xs
xsm
sm
md
lg

ศาลดับฝัน “แม้ว” ขอหยุดเวลาเข้าคุก ชี้หลบหนีสละสิทธิ์ไม่สู้!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ประกาศจับ อาชญากรโกงชาติ แม้ว-อ้อ แต่ไม่สะทกเดินสบายใจช็อปปิ้งกับลูก ๆ ที่ประเทศอังกฤษ
ทีมทนายหน้าเหลี่ยมเล่นเล่ห์ ยื่นคำร้องขอถอนตัวคดีที่ดินรัชดาฯ ขอจำหน่ายคดี งดไต่สวนพยาน แต่ศาลฎีกาฯทันเกม ไม่อนุญาตทั้งสามข้อ ระบุใช้แทกติกกฎหมาย หวังล้มกระดานเลิกการไต่สวน ยันมีอำนาจพิจารณาคดี จำเลยหลบหนี ถือว่าสละสิทธิ์ไม่ต่อสู้ ทนายจำเลยออกอาการเซ็ง ไม่ยอมสอบถามพยานตัวเอง ศาลนัดไต่สวนอีกที 19 ส.ค.นี้

วันนี้ (15 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาอาวุโสเจ้าของสำนวนพร้อมองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานจำเลยครั้งที่ 3 คดีหมายเลขดำที่ อม.1/2550 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาท ตามประมวลกฎหมายอาญา 152, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542 มาตรา 4, 100 และ 122

โดยก่อนเริ่มการพิจารณา นายคำนวณ ชโลปถัมป์ และนายอเนก คำชุ่ม ทนายความ และทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ได้ยื่นคำร้องต่อศาล ว่า จำเลยทั้งสองทำหนังสือแจ้งให้ทนายจำเลยทั้งสองทราบว่าจำเลยทั้งสองไม่ประสงค์จะให้ทนายความที่จำเลยทั้งสองแต่งตั้งดำเนินคดีแทนจำเลยทั้งสองต่อไป ทีมทนายจำเลยจึงขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความจำเลยทั้งสอง และเนื่องจากจำเลยทั้งสองไม่เดินทางมาศาล เพราะได้เดินทางไปพำนักต่างประเทศแล้ว จำเลยทั้งสองจึงยังไม่เข้ามาอยู่ในอำนาจศาล ขอให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ โจทก์ได้รับคำร้องแล้วแถลงว่าขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล โดยศาลใช้เวลาพิจารณาคำร้องประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น พร้อมออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งให้คู่ความทราบเบื้องต้นว่า ศาลไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยทั้งสองถอนตัวออกจากการเป็นทนายจำเลยคดีนี้ และไม่อนุญาตให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากเห็นว่าจำเลยทั้งสองยังอยู่ในอำนาจศาล แต่นายอเนกทนายความแถลงโต้แย้งโดยเกรงว่าจะผิดมารยาททนายความที่จะทำหน้าที่ซักถาม โดยที่ตัวความไม่ประสงค์จะให้ดำเนินคดีแทน โดยนายทองหล่อ ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนชี้แจงว่าศาลไม่อนุญาตให้ทนายความถอนตัวแล้ว และมีคำสั่งให้นำพยานที่เตรียมไว้จำนวน 5 ปากเข้าเบิกความทันที

สำหรับพยานที่เข้าเบิกความในวันนี้ ประกอบด้วย นายทร ชาวพิจิตร เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีกระทรวงยุติธรรม เบิกความในประเด็น การนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด สรุปว่า แต่เดิมการขายทรัพย์สินต้องขายให้ได้สูงกว่าราคาประเมิน แต่ขายไม่ออกต่อมาจึงมีการเปลี่ยนหลักเกินการกำหนดราคาขายให้ลดลง เหลือ 80 เปอร์เซ็นต์ ของราคาประเมิน หากยังขายไม่ได้ในการขายครั้งที่ 2 หากมีผู้เสนอราคาเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของราคาประเมิน ก็สามารถขายได้ แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความยินยอมของลูกหนี้ ซึ่งเป็นเจ้าทรัพย์ให้ความยินยอมด้วย ต่อมา นางวิบูลย์เพ็ญ หิตะพันธ์ เจ้าหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดิน 9 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของรัฐสภา (สตง.) เข้าเบิกความในประเด็นการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย น.ส.มาลี แม้นมินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ขึ้นเบิกความในประเด็น การควบคุมการก่อสร้างอาคารสูงในที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ก่อนการซื้อขายห้ามสร้างอาคารสูงเกิน 9 ชั้น แต่ภายหลังจำเลยซื้อที่ดินแล้วมีการเปลี่ยนแปลงอนุญาตให้สร้างตึกสูงได้ จากนั้น นางพวงทิพย์ ปรมาพจน์ ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าเบิกความ การปรับลดราคาที่ดินพิพาท และการเปลี่ยนแปลงการลงบันทึกในระบบบัญชี สุดท้าย นางวิไลวรรณ ศศานนท์ เจ้าหน้าที่ สตง.เข้าเบิกความจนเสร็จสิ้นแล้ว ศาลแจ้งให้คู่ความทราบว่า ศาลจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที เพื่อประชุมองค์คณะและมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องที่ทนายจำเลยยื่นวันนี้ และให้คู่ความรอฟังคำสั่งในรายงานกระบวนการพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยถอน และสั่งให้ดำเนินการไต่สวนพยานที่เตรียมมาวันนี้ให้เสร็จสิ้น ระหว่างที่ไต่สวนศาลเปิดโอกาสให้ทนายความจำเลยซักถามพยาน ซึ่งฝ่ายจำเลยเป็นผู้จัดเตรียมมาตามบัญชีนัดพยาน แต่ปรากฏว่า นายเอนก ซึ่งวันนี้เป็นทนายที่ขึ้นว่าความ กลับไม่ใช้โอกาสที่จะซักถามพยาน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่เหมือนการไต่สวนพยานจำเลยที่ผ่านมาช่วงก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จะหลบหนีไปที่ประเทศอังกฤษ โดยการไต่สวนวันนี้ศาลจึงเป็นผู้ซักถามพยานแทน ขณะที่อัยการโจทก์ กลับใช้โอกาสซักค้านพยานจำเลยอย่างเต็มที่

ต่อมาเวลา 12.00 น.องค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำสั่งและรายงานกระบวนการพิจารณา โดยได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยทั้งสองได้มารายงานตัว และให้การต่อศาลแล้ว โดยได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างพิจารณาและศาลได้อนุญาตให้พิจารณาลับหลังจำเลยทั้งสองได้ตามที่จำเลยทั้งสองร้องขอ ตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2543 ข้อ 10 จำเลยทั้งสองจึงได้เข้ามาอยู่ในอำนาจของศาลแล้ว แม้ต่อมาจำเลยทั้งสองไม่มาศาล ศาลก็มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไปได้ การที่จำเลยทั้งสองหลบหนีไม่มาศาลย่อมต้องถือว่าจำเลยทั้งสองสละสิทธิ์ในการต่อสู้คดีเอง กรณีจึงไม่มีเหตุที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีเพื่อให้ได้ตัวจำเลยทั้งสองมาศาล ก่อนจึงจะดำเนินกระบวนพิจารณาคดีได้แต่อย่างใด ส่วนการที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายจำเลยทั้งสองโดยอ้างว่า จำเลยทั้งสองไม่ประสงค์จะให้ทนายความดังกล่าวดำเนินคดีแทนจำเลยทั้งสองต่อไปนั้น ศาลมีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนแสวงหาพยานหลักฐาน เพื่อค้นหาความจริงตามเนื้อหา แม้จำเลยทั้งสองจะไม่มีทนายความศาลก็สามารถดำเนินการไต่สวนตามพยานหลักฐานไปได้ สำหรับการขอถอนตัวจากการเป็นทนายความตามคำร้องของทนายจำเลยทั้งสองดังกล่าว ก็เห็นได้ว่าเป็นการมุ่งประสงค์เพียงให้ศาลหยุดการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ไว้ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อเจตนารมณ์ของการจัดตั้งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงไม่อนุญาตให้ทนายจำเลยทั้งสองถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลยทั้งสอง

ส่วนที่ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องว่าไม่ติดใจไต่สวนพยานที่เหลือ คือ นายวราเทพ รัตนากร, กรรมการผู้จัดการบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), นายวิรัช กุลเพชรประสิทธิ์, น.ส.หนึ่งหทัย วงษ์ทอง และนายวสันต์ เทียนหอม นั้น ศาลเห็นว่าคดีนี้เป็นระบบไต่สวนที่ศาลจะต้องค้นหาความจริงให้ได้ว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นและจำเลยทั้งสองเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจึงเห็นสมควรให้มีการไต่สวนพยานดังกล่าวต่อไป และให้เลื่อนนัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสองไปเป็นในวันที่ 19 ส.ค.นี้ เวลา 09.30 น.ให้ทนายจำเลยทั้งสองติดตามพยาน รวมทั้งนายวราเทพ รัตนากร มาเบิกความในวันดังกล่าวด้วย

ภายหลัง นายคำนวณ ชโลปถัมป์ ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน กล่าวยืนยันว่า การยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายความคดีนี้ ไม่ได้เป็นเพราะถอดใจ และไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ลูกความไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม เมื่อศาลไม่อนุญาตให้ถอนตัวก็ไม่หนักใจ เพราะในฐานะทนายความก็ยังมีหน้าที่ต้องทำให้ข้อเท็จจริงมาสู่ศาลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“การยื่นคำร้องเป็นสิทธิส่วนตัวของลูกความ เมื่อแต่งตั้งใครมาเป็นทนายความแก้ต่างให้ก็มีสิทธิที่จะถอนได้ แต่เมื่อศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตเราก็ต้องทำตามคำสั่งศาล ซึ่งจะแจ้งเรื่องนี้ให้ลูกความทราบต่อไป” นายคำนวณ กล่าว

ขณะที่ นายเอนก คำชุ่ม ทนายความจำเลยอีกคน กล่าวยืนยันเช่นกันว่า ยังไม่ถอดใจ การดำเนินคดีก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริงและเอกสาร ซึ่งฝ่ายจำเลยได้เสนอศาลไปหมดแล้ว ส่วนที่ศาลไม่อนุญาตตามคำร้องของจำเลยในวันนี้ ในฐานะทนายความก็ถือว่าทำหน้าที่ได้เท่าที่จะทำได้และดีที่สุดแล้ว ซึ่งพยานที่จะเตรียมเข้านำสืบในวันที่ 19 ส.ค.นี้ ยังเหลืออีกประมาณ 7 ปาก อาทิ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท.ส่วน นายวราเทพ รัตนากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ครั้งแรกจำเลยไม่ติดใจที่จะนำตัวมาไต่สวน เพราะเห็นว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว แต่เมื่อศาลมีคำสั่งให้ทนายความติดตามพยานมาเบิกความให้ครบถ้วน ทีมทนายความก็จะประชุมหารือกันอีกครั้งและจะแถลงให้ศาลทราบในนัดหน้า

“ผมไม่น้อยใจ ผมเป็นทนายอาชีพอยู่ตรงไหนก็ได้ ไม่ได้ทำเรื่องเดียว แต่เราทำกันหลายเรื่องทนายทุกคนทำตามวิชาชีพ ตามที่ได้รับมอบหมาย เสร็จจากคดีนี้ก็ไปทำคดีอื่นถือเป็นเรื่องปกติไม่มีอะไร” นายอเนก กล่าว พร้อมกับปฏิเสธว่าการยืนคำร้องขอถอนตัวและศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตเพราะเห็นว่าเป็นการมุ่งประสงค์ให้ศาลหยุดการพิจารณาคดี ว่าไม่มีทนายความคนใดทำผิดมรรยาท และไม่มีใครขัดขวางกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น

ส่วนเรื่องที่จะยื่นคำให้การของจำเลยทั้งสองเป็นลายลักษณ์อักษรแทนการเข้าเบิกความหรือไม่นั้น นายเอนก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในชั้นคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้เคยยื่นคำให้การของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้แล้ว และในชั้นศาลด้วย อย่างไรก็ดีทีมทนายความจะต้องหารืออีกครั้งซึ่งจะมีความชัดเจนในวันไต่สวนพยานจำเลยวันที่ 19 ส.ค.นี้

ด้าน นายเศกสรรค์ บางสมบุญ หัวหน้าคณะทำงานอัยการรับผิดชอบว่าความคดีนี้ กล่าวถึงการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จากประเทศอังกฤษ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ว่า เมื่อศาลยังไม่มีคำสั่งให้อัยการนำตัวทั้งสองกลับมาดำเนินคดี โดยสั่งเพียงให้ดำเนินกระบวนการไต่สวนต่อไป อัยการก็จะยังไม่ดำเนินการเรื่องนี้ แต่จะรายงานกระบวนพิจารณาคดีนี้ให้ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุดรับทราบ โดยเรื่องการติดตามตัวหากศาลมีคำสั่งเมื่อใดอัยการก็จะดำเนินการทันที ส่วนคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนี้ได้เสนอคำฟ้องให้อัยการสูงสุดพิจารณาแล้วรอเพียงการลงนามในคำฟ้องเท่านั้น

“การดำเนินคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบ ท่านอัยการสูงสุดไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะมีคณะทำงานอยู่แล้ว แต่ได้ให้คำแนะนำว่าให้ดำเนินคดีด้วยพื้นฐานความยุติธรรมและความเป็นธรรมตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ซึ่งคณะทำงานอัยการก็จะทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด” นายเศกสรรค์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น