สุรินทร์ - ผลประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ได้ข้อยุติเห็นพ้องปรับลดกำลังทหารบนเขาพระวิหาร ที่บริเวณวัดลงให้เหมาะสมเท่าเทียมมกัน โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะปรับกำลังให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อแสดงออกถึงความตั้งใจร่วมกันปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี บนพื้นฐานของความเท่าเทียมไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ฉันท์เพื่อนบ้าน เผยนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ 18 ส.ค.ที่ประจวบคีรีขันธ์ ด้าน ผบ.กกล.สุรนารี นำ รมช.กลาโหม กัมพูชา เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม เตรียมเปิดให้ ปชช.และทหารกัมพูชา เข้าเยี่ยมชมได้พรุ่งนี้
วันนี้ (13 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมพนมดงรัก โรงแรมทองธารินทร์ อ.เมือง จ. สุรินทร์ ได้มีการประชุม “คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา ด้านกองทัพภาคที่ 2 และภูมิภาคทหารที่ 4 สมัยวิสามัญ ครั้งที่ 11” ขึ้นระหว่างคณะฝ่ายไทย นำโดย พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2, พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร, พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) และผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 (ผบ.พล ร.6) กับฝ่ายประเทศกัมพูชา
คณะฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เนียง พาส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กัมพูชา, พล.ท.เตีย มอญ ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคทหารที่ 4, พล.ต.นวล โน, พล.ต.โป เฮง รองผู้บัญชาการทหารภูมิภาคทหารที่ 4, พล.ท.ซรัย ดึ๊ก รองผู้บัญชาการกองพลน้อยสนับสนุนที่ 12 ประเทศกัมพูชา
ทั้งนี้ เพื่อหารือร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาพิพาทที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในปัจจุบัน โดยเฉพาะการปรับอัตรากำลังทหารไทย-กัมพูชา ที่ประจำการอยู่บริเวณเขาพระวิหาร ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ รวมทั้งแนวทางที่จะร่วมกันแก้ปัญหา เพื่อลดความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนของ 2 ประเทศ โดยข้อสรุปเบื้องต้นของการประชุมร่วมในวันนี้ (13 ส.ค.) จะนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ระหว่างไทย-กัมพูชา ในวันที่ 18 ส.ค.ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ท.สุจิตร สุทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.อ.เนียง พาส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุม ระหว่างไทย-กัมพูชา ในครั้งนี้ต่อสื่อมวลชน
พล.ท.สุจิตร สุทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า การประชุมหารือร่วมกันครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อคลี่คลายปัญหาความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่เขาพระวิหารในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและยืนยันเจตนารมณ์ ในการระงับข้อพิพาทพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารโดยสันติวิธี ฉันเพื่อนบ้านที่ดี
กองทัพทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือการปรับกำลัง โดยใช้กลไกลของคณะกรรมการความร่วมมือของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา ของกองทัพภาคที่ 2 ของไทยและกำลังภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ซึ่งทั้ง 2 ฝ่าย เห็นพ้องกันที่จะปรับกำลังบนเขาพระวิหารที่บริเวณวัดลง ให้มีความเหมาะสมเทียมกัน โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะปรับกำลังให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อแสดงออกถึงความตั้งใจของทั้ง 2 ฝ่ายที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของความเท่าเทียม และหลักของความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ฉันท์เพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
พล.ท.สุจิตร กล่าวต่อว่า สำหรับฝ่ายไทยถือว่าเป็นการปฏิบัติตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2551 ตามที่กระทรวงต่างประเทศเสนอ ให้มีการปรับกำลังเป็นการปรับกำลังเท่าที่จำเป็น โดยยังคงมีกำลังเหลือเพียงพอสำหรับการรักษาอธิปไตย และการหารือดังกล่าวก็จะนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ระหว่างไทย-กัมพูชา ในวันที่ 18 ส.ค.นี้ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อไป
ส่วนกรณีของปราสาทตาเมือนธม ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการนำหารือในการประชุมครั้งนี้แต่อย่างใด
จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางกลับ และมอบหมายให้ พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผบ.กกล.สุนารี ไปตรวจเยี่ยมกำลังพลตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อสร้างขวัญกำลังต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกันนี้ (13 ส.ค.) ที่ปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผบ.กลล.สุรนารีและผบ.พล ร.6 กองทัพภาคที่ 2 ได้นำคณะของ พล.อ. เนียง พาส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระกลาโหมกัมพูชา เดินทางเข้าเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม
พร้อมทั้งได้นำคณะ เดินทางลงไปยังแนวเขตรั้วลวดหนามที่กั้นระหว่างเขตแดนไทยกับกัมพูชา โดยมีทหารทพรานกองร้อยจู่โจมที่ 960 กรมทหารพรานที่ 26 กกล.สุรนารี กองทัพภาคที่ 2 วางกำลังรักษาการณ์อยู่ ขณะที่ฝ่ายทหารกัมพูชา มี พ.อ.เนี๊ยะ วงศ์ เสนาธิการทหารและรองผู้บัญชาการกองพลทหารที่ 42 นำกำลังทหารกว่า 30 นาย รักษาการณ์ติดแนวเขตรั้วหนามฝั่งประเทศกัมพูชา
รวมทั้งมีสื่อมวลชนชาวกัมพูชา พากันรออยู่ที่ประตูรั้วลวดหนาม ไม่สามารถเข้ายังฝั่งไทยไทยได้ ซึ่งคณะของ ผบ.กกล.สุรนารี และรัฐมนตรีช่วยกลาโหมกัมพูชา ได้พบปะกับทหารกัมพูชา และสื่อมวลชนชาวกัมพูชา ด้วย
พ.อ.เนี๊ยะ วงศ์ เสธนาธิการและรองผู้บัญชาการกองพลที่ 42 กัมพูชา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทหารไทยกับทหารกัมพูชาได้มีการเจรจาและทำความเข้าใจตกลงกันแล้วว่าในเช้าวันที่ 14 ส.ค.นี้ เวลา 08.00 น.ทั้งทหารไทยและกัมพูชาจะเปิดประตูชายแดนบริเวณประสาทตาเมือนธม ให้ทหารและประชาชนทั้ง 2 ประเทศไปมาหาสู่กันได้ และสามารถเข้าเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมได้ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาก็จะให้ชาวไทยเข้าไปเที่ยวปราสาทบ้านจารย์ ลึกเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา ประมาณ 1 กิโลเมตรได้
“แต่จะไม่มีการวางกำลังทหารในเขตปราสาทตาเมือนธม ต่างฝ่ายต่างก็ตั้งฐานในที่มั่นเดิมของตัวเอง กัมพูชาก็อยู่ในเขตประเทศกัมพูชา ไทยก็อยู่ในเขตไทย” พ.อ.เนี๊ยะ กล่าว