อุดรธานี - คดีม็อบถ่อย นปก.ลิ่วล้อ "แม้ว" อืดเป็นเรือเกลือ ตำรวจอุดรธานียังไล่ล่าคนร้ายที่ใช้ค้อนทำร้ายพันธมิตรฯ 1 ใน 15 คนที่ได้รับบาดเจ็บที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ พร้อมแจ้งข้อหาพยายามฆ่ายังไม่ได้
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ ลิ่วล้อทาสแม้วในนามกลุ่มชมรมคนรักอุดรฯ นำโดยนายขวัญชัย ไพรพนา และนายอุทัย แสนแก้ว ได้ยกพวกเข้าทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะกำลังจัดตั้งเวทีปราศรัย รู้ทันรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติทาสแม้ว ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 15 ราย เหตุการณ์ความรุนแรงป่าเถื่อนดังกล่าว ส่งผลต่อภาพลบจังหวัดอุดรธานีอย่างหนัก โดยเฉพาะนายสุพจน์ เลาวัณย์สิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) อุดรธานี และผู้กำกับ (ผกก.) สภ.เมืองอุดรธานี ตกเป็นจำเลยสังคมถูกประณามอย่างหนัก
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ในเดือนเดียวกัน พ.ต.ท.ทัศนาบดี ตระกูลพิทักษ์ชน นายตำรวจนอกราชการ อดีตหัวหน้าครูฝึกยุทธวิธีตำรวจภูธรภาค 4 ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.กมล อัปการัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 และดำเนินคดีกับนายขวัญชัย ไพรพนา และนายอุทัย แสนแก้ว 2 แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯและพวก
ล่าสุด พ.ต.อ.ชัยยันต์ ลาภกิจ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี หัวหน้าคณะทำงานพนักงานสอบสวน ในคดีดังกล่าวเปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีว่า ในคดีนี้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 36 ราย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา นายขวัญชัย และนายอุทัย ได้เข้ามามอบตัวและวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมาได้ออกหมายจับ 1 รายและได้มามอบตัวแล้วเช่นกัน ส่วนที่ออกหมายเรียกไป 33 รายได้เข้ามารายงานตัวแล้ว 16 ราย ที่เหลืออีก 17 ราย ยังไม่ได้เข้ามารายงานตัว นอกจากนี้ยังได้ทำการตรวจค้นตามเป้าหมายสิ่งของในการใช้กระทำผิด จำนวน3เป้าหมาย โดยตรวจค้นเสื้อผ้าที่คนร้ายใส่ดูจากภาพวิดีโอและภาพนิ่งประกอบ
พ.ต.อ.ชัยยันต์ กล่าวว่า ในช่วงแรกคดีอาจจะช้าบ้าง เพราะจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมใครก็ต้องอาศัยหลักฐานประกอบอย่างละเอียด โดยอาศัยภาพวิดีโอและภาพนิ่งที่มีการบันทึกไว้ ซึ่งครั้งแรกที่ดูไม่รู้จักใครโดยได้มา1คน มาทำการสอบถามแล้วก็ไปตามตัวตามบ้านที่อยู่ต่างๆ แล้วก็มาได้ 5 คนจากนั้นก็ขยับไปได้ 12 คน แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้เราได้บุคคลที่เกี่ยวข้องพอสมควรและจะทำการดำเนินการต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.กอบเกียรติ วงศ์สุเมธ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี 1 ในคณะทำงานสอบสวน กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนจะไปพบนายอำเภอท่านหนึ่งทราบว่าสามารถยืนยันได้ว่าเห็นภาพคนที่ทำร้ายนายชนะศักดิ์ ผ่องเลิศพริ้ง อายุ 54 ปี ชาวอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนั้นเพื่อเป็นพยานบุคคลที่จะตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
นอกจากนี้ จากการตรวจพิสูจน์ภาพถ่ายยังพบว่า มีคนร้ายใช้ค้อนทำร้ายผู้บาดเจ็บอีกด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งจะแตกต่างจากการใช้หมัดและใช้ธงฟาด ซึ่งเราขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่เอาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งว่ากันไปด้วยหลักฐานที่ปรากฏ หลังจากเราแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วนั้นทางพยานหลักฐานยังสืบได้ว่ามีการกระทำผิดเพิ่มเต็ม ทางเราเองก็แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ ลิ่วล้อทาสแม้วในนามกลุ่มชมรมคนรักอุดรฯ นำโดยนายขวัญชัย ไพรพนา และนายอุทัย แสนแก้ว ได้ยกพวกเข้าทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะกำลังจัดตั้งเวทีปราศรัย รู้ทันรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติทาสแม้ว ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 15 ราย เหตุการณ์ความรุนแรงป่าเถื่อนดังกล่าว ส่งผลต่อภาพลบจังหวัดอุดรธานีอย่างหนัก โดยเฉพาะนายสุพจน์ เลาวัณย์สิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) อุดรธานี และผู้กำกับ (ผกก.) สภ.เมืองอุดรธานี ตกเป็นจำเลยสังคมถูกประณามอย่างหนัก
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ในเดือนเดียวกัน พ.ต.ท.ทัศนาบดี ตระกูลพิทักษ์ชน นายตำรวจนอกราชการ อดีตหัวหน้าครูฝึกยุทธวิธีตำรวจภูธรภาค 4 ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.กมล อัปการัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 และดำเนินคดีกับนายขวัญชัย ไพรพนา และนายอุทัย แสนแก้ว 2 แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯและพวก
ล่าสุด พ.ต.อ.ชัยยันต์ ลาภกิจ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี หัวหน้าคณะทำงานพนักงานสอบสวน ในคดีดังกล่าวเปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีว่า ในคดีนี้มีบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 36 ราย อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา นายขวัญชัย และนายอุทัย ได้เข้ามามอบตัวและวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมาได้ออกหมายจับ 1 รายและได้มามอบตัวแล้วเช่นกัน ส่วนที่ออกหมายเรียกไป 33 รายได้เข้ามารายงานตัวแล้ว 16 ราย ที่เหลืออีก 17 ราย ยังไม่ได้เข้ามารายงานตัว นอกจากนี้ยังได้ทำการตรวจค้นตามเป้าหมายสิ่งของในการใช้กระทำผิด จำนวน3เป้าหมาย โดยตรวจค้นเสื้อผ้าที่คนร้ายใส่ดูจากภาพวิดีโอและภาพนิ่งประกอบ
พ.ต.อ.ชัยยันต์ กล่าวว่า ในช่วงแรกคดีอาจจะช้าบ้าง เพราะจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมใครก็ต้องอาศัยหลักฐานประกอบอย่างละเอียด โดยอาศัยภาพวิดีโอและภาพนิ่งที่มีการบันทึกไว้ ซึ่งครั้งแรกที่ดูไม่รู้จักใครโดยได้มา1คน มาทำการสอบถามแล้วก็ไปตามตัวตามบ้านที่อยู่ต่างๆ แล้วก็มาได้ 5 คนจากนั้นก็ขยับไปได้ 12 คน แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้เราได้บุคคลที่เกี่ยวข้องพอสมควรและจะทำการดำเนินการต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.กอบเกียรติ วงศ์สุเมธ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี 1 ในคณะทำงานสอบสวน กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนจะไปพบนายอำเภอท่านหนึ่งทราบว่าสามารถยืนยันได้ว่าเห็นภาพคนที่ทำร้ายนายชนะศักดิ์ ผ่องเลิศพริ้ง อายุ 54 ปี ชาวอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนั้นเพื่อเป็นพยานบุคคลที่จะตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
นอกจากนี้ จากการตรวจพิสูจน์ภาพถ่ายยังพบว่า มีคนร้ายใช้ค้อนทำร้ายผู้บาดเจ็บอีกด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งจะแตกต่างจากการใช้หมัดและใช้ธงฟาด ซึ่งเราขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่เอาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งว่ากันไปด้วยหลักฐานที่ปรากฏ หลังจากเราแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วนั้นทางพยานหลักฐานยังสืบได้ว่ามีการกระทำผิดเพิ่มเต็ม ทางเราเองก็แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
