xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ จัดยิ่งใหญ่ "12 สิงหา" สวมเสื้อฟ้าทำพิธีศักดิ์สิทธิ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พันธมิตรฯ ประกาศความพร้อมจัดงานเฉลิมพระชนม์พรรษา 12 สิงหามหาราชินี บนถนนราชดำเนินนอกอย่างยิ่งใหญ่ ปรับเปลี่ยนเวทีและตกแต่งพื้นที่อลังการ “สนธิ” เรียกร้องพี่น้องประชาชนพร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้าทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ไล่สิ่งชั่วร้ายให้พ้นจากประเทศโดยเร็ว เผยข้อมูลเด็ดหญิงอ้อเผ่นไปอังกฤษวันที่ 9 ส.ค. โอกาสกลับไทยสู้คดีริบหรี่ "พิภพ" เตือนรัฐบาลขายชาติอย่าขวางพันธมิตรจัดงานสดุดีแม่ของชาติ ย้ำพลังประชาชนแตกแล้ว "วีระ สมความคิด" ยันพันธมิตรฯ ไม่เคยคิดนำเรื่องเงินบริจาคให้ทหาร มาเป็นประเด็นทางการเมือง จวก "สมัคร" ไม่เคยเหลียวแล ทั้งๆ เป็น รมว.กลาโหม

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่สะพานมัฆวานฯ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัครได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ท่านทรงห่วงเรื่องปราสาทพระวิหารเรื่องปัญหาชายแดนไทย-เขมร แต่นายสมัครกลับตอบสามวาสองศอกเรื่องซื้อขนมบ้านอัยการไปให้ทหาร แล้วยังฉวยโอกาสใช้วาระเข้าเฝ้าจัดงาน 116 วันสมานฉันท์อีกด้วย ทั้งๆ ที่ถ้านายสมัครจงรักภักดีจริง ทำไมไม่เร่งจัดการกับคดีของนายจักรภพ เพ็ญแข หรือถ้าบอกว่าไม่ให้ใส่เสื้อลูกจีนรักชาติ แล้วกรณีนายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ใส่เสื้อไม่ยืนไม่ใช่อาชญากรรม จนบัดนี้ก็ไม่เห็นพูดซักคำ

“นายสมัครนอกจากเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก แล้วยังโกหก ถือว่าเป็นเวรกรรมของประเทศไทยที่มาเป็นนายกฯ และวันที่ 12 สิงหาขอเชิญพี่น้องมาร่วมกันสวดมนต์ไล่คนต่ำช้าออกไปจากประเทศไทยโดยเร็ว เรามาพิสูจน์กันว่า เราจัดงานวันเฉลิมพระชนม์พรรษา 12 สิงหาคมให้ยิ่งใหญ่กว่ารัฐบาล โดยเราจะจัดงานตรงนี้ (สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก) วันนั้นจะมีการพิธีกรรมเฉลิมพระเกียรติ มีพิธีทางศาสนาทุกศาสนา” นายสนธิ ระบุ และว่า ในวันนั้นพวกเราจะมอบของขวัญให้กับพระองค์ท่านด้วยการพร้อมกันสวดมนต์ไล่อาถรรพ์ให้พ้นไปจากประเทศไทย พร้อมทั้งขอเชิญชวนพี่น้องที่ชมเอเอสทีวีทั่วประเทศได้ร่วมใจกันสวดมนต์ด้วย

เวลานี้ในพรรคพลังประชาชนได้แตกเป็นก๊กเป็นเหล่า โดยนายสมัครกำลังคิดสถาปนาเป็นเจ้าสำนัก ดังจะเห็นได้จากการตั้งนายวีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธานที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจ เพื่อตัองการหัก นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งป็นเด็กของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือคุมโครงการก่อสร้างทางหลวงทั่วประเทศ ก็เป็นการหักนายสนติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ที่เป็นเด็กของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นั่นเอง

นายสนธิ กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้ (8 ส.ค.) ทีมงาน ASTV จะมีการประดับไฟบริเวณที่ชุมนุม มีการเปลี่ยนแปลงฉากบนเวที โดยเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระราชชินีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งติดตั้งไฟ 7 ดวง โดยจะเริ่มตั้งแต่คืนวันนี้ (8 ส.ค.) และตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป จะมีการจุดพลุเพื่อเฉลิมฉลอง 12 สิงหาฯ เราจะเปลี่ยนถนนเส้นนี้ให้อลังการกว่าที่รัฐบาลทำ ให้พวกเขาเห็นว่าพวกเราพร้อมใจกันทำทุกอย่างเพื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนีนาถ และในวันที่ 12 สิงหาฯ ขอให้ทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อสีฟ้าโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.

"พี่น้องครับ เราทำทุกๆ อย่าง ด้วยเจตนารมณ์ที่ดี แต่การที่รัฐบาลเอาภาษีของประชาชน มาจัดงานในครั้งนี้ มีวาระแอบแฝงเพื่อหวังสลายการชุมนุมของเรา ขณะที่ พวกเราพันธมิตรฯใช้เงินของพวกเราในการจัดงาน นอกจากนี้ เรายังได้ทำซีดี เพลงของแม่เพื่อแผ่นดิน ของวงแฮมเมอร์ จำนวน 50,000 แผ่น แจกฟรีให้แก่ประชาชน ทุกๆ บาท ทุกๆ สตางค์ ทำเพื่อชาติบ้านเมือง เราทำเพื่อแม่ของแผ่นดิน"

นายสนธิ กล่าวในตอนท้ายว่า ได้รับข้อมูลที่แน่ชัด ในวันเสาร์ที่ 9 สิงหาคมนี้ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะขึ้นเครื่องบินจากกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนไปกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ส่วนลูกๆ ได้บินไปลอนดอนตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.แล้ว ทั้งคุณหญิงและลูกๆ จะพบกันที่อังกฤษ ดังนั้นในวันเสาร์ที่ 10 ส.ค.นี้ ที่คุณหญิงพจมานจะเดินทางกลับประเทศไทยหรือไม่ คงมีคำตอบอยู่แล้ว

“การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้าย และต้องสุดท้ายจริงๆ อีกเพียงก้าวเดียก็จะถึงเส้นชัย ดังนั้นเราอย่าถอย” นายสนธิ ระบุ

เตือนรัฐบาลขายชาติอย่าขัดขวาง

นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า พันธมิตรฯสนับสนุนการจัดงาน 116 วันจากวันแม่ถึงวันพ่อดังกล่าว จะเป็นการปรับรูปแบบการชุมนุม เพื่อแสดงออกถึงการจงรักภักดี แต่ว่าเตือนรัฐบาลให้มีความจริงใจต่อการจัดงานนี้ และไม่นำสถาบันมาเป็นเกมการเมือง เพราะเห็นว่าความพยายามสร้างความสมานฉันท์ของรัฐบาล ที่แสดงออกด้วยการยับยั้งการเสนอให้สภาผู้แทนราษฎร์พิจารณาพระราชบัญญัติ การชุมนุมใที่สาธารณะยังไม่ใช่จุดสำคัญ แต่รัฐบาลควรยกเลิกการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราสำคัญๆ รวมถึงการไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น และการไม่แทรกแซงองค์กรอิสระ

พรรคพลังประชาชนแตกแล้ว

นายพิภพกล่าวต่อว่า การเมืองของเราตอนนี้กำลังดำเนินต่อไป และได้ผลขึ้นเรื่อยๆ อย่างข่าวดีที่บอกได้เลยว่าพรรคพลังประชาชนแตกแล้ว เพราะคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ถูกศาลพิพากษา และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะโดนด้วยหรือไม่ ทำให้อำนาจในรัฐบาลแตกเป็น 2 ส่วน คือฟากนายสมัคร สุนทรเวช และนายเนวิน ชิดชอบ จะร่วมมือกันสร้างฐานเสียงตัวเองเพื่อกลับมาเป็นรัฐบาลใหม่ ขณะที่ฝ่ายทักษิณและนายยงยุทธ ติยะไพรัช มองถึงแผนตั้งพรรคใหม่เพื่อกลับมา ขณะเดียวกันก็มีคนอย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่อาศัยช่องโหว่ในช่วงนี้หาผลประโยชน์ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องถือว่าเกิดจากฝีมือพันธมิตรฯ ทั้งนั้น นอกจากนี้มีข่าวจากประเทศอังกฤษว่าทักษิณก็คิดจะขายสโมสรแมนซิตี้ เพราะหากติดคุก คนที่นั่น (ชาวอังกฤษ) ก็ไม่เอา

แกนนำพันธมิตร กล่าวย้ำว่า สำหรับพันธมิตรฯ เราไม่ต้องการการเมืองแบบเก่าเปลี่ยนหัวไปเปลี่ยนหัว และไม่หวังให้ปพรรคระชาธิปัตย์ไปรวมกับพวกพลังประชานที่แตกออกมา เพื่อขึ้นรัฐบาล ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องไม่ร่วมมือกับการเมืองน้ำเน่าเหล่านี้ ที่มีแต่ผลัดกันหมุนเวียนเปลี่ยนนายกฯ ไม่นายสมัคร ก็เป็นนายบรรหาร ศิลปอาชา อย่างนี้

“แบบนี้ถือว่าชะตาฟ้าดินเข้าข้างเรา การเปลี่ยนแปลงการเมืองจะต้องเป้นการปฏิรูปการเมืองใหม่ ไม่เอาการเมืองน้ำเน่าเข้ามา มีการปฏิรูปเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่อาศัย การศึกษา ชนชั้นกลางจะต้องอยู่อย่างปลอดภัย ไม่ใช่พะวะพะวงกับรัฐบาลใหม่ที่เข้ามา ดังนั้นเราต้องสนับสนุนให้เกิดการเมืองใหม่ขึ้นมา ขณะเดียวกันที่ผ่านมา เราได้ทำให้ขบวนการตุลาการวิวัฒน์สามารถเดินหน้าได้ จึงถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราต้องสู้กับการคอร์รัปชัน โดยมีให้ตุลาการที่สามารถตรวจสอบนักการเมืองโกงกินได้”

นายพิภพ กล่าวถึงกรณีที่ ดร.วีรพงษ์ รามางกูรว่า (ดร.โกร่ง) เพราะการที่ให้ดร.โกร่งเข้ามาเป็นที่ปรึกษาอาจเกิดผลประโยชน์ซับซ้อนแอบแฟง เพราะว่าคนๆนี้เป็นประธานที่ปรึกษาบริษัทพลังงานไฟฟ้าหลายแห่ง รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ และหลายบริษัทมีส่วนเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ อีกทั้งคนๆนี้ไม่เคยแยกถูกแยกผิดได้

“ด็อกเตอร์โกร่ง อยู่เหนือกฏหมาย เอาตัวเปล่าเข้ามาร่วมบริหาร ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบทรัพย์สิน ดังนั้น ขอเตือนว่า สิ่งที่ตามมาเมื่อพบว่ามีความผิด รัฐมนตรีทั้งคณะจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบแทน โดยเฉพาะนายกฯสมัคร ขณะเดียวกันก็ขอเตือนพี่น้องข้าราชการ อย่าได้ไปร่วมวงไพบูลย์กับคนเหล่านี้ ไม่เช่นนั้นจะเหมือนคดีกล้ายางซึ่ง มีกลุ่มคนผิด 7 กลุ่ม ไล่ตั้งอธิบดี รองอธิบดี ผู้บริหารเอกชน และเนวิน”

นายพิภพ กล่าวว่า ขอเตือนนายกฯ สมัคร เมื่อเอาคนอย่าง ดร.โกร่ง เข้ามาดูแลเศรษฐกิจ และไม่เอาเข้ามาตามกฏหมาย นายกรัฐมนตรีจะมีปัญหาติดคุกในอนาคต เพราะถ้าข้อมูลการประชุมลับของรัฐบาล ตกไปอยู่ในมือของที่ปรึกษา ไปต่อถึงเอกชน ถือว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กัน ขณะเดียวกัน ดร.โกร่งก็มีความผิดถ้าข้อมูลเหล่านี้ตกไปอยู่ที่บริษัทเอกชนเหล่านั้น ซึ่งเรื่องนี้จะนำไปสู่การไตร่สวนในอนาคตแน่อนอน และพันธมิตรฯขอยืนยันว่าจะติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิด เพื่อเอาคนไม่ดีมาไต่สวน มาติดคุกแน่นอน

ขณะเดียวกัน แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องว่า ในระหว่างการต่อสู้เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็ละเลยเพราะมัวแต่ไปสนใจกับมาตราสำคัญอื่นๆ แต่ความจริงภาครัฐบาลยังไม่ยอมถอน เพราะมีความหวังว่าจะให้พ.ต.ท.ทักษิณสู้แก้กฎหมายให้พ้นผิด ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจึงสู้ไม่ถอย ส่วนที่นายสมัคร อ้างเรากลัวมาตร 63 โดยเร่งไปทำเอกสารประกอบ เพื่อชี้ให้เห็นว่าเราขัดรธน.นั้น เรืองนี้เราเพราะขัดสิทธิมนุษยธรรมสากลอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม พบว่าระหว่างนี้รัฐบาลกำลังแก้กฏหมายลูก หรือกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะกฏหมายคลื่นความถี่วิทยุโทรทัศน์ โทรคมนาคม โดยให้มีองค์กรหนึ่งของรัฐมากำกับดูแล แทนองค์กรอิสระ เป็นเรื่องที่เราให้เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะว่า การที่รัฐบาลมาควบคุมโทรทัศน์ วิทยุทำให้พี่น้องเหนือ อีสานไม่รู้ความจริง เหมือนพวกเรา ซึ่งตอนนี้รัฐบาลจะออกกฏหมาย พ.ร.บ.ประกอบรธน.มาตรา 41 เป็นเรื่องที่ขอเตือนพี่น้องให้ระวังการออกกม.ประกอบผิดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

“วันนี้ ถ้าเรายับยั้ง พ.ร.บ.นี้ไม่ได้ รัฐบาลจะทำให้ภาคประชาชนไม่มีส่วนร่วม และเลิกการสรรหาองค์กรอิสระแบบถูกต้อง และให้รัฐบาลเป็นผู้คัดเลือก ซึ่งองค์กรนี้ก็จะมีแต่คนของนักการเมืองเข้ามาช่วยเอื้อผลประโยชน์ ทุกอย่างจะล้มเหลว การเมืองจะกลับไปสู่แบบเดิม และพวกนี้จะไปทำลายกฏหมาย หมวดสิทิเสรีภาพหมดเลย ทุกฉบับ นี่คือเล่ห์ เหลี่ยมของรัฐบาลที่ซับซ้อนไม่น่าไว้วางใจ เรายอมไม่ได้”

"วีระ" จวก "หมัก" ไม่แลทหารหาญ

นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯว่า มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบและน่ายินดี หลังจากที่ตนได้รับการขอให้ช่วยประกาศแก่ประชาชน เรื่องสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของบรรดาทหารหาญ ที่ทำหน้าที่อยู่ชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทเขาพระวิหารตามที่ได้บอกไปแล้วเมื่อวันจันทร์(4) ที่ผ่านมา

"เมื่อเช้านี้ (7 ส.ค.) พ.ต.นพรัตน์ ดวงกลาง ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารีได้ทำการเบิกจ่ายเงินบัญชีนี้ และได้โทรมาแจ้งให้ทราบว่า หลังจากเช็กยอดมีเงินบริจาคทั้งหมด 631,890 บาท เพียงไม่กี่วันเท่านั้น น้ำใจของประชาชนทั้งหลายก็ได้ถูกส่งไปให้กำลังใจกับบรรดาทหารหาญ ที่กำลังทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เกินกว่าครึ่งล้านแล้ว"นายวีระกล่าวและว่า

เรื่องนี้ไม่วายที่จะถูกรัฐบาลกล่าวหาว่า พวกเราจะดึงไปเป็นประเด็นการเมือง ถ้ายังจำกันได้เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางล่วงหน้าพาพี่น้องไปทวงคืนปราสาทเขาพระวิหาร ที่ตนเดินทางไปนั้น เพื่อที่จะนำเงินไปมอบให้ทหารพรานที่ถูกกับระเบิดขาขาด ปรากฎว่าถูกกลั่นแกล้งทุกวิถีทางไม่ให้นำเงินไปให้แก่ทหารพรานท่านนั้น จนกระทั่งมีการย้ายทหารรายนั้นเข้ามาในกรุงเทพฯถึงสามารถนำเงินไปมอบให้ได้

"พันธมิตรฯ ไม่เคยคิดเลยว่า จะไปแย่งงานรัฐบาลเพื่อเอาหน้าตา เพียงแต่เราอยากจะให้กำลังใจทันที ซึ่งผิดกับรัฐบาล ที่ไม่มีแม้แต่ข่าวว่านายกฯของเราไปให้กำลังใจทหาร มีแต่จะสกัดพวกเราทุกวิถีทางโดนการเกณฑ์คนมาสกัด"นายวีระกล่าว

นายวีระ กล่าวต่อว่า อยากจะฝากไปถึงรัฐบาลว่า อย่ามองพันธมิตรฯและพี่น้องคนไทยทั้งประเทศจะจ้องเอาแต่ประเด็นการเมือง ซึ่งความจริงไม่เคยคิดในแบบนั้น อะไรที่เป็นเรื่องของความถูกต้องชอบธรรม อะไรที่เป็นเรื่องของมนุษยธรรม และรับผิดชอบร่วมกัน ในการให้กำลังใจผู้ที่ทำหน้าที่รักษาอำนาจอธิปไตยแทนพวกเราคนไทยทั้งประเทศ ตนถือว่าเป็นหน้าที่จะต้องช่วยกันทำ รัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแล ถ้ารัฐบาลยังไม่มีเวลาหรือไม่ใส่ใจ แล้วทำไมประชาชนใส่ใจทำไปก่อนต้องมาห้าม

"คุณเป็นรัฐบาลมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องดูแล กำลังพลหรือดูแลทหารให้ดีที่สุด แต่คุณไม่เคยคิดจนกระทั่งถึงบัดนี้ วันๆหาเรื่องแต่ชาวบ้าน ไม่เคยคิดที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้เกิดประโยชน์ หรือทำงานที่ควรจะทำ มัวแต่ทำเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นมาไม่เว้นแต่ละวัน"

นายวีระ กล่าวอีกว่า เรามีรัฐบาลที่ตั้งแต่หัวหน้ารัฐบาลมีคดีติดตัวหลายคดี และคณะรัฐมนตรีก็มีคดีติดตัวแทบทุกคน แต่ปรากฎว่าคนเหล่านี้ไม่มีสำนึก นอกจากนี้ยังมาท้าทายอีกว่าใครจะอยู่อึดกว่ากัน ซึ่งเรามาหน้าที่ เรามาใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ ตรวจสอบคนโกง มาไล่คนขายชาติ แต่คนที่เรามาตรวจสอบกลับมาท้าเราว่าใครจะอยู่นานกว่ากัน

"ให้คิดดูแล้วกันว่า มีผู้บริหารประเทศแบบนี้ แล้วจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนของชาติได้อย่างไร" นายวีระ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น