งความขัดแย้งทางการเมืองและการชุมนุมเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉิน
อย่างที่สองคือเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดการโจมตีและปะทะกันที่ถนนราชดำเนินบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ที่มวลชนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีนักการเมืองหนุนหลังเคลื่อนขบวนพร้อมอาวุธบุกมาที่การชุมนุมของประชาชนเป็นเหตุให้มีคนตายและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ความจริงได้ถูกเปิดออกไปอย่างกว้างขวางทั้งในระดับนานาชาติและทั่วประเทศแล้วว่าเหตุรุนแรงดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ หรือเกิดเพราะความขัดแย้งในหมู่ประชาชน
แต่เป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการวางแผนเพื่อสร้างสถานการณ์ และมีข้อเท็จจริงมากมายดังที่เป็นข่าวไปทั่วโลกและทั่วประเทศแล้ว และคนทั้งปวงก็เชื่อว่าเป็นการวางแผนและดำเนินการของฝ่ายรัฐบาล
เป็นการวางแผนและดำเนินการของรัฐบาลเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการประกาศภาวะฉุกเฉิน
ดังนั้นการประกาศภาวะฉุกเฉินโดยที่เป็นความฉุกเฉินเทียม ไม่ใช่ความฉุกเฉินหรืออันตรายร้ายแรงที่แท้จริง เพราะฝ่ายรัฐบาลเป็นฝ่ายก่อขึ้นเอง จึงส่อว่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคงจะได้เห็นกันว่าเป็นอย่างไร เพราะมีผู้นำคดีไปฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวแล้ว คงต้องติดตามฟังผลคำวินิจฉัยของศาลกันต่อไป
เหตุการณ์ที่ก่อความรุนแรงได้หยุดลงตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง ครั้นเวลาบ่ายวันที่ 2 กันยายน 2551 แกนนำมวลชนกลุ่มเสื้อแดงก็ได้ประกาศสลายตัว ดังนั้นมูลเหตุของความรุนแรงและความฉุกเฉินจึงเป็นอันสิ้นสุดลงแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้บัญชาการทหารบกจึงอาจเสนอยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินได้ในทันที หรือหากเห็นว่าสถานการณ์ยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ก็อาจจะคงอำนาจนั้นไว้อีกระยะหนึ่ง เพื่อกุมสภาพและสถานการณ์ไม่ให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนก็ได้
ซึ่งเชื่อและวางใจได้ว่าผู้บัญชาการทหารบกมีสติปัญญาและความสามารถที่จะรักษาสถานการณ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยได้
มีข้อพิจารณาว่าแม้สถานการณ์ฉุกเฉินจะสามารถกำกับควบคุมหรือยับยั้งไว้ได้ก็ตาม แต่ความขัดแย้งทางการเมืองก็คงไม่ยุติลงแต่ประการใด เพราะต้นเหตุของความขัดแย้งทางการเมืองยังคงดำรงอยู่
นายสมัคร สุนทรเวช เกาะเก้าอี้อย่างเหนียวแน่น ไม่ยอมลาออกโดยเด็ดขาด ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากได้ปฏิเสธการปกครองไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่มีข้อยุติตรงนี้ตราบใด ความขัดแย้งในทางการเมืองก็ไม่มีทางยุติลงตราบนั้น การขยายตัวของการประท้วงกำลังขยายตัวลุกลามไปทั่วทุกปริมณฑลของประเทศ แม้กระทั่งนักเรียน นิสิต นักศึกษาก็ได้เข้าร่วมแล้ว
ดังนั้นสถานการณ์ขณะนี้แม้ผู้บัญชาการทหารบกจะมีความตั้งใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ภาระอันหนักเกี่ยวกับความมั่นคง ความปลอดภัยและความเป็นปกติสุขของประเทศและประชาชนก็เป็นเรื่องที่จำต้องแบกรับเอาไว้ ไม่อาจผลักไสหรือเพิกเฉยต่อไปได้
ตรงนี้จึงเป็นบทบาทที่สำคัญยิ่งของผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งอาจใช้บทบาทได้ในประการดังนี้
หนึ่ง แนะนำให้นายสมัคร สุนทรเวช ลาออก และปล่อยให้ฝ่ายการเมืองฟอร์มรัฐบาลโดยคำนึงถึงความเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นสำคัญ หรือ
สอง เปลี่ยนใจกวาดล้างสลายการชุมนุมของประชาชน ซึ่งจะเกิดการนองเลือดและเกิดกลียุคอย่างกว้างขวาง หรือ
สาม รักษาสถานการณ์ต่อไปและปล่อยให้สถานการณ์พัฒนาต่อไป ซึ่งเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าความบอบช้ำของประเทศชาติและประชาชนกำลังย่ำแย่มากขึ้นทุกที
ความมุ่งมั่นของผู้บัญชาการทหารบกคงมุ่งหมายที่จะดำเนินตามทางที่สาม แต่ในที่สุดก็คงไม่อาจทนเห็นความพินาศของบ้านเมืองและประชาชนได้ สถานการณ์จะบังคับให้ต้องตัดสินใจเลือกเอาตามทางที่หนึ่งหรือทางที่สองอย่างแน่นอน
และทางที่หนึ่งกับทางที่สองนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าผู้บัญชาการทหารบกคงจะเลือกหนทางที่หนึ่ง
ขอให้ประสพความสำเร็จในทางที่คืนความสงบสุขแก่บ้านเมืองและประชาชนเถิด หาไม่แล้วหนทางที่สี่ก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้!
ณ บัดนี้ผู้บัญชาการทหารบกจึงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดและเด็ดขาดในการควบคุมรักษาและแก้ไขสถานการณ์ตามประกาศภาวะฉุกเฉินนั้นทั่วทั้งพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ฝ่ายมหาดไทยก็ดี ตำรวจก็ดี และทหารทั้งปวงย่อมอยู่ในอำนาจบังคับบัญชาและการสั่งการของผู้บัญชาการทหารบกทั้งสิ้น ทั้งมีอำนาจสั่งการเรื่องกำลังทุกหน่วยทุกเหล่าอย่างเต็มที่
เพราะเหตุนี้ความกระเหี้ยนกระหือรือที่จะสลายการชุมนุมของประชาชนด้วยวิธีรุนแรงจึงถูกหยุดยั้งไปดังมาตรการ 3-4 ประการ ที่ผู้บัญชาการทหารบกได้แถลงไปแล้ว
ประเทศไทยขณะนี้มีสถานการณ์สองอย่างซ้อนกันอยู่ ซึ่งต้องจำแนกแยกแยะให้ดี
อย่างแรกคือการชุมนุมของประชาชนเพื่อประท้วงรัฐบาลและเรียกร้องให้นายสมัคร สุนทรเวช ลาออก ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมากว่า 100 วันแล้ว ด้วยความสงบสันติและปราศจากอาวุธ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลก็ดี ผู้บัญชาการทหารบกก็ดี ผู้บัญชาการเหล่าทัพอื่น ๆ ก็ดี ล้วนมีความเห็นตรงกันว่าการชุมนุมประท้วงเช่นนี้ไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน และได้ยับยั้งไม่ให้นายสมัคร สุนทรเวช ประกาศภาวะฉุกเฉินตลอดมา
ซึ่งเป็นความถูกต้องอย่างยิ่งความขัดแย้งทางการเมืองและการชุมนุมเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉิน
อย่างที่สองคือเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดการโจมตีและปะทะกันที่ถนนราชดำเนินบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ที่มวลชนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีนักการเมืองหนุนหลังเคลื่อนขบวนพร้อมอาวุธบุกมาที่การชุมนุมของประชาชนเป็นเหตุให้มีคนตายและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ความจริงได้ถูกเปิดออกไปอย่างกว้างขวางทั้งในระดับนานาชาติและทั่วประเทศแล้วว่าเหตุรุนแรงดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ หรือเกิดเพราะความขัดแย้งในหมู่ประชาชน
แต่เป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการวางแผนเพื่อสร้างสถานการณ์ และมีข้อเท็จจริงมากมายดังที่เป็นข่าวไปทั่วโลกและทั่วประเทศแล้ว และคนทั้งปวงก็เชื่อว่าเป็นการวางแผนและดำเนินการของฝ่ายรัฐบาล
เป็นการวางแผนและดำเนินการของรัฐบาลเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการประกาศภาวะฉุกเฉิน
ดังนั้นการประกาศภาวะฉุกเฉินโดยที่เป็นความฉุกเฉินเทียม ไม่ใช่ความฉุกเฉินหรืออันตรายร้ายแรงที่แท้จริง เพราะฝ่ายรัฐบาลเป็นฝ่ายก่อขึ้นเอง จึงส่อว่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคงจะได้เห็นกันว่าเป็นอย่างไร เพราะมีผู้นำคดีไปฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวแล้ว คงต้องติดตามฟังผลคำวินิจฉัยของศาลกันต่อไป
เหตุการณ์ที่ก่อความรุนแรงได้หยุดลงตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง ครั้นเวลาบ่ายวันที่ 2 กันยายน 2551 แกนนำมวลชนกลุ่มเสื้อแดงก็ได้ประกาศสลายตัว ดังนั้นมูลเหตุของความรุนแรงและความฉุกเฉินจึงเป็นอันสิ้นสุดลงแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้บัญชาการทหารบกจึงอาจเสนอยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินได้ในทันที หรือหากเห็นว่าสถานการณ์ยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ก็อาจจะคงอำนาจนั้นไว้อีกระยะหนึ่ง เพื่อกุมสภาพและสถานการณ์ไม่ให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนก็ได้
ซึ่งเชื่อและวางใจได้ว่าผู้บัญชาการทหารบกมีสติปัญญาและความสามารถที่จะรักษาสถานการณ์ให้เป็นไปโดยเรียบร้อยได้
มีข้อพิจารณาว่าแม้สถานการณ์ฉุกเฉินจะสามารถกำกับควบคุมหรือยับยั้งไว้ได้ก็ตาม แต่ความขัดแย้งทางการเมืองก็คงไม่ยุติลงแต่ประการใด เพราะต้นเหตุของความขัดแย้งทางการเมืองยังคงดำรงอยู่
นายสมัคร สุนทรเวช เกาะเก้าอี้อย่างเหนียวแน่น ไม่ยอมลาออกโดยเด็ดขาด ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากได้ปฏิเสธการปกครองไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่มีข้อยุติตรงนี้ตราบใด ความขัดแย้งในทางการเมืองก็ไม่มีทางยุติลงตราบนั้น การขยายตัวของการประท้วงกำลังขยายตัวลุกลามไปทั่วทุกปริมณฑลของประเทศ แม้กระทั่งนักเรียน นิสิต นักศึกษาก็ได้เข้าร่วมแล้ว
ดังนั้นสถานการณ์ขณะนี้แม้ผู้บัญชาการทหารบกจะมีความตั้งใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ภาระอันหนักเกี่ยวกับความมั่นคง ความปลอดภัยและความเป็นปกติสุขของประเทศและประชาชนก็เป็นเรื่องที่จำต้องแบกรับเอาไว้ ไม่อาจผลักไสหรือเพิกเฉยต่อไปได้
ตรงนี้จึงเป็นบทบาทที่สำคัญยิ่งของผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งอาจใช้บทบาทได้ในประการดังนี้
หนึ่ง แนะนำให้นายสมัคร สุนทรเวช ลาออก และปล่อยให้ฝ่ายการเมืองฟอร์มรัฐบาลโดยคำนึงถึงความเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นสำคัญ หรือ
สอง เปลี่ยนใจกวาดล้างสลายการชุมนุมของประชาชน ซึ่งจะเกิดการนองเลือดและเกิดกลียุคอย่างกว้างขวาง หรือ
สาม รักษาสถานการณ์ต่อไปและปล่อยให้สถานการณ์พัฒนาต่อไป ซึ่งเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าความบอบช้ำของประเทศชาติและประชาชนกำลังย่ำแย่มากขึ้นทุกที
ความมุ่งมั่นของผู้บัญชาการทหารบกคงมุ่งหมายที่จะดำเนินตามทางที่สาม แต่ในที่สุดก็คงไม่อาจทนเห็นความพินาศของบ้านเมืองและประชาชนได้ สถานการณ์จะบังคับให้ต้องตัดสินใจเลือกเอาตามทางที่หนึ่งหรือทางที่สองอย่างแน่นอน
และทางที่หนึ่งกับทางที่สองนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่าผู้บัญชาการทหารบกคงจะเลือกหนทางที่หนึ่ง
ขอให้ประสพความสำเร็จในทางที่คืนความสงบสุขแก่บ้านเมืองและประชาชนเถิด หาไม่แล้วหนทางที่สี่ก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้!