xs
xsm
sm
md
lg

"รสนา"จี้"ครม.เดนนรก" ถอน"แถลงการณ์ร่วมฯ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (14 ก.ค.) น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. และนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ได้เข้าพบนายศราวุธ เมนะเศวต เลขาธิการป.ป.ช. เพื่อยื่นคำร้อง ขอให้ดำเนินคดีไต่สวนครม.ทั้งคณะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่าคำ แถลงการณ์ร่วม (Joint Communiqu?) เป็นหนังสือสัญญาที่ต้องผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190
น.ส.รสนา เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยรายละเอียด เกี่ยวกับมติคณะกรรมการมรดกโลกทั้งหมดและขอให้ประกาศยกเลิก คำแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ถ้าไม่ประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการ ก็จะมีผลผูกพันประเทศอยู่ เนื่องจากพบว่ามีเอกสารที่เรียกว่า โครงร่างประกอบการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก (Draft Decision) ที่เข้าประชุมที่ ควิเบก ซึ่งได้ระบุว่า ในพื้นที่นั้นไม่ได้กล่าวถึงตัวพระวิหาร แต่รวมถึงบันได รวมส่วนอื่นๆ ด้วย ในเนื้อหาที่อยู่ใน Draff Decision นี้ไม่เคยได้รับเอกสารที่เป็น final Decision เลย หรือเอกสารที่เขาอ้างถึง ไม่เคยได้รับการเปิดเผยจากรัฐบาลว่ามันมีอะไรบ้าง ซึ่งส่วนนี้เขากำหนดไว้ชัดเจนว่า ภายในสองปี จะต้องมีการทำพื้นที่ส่วนอื่นเข้าไปด้วย ภายในสามปี จะต้องมี finalized map การกำหนดเขตต่างๆ ต้องเรียบรัอย
"สิ่งที่พูดถึง เขาอ้างความเป็นมรดกโลก ความเป็นงานศิลปะที่มีความบริสุทธิ์ มีความงาม ตอนนี้บรรดาประเทศทั้งหลาย ที่เป็นสมาชิกของยูเนสโกกำลังจะใช้ความเป็นมรดกโลก แล้วความงามในเชิงศิลปกรรมทางด้านสถาปัตยากรรม รุกเข้ามาให้ประเทศไทยต้องรับในส่วนนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผูกพันประเทศไทยอยู่ ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ถูกเชิญเข้าไปมีส่วนร่วม เราถูกเชิญเข้าไปมีส่วนร่วมบนพื้นที่ที่เป็นอาณาเขตของประเทศไทยเอง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อเอกสารใน Draff Decision พูดไว้ชัดเจนว่า ความสมบูรณ์ในตัวปราสาทพระวิหาร จะไม่ใช่ที่ตัวปราสาทเท่านั้น แต่จะต้องรวมถึงส่วนต่างๆโดยรอบของมันด้วย แต่ยูเนสโกไม่เคยแนะนำให้มีการขึ้นทะเบียนร่วมกันสองประเทศ บอกว่าหลังจากขึ้นปราสาทพระวิหารแล้ว จะต้องมีการทำต่อไปจนให้ปราสาทพระวิหารมีความสมบูรณ์ นั่นคือ รวมพื้นที่ของเราด้วย ใน Draff Decision รวมบันไดทั้งหมด 800 เมตร ซึ่งก็คือทั้งหมดของบันได มันแตกต่างจากข้อตกลงคำตัดสินของศาลโลก แน่นอน เพราะระบุแค่ตัวปราสาทพระวิหาร และลงมา 20 เมตร แต่นี่ลงไป 800 เมตร จากศูนย์กลางลงไป นี้คือสิ่งที่รัฐบาลไม่เคยบอก บันไดที่เคยเป็นของเรา ต่อไปก็จะเป็นของเขา เพราะเขาจะบอกว่าจำเป็นที่จะต้องทำให้สถาปัตยากรรมนี้มีความสมบูรณ์ ในฐานะที่เป็นมรดกโลก แต่ไม่ได้สนใจว่าจะเป็นพื้นที่ของใคร ประเทศไทย จะเป็นแค่ถูกรับเชิญเข้าไปร่วมรับรู้มี 7 ประเทศเข้ามาตัดสิน นี้มันเป็นการล่าอาณานิคมยุคใหม่แล้ว" น.ส.รสนากล่าว
นางรสนา ยังกล่าวว่า รัฐบาลบอกว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแล้วเป็นโมฆะ มันไม่จริง เพราะรัฐบาลในฐานะตัวแทนของประเทศไปทำสนธิสัญญา กับประเทศอื่น คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญใช้เฉพาะในประเทศของเรา แต่รัฐบาลมีหน้าที่ไปเพิกถอน ทาง ส.ว.จะทำเรื่องนี้ต่อไป และเราจะไปดูเขาพระวิหารกัน ซึ่งเราจะพยายามหาข้อมูลกันต่อไป
"เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก หากรัฐบาลไม่ทำอะไร รัฐบาลก็ไม่ควรอยู่อีกต่อไป อย่ามามั่วเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ไม่เช่นนั้นเราต้องหาหนทางบังคับให้รัฐบาลไปยกเลิก เพราะถ้ายกเลิกไม่ได้ ก็ต้องหารัฐบาลใหม่มายกเลิก" ส.ว.กทม.กล่าว
นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ในวันที่ 22 ก.ค.นี้ ตัวแทนกลุ่ม 77 ส.ว. จะลงพื้นที่ เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ โดยจะไปขอความชัดเจนว่าหน่วยงานใดสามารถชี้ได้ว่า พื้นที่ใดที่เป็นปัญหาถกเถียงกันนั้นเป็นของไทย หรือของเขมร และถ้ายังไม่มีความชัดเจน จะร่วมกันหาทางออกอย่างไร โดยเฉพาะจุดพื้นที่พิพาท จำนวน 4.6 ตร.กม. ซึ่งหลังจากได้ข้อมูลในพื้นที่แล้ว กลุ่ม ส.ว.ก็จะนำกลับมาหารือกันอีกครั้งเพื่อดำเนินการต่อไป

**ผบ.สส.เร่ง"บัวแก้วไปล้อมรั้ว
พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. กล่าวถึงกรณีที่ประชุมเชิงวิชาการ เห็นพ้องให้กระทรวงต่างประเทศ เร่งดำเนินการกั้นรั้วบริเวณพื้นที่เขาพระวิหารให้ชัดเจนว่า ที่ประชุมเห็นพ้องให้กระทรวงการต่างประเทศ เร่งดำเนินการหลายประเด็น ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศก็เข้าร่วมประชุม และรับว่าจะเข้าไปดำเนินการพูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาในเรื่องสร้างรั้วรอบตัวปราสาท เพื่อจะได้รับรู้ทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเป็นรั้วเดิมตามที่ทำไว้ใน มติครม.ปี 2505 ซึ่งเป็นรั้วเดิม แต่ได้สูญหายไป ซึ่งเป็นรั้วเชิงธุรการไม่ให้คนของเราไปตีกับคนของเขา และต้องเขียนป้ายรั้วให้ดี ไม่ให้เขาเข้าใจผิดว่า เป็นการยกพื้นที่ให้ ส่วนการเขียนต้องให้ดี เพราะของเดิมทำให้เขาเข้าใจว่า เป็นดินแดนของเขา ก็หวังว่า กระทรวงต่างประเทศจะเร่งพูดคุยอย่างรวดเร็ว
มื่อถามว่า ที่ประชุมเห็นพ้องให้กระทรวงต่างประเทศ เร่งลงนามแถลงการณ์ร่วมเพื่อกำหนดพื้นที่ให้ชัดเจนระหว่างไทยกับกัมพูชา พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เป็นการลงนามเอ็มโอยู ในพื้นที่ทางบก และทางทะเล ซึ่งมีอยู่เดิม แต่ต้องชี้แจงให้ประชาชนรับรู้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ส่วนแถลงการณ์ร่วมที่นายนพดล ปัทมะ ไปลงนามนั้น ที่ประชุมให้ข้อเสนอแก่กระทรวงการต่างประเทศ เร่งยกเลิกแถลงการณ์ร่วมไป เพราะขณะนี้แค่ระงับเท่านั้น ซึ่งความหมายแตกต่างกัน และกระทรวงต่างประเทศรับปากจะเร่งดำเนินการ
เมื่อถามว่า เห็นพ้องให้มีการผลักดันชาวกัมพูชาในเขตพื้นที่ทับซ้อนฝั่งไทย พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศทั้งหมด ส่วนทหารจะเข้าไปดูแลอธิปไตยอย่างเดียว กระทรวงการต่างประเทศต้องพูดคุยกับกัมพูชาให้เอาคนของเขาออกไปจากพื้นที่ หากไม่ออก ก็จะมีวิธีการต่างๆ แต่คงไม่ใช้กำลังทหารเข้าไปเพราะเป็นของหนัก ปล่อยให้ฝ่ายพลเรือนเข้าไปดูแล
เมื่อถามว่า แนวทางของที่ประชุมจะเห็นเป็นรูปธรรมได้หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เห็นได้ทั้งนั้น อยู่ที่กระทรวงการต่างประเทศจะทำหรือไม่ เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะการทำงานของรัฐบาลควรที่จะแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่รู้ว่าเขาแสดงความรับผิดชอบหรือไม่อย่างไร แต่เป็นทหารไม่อยากวิจารณ์

**"อภิสิทธิ์"จี้รัฐบาลลาออกทั้งคณะ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้นายสมัคร และรัฐบาล ต้องเลิกคิดถึงเรื่องการที่จะปกป้องตัวเอง แต่ต้องคิดถึงการปกป้องประโยชน์ของประเทศชาติ แถลงการณ์ร่วมฯ ซึ่งนายนพดล ปัทมะ ไปลงนาม โดยความเห็นชอบของรัฐบาลไทย วันนี้ไม่ผูกพัน ถือว่าใช้ไม่ได้ ตามมติของศาลรัฐธรรมนูญ นั่นคือผลที่เป็นเรื่องภายในของประเทศ แต่ว่าถ้ายังมีการนำไปอ้างอิงในระดับระหว่างประเทศอีก ความเสียหายที่จะตามมาจะมีมากมายมหาศาล แม้แต้คนในรัฐบาลก็ไม่กล้าปฏิเสธ รวมไปถึงคนที่ทำงานด้านมรดกโลก เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และคนในกระทรวงต่างประเทศบางส่วน แต่สิ่งที่ตนได้รียกร้องรัฐบาลนั้น รัฐบาลยังไม่ได้ทำเลย คือ จะทำอย่างไรให้ทั่วโลกยอมรับว่าแถลงการณ์ร่วมนี้ใช้ไม่ได้ ซึ่งตามอนุสัญญากรุงเวียนนาข้อ 46 มีการกำหนดแนวทางอยู่ว่า โดยปกติแล้วรัฐต่างๆ เวลาไปลงนามในหนังสือสัญญาใดๆไม่สามารถอ้างเหตุของการทำผิดกฎหมายภายในประเทศไปลบล้างข้อผูกมัดได้ เงื่อนไขของการยกเว้นคือ 1.การละเมิดกฎหมายดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งถือว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ 2. การละเมิดกฎหมายดังกล่าวเป็นการละเมิดที่เห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งตรงนี้ศาลรัฐธรรมนูญอาจจะทำความชัดเจนมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ตนคิดว่า ตรงนี้รัฐบาลต้องกลับไปคิดว่า จะทำอย่างไร ที่จะทำให้แถลงการณ์ร่วมไม่เป็นผล โดยเป็นไปตามเงื่อนไขของอนุสัญญากรุงเวียนนา ตนเห็นว่ากระบวนการที่ฝ่ายค้านยื่นถอดถอน ก็จะเป็นการช่วยเพิ่มน้ำหนักให้เห็นว่าแถลงการณ์ร่วมนี้ใช้ไม่ได้ เพราะรัฐไปละเมิดกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างชัดเจย
ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวอีกว่า ที่พรรคกำลังเดินหน้าตรวจสอบนายกฯต่อไป ก็เพราะต้องการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งขณะนี้เรื่องที่เกี่ยวกับการถอดถอนนายสมัครก็จะดำเนินการต่อไป อาจจะใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เพราะเอกสารที่ได้ขอไปยังไม่ได้กลับมาส่วนหนึ่ง และยังมีเอกสารเพิ่มเติมเข้ามา ซึ่งจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักชี้ให้เห็นถึงการจงใจฝ่ายฝืนรัฐธรรมนูญ นอกจากการแจ้งให้เรื่องของแถลงการณ์ร่วมใช้ไม่ได้ในระดับสากลแล้ว รัฐบาลต้องเร่งหาทางออกในเรื่องที่จะปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการมรดกโลก หรือไม่อย่างไร กรรมการทั้ง 7 ชาติ ก็ต้องเชิญตัวแทนของประเทศไทยเข้าไปชี้แจง และการที่กัมพูชาจะต้องส่งแผนที่ที่จัดทำขึ้นฝ่ายเดียวไปให้กรรมการมรดกโลกภายใน ก.พ. 52 และการกระทบกระทั่ง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ระหว่างที่มีการทำงานเรื่องนี้ ล้วนแต่เป็นปัญหาทั้งสิ้น
ขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงก็เริ่มขยับแล้ว แต่ตนได้เรียกร้องมาตลอดว่ารัฐบาลมีหน้าที่ที่จะทำเรื่องนี้อย่างนุ่มนวลและใช้แนวทางทางการทูตเป็นสำคัญ ตนถึงได้บอกว่าใครกันแน่ที่จงใจให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศ เพราะฝ่ายค้านเสนอแนะนายกฯ มาเป็นสัปดาห์แล้วว่าต้องรีบใช้วิธีการทางการทูตแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่กลับเพิกเฉย เพียงเพื่อต้องการปกป้องตัวเองเท่านั้น
ต่อข้อถามว่า ที่บอกว่าจะต้องมีการละเมิดอย่างชัดแจ้ง ตามอนุสัญญากรุงเวียนนาหมายความว่ารัฐบาลต้องออกมารับผิดใช่ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า ตนเอาตามที่ปรากฎในอนุสัญญา ความผิดที่ชัดแจ้งก็คือความผิดที่รัฐบาล หรือรัฐใดก็ตามที่กระทำตามปกติ และโดยสุจริตย่อมต้องรู้ว่าเป็นการละเมิดก็ฝากเป็นการบ้านให้รัฐบาลคิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจจะไม่มีผลในเวทีสากลใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในเวทีสากลลำพังมีการวินิจฉัยว่าละเมิดกฎหมายภายในประเทศยังไม่เพียงพอ ต้องพิสูจน์ต่อไปว่าเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญและมีการจงใจละเมิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเป็นรัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นรัฐบาลตนก็ก็รับผิดชอบโดยการลาออกทั้งคณะตั้งแต่มีมติของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนคิดว่าการแสดงออกอย่างนั้นย่อมีความชัดเจนมากขึ้น ว่าแถลงการณ์ร่วมเป็นแถลงการณ์ที่มีปัญหาและขัดรัฐธรรมนูญ ผู้ที่ออกมติดังกล่าวสนับสนุนให้มีการลงนามในแถลงการณ์ร่วมก็จะเป็นน้ำหนักขึ้นมา
กำลังโหลดความคิดเห็น