xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมยาตราฯค้านมติ ครม.อัปยศปรับลดทหาร “เขาวิหาร” - ร้องตั้งรัฐบาลแห่งชาติฝ่าวิกกฤต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมาน ศรีงาม แกนนำกลุ่มธรรมยาตราฯ
ศรีสะเกษ – กลุ่มธรรมยาตราฯ ค้านมติ ครม.ให้ปรับลดกำลังทหารบนเขาพระวิหาร ซัดเป็นมติอัปยศแสดงถึงความอ่อนแอของรัฐบาลไทยที่อ่อนข้อให้กับกัมพูชามาโดยตลอด ทำเขมรย่ามใจนำทหารมาบวชเต็มวัด และขนชาวบ้านกลับมายึดชุมนุมร้านค้าเชิงเขาพระวิหารเช่นเดิม พร้อมเรียกร้องจัดตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” ฝ่าวิกฤตของประทศทั้งปัญหาชายแดน-เศรษฐกิจ และความขัดแย้งภายในชาติ ด้าน ผบ.กกล.สุรนารี ระบุ ปรับลดกำลังทหารต้องรอคำสั่งจากกองทัพบกเท่านั้น ชี้ สถานการณ์ปราสาทตาเมือนธม เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

วันนี้ (7 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่กลุ่มธรรมยาตรา กอบกู้รักษาแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา ปักหลักชุมนุมอยู่ นายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ และแกนนำกลุ่มธรรมยาตราฯ ได้นำสมาชิกกลุ่มธรรมยาตราฯ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมาให้ทหารไทยปรับลดกำลังที่บริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา

นายสมาน ศรีงาม ประธานสภาประชาธิปไตยแห่งชาติ กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นมติอัปยศที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไทยอ่อนแอ จึงยอมให้ปรับลดกำลังทหารไทยออกจากดินแดนไทยที่เขาพระวิหาร เพราะตามความเป็นจริงแล้ว หากจะมีการปรับลดกำลังก็ต้องมีมติกันออกมาทั้ง 2 ฝ่าย ว่า จะให้ดำเนินการอย่างไรและต้องมีการประชุมหารือกันระหว่างฝ่ายทหารทั้ง 2 ประเทศ แต่การที่ไทยมีมติครม.ให้ปรับลดกำลังทหารก่อน เป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไทยอ่อนแอ และอ่อนข้อต่อฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน

ทั้งนี้ การนำกำลังทหารขึ้นไปตรึงกำลังบนเขาพระวิหารนั้น ไทยต้องรุกคืบเข้าไปในเขตดินแดนไทยทั้ง 4.6 ตารางกิโลเมตร ในเขาพระวิหารเพื่อเอาดินแดนไทยกลับคืนมา ไม่ใช่ให้ทหารตรึงกำลังอยู่กับที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะทำให้ทางฝ่ายกัมพูชาเกิดความย่ามใจ และได้นำทหารมาบวชเป็นพระตรึงกำลังอยู่ภายในวัดบนเขาพระวิหารเต็มไปหมด

ขณะที่ชาวกัมพูชาอีกหลายร้อยคนได้พากันกลับเข้ามาอยู่ที่บ้านเรือนร้านค้าในเขตแดนไทยที่บริเวณเชิงประสาทพระวิหารอีกครั้งเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ 5 วันที่ผ่านมา โดยที่รัฐบาลไทยไม่ได้มีการโต้แย้งแต่อย่างใด ทั้งที่ทราบดีว่าเป็นพื้นที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนและจะต้องไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปอยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีปัญหาดังกล่าว

ดังนั้น พวกเราจึงขอเรียกร้องให้ทหารไทยผลักดันชาวกัมพูชาออกไปจากบริเวณเชิงเขาพระวิหาร และให้ทหารไทยรุกคืบไปข้างหน้าทั้ง 4.6 ตารางกิโลเมตร เพื่อยึดครองพื้นที่เอาไว้ก่อนรวมทั้งขอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อที่จะสามารถเจรจากับฝ่ายกัมพูชา เพื่อแก้ปัญหาของประเทศทั้งเรื่องปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา ปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างหนัก และปัญหาความขัดแย้งของคนภายในชาติ

“ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลไทยชุดนี้อ่อนแอเกินไปที่จะบริหารประเทศชาติบ้านเมือง และเป็นรัฐบาลที่ยอมอ่อนข้อให้กับกัมพูชามาโดยตลอด ทำให้ไทยจะต้องสูญเสียดินแดนที่บริเวณเขาพระวิหารไปอย่างแน่นอน” นายสมาน กล่าว

ด้าน พล.ต.กนก เนตระคเวสะนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) เปิดเผยว่า กรณีที่โฆษกของรัฐบาลกัมพูชาเห็นว่าการปรับลดกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ที่บริเวณเขาพระวิหารเป็นสิ่งที่ดี โดยฝ่ายกัมพูชาจะลดกำลังทหาร 800 นาย และฝ่ายไทยจะลดกำลังทหาร 400 นายนั้น ตนเห็นว่า การปรับลดกำลังทหารที่บริเวณเขาพระวิหารนั้นเป็นการเจรจากันของหน่วยเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเป็นคำสั่งจากกองทัพบกที่สั่งการลงมาว่าจะให้ปรับลดกำลังทหารจำนวนเท่าใดและต้องเป็นการปรับลดกำลังทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกันทั้งไทยและกัมพูชา อีกทั้งต้องเป็นการปรับลดกำลังตามความเป็นจริงด้วย

“ทหารไทยทุกนายที่ตรึงกำลังอยู่บนเขาพระวิหารพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาทันทีในทุกเรื่อง ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ที่บริเวณเขาพระวิหารยังคงปกติ ไม่มีเหตุการณ์อะไร” พล.ต.กนก กล่าว

ส่วนกรณีที่ข้อพิพาทชายแดนด้าน ปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นั้น ได้มีการเจรจากันระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่ายเรียบร้อยแล้ว และสามารถยุติปัญหาได้ โดยทหารไทยและทหารกัมพูชาได้ลาดตระเวนร่วมกันตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.เป็นต้นไป

“สถานการณ์ที่ปราสาทตาเมือนธมในขณะนี้จึงถือได้ว่าเข้าสู่ภาวะปกติเช่นเดิมแล้ว” พล.ต.กนก กล่าว
พล.ต.กนก เนตระคเวสะนะ ผบ.กกล.สุรนารี
กำลังโหลดความคิดเห็น