คดีม็อบถ่อยอุดรฯอืดล่ามือค้อนยังไม่ได้ “ลิ่วล้อแม้ว”เหิมหนักฮัลโหลขู่ฆ่าแกนนำ

อุดรธานี - คดีม็อบถ่อย นปก.ลิ่วล้อ "แม้ว" อืดเป็นเรือเกลือ ตำรวจอุดรธานียังไล่ล่าคนร้ายที่ใช้ค้อนทำร้ายพันธมิตรฯ 1 ใน 15 คนที่ได้รับบาดเจ็บที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ พร้อมแจ้งข้อหาพยายามฆ่ายังไม่ได้ ขณะเดียวกันลิ่วล้อระบบ"แม้ว"ยังเหิมเกริมไม่หยุด โทร.ขู่ฆ่าแกนนำพันธมิตรฯอุดรธานี หลังจากเปิดแถลงข่าวเรียกร้องให้ จนท.เร่งติดตามจับกุมม็อบถ่อยไล่ตีพันธมิตรฯ ที่หนองประจักษ์เพียงวันเดียว เผยแจ้งผู้ว่าฯ-ผู้การจังหวัดให้เร่งตรวจสอบแล้ว ส่วน“ไข่แม้ว” เมืองพ่อขุนฯไม่สน “นายใหญ่-นายหญิง”ถูกออกหมายจับ ลั่นพร้อมรับคำสั่งตรงจากลอนดอน เคลื่อนไหวการเมืองครั้งใหญ่ เรียกศรัทธา “อดีตนายกฯทักษิณ” กลับคืน

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ ลิ่วล้อทาสแม้วในนามกลุ่มชมรมคนรักอุดรฯ นำโดยนายขวัญชัย ไพรพนา และนายอุทัย แสนแก้ว ได้ยกพวกเข้าทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะกำลังจัดตั้งเวทีปราศรัย รู้ทันรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติทาสแม้ว ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 15 ราย เหตุการณ์ความรุนแรงป่าเถื่อนดังกล่าว ส่งผลต่อภาพลบจังหวัดอุดรธานีอย่างหนัก โดยเฉพาะนายสุพจน์ เลาวัณย์สิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) อุดรธานี และผู้กำกับ (ผกก.) สภ.เมืองอุดรธานี ตกเป็นจำเลยสังคมถูกประณามอย่างหนัก

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ในเดือนเดียวกัน พ.ต.ท.ทัศนาบดี ตระกูลพิทักษ์ชน นายตำรวจนอกราชการ อดีตหัวหน้าครูฝึกยุทธวิธีตำรวจภูธรภาค 4 ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.กมล อัปการัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 และดำเนินคดีกับนายขวัญชัย ไพรพนา และนายอุทัย แสนแก้ว 2 แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯและพวก

ล่าสุด พ.ต.อ.ชัยยันต์ ลาภกิจ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี หัวหน้าคณะทำงานพนักงานสอบสวน ในคดีดังกล่าวเปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีว่า ในคดีนี้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 36 ราย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา นายขวัญชัย และนายอุทัย ได้เข้ามามอบตัวและวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมาได้ออกหมายจับ 1 รายและได้มามอบตัวแล้วเช่นกัน ส่วนที่ออกหมายเรียกไป 33 รายได้เข้ามารายงานตัวแล้ว 16 ราย ที่เหลืออีก 17 ราย ยังไม่ได้เข้ามารายงานตัว นอกจากนี้ยังได้ทำการตรวจค้นตามเป้าหมายสิ่งของในการใช้กระทำผิด จำนวน3เป้าหมาย โดยตรวจค้นเสื้อผ้าที่คนร้ายใส่ดูจากภาพวิดีโอและภาพนิ่งประกอบ

พ.ต.อ.ชัยยันต์ กล่าวว่า ในช่วงแรกคดีอาจจะช้าบ้าง เพราะจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมใครก็ต้องอาศัยหลักฐานประกอบอย่างละเอียด โดยอาศัยภาพวิดีโอและภาพนิ่งที่มีการบันทึกไว้ ซึ่งครั้งแรกที่ดูไม่รู้จักใครโดยได้มา1คน มาทำการสอบถามแล้วก็ไปตามตัวตามบ้านที่อยู่ต่างๆ แล้วก็มาได้ 5 คนจากนั้นก็ขยับไปได้ 12 คน แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้เราได้บุคคลที่เกี่ยวข้องพอสมควรและจะทำการดำเนินการต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.กอบเกียรติ วงศ์สุเมธ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี 1 ในคณะทำงานสอบสวน กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนจะไปพบนายอำเภอท่านหนึ่งทราบว่าสามารถยืนยันได้ว่าเห็นภาพคนที่ทำร้ายนายชนะศักดิ์ ผ่องเลิศพริ้ง อายุ 54 ปี ชาวอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนั้นเพื่อเป็นพยานบุคคลที่จะตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

นอกจากนี้ จากการตรวจพิสูจน์ภาพถ่ายยังพบว่า มีคนร้ายใช้ค้อนทำร้ายผู้บาดเจ็บอีกด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งจะแตกต่างจากการใช้หมัดและใช้ธงฟาด ซึ่งเราขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่เอาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งว่ากันไปด้วยหลักฐานที่ปรากฏ หลังจากเราแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วนั้นทางพยานหลักฐานยังสืบได้ว่ามีการกระทำผิดเพิ่มเต็ม ทางเราเองก็แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

"ลิ่วล้อ"เหิมขู่ฆ่าพันธมิตรอุดรฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังหลังจากที่เมื่อวันที่ 15ส.ค.ที่ผ่านมานายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ แกนนำพันธมิตรฯอุดรธานี ได้แถลงข่าวเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกภาคส่วนและองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามสอบสวนหาผู้กระทำผิดจากเหตุการณ์ที่กลุ่มคนรักอุดรยกพวกไปไล่ทำร้ายพันธมิตรฯอุดรธานีที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมาและเตรียมจะแจ้งความเอาผิดกับกลุ่มคนที่ก่อเหตุเพิ่มเติมจากที่ตำรวจได้ดำเนินคดีไปแล้วนั้น

ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนโทรศัพท์โดยใช้หมายเลข 08-7387-5826 เข้าไปยังโทรศัพท์มือถือของภรรยานายเจริญ พร้อมกับขู่ฆ่าเอาชีวิตตนด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนายเจริญ ได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และผู้บังคับการตำรวจจังหวัดอุดรธานีทราบแล้ว เพื่อให้ติดตามตรวจสอบว่าผู้ที่โทรศัพท์ข่มขู่จากหมายเลขดังกล่าวเป็นใคร

กลุ่มสภา ปชช.เปิดเวทีที่.อุดรฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวานนี้ (17 ส.ค.) กลุ่มสภาประชาชนคนรักชาติ จ.อุดรธานี ได้จัดเวทีปราศรัยขึ้นที่บริเวณถนนอธิบดี หน้าศาลากลางจังหวัดอุดรธานี

นำโดยนายมงคล คูสกุล แกนนำสภาประชนคนรักชาติอุดรธานี โดยมีนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ร่วมด้วยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์, นายการุณ ไสงาม, สมบูรณ์ ทองบุราณ, นายเสกสรร แสนภูมิ, นายสุชาติ ศรีสังข์, นายไทกร พลสุวรรณ, นายแพทย์ศุภผล เอี่ยมเมธาวี, นายอธิวัฒน์ บุญชาติ, นายหนึ่งแกน บุญรอด และนักร้องเพื่อสังคม “นุช ไทสกล- จุ๋ม คนด่านเกียน” พร้อมเพื่อนพ้อง ร่วมเวที่

สำหรับประเด็นที่ทางสภาประชาชนคนรักชาติอุดรธานี ได้นำขึ้นไปปราศรัยบนเวทีปราศรัยนั้นมีหลากหลายประเด็น เช่น แนวทางทวงคืนเขาพระวิหาร จุดจบของรัฐบาลสมัครนอมินี และแนวทางการเมืองในมิติใหม่

การเปิดเวทีปราศรัยครั้งนี้แกนนำสภาประชาชนคนรักชาติอุดรฯถือเป็นการใช้สิทธิแสดงเสรีภาพทางความคิดในระบบประชาธิปไตยเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารอย่างรอบด้านแท้จริง โดยจะมุ่งเน้นให้รับรู้ถึงการบริหารงานของรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้นำเงาของทักษิณ ล้มเหลวหมดความชอบธรรมไปแล้ว

ด้านนายสุพจน์ เลาวัลย์ศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ระบุว่า ทราบว่าทางสภาประชาชนคนรักชาติฯจะเปิดเวที่ ก็มอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังไปดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นอีก

เตรียมแพร่หมายจับ“แม้ว-อ้อ”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯสระแก้ว ได้เร่งถ่ายสำเนาหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่หลบหนีคดีทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาไปอยู่ที่อังกฤษ และเตรียมกระจายหมายจับดังกล่าวทั่วพื้นที่ จ.สระแก้ว และบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รวมถึงเพื่อนบ้านในประเทศกัมพูชารับรู้ว่า 2 สามีภรรยานามสกุลชินวัตรกำลังเป็นอาชญากรของแผ่นดิน

ทั้งนี้ จากการที่คนในพรรคพลังประชาชนออกมาต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกหมายจับดังกล่าวว่าเป็นการประจานนั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และไม่มีจิตสำนึกรักประเทศชาติ โดยไม่รู้ว่าเอาสมองส่วนไหนมาคิดว่า ตำรวจกำลังประจาน พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ทั้งที่เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่พึงกระทำ เพราะทั้งสองตกเป็นจำเลยของประเทศเพราะทำความชั่วช้าสามานย์มาอย่างมากมาย จนเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม และศาลมีคำสั่งดำเนินการไปแล้ว

กลุ่มพันธมิตรฯสระแก้ว สนับสนุนการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ออกหมายจับทั้งสองสามีภรรยา เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการกับผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับผู้ต้องหาคนอื่นที่ทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้จะได้แบ่งทีมออกกระจายสำเนาหมายจับดังกล่าวเป็นใบปลิวให้ทั่วพื้นที่ เพราะต้องการให้เป็นที่รับทราบกันอย่างกว้างขวางว่าทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน กำลังตกเป็นจำเลยของกระบวนการยุติธรรมของประเทศ และเป็นอาชญากรของแผ่นดินที่กำลังหลบหนีอยู่ในขณะนี้

“ไข่แม้ว”ลั่นพร้อมสู้เพื่อนาย

ด้าน น.ส.จีระนันท์ จันทะวงศ์ เลขานุการชมรมคมรักทักษิณ และแกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบว่าหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ถูกส่งไปทั่วประเทศแล้ว แต่ทางชมรมคนรักทักษิณ และกลุ่ม 24 มิถุนาฯ ล้วนเข้าใจดีว่า ไม่ใช่มาจากความยุติธรรมที่ถูกต้องตามครรลอง เป็นการกลั่นแกล้งเพื่อทำลายครอบครัวบุคคลคนหนึ่ง ที่ทำเพื่อประเทศชาติ ดังนั้นหมายจับที่ออกมา จึงไม่สะเทือนใจของสมาชิกในกลุ่มทั้งสิ้น

น.ส.จีระนันท์ กล่าวว่า ทางสมาชิกกลุ่มทั้งใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ เห็นดีด้วยที่อดีตนายกรัฐมนตรี - ภริยา เลือกใช้เวทีต่างประเทศ เป็นสถานที่ลี้ภัยทางการเมือง

เลขานุการชมรมคนรักทักษิณ กล่าวต่อว่า หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และภริยา เดินทางไปประเทศอังกฤษแล้ว ทางชมรมฯ โดยนางมติ แซ่อั๊ง หรือเจ๊หมวย เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวรสเยี่ยม แกนนำกลุ่มคนรักทักษิณ ก็ยังไม่ได้ติดต่อไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งสมาชิกทุกคน ล้วนแต่รอรับฟังคำสั่งจากอดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เท่านั้น หากมีคำสั่งใดมา พร้อมเดินหน้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง

โดยขณะนี้ทางชมรมกำลังหารือในการจัดงานรำลึกครบรอบเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย. ในเดือนกันยายน ที่จะมาถึงนี้ เพื่อรำลึกถึงความบอบช้ำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องถูกคณะนายทหาร ยึดอำนาจทางการเมือง จนทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย