ผู้จัดการรายวัน - 'หมัก' ผวาพันธมิตรฯ เป่านกหวีดครั้งสุดท้าย ปากกล้าขาสั่น บอกอดกลั้นถึงที่สุด แต่ไม่วายขู่หากล้ำเส้นกฎหมายดำเนินการทันที กุข่าวถ้ามีบึ้มรัฐไม่เกี่ยว นัด ผบ.เหล่าทัพถกโผทหารในทำเนียบฯ วันนี้ หวังใช้เวทีประเมินสถานการณ์หยั่งเสียงใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใช้กำลังทหารเข้ายุติการชุมนุม ทำเนียบฯ ตรึงกำลังทั้งภายในและภายนอก เปิดประตูด้านเดียวรับ รมต.ร่วมประชุม ครม. 'อภิสิทธิ์' เตือนนายกฯ อย่าลืมคำกราบบังคับทูลเรื่องสมานฉันท์ โฆษก มท. 'เด็ก เนวิน' มั่วนิ่มอ้างกลุ่มทุนการเมืองอยู่เบื้องหลังขนประชาชนร่วมพันธมิตรฯ
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงข่าวด่วนก่อนเป็น ประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น ประจำปี 2551 (พีเอ็มอวอร์ด 2008) ว่า ขออนุญาตแถลงข่าว วันนี้เพราะเดี๋ยวจะถูกประชาชนต่อว่า ว่าตกลงเรื่องที่มีการประกาศอะไรกันมากมายนั้น รัฐบาลจะเอาอย่างไร จะขอตอบชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ได้คิด และไม่ได้ตั้งใจว่าจะเอาอย่างไร จะต้องถามกลับไปว่า ทำไมพวกที่คิดทำอย่างนั้น จึงได้คิดจะทำอย่างที่ว่าตนเป็นรัฐบาลที่มาถูกต้อง ตามกฎหมาย ช่องทางที่จะล้มรัฐบาลก็ไปผ่านทางสภา จะไปร่วมมือกับใครอย่างไร ให้ไปลงคะแนนในสภา ก็ต้องไปตามธรรมเนียม แต่อยู่ดีๆ มานั่งชุมนุมกลางบ้าน กลางเมือง ตนก็อดทน เพราะไม่อยากมีเรื่อง คิดว่าวันหนึ่งคงจะจบกันได้ ปรากฎว่าวันหนึ่ง คือวันพรุ่งนี้( 26 ส.ค.) ประกาศว่า จะทำอย่างนั้นๆ ผู้คนทั่วบ้านทั่วเมือง ก็ตื่นเต้น ตกใจ ว่าอะไรอย่างไร
'วันนี้ผมมีหน้าที่จะประกาศให้พี่น้อง ประชาชนชาวไทยทราบว่า ผม นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีบ้านเมืองนี้ มีหน้าที่จะต้องดูแลรักษาความสงบของ บ้านเมือง ใครจะใช้สิทธิจะประท้วงอย่างไร ขอให้ทำตามสมควร ให้อยู่ในขอบเขต ของกฎหมาย ถ้าเกินขอบเขตทางฝ่ายรักษากฎหมายจะดำเนินการ ไม่มีเหตุผลที่จะมาเล่นดำเนินการกันแบบนี้ ไม่เห็นกับบ้านกับเมือง ออกข่าวนั้น เอาเถอะ จะทำลายสถานการณ์ เศรษฐกิจ บ้านเมือง อย่างไร ถ้าอยากจะทำ ผมจะทน แต่การออกข่าวถึงขนาดจะทำอย่างโน้น อย่างนี้ ถึงขนาดคนในบ้านเมืองตื่นตระหนกตกใจ ไม่เป็นอันทำมาหากิน จนก่อให้เกิดการจราจล ผมคิดว่ามันชักจะมากเกินไป ผมจะอดกลั้นจนถึงที่สุด และจะให้คนที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ดูแลรับผิดชอบ'
ขู่มีเหตุระเบิดอย่าโทษรัฐบาล
นายสมัคร กล่าวยืนยันว่า พรุ่งนี้ทางซีกรัฐบาลไม่มีอะไรเปลี่ยน ที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะประชุมครม. และจะดูสิว่า ใครจะทำอะไรในสถานการณ์ อย่างนี้ ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ พี่น้องทั้งหลายโปรดเฝ้าดูว่าใครเป็นคนที่ทำอะไรผิด ใครเป็นคนที่ทำอะไรชอบ ใครเป็นคนที่ทำอะไรขึ้นชาวโลกเขาไม่ทำกัน ตนบอกให้รู้ไว้ด้วยว่า เดี๋ยวจะไปโทษมือที่ 3 ขอร้องพี่น้องประชาชนชาวไทย ได้โปรดดูว่า ไอ้ใครที่จะทำตัวเป็นมือที่ 3 รัฐบาลขอยืนยันว่า ไม่นิยมที่จะมาฉกฉวย เรื่องพรรค์อย่างนี้ ถ้าใครจะคิดทำอะไร ใครจะโยนระเบิด ใครจะทำอะไรอย่างไรต่างๆ ตำรวจจะเป็นคนเฝ้าดูแล แล้วอย่ามาอ้างว่ารัฐบาลเป็นคนทำ รัฐบาลเป็นคนก่อให้เกิด ความเสียหาย รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดเรื่องพรรค์อย่างนี้ ฉะนั้นเมื่อมีใครก่อให้เกิด เรื่อง ก็ขอให้ทำให้เห็น เราจะได้ดำเนินคดีตามที่ได้ก่อเรื่องกันขึ้นมา
'บ้านเมืองอยู่กันมาดีๆแท้ๆ ขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายคิดหน่อยเดียวว่า ใครเป็นคนก่อเหตุในบ้านเมืองนี้ ในวันพรุ่งนี้ จะพูดจะจาอย่างไรก็ตามแต่ ดูหน้าคนพูด เถอะ ดูคำแถลงของตน ตนแถลงตรงไปตรงมา มีหน้าที่รับผิดชอบบ้านเมืองนี้ ดูแลบ้านเมืองนี้ ตนจะรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุด นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ พี่น้องทั้งหลายจะต้องร่วมมือด้วย และต้องเข้าใจด้วยว่า บ้านเมืองอยู่กันมาด้วยความสงบเรียบร้อย ใครเป็นฝ่ายที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากในบ้านเมือง โปรดดูด้วย ไม่ต้องแบ่งฝัก แบ่งฝ่าย เข้าข้างไหนอย่างไร แต่ท่านเป็นเจ้าของประเทศ ต้องช่วยรักษาความสงบในบ้านเมืองนี้ด้วย
โยนกรรมเก่าถ้าถูกตัดสินคดีว่าผิด
นายสมัคร กล่าวว่า มีคนพวกหนึ่งมาตั้งข้อกล่าวการกัน ใครที่จะนำเสนอข่าว ถ่ายทอดข่าวตนขอฝากให้ช่วยคิด ช่วยตรองด้วยว่าควรจะทำอย่างนั้นหรือไม่ ควรจะสนับสนุนคนที่จะก่อกวนล้มล้างรัฐบาลหรือไม่ สมควรหรือไม่ที่จะต้องไปสนับสนุนเรื่องพรรค์อย่างนั้น ไม่สนับสนุนรัฐบาลไม่เป็นไร จะเหยียบย่ำรัฐบาลเล็กน้อย ไม่เป็นปัญหา แต่รวมหัวกันสนับสนุนคนที่จะล้มล้างรัฐบาลนั้น ขอให้คิดให้ดีว่าจะทำอย่างนั้นต่อไป ช่วยดูกันหน่อย ตนพูดวันนี้ถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ตนรับผิดชอบ เราไม่ได้คิดอะไรผิด ไม่ได้คิดอะไรร้าย มาถูกต้องตามกฎหมาย คดีความทั้งหลายถึงเวลาตรงไหนถ้าหมดก็หมด ออกก็ออก เป็นเรื่องกรรมที่ผมทำมาในอดีต แต่ตนแน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามตนรับได้ และจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามไม่เสียหาย แต่ว่าที่เสียหายจริงๆคือ ทำข่าวกันเอิกเกริก
ซัดนักวิจารณ์ข่าวเหยียบย่ำรัฐบาล
'ผมขอพูดไปยังนักวิจารณ์ข่าวทั้งหลายตอนเช้าๆ ที่สุมหัวกัน จะพูดจาอะไรก็ตามแต่ การเสนอข่าว แต่การเสนอข่าวเรื่องร้ายจนกระทั่งบ้านเมืองจะไปไม่รอด ท่านต้องคิดให้ดีหน่อย ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำอย่างนั้นมันเกินไป โอ๊ย!วันนั้นต้องไป วันนี้ต้องไปแน่ รัฐบาลต้องเป็นอย่างนี้ ไอ้นั่นศาลจะตัดสิน ไอ้นี่จะโดน ไม่ถึงอย่างนั้นหรอกครับ คอยดูกันไปก็แล้วกันว่าอะไรมันจะเป็นอย่างไร ผมไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไร แต่บอกให้รู้ให้เพลาๆ กันบ้าง อย่าตั้งพวกตั้งฝ่ายไม่ชอบหน้ากัน พูดจากระทบกระแทกแดกดัน บางรายการผมก็เฝ้าดู ไม่เคยมีความปรารถนาดีเลย พูดงั้นก็แดกอย่างนี้ พูดอย่างนี้ต้องแดกอย่างนั้น พูดนี้ต้องกระทบอย่างนี้ คิดดูหัวอกคนฟังจะคิดอย่างไร นายกฯคนนี้มันไม่มีอะไรดีเลย ไอ้เจ้าตัวที่อยู่ข้างใน นั่งข้างซ้ายตัวเล็ก กระทบกระแทกแดกดันทุกวันไม่เคยนั่นเลย ผมไปทำอะไรให้เป็นศัตรูกันขนาดไหนอย่างไร แต่การพูดจาอย่างนั้นมันเกินเหตุ ผมไม่ได้เป็นคนเลว ทราม ต่ำ ช้า มาจากไหน วิถีทางชีวิตผมอยู่การเมืองมาตลอด จะเอาอย่างไรก็เอาสิครับ ให้มันถูกตามช่องกฎหมาย
'ผมไม่ค่อยพูดถึงสื่อสารมวลชนถึงเรื่องนี้ แต่มีบางพวกบางฝ่ายมันสนุกตรงไหนที่ทำให้รัฐบาลมันพ้นไปได้ บางพวกจะขายแต่ข่าวอย่างเดียว ทะเลาะกันก็เป็นข่าว อ้างว่าผู้สื่อข่าวต้องทำข่าว นึกถึงหัวอกบ้านเมือง นึกถึงสถานะของเรา นึกถึงคนทำมาค้าขายบ้างสิครับ'
นายสมัคร กล่าวอีกว่า ไม่ต้องเข้าข้างหรอกเพียงแต่ไม่โดดเข้ามาเหยียบย่ำ จะถามว่า ถ้าเหยียบย่ำรัฐบาลนี้หลุดไปแล้ว จะเอาใครยังไง เลือกตั้งใหม่หรือ ใครเป็นคนยุบสภา ใครจะเรียกเลือกตั้งใหม่ แล้วอย่างไร พวกที่ปลุกระดมข้างถนน แล้วเปลี่ยนมาเป็นนายกฯมันไม่ใช่ ขออธิบายให้ฟังเท่านี้ แล้วอย่างหาว่า ตนใช้เสียงรุนแรง ที่ต้องใช้เสียงรุนแรงวันนี้ ให้มันสมควรกับคนซึ่งทำข่าวข่มขู่ ให้ราษฎร หวั่นวิตก เรื่องอื่นๆ นั้นขอรับรองว่า จะรับผิดชอบที่จะอธิบายโดยเฉพาะเรื่องการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นั้น เป็นเรื่องของสภา ตนสนับสนุน
หมักนัด ผบ.เหล่าประเมินพันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมนายสมัคร ในฐานะ รมว.กลาโหม และประธานคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหารระดับนายพล ได้นัดผู้บัญชาเหล่าทัพประชุมในวันที่ 25 ส.ค. แต่นายสมัคร ได้ให้เลขานุการส่วนตัวแจ้งกับผู้บัญชาการเหล่าทัพว่าให้เลื่อนการประชุมคณะกรรมการฯดังกล่าวมาเป็นวันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 16.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล
แหล่งข่าวกล่าวว่าการเลื่อนประชุมครั้งนี้เป็นไปได้ว่านายสมัครอาจจะใช้เวทีประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายฯ เพื่อประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อประเมินสถานการณ์ ภายหลังที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมใหญ่ในวันที่ 26 ส.ค.ในคราวเดียวกัน ซึ่งคาดว่าหากสถานการณ์รุนแรงนายกรัฐมนตรีอาจพิจารณาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เปิดทางให้กองทัพใช้กำลังในการยุติการชุมนุมได้
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่าการโยกย้ายนายทหารปีนี้ยังคงมีความหวาดระแวงกันระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้บัญชาการเหล่าทัพบางท่า โดยเฉพาะ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และอดีตรักษาการประธาน คมช.)ทั้งในเรื่องการพิจารณาตำแหน่ง ผบ.ทอ.คนใหม่ และจุดยืนที่มีต่อการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรญ ซึ่ง พล.อ.อ.ชลิต ยืนยันที่ไม่ต้องการให้ใช้กำลังทหารในการเข้าสลายการชุมนุม
'ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มแกนนำ ตท.10 และกำลังทหารที่มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตระเตรียมกำลัง และเป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุใดนายกรัฐมนตรีไม่หารือคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารฯ ที่กระทรวงกลาโหม เพราะเป็นการหารือในส่วนของกลาโหม ดังนั้น คาดว่าการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการเหล่าทัพ จะพิจารณาถึงสถานการณ์การชุมนุม กลุ่มพันธมิตรด้วย'
โผทหารในส่วนเหล่าทัพลงตัว
มีรายงานว่า ในขณะที่การจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี ได้ข้อยุติในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย และ เหล่าทัพแล้ว และจะได้นำบัญชีรายชื่อที่ได้จัดทำนี้เสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหาร ฯ ที่มีนายสมัครเป็นประธาน
ทั้งนี้ในการหารือระหว่าง พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ พล.อ.บุญสร้าง กลับจากการเดินทางไปต่างประเทศ ปรากฏว่า พล.อ.บุญสร้าง ได้ยอม ที่จะให้ พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ตามความต้องการของพล.อ.วินัย เนื่องจาก พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ (ตท.10) เสนาธิการทหาร ที่บก.สส.จะส่งมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ไม่ได้รับการยอมรับ ในสำนักงานปลัดฯ อีกทั้ง ทั้งคู่เห็นว่าควรวางคนให้เหมาะสมกับงานเพราะ พล.อ. ทรงกิตติ น่าจะเหมาะสมกับงานที่ กองบัญชาการกองทัพไทย มากกว่า ในขณะที่ พล.อ.อภิชาต อยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมมานาน คุ้นเคยกับงานดีน่าจะสานงานต่อตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมต่อไป
ในขณะที่กองทัพเรือ เสนอชื่อ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ประธานคณะที่ปรึกษา ทร.เป็น ผบ.ทร. และ กองทัพอากาศเสนอชื่อพล.อ.อ.อิทธพร กลิ่นเฟื้อง เสธ.ทอ.ขึ้นเป็นผบ.ทอ.ตามคาด
ทำเนียบฯ เปิดประตูเดียวรับ ครม.
แหล่งข่าวระดับสูงจากกองรักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันนี้ (26 ส.ค.) ภายในทำเนียบฯจะมีการใช้กำลังตำรวจจากกองกำกับการฝ่ายรักษาความปลอดภัยจากตำรวจสันติบาลดูแลรักษาความปลอดภัย 170 นายตามปกติ นอกจากนี้ยังมีการขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ภูธร ตชด. อย่างละหนึ่งกองร้อย โดยภายในทำเนียบฯจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกือบ 800 นาย ส่วนด้านนอกจะเป็นตำรวจนครบาล และ 191 ซึ่งจะใช้กำลังจำนวนมาก และเตรียมพร้อมเสริมกำลังตลอดเวลาหากเหตุวุ่นวายขึ้น
ส่วนการประเมินว่าพันธมิตรฯ จะปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลทำให้ไม่สามารถประชุมรัฐมนตรีได้นั้น ทางกองรักษาความปลอดภัยได้มีแผนสำรองในการผลัดเปลี่ยน การเปิดประตูเข้า-ออกให้แก่ ครม. ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
แหล่งข่าวคนเดิมยอมรับว่า ไม่เป็นห่วงคำขู่ของพันธมิตรฯ ที่จะตัดน้ำตัดไฟ ทำเนียบฯ แต่เรียกร้องให้พันธมิตรฯ ชุมนุมในกรอบของกฎหมาย เพราะว่าหากตัดน้ำตัดไฟสถานที่ราชการ จะถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย หาก ครม. ไม่สามารถ เดินทางเข้าประชุมได้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเลขาธิการของคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างไร
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าม๊อบพันธมิตรฯ จะไม่บุกเข้ามาในทำเนียบฯ เพราะถ้าเข้ามาก็ถือว่าเข้าล๊อคสามารถดำเนินคดีได้เพราะผิดกฎหมาย บุกรุกสถานที่ราชการ ซึ่งจุดนี้ม๊อบก็กลัวเหมือนกัน
ทั้งนี้ทางตำรวจนครบาล และ 191 จะบล๊อคดูแลเส้นทางถนนรอบๆ ทำเนียบฯ ในจุดต่างๆ ที่ ครม.จะเข้ามาประชุมในครั้งนี้โดยจะเปิดให้เข้าเส้นทางเลียบคลอง ผดุงกรุงเกษม ผ่านสะพานอรทัย เข้าสู่ประตู 6 (ประตู สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี) และประตู 7
ชัยพร้อมรับหากพันธมิตรฯ บุกสภา
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ ของกลุ่มพันธมิตรฯว่า หากพันธมิตรฯจะมาสภาก็ยินดีให้มา และสภาจะเป็นผู้ฟังที่ดี ทั้งนี้ตนไม่ได้สั่งการให้เตรียมรับมืออะไรเป็นพิเศษ ส่วนที่มีคนมองว่า จะเป็นวันแตกหักนั้น ตนมองว่า ไม่เห็นจะมีอะไรแตกหักตรงไหน ส่วนที่มีการมองว่า อาจมีการยุบสภานั้น นายกรัฐมนตรียืนยันแล้วว่าจะไม่ยุบ ดังนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหา
เตือนหมักอย่าลืมคำกราบบังคมทูลฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายตระหนักว่า บ้านเมืองมีปัญหามามาก เราไม่ต้องการเห็นความรุนแรง ไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงนอกระบบ เพราะจะมี ความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง ขอให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเอง คำนึงกรอบกฎหมายและอนาคตประเทศชาติ บ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่าล่าสุดชมรมคนรัก ทักษิณ ออกมาล่ารายชื่อ เพื่อแสดงจุดยืนว่ารัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกรงหรือไม่ว่าจะมีการปะทะ กัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากเคลื่อนไหวในส่วนของตัวเองคงไม่เป็นไร อย่ามาปะทะก็แล้วกัน เมื่อถามว่า จะมีการปลุกระดมผ่านวิทยุชุมชน ให้คนอีกฝ่ายหนึ่งออกต่อต้าน คนอีกกลุ่มที่จะมาเคลื่อนไหวใน กทม.นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้แต่ละฝ่ายอยู่บนกรอบ ของกฎหมาย และตนยืนยันว่า รัฐบาล ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ต้องมีมาตรการ ที่เข้มงวดไม่ให้เกิดปัญหา ส่วนปัญหาความรุนแรงที่ค้างคาใน จ.อุดรธานีก็จะสามารถปรามไม่ให้เกิดความวุ่นวายได้
ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะสามารถควบคุมได้หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าดูจากการเคลื่อนไหวพันธมิตรฯที่ผ่านมาก็อยู่ในกรอบของกฎหมาย การดูแลในส่วน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อคราวที่แล้วก็ดูเรียบร้อยดี อยากให้นายกฯ ที่แถลงนโยบาย ความสมานฉันท์ และย้ำเสมอว่าต้องการให้มีความสงบ และเคยกราบบังคับทูลฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่พาคณะรัฐมนตรีไปถวายสัตย์ว่ารัฐบาลจะไม่ไปเริ่มต้นอะไร จะถอยทุกวิถีทางตนก็ขอให้ยึดคำพูดนั้น
'ผมไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงนอกอะไรระบบ และไม่คิดว่าจะมีปัจจัยอะไรที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น หากทุกคนอยู่ในกรอบ ของกฎหมายก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร ทุกคนก็ดำเนินการไปตามปกติ'
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหว และปิดสถาน ที่ราชการเพื่อไม่ให้รัฐบาลทำงานได้ แต่อยากจะแสดงพลัง หรือแสดงความคิดเห็นอะไรก็ทำได้
อ้างมีบางพรรคขนคนร่วมชุมนุม
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย มีมาตรการรับมือการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดูแลรักษาความเรียบร้อย ของการชุมนุมให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยทางกระทรวงมหาดไทยไม่มีนโยบาย เข้าไปขัดขวางหรือสกัดกั้นการชุมนุมแต่อย่างใด ส่วน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย จะเดินทางไปทำเนียบฯเพื่อเข้าประชุม ครม.ตามปกติ
นายศุภชัย ยืนยันว่า ไม่มีการสั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านนำประชาชนมาชุมนุม คัดค้าน และไม่มีการนำม็อบมาชนม็อบเด็ดขาด แต่ทางกระทรวงมีหน้าที่ดูแลว่ามีประชาชนจำนวนเท่าใด มีจังหวัดใดบ้างที่เข้ามาชุมนุม โดยบางจังหวัดที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุม เช่น จ.ชุมพร ก็ได้สั่งการให้ดูแลความสงบเรียบร้อยแล้ว
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่าในหลายพื้นที่มีการเกณฑ์ประชาชนมาร่วมชุมนุม โดยมีกลุ่มทุน กลุ่มการเมือง หรือผู้สมัคร ส.ส.สอบตกของ บางพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังและทำกันเป็นขบวนการ นอกจากนี้ยังมีการระดมคนเข้ามาหลายรูปแบบ ทั้งการเช่ารถตู้ รถบัส รถไฟ และเครื่องบิน รวมถึงจัดทำป้ายประท้วงต่างๆ
'เป็นที่น่าสังเกตว่า บางกลุ่มอาจมีการขึ้นรถไฟฟรีเพื่อเดินทางเข้ามาชุมนุม ซึ่งขัดกับจุดประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการอุดหนุนช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดมาก ในเมื่อมีกลุ่มทุนสนับสนุน อยู่เบื้องหลังแล้วก็น่าจะไปเช่ารถตู้หรือรถบัสแทน แต่ไม่ควรจะมาเบียดเบียนประชาชนทั่วไปที่ต้องการใช้บริการรถไฟฟรี'
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดของกระทรวงมหาดไทยจะประกาศหยุดงานแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า หากมีการหยุดงานจริงอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าและน้ำประปา
จตุพรโยงป๋าเปรมเอี่ยวพันธมิตรฯ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่าการที่พันธมิตรฯเป่านกหวีดชุมใหญ่ไม่ชนะไม่เลิกนั้นที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ประกาศมา 100 ครั้งไม่เห็นเลิกซะที มาครั้งนี้ประกาศชุมนุมใหญ่เพื่อแตกหักแต่ความจริงแล้ว ต้องการหาทางลงเพราะหากชุมนุมต่อไปคนก็จะรู้ความจริง แต่ขอเตือนและตั้งข้อสังเกตุว่าที่พันธมิตรฯใช้วันที่ 26 ส.ค.ในการชุมนุมใหญ่ซึ่งตรงกับวันเกิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ จะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับ พล.อ.เปรม ทำให้สังคมเชื่อมโยงว่า พล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลังพันธมิตรฯและการรัฐประหารได้
'ยิ่งการที่พันธมิตรฯจะปิดถนนเข้าออกในวันประชุมครม.ด้วยแล้ว ตรงนี้เท่ากับเป็นการยั่วยุชัดเจนเพื่อให้ทหารบางกลุ่มเข้ามาดำเนินการโค่นอำนาจรัฐบาล แต่เชื่อมั่นว่านายสมัคร จะไม่ตกหลุมพรางนี้อย่างแน่นอนและจะหาทางแก้ปัญหานี้ได้'
ส่วนที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ ระบุว่าจะจัดเวทีชุมนุม ที่สนามหลวง ในวันที่ 29 ส.ค.นั้นนายจตุพร กล่าวว่า คงต้องรอดูผลพวงการ ชุมนุมของพันธมิตรฯในวันที่ 26 ส.ค.ก่อน แต่ในส่วนของ นปก.ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรในตอนนี้.
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงข่าวด่วนก่อนเป็น ประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น ประจำปี 2551 (พีเอ็มอวอร์ด 2008) ว่า ขออนุญาตแถลงข่าว วันนี้เพราะเดี๋ยวจะถูกประชาชนต่อว่า ว่าตกลงเรื่องที่มีการประกาศอะไรกันมากมายนั้น รัฐบาลจะเอาอย่างไร จะขอตอบชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ได้คิด และไม่ได้ตั้งใจว่าจะเอาอย่างไร จะต้องถามกลับไปว่า ทำไมพวกที่คิดทำอย่างนั้น จึงได้คิดจะทำอย่างที่ว่าตนเป็นรัฐบาลที่มาถูกต้อง ตามกฎหมาย ช่องทางที่จะล้มรัฐบาลก็ไปผ่านทางสภา จะไปร่วมมือกับใครอย่างไร ให้ไปลงคะแนนในสภา ก็ต้องไปตามธรรมเนียม แต่อยู่ดีๆ มานั่งชุมนุมกลางบ้าน กลางเมือง ตนก็อดทน เพราะไม่อยากมีเรื่อง คิดว่าวันหนึ่งคงจะจบกันได้ ปรากฎว่าวันหนึ่ง คือวันพรุ่งนี้( 26 ส.ค.) ประกาศว่า จะทำอย่างนั้นๆ ผู้คนทั่วบ้านทั่วเมือง ก็ตื่นเต้น ตกใจ ว่าอะไรอย่างไร
'วันนี้ผมมีหน้าที่จะประกาศให้พี่น้อง ประชาชนชาวไทยทราบว่า ผม นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีบ้านเมืองนี้ มีหน้าที่จะต้องดูแลรักษาความสงบของ บ้านเมือง ใครจะใช้สิทธิจะประท้วงอย่างไร ขอให้ทำตามสมควร ให้อยู่ในขอบเขต ของกฎหมาย ถ้าเกินขอบเขตทางฝ่ายรักษากฎหมายจะดำเนินการ ไม่มีเหตุผลที่จะมาเล่นดำเนินการกันแบบนี้ ไม่เห็นกับบ้านกับเมือง ออกข่าวนั้น เอาเถอะ จะทำลายสถานการณ์ เศรษฐกิจ บ้านเมือง อย่างไร ถ้าอยากจะทำ ผมจะทน แต่การออกข่าวถึงขนาดจะทำอย่างโน้น อย่างนี้ ถึงขนาดคนในบ้านเมืองตื่นตระหนกตกใจ ไม่เป็นอันทำมาหากิน จนก่อให้เกิดการจราจล ผมคิดว่ามันชักจะมากเกินไป ผมจะอดกลั้นจนถึงที่สุด และจะให้คนที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ ดูแลรับผิดชอบ'
ขู่มีเหตุระเบิดอย่าโทษรัฐบาล
นายสมัคร กล่าวยืนยันว่า พรุ่งนี้ทางซีกรัฐบาลไม่มีอะไรเปลี่ยน ที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะประชุมครม. และจะดูสิว่า ใครจะทำอะไรในสถานการณ์ อย่างนี้ ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ พี่น้องทั้งหลายโปรดเฝ้าดูว่าใครเป็นคนที่ทำอะไรผิด ใครเป็นคนที่ทำอะไรชอบ ใครเป็นคนที่ทำอะไรขึ้นชาวโลกเขาไม่ทำกัน ตนบอกให้รู้ไว้ด้วยว่า เดี๋ยวจะไปโทษมือที่ 3 ขอร้องพี่น้องประชาชนชาวไทย ได้โปรดดูว่า ไอ้ใครที่จะทำตัวเป็นมือที่ 3 รัฐบาลขอยืนยันว่า ไม่นิยมที่จะมาฉกฉวย เรื่องพรรค์อย่างนี้ ถ้าใครจะคิดทำอะไร ใครจะโยนระเบิด ใครจะทำอะไรอย่างไรต่างๆ ตำรวจจะเป็นคนเฝ้าดูแล แล้วอย่ามาอ้างว่ารัฐบาลเป็นคนทำ รัฐบาลเป็นคนก่อให้เกิด ความเสียหาย รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดเรื่องพรรค์อย่างนี้ ฉะนั้นเมื่อมีใครก่อให้เกิด เรื่อง ก็ขอให้ทำให้เห็น เราจะได้ดำเนินคดีตามที่ได้ก่อเรื่องกันขึ้นมา
'บ้านเมืองอยู่กันมาดีๆแท้ๆ ขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายคิดหน่อยเดียวว่า ใครเป็นคนก่อเหตุในบ้านเมืองนี้ ในวันพรุ่งนี้ จะพูดจะจาอย่างไรก็ตามแต่ ดูหน้าคนพูด เถอะ ดูคำแถลงของตน ตนแถลงตรงไปตรงมา มีหน้าที่รับผิดชอบบ้านเมืองนี้ ดูแลบ้านเมืองนี้ ตนจะรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุด นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ พี่น้องทั้งหลายจะต้องร่วมมือด้วย และต้องเข้าใจด้วยว่า บ้านเมืองอยู่กันมาด้วยความสงบเรียบร้อย ใครเป็นฝ่ายที่ก่อให้เกิดความยุ่งยากในบ้านเมือง โปรดดูด้วย ไม่ต้องแบ่งฝัก แบ่งฝ่าย เข้าข้างไหนอย่างไร แต่ท่านเป็นเจ้าของประเทศ ต้องช่วยรักษาความสงบในบ้านเมืองนี้ด้วย
โยนกรรมเก่าถ้าถูกตัดสินคดีว่าผิด
นายสมัคร กล่าวว่า มีคนพวกหนึ่งมาตั้งข้อกล่าวการกัน ใครที่จะนำเสนอข่าว ถ่ายทอดข่าวตนขอฝากให้ช่วยคิด ช่วยตรองด้วยว่าควรจะทำอย่างนั้นหรือไม่ ควรจะสนับสนุนคนที่จะก่อกวนล้มล้างรัฐบาลหรือไม่ สมควรหรือไม่ที่จะต้องไปสนับสนุนเรื่องพรรค์อย่างนั้น ไม่สนับสนุนรัฐบาลไม่เป็นไร จะเหยียบย่ำรัฐบาลเล็กน้อย ไม่เป็นปัญหา แต่รวมหัวกันสนับสนุนคนที่จะล้มล้างรัฐบาลนั้น ขอให้คิดให้ดีว่าจะทำอย่างนั้นต่อไป ช่วยดูกันหน่อย ตนพูดวันนี้ถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ตนรับผิดชอบ เราไม่ได้คิดอะไรผิด ไม่ได้คิดอะไรร้าย มาถูกต้องตามกฎหมาย คดีความทั้งหลายถึงเวลาตรงไหนถ้าหมดก็หมด ออกก็ออก เป็นเรื่องกรรมที่ผมทำมาในอดีต แต่ตนแน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามตนรับได้ และจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามไม่เสียหาย แต่ว่าที่เสียหายจริงๆคือ ทำข่าวกันเอิกเกริก
ซัดนักวิจารณ์ข่าวเหยียบย่ำรัฐบาล
'ผมขอพูดไปยังนักวิจารณ์ข่าวทั้งหลายตอนเช้าๆ ที่สุมหัวกัน จะพูดจาอะไรก็ตามแต่ การเสนอข่าว แต่การเสนอข่าวเรื่องร้ายจนกระทั่งบ้านเมืองจะไปไม่รอด ท่านต้องคิดให้ดีหน่อย ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ทำอย่างนั้นมันเกินไป โอ๊ย!วันนั้นต้องไป วันนี้ต้องไปแน่ รัฐบาลต้องเป็นอย่างนี้ ไอ้นั่นศาลจะตัดสิน ไอ้นี่จะโดน ไม่ถึงอย่างนั้นหรอกครับ คอยดูกันไปก็แล้วกันว่าอะไรมันจะเป็นอย่างไร ผมไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไร แต่บอกให้รู้ให้เพลาๆ กันบ้าง อย่าตั้งพวกตั้งฝ่ายไม่ชอบหน้ากัน พูดจากระทบกระแทกแดกดัน บางรายการผมก็เฝ้าดู ไม่เคยมีความปรารถนาดีเลย พูดงั้นก็แดกอย่างนี้ พูดอย่างนี้ต้องแดกอย่างนั้น พูดนี้ต้องกระทบอย่างนี้ คิดดูหัวอกคนฟังจะคิดอย่างไร นายกฯคนนี้มันไม่มีอะไรดีเลย ไอ้เจ้าตัวที่อยู่ข้างใน นั่งข้างซ้ายตัวเล็ก กระทบกระแทกแดกดันทุกวันไม่เคยนั่นเลย ผมไปทำอะไรให้เป็นศัตรูกันขนาดไหนอย่างไร แต่การพูดจาอย่างนั้นมันเกินเหตุ ผมไม่ได้เป็นคนเลว ทราม ต่ำ ช้า มาจากไหน วิถีทางชีวิตผมอยู่การเมืองมาตลอด จะเอาอย่างไรก็เอาสิครับ ให้มันถูกตามช่องกฎหมาย
'ผมไม่ค่อยพูดถึงสื่อสารมวลชนถึงเรื่องนี้ แต่มีบางพวกบางฝ่ายมันสนุกตรงไหนที่ทำให้รัฐบาลมันพ้นไปได้ บางพวกจะขายแต่ข่าวอย่างเดียว ทะเลาะกันก็เป็นข่าว อ้างว่าผู้สื่อข่าวต้องทำข่าว นึกถึงหัวอกบ้านเมือง นึกถึงสถานะของเรา นึกถึงคนทำมาค้าขายบ้างสิครับ'
นายสมัคร กล่าวอีกว่า ไม่ต้องเข้าข้างหรอกเพียงแต่ไม่โดดเข้ามาเหยียบย่ำ จะถามว่า ถ้าเหยียบย่ำรัฐบาลนี้หลุดไปแล้ว จะเอาใครยังไง เลือกตั้งใหม่หรือ ใครเป็นคนยุบสภา ใครจะเรียกเลือกตั้งใหม่ แล้วอย่างไร พวกที่ปลุกระดมข้างถนน แล้วเปลี่ยนมาเป็นนายกฯมันไม่ใช่ ขออธิบายให้ฟังเท่านี้ แล้วอย่างหาว่า ตนใช้เสียงรุนแรง ที่ต้องใช้เสียงรุนแรงวันนี้ ให้มันสมควรกับคนซึ่งทำข่าวข่มขู่ ให้ราษฎร หวั่นวิตก เรื่องอื่นๆ นั้นขอรับรองว่า จะรับผิดชอบที่จะอธิบายโดยเฉพาะเรื่องการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นั้น เป็นเรื่องของสภา ตนสนับสนุน
หมักนัด ผบ.เหล่าประเมินพันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมนายสมัคร ในฐานะ รมว.กลาโหม และประธานคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหารระดับนายพล ได้นัดผู้บัญชาเหล่าทัพประชุมในวันที่ 25 ส.ค. แต่นายสมัคร ได้ให้เลขานุการส่วนตัวแจ้งกับผู้บัญชาการเหล่าทัพว่าให้เลื่อนการประชุมคณะกรรมการฯดังกล่าวมาเป็นวันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 16.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล
แหล่งข่าวกล่าวว่าการเลื่อนประชุมครั้งนี้เป็นไปได้ว่านายสมัครอาจจะใช้เวทีประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายฯ เพื่อประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อประเมินสถานการณ์ ภายหลังที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมใหญ่ในวันที่ 26 ส.ค.ในคราวเดียวกัน ซึ่งคาดว่าหากสถานการณ์รุนแรงนายกรัฐมนตรีอาจพิจารณาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เปิดทางให้กองทัพใช้กำลังในการยุติการชุมนุมได้
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่าการโยกย้ายนายทหารปีนี้ยังคงมีความหวาดระแวงกันระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้บัญชาการเหล่าทัพบางท่า โดยเฉพาะ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และอดีตรักษาการประธาน คมช.)ทั้งในเรื่องการพิจารณาตำแหน่ง ผบ.ทอ.คนใหม่ และจุดยืนที่มีต่อการดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรญ ซึ่ง พล.อ.อ.ชลิต ยืนยันที่ไม่ต้องการให้ใช้กำลังทหารในการเข้าสลายการชุมนุม
'ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มแกนนำ ตท.10 และกำลังทหารที่มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ตระเตรียมกำลัง และเป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุใดนายกรัฐมนตรีไม่หารือคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารฯ ที่กระทรวงกลาโหม เพราะเป็นการหารือในส่วนของกลาโหม ดังนั้น คาดว่าการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการเหล่าทัพ จะพิจารณาถึงสถานการณ์การชุมนุม กลุ่มพันธมิตรด้วย'
โผทหารในส่วนเหล่าทัพลงตัว
มีรายงานว่า ในขณะที่การจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี ได้ข้อยุติในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย และ เหล่าทัพแล้ว และจะได้นำบัญชีรายชื่อที่ได้จัดทำนี้เสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหาร ฯ ที่มีนายสมัครเป็นประธาน
ทั้งนี้ในการหารือระหว่าง พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สูงสุด เมื่อวันเสาร์ที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ พล.อ.บุญสร้าง กลับจากการเดินทางไปต่างประเทศ ปรากฏว่า พล.อ.บุญสร้าง ได้ยอม ที่จะให้ พล.อ.อภิชาติ เพ็ญกิตติ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ตามความต้องการของพล.อ.วินัย เนื่องจาก พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ (ตท.10) เสนาธิการทหาร ที่บก.สส.จะส่งมาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ไม่ได้รับการยอมรับ ในสำนักงานปลัดฯ อีกทั้ง ทั้งคู่เห็นว่าควรวางคนให้เหมาะสมกับงานเพราะ พล.อ. ทรงกิตติ น่าจะเหมาะสมกับงานที่ กองบัญชาการกองทัพไทย มากกว่า ในขณะที่ พล.อ.อภิชาต อยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมมานาน คุ้นเคยกับงานดีน่าจะสานงานต่อตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมต่อไป
ในขณะที่กองทัพเรือ เสนอชื่อ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ประธานคณะที่ปรึกษา ทร.เป็น ผบ.ทร. และ กองทัพอากาศเสนอชื่อพล.อ.อ.อิทธพร กลิ่นเฟื้อง เสธ.ทอ.ขึ้นเป็นผบ.ทอ.ตามคาด
ทำเนียบฯ เปิดประตูเดียวรับ ครม.
แหล่งข่าวระดับสูงจากกองรักษาความปลอดภัยในทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในวันนี้ (26 ส.ค.) ภายในทำเนียบฯจะมีการใช้กำลังตำรวจจากกองกำกับการฝ่ายรักษาความปลอดภัยจากตำรวจสันติบาลดูแลรักษาความปลอดภัย 170 นายตามปกติ นอกจากนี้ยังมีการขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ภูธร ตชด. อย่างละหนึ่งกองร้อย โดยภายในทำเนียบฯจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกือบ 800 นาย ส่วนด้านนอกจะเป็นตำรวจนครบาล และ 191 ซึ่งจะใช้กำลังจำนวนมาก และเตรียมพร้อมเสริมกำลังตลอดเวลาหากเหตุวุ่นวายขึ้น
ส่วนการประเมินว่าพันธมิตรฯ จะปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลทำให้ไม่สามารถประชุมรัฐมนตรีได้นั้น ทางกองรักษาความปลอดภัยได้มีแผนสำรองในการผลัดเปลี่ยน การเปิดประตูเข้า-ออกให้แก่ ครม. ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
แหล่งข่าวคนเดิมยอมรับว่า ไม่เป็นห่วงคำขู่ของพันธมิตรฯ ที่จะตัดน้ำตัดไฟ ทำเนียบฯ แต่เรียกร้องให้พันธมิตรฯ ชุมนุมในกรอบของกฎหมาย เพราะว่าหากตัดน้ำตัดไฟสถานที่ราชการ จะถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย หาก ครม. ไม่สามารถ เดินทางเข้าประชุมได้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเลขาธิการของคณะรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างไร
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าม๊อบพันธมิตรฯ จะไม่บุกเข้ามาในทำเนียบฯ เพราะถ้าเข้ามาก็ถือว่าเข้าล๊อคสามารถดำเนินคดีได้เพราะผิดกฎหมาย บุกรุกสถานที่ราชการ ซึ่งจุดนี้ม๊อบก็กลัวเหมือนกัน
ทั้งนี้ทางตำรวจนครบาล และ 191 จะบล๊อคดูแลเส้นทางถนนรอบๆ ทำเนียบฯ ในจุดต่างๆ ที่ ครม.จะเข้ามาประชุมในครั้งนี้โดยจะเปิดให้เข้าเส้นทางเลียบคลอง ผดุงกรุงเกษม ผ่านสะพานอรทัย เข้าสู่ประตู 6 (ประตู สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี) และประตู 7
ชัยพร้อมรับหากพันธมิตรฯ บุกสภา
นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการนัดชุมนุมใหญ่ ของกลุ่มพันธมิตรฯว่า หากพันธมิตรฯจะมาสภาก็ยินดีให้มา และสภาจะเป็นผู้ฟังที่ดี ทั้งนี้ตนไม่ได้สั่งการให้เตรียมรับมืออะไรเป็นพิเศษ ส่วนที่มีคนมองว่า จะเป็นวันแตกหักนั้น ตนมองว่า ไม่เห็นจะมีอะไรแตกหักตรงไหน ส่วนที่มีการมองว่า อาจมีการยุบสภานั้น นายกรัฐมนตรียืนยันแล้วว่าจะไม่ยุบ ดังนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหา
เตือนหมักอย่าลืมคำกราบบังคมทูลฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายตระหนักว่า บ้านเมืองมีปัญหามามาก เราไม่ต้องการเห็นความรุนแรง ไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงนอกระบบ เพราะจะมี ความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง ขอให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตัวเอง คำนึงกรอบกฎหมายและอนาคตประเทศชาติ บ้านเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่าล่าสุดชมรมคนรัก ทักษิณ ออกมาล่ารายชื่อ เพื่อแสดงจุดยืนว่ารัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกรงหรือไม่ว่าจะมีการปะทะ กัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากเคลื่อนไหวในส่วนของตัวเองคงไม่เป็นไร อย่ามาปะทะก็แล้วกัน เมื่อถามว่า จะมีการปลุกระดมผ่านวิทยุชุมชน ให้คนอีกฝ่ายหนึ่งออกต่อต้าน คนอีกกลุ่มที่จะมาเคลื่อนไหวใน กทม.นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้แต่ละฝ่ายอยู่บนกรอบ ของกฎหมาย และตนยืนยันว่า รัฐบาล ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย ต้องมีมาตรการ ที่เข้มงวดไม่ให้เกิดปัญหา ส่วนปัญหาความรุนแรงที่ค้างคาใน จ.อุดรธานีก็จะสามารถปรามไม่ให้เกิดความวุ่นวายได้
ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะสามารถควบคุมได้หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าดูจากการเคลื่อนไหวพันธมิตรฯที่ผ่านมาก็อยู่ในกรอบของกฎหมาย การดูแลในส่วน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อคราวที่แล้วก็ดูเรียบร้อยดี อยากให้นายกฯ ที่แถลงนโยบาย ความสมานฉันท์ และย้ำเสมอว่าต้องการให้มีความสงบ และเคยกราบบังคับทูลฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่พาคณะรัฐมนตรีไปถวายสัตย์ว่ารัฐบาลจะไม่ไปเริ่มต้นอะไร จะถอยทุกวิถีทางตนก็ขอให้ยึดคำพูดนั้น
'ผมไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงนอกอะไรระบบ และไม่คิดว่าจะมีปัจจัยอะไรที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น หากทุกคนอยู่ในกรอบ ของกฎหมายก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร ทุกคนก็ดำเนินการไปตามปกติ'
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหว และปิดสถาน ที่ราชการเพื่อไม่ให้รัฐบาลทำงานได้ แต่อยากจะแสดงพลัง หรือแสดงความคิดเห็นอะไรก็ทำได้
อ้างมีบางพรรคขนคนร่วมชุมนุม
นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย มีมาตรการรับมือการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดูแลรักษาความเรียบร้อย ของการชุมนุมให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยทางกระทรวงมหาดไทยไม่มีนโยบาย เข้าไปขัดขวางหรือสกัดกั้นการชุมนุมแต่อย่างใด ส่วน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย จะเดินทางไปทำเนียบฯเพื่อเข้าประชุม ครม.ตามปกติ
นายศุภชัย ยืนยันว่า ไม่มีการสั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้านนำประชาชนมาชุมนุม คัดค้าน และไม่มีการนำม็อบมาชนม็อบเด็ดขาด แต่ทางกระทรวงมีหน้าที่ดูแลว่ามีประชาชนจำนวนเท่าใด มีจังหวัดใดบ้างที่เข้ามาชุมนุม โดยบางจังหวัดที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุม เช่น จ.ชุมพร ก็ได้สั่งการให้ดูแลความสงบเรียบร้อยแล้ว
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่าในหลายพื้นที่มีการเกณฑ์ประชาชนมาร่วมชุมนุม โดยมีกลุ่มทุน กลุ่มการเมือง หรือผู้สมัคร ส.ส.สอบตกของ บางพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังและทำกันเป็นขบวนการ นอกจากนี้ยังมีการระดมคนเข้ามาหลายรูปแบบ ทั้งการเช่ารถตู้ รถบัส รถไฟ และเครื่องบิน รวมถึงจัดทำป้ายประท้วงต่างๆ
'เป็นที่น่าสังเกตว่า บางกลุ่มอาจมีการขึ้นรถไฟฟรีเพื่อเดินทางเข้ามาชุมนุม ซึ่งขัดกับจุดประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการอุดหนุนช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดมาก ในเมื่อมีกลุ่มทุนสนับสนุน อยู่เบื้องหลังแล้วก็น่าจะไปเช่ารถตู้หรือรถบัสแทน แต่ไม่ควรจะมาเบียดเบียนประชาชนทั่วไปที่ต้องการใช้บริการรถไฟฟรี'
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่าพนักงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดของกระทรวงมหาดไทยจะประกาศหยุดงานแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่า หากมีการหยุดงานจริงอาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าและน้ำประปา
จตุพรโยงป๋าเปรมเอี่ยวพันธมิตรฯ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่าการที่พันธมิตรฯเป่านกหวีดชุมใหญ่ไม่ชนะไม่เลิกนั้นที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ประกาศมา 100 ครั้งไม่เห็นเลิกซะที มาครั้งนี้ประกาศชุมนุมใหญ่เพื่อแตกหักแต่ความจริงแล้ว ต้องการหาทางลงเพราะหากชุมนุมต่อไปคนก็จะรู้ความจริง แต่ขอเตือนและตั้งข้อสังเกตุว่าที่พันธมิตรฯใช้วันที่ 26 ส.ค.ในการชุมนุมใหญ่ซึ่งตรงกับวันเกิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ จะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับ พล.อ.เปรม ทำให้สังคมเชื่อมโยงว่า พล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลังพันธมิตรฯและการรัฐประหารได้
'ยิ่งการที่พันธมิตรฯจะปิดถนนเข้าออกในวันประชุมครม.ด้วยแล้ว ตรงนี้เท่ากับเป็นการยั่วยุชัดเจนเพื่อให้ทหารบางกลุ่มเข้ามาดำเนินการโค่นอำนาจรัฐบาล แต่เชื่อมั่นว่านายสมัคร จะไม่ตกหลุมพรางนี้อย่างแน่นอนและจะหาทางแก้ปัญหานี้ได้'
ส่วนที่นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ ระบุว่าจะจัดเวทีชุมนุม ที่สนามหลวง ในวันที่ 29 ส.ค.นั้นนายจตุพร กล่าวว่า คงต้องรอดูผลพวงการ ชุมนุมของพันธมิตรฯในวันที่ 26 ส.ค.ก่อน แต่ในส่วนของ นปก.ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรในตอนนี้.
