“สนธิ” จวก “หมัก สุนทรราช” เผด็จการตัวจริง - เมิน พ.ร.ก.ปักหลักสู้ต่อ!

“สนธิ” จวก “หมัก” เผยธาตุแท้เป็นจอมเผด็จการ อาศัยระบอบประชาธิปไตยไต่ขึ้นมาเพื่อใช้อำนาจตามอำเภอใจ เชื่อ รวมหัวพวกพลังแม้ว บงการม็อบถ่อยเข้าห้ำหั่นพันธมิตรฯเมื่อคืนที่ผ่านมา ลั่น 5 แกนนำฯ ไม่เคยกลัวและไม่เคยเปลี่ยนจุดยืน ยิ่งประกาศภาวะฉุกเฉิน ยิ่งส่งให้เกิดความกล้ามากขึ้น พร้อมเรียกร้องประชาชนออกมาแสดงพลังขับไล่ทรราชร่วมกัน

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ลงนามในประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว กลุ่ม นปก.ที่ชุมนุมกันอยู่ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ได้สลายตัวทันที ส่วนที่ชุมนุมกันอยู่ที่บริเวณหน้ากระทรวงเกษตรก็ทยอยสลายตัวเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ประกาศจะยังคงชุมนุมกันอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาลต่อไป โดยเมื่อเวลา 08.17 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า พี่น้องที่เคยร่วมชะตากับเรามาโดยตลอด ที่บอกว่าเชื่อมั่นและศรั่ทธาในสิ่งที่เราพูดและเสนอ และเชื่อว่าสิ่งที่สู้ร่วมกันเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เป็นพลังของศรีลธรรม คุณงามความดี ถ้าพี่น้องเชื่ออย่างที่เชื่อ พี่น้องทั่วประเทศไทย ต้องทำความเชื่อที่พี่น้องเชื่ออยู่ ไม่ใช่เชื่ออยู่หน้าจอโทรทัศน์ หรือในห้องรับแขก หนึ่งความเชื่อของพี่น้องที่เข้ามาร่วมกับหลายๆความเชื่อ เมื่อเข้ามาร่วมกันแล้วจะเป็นหนึ่งความเชื่อ แสนความเชื่อ ล้านความเชื่อ เราไม่เคยขออะไรเลยจากแผ่นดินนี้ เราขอแต่เพียงว่าเราอยากได้แผ่นดินนี้กลับมาหาเรา ให้เป็นแผ่นดินที่มีศีลธรรมและจริยธรรม แผ่นดินนี้ตกอยู่ในห้วงในเวร ในความพินาศฉิบหายมานานแล้ว ไม่เคยเห็นแสงสว่าง จนกระทั่งเกิดพี่น้องขึ้นมา เราเริ่มเห็นแสงสว่าง

นายสนธิ กล่าวต่อว่า วันนี้พิสูจน์ชัดแล้วว่านายสมัคร สุนทรเวช เป็นคนทำปฏิวัติรัฐประหารด้วยตัวเอง เพื่อให้ทักษิณพ้นผิด และเพื่อหาเรื่องไล่เราออกจากที่นี่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เป็ฯเหคุการณ์ทีวางแผนโดยนายสมัครและสหายทั้งสิ้นและพรรคพังประชาชน วันนี้เราพิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่าใครรักประชาธิปไตยกันแน่ ที่แล้วที่ชอบพูดว่าผมมาจากการเลือกตั้ง มาจากประชาธิปไตย มันหายไปไหนแล้ว วันนี้คือการแสดงตัวตนที่แท้จริง คนที่รักประชาธิปไตยที่แท้จริงคือพวกเรา ส.ส.พรรคพลังประชาชน นายสมัคร และลูกน้องหลายคนที่วางแผนเมื่อคืนจีน้ไม่ใช่คนทีรักประชาธิปไตย โดยเนื่อแท้เป็นคนรักเผด็จการ แต่บังเอิญมาได้อำนาจ ในระบอบประชาธิปไตย และก็ใช้อำนาจนั้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เข้ากับตัวเอง แต่เมื่อเกิดมีคนมาค้นพบและเปิดโปง ก็คือพวกเรา และเมื่อพวกเราเพิ่มจำนวนมากขึ้นๆ นายสมัครก็ไม่รู้จะหยุดพวกเรายังไง

“ฉะนั้น การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะมองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากเป็นการออกมาเพื่อทำให้นายสมัคร สามารถทำอะไรทีผิดกฎหมายต่อไปได้ และสามารถจะสลายเราได้โดยใช้อำนาจของกฎหมายอันนี้ และดึงทหารมาเป็นศัตรูของประชาชน แต่ไหนแต่ไรทหารไม่เคยเป็นศัตรูของประชาชน ทหารเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ ประชาชนอ่างพวกเรา คือพสกนิกรของพระองค์ท่าน เพราะฉะน้นการแยกทหารออกมาเพื่อให้ปราบปรามเรา หรือยืมมือตำรวจซึ่งพร้อมจะรับใช้นายสมัครอยู่แล้วมาปราบปรามพวกเรา จึงเป็นนิสัยเผด็จการที่แท้จริงที่ซ่อนเร้นออกมา และวันนี้ได้พิสูจน์ชัดแล้ว” นายสนธิ กล่าว

นายสนธิ กล่าวต่อว่า ไม่ว่าพี่น้องอยู่แห่งใดในประเทศ นี่คือโอกาสสุดท้ายของพี่น้องที่จะได้ทำอย่างที่พี่น้องเชื่อ เราชุมนุมอย่างอหิงสาและสันติมา 101วัน เมื่อวานคนที่มาโจมตีทำร้ายทำลายเรา ก็คือคนของนายสมัคร นปก.ก็คือคนของนายสมัคร เขาจงใจให้พวกนี้เข้ามา เพื่อจะก่อสถานการณ์และประกาศภาวะฉุกเฉิน และก็เป็นจริงอย่างที่คิดเลย ไม่ผิดแม้แต่นิดเดียว ฉะนั้นเราต้องมารวมตัวกันให้เยอะที่สุด ให้เขาเห็นว่ามีประชาชนเป็นแสนๆล้านๆคนที่ไม่ยอมให้เขาใช้อำนาจเผด็จการเพื่อล้างความผิดของเขา อย่างไรก็ตาม ขอให้พี่น้องประชาชนมาชุมนุมร่วมกัน ไม่ต้องรอให้เอเอสทีวีถูกปิดเสียก่อน เราต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีอะไรรที่จะชนะศีลธรรมและจริยธรรมได้ เพราะศีลธรรมคือสุดยอดของธรรม

“5 แกนนำไม่เคยเปลี่ยนจุดยืนของพวกเรา เมื่อมีการประกาศภาวะฉุกเฉินเราไม่ได้กลัว เรากลับมีคามกล้ามากกว่าเก่า เพราะเรารู้ว่านั่นคือการกระทำที่ชั่วร้าย เมื่อเป็นการกระทำที่ชั่วร้ายแล้ว มันยิ่งส่งเสริมให้ความกล้าทีมีอยู่แล้วให้ยิ่งกล้ามากขึ้น เพราะเรารู้ว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องและมีศีลธรรม” นายสนธิ กล่าว

ด้าน นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า พี่น้องที่มีหัวใจเป็นธรรมจะต้องออกมาชุมนุมโดยด่วน เพื่อยืนยันในสิ่งที่เราได้ทำมาตลอด 100 กว่าวันที่ผ่านมา ขณะที่นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ อีกคน ได้ระบุว่า เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นความจงใจของนายสมัครที่จะสร้างสถานการณ์ เพราะเห็นได้ชัดว่าคนของพรรคพลังประชาชนนำ นปก.มา

ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การประกาศสถานการณฺฉุกเฉินจะทำให้อายุของรัฐบาลสั้นลง เพราะก่อนหน้านี้ หลายองค์กรได้ออกมาคัดค้านไว้ล่วงหน้าแล้วว่าไม่ควรประกาศ ดังนั้น เมื่อออกประกาศ ก็จะทำให้มีการออกมาต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น ดังนั้นจึงเชื่อว่า จะทำให้อายุของรัฐบาลจบลงเร็วขึ้น