นายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ว่าในการประชุมระดับทวิภาคีของรัฐมนตรีต่างประเทศไทยและกัมพูชา ระหว่างวันที่ 18-19 ส.ค.ที่ ที่โรงแรมดุสิต รีสอร์ท อ.หัวหิน จ.ประจวบคิรีขันธ์ ฝ่ายกัมพูชาต้องการจะหยิบยกกรณีปราสาทตาเมือนธม เข้าหารือว่าไม่ทราบว่า ทางการกัมพูชากล่าวยืนยันเรื่องนี้จริงหรือไม่ เพราะยังไม่มีการแจ้งเรื่องดังกล่าวมายังกระทรวงการต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ในการควบคุมประเด็นการหารือในการประชุมดังกล่าวให้อยู่ในประเด็นเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องเขาพระวิหาร นายเตช กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นในไทย ดังนั้นฝ่ายไทยจึงเป็นผู้กำหนดระเบียบวาระการประชุม ซึ่งจะเป็นประเด็นที่สืบเนื่องมาจากการประชุมรมว.ต่างประเทศไทย-กัมพูชา ที่จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การประชุมจะมีขึ้นวันที่ 19 ส.ค. 2551 โดยในวันที่ 18 ส.ค. นายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ และนายนายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา จะรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน จากนั้นในวันรุ่งขึ้น (19 ส.ค.) จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย-กัมพูชา และในเวลา 17.00น. ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายฮอร์ นัม ฮง เข้าเฝ้าที่พระตำหนักพระราชวังไกลกังวล โดยมีนายเตชเป็นผู้นำเข้าเฝ้าฯ
นายธฤต กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ คาดหวังว่าจะมีความก้าวหน้าจากการประชุมที่เสียมราฐ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา มีบางประเด็นที่ยังติดขัดอยู่บ้างก็จะหารือกันต่อไป
ส่วนที่มีรายงานของหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ ระบุว่าฝ่ายกัมพูชาจะผลักดันประเด็นตาเมือนธมขึ้นหารือในการประชุมครั้งนี้ด้วยนั้น นายธฤต กล่าวว่า ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากกัมพูชาว่า จะมีการหารือเรื่องปราสาทตาเมือนธม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยกัน ในชั้นนี้ยังจำกัดประเด็นในการพูดคุยหลักๆอยู่ที่พื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร
ส่วนที่นายวา กิม ฮอง รัฐมนตรีอาวุโสและที่ปรึกษารัฐบาลฝ่ายกิจการชายแดน ของกัมพูชา ระบุว่าฝ่ายไทยย้ายหลักเขตแดนในพื้นที่บริเวณตาเมือนธม นายธฤต กล่าวมั่นใจว่า ที่ผ่านมาฝ่ายไทยไม่ได้มีการย้ายหลักเขตใดๆ แต่หากมีหลักฐานใดๆก็สามารถนำมาชี้แจงได้ เพราะการพูดกันบนข้อเท็จจริงและหลักฐานจะเป็นประโยชน์ที่สุด
ด้าน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวถึงการประชุมระดับทวิภาคีของรัฐมนตรีต่างประเทศไทยและกัมพูชาเพื่อแก้ปัญหาชายแดนด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีษะเกษในวันที่ 18 ส.ค.ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่อง ของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งเรื่องปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม ส่วนทหารก็มีการประชุมเพื่อรองรับการประชุมของกระทรวงต่างประเทศ
สำหรับข้อมูลที่ บก.ทหารสูงสุดให้ไปกับกระทรวงต่างประเทศนั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ทหารเรามีการประชุมในวงเล็กว่า ผลของการประชุมจากกระทรวงต่างประเทศจะให้ทหารปฎิบัติอย่างไร จะทำวิธีไหนซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่ ซึ่งปัญหาเรื่องแนวชายแดนมีอยู่ทั่วประเทศไม่ใช่เฉพาะด้านกัมพูชาอย่างเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการตามแนวชายแดนได้หารือถึงการปรับกำลังทหาร แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เป็นการลดการเผชิญให้หน้าลดลง บรรยากาศจะได้ดีขึ้น และคงปรับกำลังตามความเหมาะสม ส่วนจำนวนเท่าไหร่นั้นตนไม่รู้รายละเอียด ทั้งนี้ไม่ได้นำไปสู่การเสียอธิปไตย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้แนวทางกับกระทรวงต่างประเทศในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เราจะไปให้แนวทางเขาไม่ได้ มีแต่กระทรวงต่างประเทศจะต้องให้แนวทางเรา ซึ่งคิดว่ากระทรวงต่างประเทศจะรู้ปัญหาเหล่านี้ดี และจะใช้การเจรจาอย่างดี ทหารก็คอยรับลูกอีกที ว่าที่กระทรวงต่างประเทศต้องการ ให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้เกี่ยวกับกองทัพ เราจะทำงานได้อย่างไร
ต่อข้อถามว่าการรุกคืบของกัมพูชาโดยใช้ประชาชนเข้ามาได้มีการพูดคุยกับกัมพูชาหรือไม่มเพื่อไม่ให้กระทำอีก พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เรื่องพวกนี้ได้คุยกันบ่อย ส่วนใหญ่กัมพูชาก็จะทำตามที่เราขอ โดยทางผู้ใหญ่ของกัมพูชาและของเราก็รู้จักกันดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นเพราะการเมืองไทยอ่อนแอ ทำให้กัมพูชาสามารถรุกล้ำพื้นที่ ของไทยได้ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า คงไม่ถึงขนานนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ในการควบคุมประเด็นการหารือในการประชุมดังกล่าวให้อยู่ในประเด็นเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องเขาพระวิหาร นายเตช กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นในไทย ดังนั้นฝ่ายไทยจึงเป็นผู้กำหนดระเบียบวาระการประชุม ซึ่งจะเป็นประเด็นที่สืบเนื่องมาจากการประชุมรมว.ต่างประเทศไทย-กัมพูชา ที่จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การประชุมจะมีขึ้นวันที่ 19 ส.ค. 2551 โดยในวันที่ 18 ส.ค. นายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ และนายนายฮอร์ นัม ฮง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา จะรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน จากนั้นในวันรุ่งขึ้น (19 ส.ค.) จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย-กัมพูชา และในเวลา 17.00น. ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายฮอร์ นัม ฮง เข้าเฝ้าที่พระตำหนักพระราชวังไกลกังวล โดยมีนายเตชเป็นผู้นำเข้าเฝ้าฯ
นายธฤต กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ คาดหวังว่าจะมีความก้าวหน้าจากการประชุมที่เสียมราฐ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา มีบางประเด็นที่ยังติดขัดอยู่บ้างก็จะหารือกันต่อไป
ส่วนที่มีรายงานของหนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ ระบุว่าฝ่ายกัมพูชาจะผลักดันประเด็นตาเมือนธมขึ้นหารือในการประชุมครั้งนี้ด้วยนั้น นายธฤต กล่าวว่า ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากกัมพูชาว่า จะมีการหารือเรื่องปราสาทตาเมือนธม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยกัน ในชั้นนี้ยังจำกัดประเด็นในการพูดคุยหลักๆอยู่ที่พื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร
ส่วนที่นายวา กิม ฮอง รัฐมนตรีอาวุโสและที่ปรึกษารัฐบาลฝ่ายกิจการชายแดน ของกัมพูชา ระบุว่าฝ่ายไทยย้ายหลักเขตแดนในพื้นที่บริเวณตาเมือนธม นายธฤต กล่าวมั่นใจว่า ที่ผ่านมาฝ่ายไทยไม่ได้มีการย้ายหลักเขตใดๆ แต่หากมีหลักฐานใดๆก็สามารถนำมาชี้แจงได้ เพราะการพูดกันบนข้อเท็จจริงและหลักฐานจะเป็นประโยชน์ที่สุด
ด้าน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวถึงการประชุมระดับทวิภาคีของรัฐมนตรีต่างประเทศไทยและกัมพูชาเพื่อแก้ปัญหาชายแดนด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีษะเกษในวันที่ 18 ส.ค.ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่อง ของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งเรื่องปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาเมือนธม ส่วนทหารก็มีการประชุมเพื่อรองรับการประชุมของกระทรวงต่างประเทศ
สำหรับข้อมูลที่ บก.ทหารสูงสุดให้ไปกับกระทรวงต่างประเทศนั้น พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ทหารเรามีการประชุมในวงเล็กว่า ผลของการประชุมจากกระทรวงต่างประเทศจะให้ทหารปฎิบัติอย่างไร จะทำวิธีไหนซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่ ซึ่งปัญหาเรื่องแนวชายแดนมีอยู่ทั่วประเทศไม่ใช่เฉพาะด้านกัมพูชาอย่างเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการตามแนวชายแดนได้หารือถึงการปรับกำลังทหาร แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เป็นการลดการเผชิญให้หน้าลดลง บรรยากาศจะได้ดีขึ้น และคงปรับกำลังตามความเหมาะสม ส่วนจำนวนเท่าไหร่นั้นตนไม่รู้รายละเอียด ทั้งนี้ไม่ได้นำไปสู่การเสียอธิปไตย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะให้แนวทางกับกระทรวงต่างประเทศในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เราจะไปให้แนวทางเขาไม่ได้ มีแต่กระทรวงต่างประเทศจะต้องให้แนวทางเรา ซึ่งคิดว่ากระทรวงต่างประเทศจะรู้ปัญหาเหล่านี้ดี และจะใช้การเจรจาอย่างดี ทหารก็คอยรับลูกอีกที ว่าที่กระทรวงต่างประเทศต้องการ ให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้เกี่ยวกับกองทัพ เราจะทำงานได้อย่างไร
ต่อข้อถามว่าการรุกคืบของกัมพูชาโดยใช้ประชาชนเข้ามาได้มีการพูดคุยกับกัมพูชาหรือไม่มเพื่อไม่ให้กระทำอีก พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เรื่องพวกนี้ได้คุยกันบ่อย ส่วนใหญ่กัมพูชาก็จะทำตามที่เราขอ โดยทางผู้ใหญ่ของกัมพูชาและของเราก็รู้จักกันดี
ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นเพราะการเมืองไทยอ่อนแอ ทำให้กัมพูชาสามารถรุกล้ำพื้นที่ ของไทยได้ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า คงไม่ถึงขนานนั้น
