“สมเกียรติ” ยก “พระราชดำรัส” สาปคนโกง สนองกรรม “แม้ว” ติดคุก

“สมเกียตริ” ยกพระราชดำรัสในหลวง ทรงสาปแช่ง “นักการเมือง-ข้าราชการขี้ฉ้อ” ให้มีอันเป็นไป สนองกรรม “แม้ว” ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา แย้มข่าวดี “วิชา” ยันตั้งอนุกรรมการสอบสวน “นายตำรวจ” สั่งฆ่าประชาชนในเหตุการณ์ 7 ต.ค. พร้อมสรุปสำนวน “36 รมต.ขายชาติ” ยก “เขาพระวิหาร” ให้ “เขมร” เร็วๆ นี้

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

วันนี้ (21 ต.ค.) เมื่อเวลา 22.35 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 2 ปี ในคดีซื้อขายที่ดินรัชดา โดยไม่รอลงอาญาว่า ประเทศไทยตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ พ.ศ.2475 ซึ่งตนเคยทำนายว่า จะมีนายกฯ ติดคุก 3 คน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ส่วนภริยานายกฯ ติดคุกคนแรก คือ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่สำคัญ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ประทับรับฟ้องยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ 76,000 ล้านบาท

“มีคนเอาเครื่องดื่มชูกำลังมาให้ ยี่ห้อ “ทักษิณสู้” ซึ่งมีคำเตือนคือ ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวด และห้ามฟังคำพิพากษา เพราะจะทำให้หัวใจวาย และไหลตายได้ ฉะนั้นจึงมีการเอาไปแจกตามคอร์ดเทนนิส และคาดว่าอีกไม่นานจะมียี่ห้อ “ทักษิณติดคุก” ออกมาแทน วันนี้เราดื่มน้ำสะอาดฉลองชัยชนะของประชาชน” นายสมเกียรติ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ขออันเชิญกระแสพระราชดำรัชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ 8 ต.ค.2546 ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในระบบซีอีโอทั่วประเทศ โดยกระแสพระราชดำรัชของพระองค์ ระบุว่า “อย่าให้ข้าราชการชั้นใดๆ หรือประชาชนทุจริต ถ้ามีทุจริตแล้วบ้านเมืองพัง ที่เมืองไทยพังมากเพราะว่ามีทุจริต” ส่วนความอีกตอนหนึ่ง พระองค์ท่าน ระบุว่า “ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียว ก็ขอแช่งให้มีอันเป็นไป พูดอย่างนี้หยาบคาย แต่จอให้มีอันเป็นไป แต่ถ้าไม่ทุจริต สุจรติ และมีความตั้งใจที่จะทำ ก็ขอให้มีอายุได้ถึง 100 ปี”

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า 5 ปีให้หลัง วันที่ 31 ก.ค.2551 คำพิพากษาศาลอาญา ระบุว่า นายบรรณพจน์ ดามาพงษ์ คุณหญิงพจมาน จำเลยทั้ง 3 มีฐานะทางเศรษฐกิจ และสังคมสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะทำผิดฐานให้การอันเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยจำเลยที่ 2 เป็นภริยาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ ซึ่งจำเลยทั้ง 3 นอกจากปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆ ไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้ให้เป็นตัวอย่างที่ดี สมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย อีกทั้งจำเลยทั้ง 3 กลับร่วมกันกระทำการหลีกเลี่ยงภาษี อันเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อสังคม และระบบภาษี ทั้งๆ ที่จำนวนค่าภาษีที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระตามกฎหมาย เทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 มีอยู่ในขณะนั้น และการที่จำเลยที่ 1 จะชำระภาษีอากรไปตามกฎหมายเช่นพลเมืองทุกคน ไม่ได้มีผลกระทบต่อจำเลยแต่อย่างใด ฉะนั้น การกระทำของจำเลยทั้ง 3 จึงร้ายแรง จึงมีคำพิพากษาจำคุกนายบรรณพจน์ 3 ปี คุณหญิงพจมาน 3 ปี และสาวใช้ 2 ปี

“วันนี้ศาลมีคำพิพากษาตอนหนึ่ง ระบุว่า จำเลยเป็นนายกฯ กลับฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งๆ ที่ต้องกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติตนในสิ่งที่ดีงามตามจริยธรรมทางการเมืองให้เหมาะสมกับการที่ได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญยิ่ง จึงไม่สมควรรอลงการลงโทษ จำคุก 2 ปี และที่ผมยกมาแสดง เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสาปแช่งให้คนทุจริตแม้แต่เพียงนิดเดียว ขอให้มีอันเป็นไป นอกจากนี้ สื่อของประเทศอังกฤษตีข่าวว่า โอกาสของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะกลับมาเป็นผู้ต้องขังในประเทศมีมาก ถ้ารัฐบาลจริงใจที่จะขอตัวผู้ตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมา” นายสมเกียรติ ระบุ

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้โจเซฟ เอสตราดา อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ มีเพื่อใหม่แล้วชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่นายโจเซฟโกงเงินเพียง 87 ล้านเหรียญสหรัฐ ศาลต่อต้านคอร์รัปชันของประเทศฟิลิปปินส์ ตัดสินให้จำคุกนายโจเซฟ ตลอดชีวิต ที่สำคัญขณะนี้เรามีคดีใหญ่ในเร็วๆ นี้ 3 คดี คือ 1.ป.ป.ช.ได้ไต่สวนตำรวจที่ทำร้ายพันธมิตรฯ อุดร เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2551 ซึ่ง ป.ป.ช.ใกล้ชี้มูลความผิด เหมือนกรณีที่นายตำรวจยศพันตำรวจโทคนหนึ่ง ซึ่งซ้อมนายฤทธิ์รง ที่บริเวณสยามพารากอน จนถูกไล่ออกจากราชการ ส่วนคดีที่ 2 คือ ป.ป.ช. ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวนในคดีที่นายการุณ ใสงาม ถูกหนังสติ๊กยิงหัวจนต้องเย็บถึง 4 เข็มนั้น ขณะนี้ ป.ป.ช.กำลังใกล้ที่จะสรุปสำนวนแล้ว ส่วนกรณีที่ 3 ที่ ป.ป.ช.ไต่สวน คือ กรณีวันที่ตำรวจเอาหมายศาลมาติดที่ทำเนียบฯ แล้วไล่ตีประชาชนตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ฉะนั้นขอให้พี่น้องรอฟัง ป.ป.ช.

“7 ต.ค.วันที่นกสีเหลืองจากไป คือ น้องโบว์ และสารวัตรจ๊าบ วันนี้นกสีเหลืองส่งรอยยิ้มมาจากสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ที่สำคัญนายวิชา มหาคุณ อดีตผู้พิพากษาศาลสูง ยืนยันว่า ได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนอธิบดีตำรวจ และตำรวจที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้วขณะเดียวกัน กรรมการ ป.ป.ช.ท่านหนึ่ง ได้ประกาศแล้วว่า จะสรุปสำนวนขายชาติ กรณี 35 รัฐมนตรี มีมติเรื่องเขาพระวิหารในเร็วๆ นี้” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ระยะนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะประกอบไปด้วย 1.ตุลาการภิวัฒน์ ภายใต้ประชาภิวัฒน์ และถ้าหากมีหน่วยงานที่ 3 คือ ทหารภิวัฒน์ พวกเราก็จะชนะเร็วยิ่งขึ้น และถ้าพี่น้องพันธมิตรฯ จะต้องจากกันจริงๆ คงทำใจไม่ได้ แต่เราจะนัดศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมาเจอกัน ส่วนในวันที่ 22 ต.ค.นี้ แกนนำพันธมิตรฯ จะประชุมการเมืองใหม่นัดสุดท้าย ว่าด้วยจะรื้อโครงสร้างตำรวจอย่างไร หลังจากนั้นจะมีเอกสารชุด 3 ตามมาให้พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ โดยชุดแรกคือ ซีดี ชุดที่ 2 คือ ตำรวจฆ่าประชาชน ส่วนชุดก่อนกลับบ้าน คือ ชุดประชาภิวัฒน์การเมืองใหม่ของภาคประชาชน