xs
xsm
sm
md
lg

สันติอโศกสรรเสริญ

เผยแพร่:   โดย: สิริอัญญา

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมบูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น พระผู้เป็นศาสดาเอกของโลก เสด็จไปดีแล้ว ทรงมอบพระธรรมวินัยและพระสงฆ์สาวกเพื่อประโยชน์และความสุขของชนหมู่มากในโลก

วันนี้เป็นวันแรม 8 ค่ำ เดือน 8 เป็นวันพระแรกแห่งเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ มีแรงบันดาลใจจากข่าวที่สมณะแห่งสันติอโศกถูกอันธพาลบุกเข้ามาทำร้ายถึงในเวทีชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงเป็นเหตุปรารภให้ทำบทความเรื่องนี้

ความจริงในอดีตก็เคยมีความเห็นไม่ตรงไม่ลงรอยกับสำนักสันติอโศกในบางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการบรรลุธรรมบางประการในพระพุทธศาสนา แต่ครั้นวันเวลาผ่านไปเนิ่นนานเข้า ความดีความงามก็ปรากฏชัดขึ้น ทำให้ความเห็นต้องเปลี่ยนแปลงไป

เหตุเพราะทางสำนักสันติอโศกเองก็ได้เว้นการพูดถึงการบรรลุธรรมขั้นสูงบางประการนั้น แล้วมุ่งมั่นประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงตรัสสอนไว้อย่างแน่วแน่เด็ดเดี่ยวมั่นคง นั่นเป็นทางหนึ่ง

และอีกทางหนึ่ง วัตรปฏิบัติทั้งหลายของชาวสำนักสันติอโศกที่ได้ตั้งชุมชนพุทธที่เป็นแบบอย่างแห่งการใช้ชีวิตแบบพอเพียงในหลายที่ และที่ได้ประพฤติปฏิบัติประจักษ์ต่อสายตาประชาชนตั้งแต่ครั้งการเคลื่อนไหวปี 2548-2549 ถึงปัจจุบันก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเคร่งครัดอยู่ในพระธรรมวินัยของพระบรมศาสดา

ดังนั้นมาถึงวันนี้จึงสมควรประกาศเรื่อง “สันติอโศกสรรเสริญ” สักครั้งหนึ่ง เพื่อให้เพื่อนพุทธบริษัททั้งหลายได้ทราบ และเมื่อทราบแล้วจะพิจารณาคิดเห็นประการใดก็สุดแท้แต่น้ำใจเถิด

ก่อนอื่นก็ต้องกล่าวว่าชาวสำนักสันติอโศกถูกคนกลุ่มหนึ่งทั้งที่เป็นพระสงฆ์ และเป็นฆราวาสพยายามผลักไสไล่ส่งให้ออกไปจากวงการพระพุทธศาสนา กระทั่งพยายามที่จะกลั่นแกล้งดำเนินคดีความทุกรูปแบบ และมาถึงการทำลายข้าวของและทำร้ายร่างกายกันแล้ว

การกระทำเช่นนั้นถูกต้องหรือไม่ เป็นวิสัยของชาวพุทธที่พึงกระทำอย่างนั้นหรือ? นี่คือการละเมิดสิทธิที่รัฐธรรมนูญรับรองคุ้มครองหรือไม่?

ในวันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าพระธรรมวินัยอันพระบรมศาสดาได้ตรัสสอนไว้นั้นหาได้เพียงมีอยู่แต่นิกายเดียวหรือสองนิกายดังที่คณะสงฆ์ไทยยึดถืออยู่เท่านั้น หากยังมีอีกหลายนิกายมากมายนัก

บางนิกายก็เหินห่างออกไปจากพระธรรมวินัย เช่น ในรูปแบบภายนอกก็ไม่นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ ไม่ยึดถือในศีลและปาติโมกข์ บ้างก็มีภรรยา บ้างก็กระทำธุรกิจได้

แล้วนิกายเหล่านั้นก็เคยเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีและร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนากับชาวพุทธไทยอยู่เสมอๆ ดังที่ปรากฏในการประชุมใหญ่บ้าง ในการประชุมเสวนาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนานานาชาติบ้าง

นั่นแสดงให้เห็นว่าแม้เพื่อนชาวพุทธที่ไม่ยึดมั่นในศีล ในพระธรรมวินัย และใกล้เคียงกับความเป็นฆราวาส แต่เราก็ยอมรับนับถือคบหา กระทั่งยอมรับว่าเป็นสงฆ์ในพระพุทธศาสนา

ก็ต้องถามว่าชาวสำนักสันติอโศกไม่ใช่ชาวพุทธหรือ? ไม่ใช่พุทธบริษัทหรือ? ไม่ทรงศีล ทรงธรรม ทรงวินัยตามคำสอนแห่งพระบรมศาสดาหรือ?

ผู้รู้และผู้มีความเป็นธรรมในใจย่อมตอบได้ว่าชาวสำนักสันติอโศกเป็นชาวพุทธ เป็นพุทธบริษัท ทรงศีล ทรงธรรม ทรงวินัย ไม่ได้ด้อยกว่าเพื่อนชาวพุทธนิกายต่างๆ เหล่านั้น

แต่ถ้าจะกล่าวความอันเป็นจริงก็สามารถกล่าวได้โดยไม่ละอายต่อเทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายว่าสมณะชาวสำนักสันติอโศกทรงศีล ทรงธรรม ทรงวินัยมากกว่าเพื่อนชาวพุทธนิกายเหล่านั้นมากมายนัก

ดังนั้นหากยกเรื่องการเมืองออกเสียอย่างหนึ่งแล้ว ก็เห็นและกล่าวได้อย่างชัดเจนว่าสมณะชาวสำนักสันติอโศกเป็นพุทธบริษัทแท้ที่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยแห่งพระบรมศาสดาเป็นเนื้อนาบุญของชาวพุทธในพระพุทธศาสนา

เป็นสงฆ์ที่สามารถกราบไหว้ได้โดยไม่ขัดเขินหรือตะขิดตะขวงใจแม้แต่น้อย
ทำไมจึงกล่าวเช่นนั้นเล่า? เหตุที่กล่าวดังนี้ก็เพราะว่าความเป็นสงฆ์หรือความเป็นพราหมณ์หรือความเป็นสมณะหรือความเป็นศากยบุตรหรือความเป็นมุนีหรือความเป็นภิกษุนั้นมิได้วัดกันที่การนุ่งห่มผ้าเหลือง แม้ผ้ากาสาวพัสตร์ก็ตาม

แต่วัดกันตรงที่การปฏิบัติตรงและสมบูรณ์พร้อมในศีล ในพระธรรมวินัยแห่งพระตถาคตเจ้านั้นต่างหาก โดยเฉพาะการเข้าถึงซึ่งพระธรรมอันประเสริฐและรู้แจ้งถึงทุกข์และความดับทุกข์นั้นต่างหากเล่า

ตลอดเวลาอันยาวนานมานี้ไม่เคยมีข่าวคราวหรือข้อเท็จจริงใดปรากฏว่าสมณะหรือชาวสำนักสันติอโศกล่วงละเมิดในศีล ไม่ว่าเบญจศีล ศีลอุโบสถ หรือศีลปาติโมกข์ กระทั่งอาจกล่าวได้อีกนัยหนึ่งว่าทั้งจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล ล้วนเป็นศีลที่สมณะและชาวสำนักสันติอโศกประพฤติปฏิบัติให้เห็นอย่างเด่นชัด

เพราะศีลนี่เองจึงก่อให้เกิดความเป็นปกติ ก่อให้เกิดความสุข ก่อให้เกิดความสามัคคี ความเป็นระเบียบ ก่อให้เกิดความเรียบร้อย ก่อให้เกิดความสงบ ก่อให้เกิดความร่มเย็น และเป็นบ่อเกิดแห่งความสงบเย็นเป็นที่สุดด้วย

ดังที่พระท่านได้แสดงอานิสงส์ของศีลไว้ว่า ศีลเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข หรือเป็นทางให้ไปดี ศีลเป็นบ่อเกิดแห่งทรัพย์ทุกประเภท แม้อริยทรัพย์ และศีลเป็นบ่อเกิดแห่งพระนิพพาน

เพื่อนชาวพุทธโดยเฉพาะผู้ที่ได้เข้าร่วมชุมนุมตั้งแต่ครั้งปี 2548, 2549 และในปี 2551 นี้ย่อมสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าสมณะแห่งสำนักสันติอโศกและชาวสำนักสันติอโศกมีปกติปฏิบัติธรรม แสดงธรรม การปฏิบัติและการแสดงธรรมนั้นก็คือสิกขาหรือการศึกษาและปฏิบัติตามแนวทางแห่งพระพุทธศาสนาที่พระตถาคตเจ้าทรงสั่งสอนไว้

ตลอดระยะเวลาอันยาวนานไม่เคยมีข้อเท็จจริงหรือข่าวคราวปรากฏว่าสมณะหรือชาวสำนักสันติอโศกประพฤติผิดพระธรรมวินัย หรือประพฤติในสิ่งที่โลกตำหนิติเตียน ไม่ว่าการเสพเมถุน การลักหรือฉ้อเอาทรัพย์ผู้อื่น การเมาสุรา การเสพยาบ้า การค้าวัตถุมงคล เป็นต้น ในขณะที่ข่าวคราวทำนองนี้เกิดขึ้นอย่างหนาหูหนาตาในสังคมชาวพุทธของบ้านเรา

นั่นอะไรคุ้มครองเอาไว้เล่า? ก็ต้องตอบว่าพระธรรมวินัยแห่งพระบรมศาสดานั่นแล้วที่เป็นเครื่องคุ้มครองสมณะและชาวสำนักสันติอโศก และความคุ้มครองนั้นหาได้คุ้มครองแค่เพียงกาย วาจาไม่ หากซึ้งลึกเข้าไปถึงจิตหรือใจ คุ้มครองจิตให้มีความปกติในศีล ให้ปฏิบัติในธรรม ให้เจริญซึ่งปัญญา

ดังนั้นในวันนี้จึงต้องประกาศว่าสมณะชาวสำนักสันติอโศกคือชาวพุทธ คือพุทธบริษัท คือสมณะศากยบุตร ที่ประพฤติปฏิบัติอยู่ในศีลและพระธรรมวินัยของพระบรมศาสดา เป็นเนื้อนาบุญของโลกตามบทสรรเสริญพระสังฆคุณนั้น

ข้าพเจ้าขอประกาศว่าสมณะแห่งสำนักสันติอโศกคือชาวพุทธ คือพุทธบริษัท คือสมณะศากยบุตร คือเนื้อนาบุญของโลก คือผู้สืบพระพุทธศาสนาแห่งพระตถาคตเจ้า

แล้วข้อกล่าวหาที่ว่าชาวสำนักสันติอโศกเข้ายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเล่าเป็นอย่างไร?
อะไรล่ะที่เรียกว่าการเมือง? การเมืองก็คือประชาชน ก็คือผลประโยชน์ของประชาชน ก็คือความสงบสุขของประชาชนและประเทศชาติ ก็คือความมีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรมของมวลมนุษย์

การเมืองไม่ใช่เรื่องเลือกตั้งและยิ่งไม่ใช่เรื่องการโกงการเลือกตั้งเข้ามามีอำนาจ แล้วฉ้อฉลปล้นชาติปล้นประชาชน

พระตถาคตเจ้าเมื่อครั้งยังทรงพระชนม์อยู่ ในคราวที่ทรงส่งพระอรหันต์ 60 รูปแรกไปประกาศพระพุทธศาสนานั้น ทรงมีพุทธดำรัสว่า

“ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงจาริกไปเพื่อประกาศพระธรรมวินัยให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ด้วยอรรถะและพยัญชนะ ให้งดงามในเบื้องต้น ในท่ามกลาง และในที่สุด เพื่อประโยชน์และความสุขของชนหมู่มากในโลก”

พระพุทธดำรัสดังกล่าวนี้หากจะกล่าวเป็นภาษาปัจจุบันก็กล่าวได้ว่านี่คือแนวทางการเมืองที่สำคัญ ที่พระพุทธองค์ทรงมอบหมายให้บรรดาสมณะศากยบุตรซึ่งเป็นพระอรหันต์ 60 รูปออกไปประกาศพระพุทธศาสนาเป็นชุดแรก

เป้าหมายยิ่งใหญ่ของพระพุทธดำรัสนี้คือ “เพื่อประโยชน์และความสุขของชนหมู่มากในโลก” ไม่ใช่เพื่อประโยชน์หรือเพื่อลาภสักการะหรือเพื่อสมณศักดิ์หรือเพื่ออามิสใดๆ สำหรับตน และไม่ใช่เพื่อความสุขส่วนตัวแม้แต่น้อยนิด

พระพุทธองค์มีพุทธดำรัสให้พระอริยสงฆ์สาวกทั้ง 60 รูปนั้นประกาศพระธรรมวินัยเพื่อประโยชน์และความสุขของชนหมู่มากในโลก เช่นเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเปล่งพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”

แล้วมาดูกันว่าวัตรปฏิบัติทั้งหลายของสมณะและชาวสำนักสันติอโศกในปัจจุบันนี้ แม้เป็นเวลาหลังจากการมีพุทธดำรัสดังกล่าวนั้นร่วม 2,600 ปี จะเป็นไปในร่องรอยและทางเดียวกันหรือไม่

ในวันนี้ก็เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วไม่ใช่หรือว่ายามประชาชนเป็นทุกข์และเสียสละอย่างกล้าหาญเพื่อพิทักษ์รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวจากเพื่อนชาวพุทธบางกลุ่ม ก็ได้สมณะและชาวสำนักสันติอโศกมาอยู่เป็นเพื่อน สมกับความที่เป็นเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายทุกประการ

ในแต่ละวันชาวสำนักสันติอโศกไม่เคยแสวงหารายได้หรือประโยชน์ใดๆ เพื่อตน ตั้งหน้าทำงานรับใช้ประชาชนทั้งด้านเก็บกวาดขยะ กวาดถนน หุงหาอาหาร ตักอาหารให้เพื่อนมนุษย์ได้รับประทานในยามหิว คอยส่งน้ำส่งท่าเวลากระหาย หรือในเวลาหลังจากรับประทานอาหารแล้ว

ยามแดดร้อนจ้าก็เอาผ้าเต็นท์หรือร่มมาแจก เวลาฝนตกก็เอาเสื้อกันฝนหรือกางร่มให้พี่น้องประชาชน

ยามสายก็ประกาศพระธรรมคำสอนในพระบรมศาสดาให้กับพี่น้องประชาชนได้ทราบได้ประพฤติปฏิบัติตาม

นี่คือการปฏิบัติตามพระพุทธดำรัสเมื่อครั้งทรงส่งพระอริยสงฆ์สาวก 60 รูปออกไปประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรกไม่ใช่หรือ?

หากเปรียบเทียบกับพวกที่แยกตัวเองออกจากสังคมมนุษย์ ไม่ใส่ใจความทุกข์ร้อนของเพื่อนมนุษย์ ทำตนเป็นแต่ผู้รับ และมุ่งแสวงหาแต่โลกธรรมแล้ว อย่างไหนจะซื่อตรงต่อพระธรรมวินัยมากกว่ากันเล่า

เหตุนี้ข้าพเจ้าจึงประกาศสดุดีสรรเสริญพระคุณของสมณะและชาวสำนักสันติอโศกว่าได้ประพฤติปฏิบัติถูกตรงตามพระพุทธดำรัสที่ตรัสกับพระอริยสาวก 60 รูปรุ่นแรกที่ทรงส่งไปประกาศพระศาสนานั้น

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมบูชาพระสงฆ์ที่ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรงตามพระธรรมวินัยแห่งพระตถาคตเจ้าว่าเป็นเนื้อนาบุญของโลก เป็นผู้ควรแก่การเคารพบูชาต้อนรับ เป็นผู้ควรแก่การถวายของและประพฤติปฏิบัติตาม.
กำลังโหลดความคิดเห็น