xs
xsm
sm
md
lg

แค่ฮึดฮัดก่อนถูกถีบเข้าคุก !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 คนบางคนจะว่าไปแล้วทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้อยู่รอด บางคนเข้าตำรา “แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน” อยู่ไปวันๆหาประโยชน์อะไรไม่ได้ก็มี
00 ก็เป็นปกติทุกวันอาทิตย์ที่มักมีเรื่องให้ชวน “หงุดหงิด” เครียดจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไรให้เหมาะสมกับท่าที คำพูดคำจาของผู้นำประเทศของตัวเอง ที่มีทั้ง “หยาบ” มีทั้ง “โกหก บิดเบือน” แทบจะทุกคำพูดที่พ่นออกมา
00 ถ้ายังจำกันได้เคยตั้งข้อสังเกตนักการเมือง “เขี้ยวลากดิน” คนนี้หลายครั้งว่า ไม่เคยเลื่อมใสในความเป็นประชาธิปไตยอะไรนักหรอก หากพิจารณาจากปูมหลังแล้วจะพบว่าได้ดิบได้ดีและแนบแน่นกับเผด็จการมาแทบทุกยุคทุกสมัย แต่มาในยุคคมช.นี่แหละ ที่คนอย่าง “สมัคร สุนทรเวช” ไม่เอาด้วย อาจจะเป็นเพราะ “อ่านเกมขาด” ว่า เผด็จการชุดนี้ “หน่อมแน้ม” จึงหันมาแทงเต็ง “ระบอบหน้าเหลี่ยม” หมดหน้าตักจนเข้าวินในบั้นปลาย
00 ถ้าจะตอกย้ำอีกทีว่าคน อย่าง “หมัก” เติบโตมาด้วยฝีปาก เป็นนักโต้วาทีตัวฉกาจ คิดว่าถ้าใครได้ฟังเขาพ่นน้ำลายแล้วจะเคลิบเคลิ้ม และคนประเภทนี้จะชอบถ้ามีการถ่ายทอดคำพูดทางวิทยุโทรทัศน์ เพราะสามารถพูดให้ดำเป็นขาว ให้ขาวเป็นดำ ได้ “เนียน” ที่สุด
00 ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมานี่เองก็ได้แผลงฤทธิ์อีกรอบ เมื่อใช้วาทศิลป์บิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อหาผลประโยชน์ทางการเมืองให้กับตัวเองและฝ่ายของตัวเองได้อย่างหน้าตาเฉย กรณีบอกทำนองว่า ปปช.เป็นองค์กรเถื่อน ไม่ได้ถวายสัตย์ฯก่อนการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าพิจารณาเผินๆแบบไม่รู้ก็คงผงกหัวยอมรับ “เออ !ไช่ หมักพูดถูก”
00 แต่ถ้าพิจารณาตามข้อเท็จจริงและฟังผู้รู้จริงชี้แจงตอกหน้าแงก็จะอุทานขึ้นมาทันทีว่า “เฮ้ย ไอ้ ..โกหก” พูดมั่ว เพราะตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 40/51 ไม่ได้ระบุให้องค์กรอิสระต้องเข้าถวายสัตย์ฯ ยกเว้น ครม.และคณะตุลาการต่างๆก่อนปฏิบัติหน้าที่ หรือแม้แต่ ส.ส. ส.ว.ก็ถวายสัตย์ฯต่อพระบรมฉายาลักษณ์เท่านั้น
00 ถ้าพิจารณาในมุมกลับกันแล้ว ถ้าถวายสัตย์ฯแล้วยังไปทุจริต ขายชาติแล้วยังไงละ จะต้องทำอย่างไรกับพวกนี้ดีละ คนพวกนี้แหละไม่สมควรให้อภัย
00 ส่วนที่จงใจมั่วอีกเรื่องก็คือที่บอกว่า ถ้าหาก ป.ป.ช.รับเรื่องสอบสวนครม. แค่รับเรื่องแค่นี้ ครม.ทั้งคณะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีนั้น ก็ถูกสวนอย่างทันควันให้ “ตาสว่าง” ได้ดีอีกครั้ง ว่า “สมัคร” บิดเบือน เพราะการจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ต้องขึ้นอยู่กับว่าข้อกล่าวหา “มีมูล” หรือไม่ ถ้าป.ป.ช.เสียงส่วนใหญ่ลงมตินั่นแหละถึงจะ “จบเห่” และในขั้นตอนสอบสวนก็ต้องมีการเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้ตั้งทนายชี้แจงแก้ต่างได้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่อยู่นึกอยากจะสั่งให้ใครหยุดทำหน้าที่โดยพลการ และยังมีอีกหลายเรื่องที่สุดแล้วแต่พ่นน้ำลายออกมา นี่ยังไม่พูดถึงความ “ขี้เท่อ” ของ “ดร.เหลิม” ที่ออกมาผสมโรง เป้าหมายเพียงแค่หลับหุหลับตา “เชลียร์” เอาใจ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องหลุดจากอำนาจเท่านั้น มันน่าสลดใจจริงๆ “เป็ด” เอ๋ย
00 สุดท้ายพูดไปพูดมา ก็ “พาล” โทษรัฐธรรมนูญปี 50 ว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาทุกอย่าง ทำให้รัฐบาลของเขาบริหารไม่ได้ ไม่เคยโทษตัวเองเลยแม้แต่น้อย ไม่เคยนำพา กลับจะคิด “ล้มกระดาน”
00 ทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่คราวนี้เป้าหมายสำคัญ มุ่งไปที่ “ตุลาการ” ที่มีการแบะท่าออกมาชัดเจนแล้วว่าต้อง “รื้อ” กันครั้งใหญ่ ซึ่งก็พอเข้าใจได้ เนื่องจากหลายคดีกำลังจ่ออยู่ปากเหวทั้งนั้น ทั้งเรื่อง ยุบพรรค การถอดถอน คดีทุจริต “นายใหญ่-นายหญิง” กำลังขึ้นเขียง “จ่อคุก” เข้าไปทุกขณะ
00 ดังนั้นการดิ้นรนของบรรดาพลพรรค “หุ่นเชิด” ทั้งหลายไล่ไปตั้งแต่หัวแถวยันท้ายแถวเป้าหมายก็ไม่มีอะไรมาก ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่านอกจากทำเพื่อตัวเองและ “นายใหญ่หน้าเหลี่ยม” เท่านั้น และถ้าให้ประเมินนาทีนี้เหมือนกับ “โจร” บางคนที่กำลังดิ้นอยู่หน้าคุกอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็ “ถูกถีบ” เข้าไปจนได้ ฉันใดก็ฉันนั้นแหละพี่น้อง !!
กำลังโหลดความคิดเห็น